ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1030 อย่าริอาจจะทำร้ายลูกสาวของผม + ตอนที่ 1031 เหยียนซินหย่าผู้เกรี้ยวกราด
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1030 อย่าริอาจจะทำร้ายลูกสาวของผม + ตอนที่ 1031 เหยียนซินหย่าผู้เกรี้ยวกราด
ตอนที่ 1030 อย่าริอาจจะทำร้ายลูกสาวของผม
ช่วงเช้ามืดเสียงริงโทนเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสมือนจะเร่งเอาชีวิตก็มิปาน
จ้าวอิงหัวเอื้อมคว้าโทรศัพท์จากบนหัวเตียงอย่างไม่สบอารมณ์ เขายังอยากจะสานสัมพันธ์รักกับเมียโดยการออกกำลังกายยามเช้าสักหน่อย แต่กลับถูกเสียงเรียกเข้าสายนี้ทำลายไปเสียได้ ไอ้พวกชั่วช้าไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลยจริง ๆ ?
“…สะใภ้รอง?”
จ้าวอิงหัวตกใจพลางอุทาน นึกไม่ถึงเลยว่าไอ้พวกชั่วช้าไม่รู้จักเวล่ำเวลานั้นจะเป็นหานซู่ฉิน เขายิ้มแหยอย่างรู้สึกผิด แม้ว่าจะเป็นเพียงการก่นด่าในใจ แต่ยังไงก็ดูจะไม่มีมารยาทเท่าไหร่นัก
“ขอโทษด้วย ที่โทรมาปลุกแต่เช้ามืด…” หานซู่ฉินเอ่ยอย่างสุภาพ หลังจากพูดอย่างเกรงใจไม่กี่ประโยค เธอก็เปลี่ยนประเด็น พร้อมทั้งพูดถึงเป้าหมายที่เธอต้องการ “อิงหัว ปีนี้เหมยเหมยอายุสิบแปดปีแล้วสินะ?”
“อายุกำลังย่างเข้าสิบแปดปี อายุครบสิบเจ็ดปี” จ้าวอิงหัวเกิดการลังเล ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวเล็กของเขาเพิ่งจะอายุสิบเจ็ดนี่!
สิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุดคือวิธีการนับอายุของเมืองจิน ไม่ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ก็ต้องแจ้งเกิดโดยเพิ่มอายุขึ้นหนึ่งปี เด็กที่เกิดในวันส่งท้ายปีเก่าก็นับว่าน่าสนใจ เพิ่งลืมตาออกมาดูโลกก็มีอายุได้สองขวบเสียแล้ว
แย่ชะมัด แม้แต่นาจา[1]ยังไม่โตไวถึงเพียงนี้เลย!
หานซู่ฉินทำเป็นหัวเราะคิกคักพลางเอ่ยปากพูดอย่างตะกุกตะกัก “สิบเจ็ดก็ไม่เด็กแล้ว ตอนฉันอายุสิบเจ็ดก็มีนัดบอดกับพี่รองของนาย เหมยเหมยออกจะหน้าตาสะสวย ถึงเวลาที่ต้องไตร่ตรองเรื่องใหญ่ในชีวิตได้แล้ว”
จ้าวอิงหัวขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย สะใภ้รองโรคประสาทกำลังกำเริบหรือเปล่าเนี่ย เช้าตรู่แบบนี้ก็มาพูดกับเขาเกี่ยวกับเรื่องใหญ่ในชีวิตของลูกสาว?
เป็นบ้าเหรอ?
“ไม่ต้องรีบหรอก เหมยเหมยของเราต่อให้พูดถึงเรื่องพวกนี้ตอนอายุยี่สิบเจ็ดก็ไม่นับว่าสาย หากสะใภ้รองไม่มีธุระอะไรผมขอตัววางสาย ต้องขอไปนอนต่ออีกหน่อย” จ้าวอิงหัวเอ่ยขึ้นโดยไร้ซึ่งความเกรงใจ
“อย่าวาง ๆ ฉันยังมีเรื่องที่ไม่ได้พูดเลย คืออย่างงี้นะทางฝั่งฉันมีลูกหลานที่เป็นคนดี ฐานะทางบ้านดี รูปร่างน่าตาก็ดี เป็นคนที่ใช้ได้ รับรองว่าเหมาะสมกับเหมยเหมยอย่างที่สุด…”
หานซู่ฉินพรรณนาถึงเฮ่อเหลียนเช่อได้อย่างน่าฟัง พรรณนาดุจดั่งไม่อะไรดีไปกว่านี้แล้ว ไม่เสียแรงที่เธอทำงานที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ฝีปากมีความเป็นเลิศทางวาทศิลป์
“เป็นชายหนุ่มตระกูลไหนถึงได้เก่งกาจขนาดนี้? ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” จ้าวอิงหัวรู้สึกไม่สบายใจเอามาก แต่ยังคงวางท่า ถึงยังไงอีกฝ่ายก็เป็นพี่สะใภ้
หานซู่ฉินเงียบไปชั่วขณะ กัดฟันแล้วเอ่ยขึ้น “นายต้องเคยได้ยินแน่ คือเฮ่อเหลียนเช่อ อิงหัว…นายฟังที่ฉันพูดนะ…”
จ้าวอิงหัวไม่อาจควบคุมอารมณ์โมโหเดือดดาลของตัวเองได้อีก เขาทุบมือลงบนเตียงอย่างแรง จนเหยียนซินหย่าตกใจไม่น้อย พลางใช้สายตาสอดส่องเพื่อมองหาว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จ้าวอิงหัวยกมือเบรกเพื่อไม่ให้เธอส่งเสียง
“เรื่องของลูกสาวผมคงไม่รบกวนพี่สะใภ้หรอกครับ เฮ่อเหลียนเช่อเป็นผู้ชายที่ดีขนาดนั้น พี่สะใภ้เก็บไว้ให้หลานสาวของพี่เถอะ”
จ้าวอิงหัวยังคงไว้หน้าหานซู่ฉินอยู่บ้าง ไม่ได้โกรธถึงขีดสุด แต่เขากำมือแน่นจนข้อนิ้วมือของเขาเริ่มขาวซีด ทำให้เห็นถึงระดับความโกรธที่กำลังปะทุอยู่
หานซู่ฉินหัวเราะอย่างเก้อเขิน หากว่าหลานสาวของเธอโดดเด่นได้อย่างเหมยเหมย เธอเองก็อยากจะแนะนำให้กับเฮ่อเหลียนเช่ออยู่หรอก!
ใคร ๆ ต่างก็พูดว่าเฮ่อเหลียนเช่อโหดเหี้ยม ฆ่าคนได้อย่างเยือกเย็น อีกทั้งยังไม่ติดว่าจะเป็นเพศชายหรือหญิง แต่นั่นจะเป็นไรไป เรื่องแต่งงานก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อย แต่สิ่งที่จะได้กลับมาคือเกียรติยศชื่อเสียงและเงินทอง จะไปสนใจทำไมว่าผู้ชายอยู่นอกบ้านจะเป็นยังไง!
เหมือนกับจ้าวอิงสยงที่มั่วสุมอยู่นอกบ้าน มีหรือที่เขาจะกล้าโวยวายให้หย่าร้าง?
ขอแค่เพียงรักษาตำแหน่งฮองเฮาไว้ได้ก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นก็ทำเป็นหลับหูหลับตาไปเถอะ แก่นแท้ของการใช้ชีวิตก็แค่เสแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นไปไม่ใช่เหรอ!
หานซู่ฉินได้พูดดี ๆ ไปหมดแล้ว จ้าวอิงหัวก็ยังคงไม่โอนอ่อน เธอไม่มีทางเลือกจึงจำต้องพูดถึงสถานการณ์ของจ้าวอิงหัวพลางร้องไห้อ้อนวอน “อิงหัวนายจะนิ่งดูดายแล้วไม่ช่วยอะไรเลยไม่ได้นะ หากว่าพี่รองของนายโชคร้ายจริง นายกับอิงหย่งก็ไม่มีทางได้ดีไปด้วยแน่!”
จ้าวอิงหัวกัดฟันแน่นกรอด พลางหัวเราะเยาะ “เพื่อเป็นการช่วยสามีคุณ จำต้องให้ลูกสาวผมพลีชีพเลยเหรอ? หานซู่ฉิน คุณไปบอกกับจ้าวอิงสยงนะ ขี้เรี่ยราดไว้ก็จัดการเก็บเอง อย่าได้ริอาจคิดจะมาทำร้ายลูกสาวผมเป็นอันขาด”
………………………………………………
ตอนที่ 1031 เหยียนซินหย่าผู้เกรี้ยวกราด
จ้าวอิงหัวไม่อยากจะพูดเรื่องไร้สาระกับหานซู่ฉินอีกต่อไป เขาวางสายด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ถ้าตอนนี้จ้าวอิงสยงยืนพูดอยู่ตรงหน้าเขา เขาคงจะเข้าไปจัดการกับไอบ้านั่นแน่
ตัวเองเป็นคนก่อเรื่อง แต่จะให้ลูกสาวของเขาไปเช็ดขี้ให้งั้นหรอ
แล้วยังจะให้ลูกสาวของเขาแต่งงานกับไอบ้าโรคจิตเฮ่อเหลี่ยนเช่อ แม่ไม่สั่งสอนหรืออย่างไร
จ้าวอิงหัวรีบกลืนคำพูดนี้คืนไปทันที เพราะว่าแม่ของจ้าวอิงสยงก็คือแม่ของเขา จะว่าแม่ไม่ได้
แม่ยายไม่สั่งสอนหรืออย่างไร…
หลังจากได้ด่าบ้านตระกูลหานทั้งตระกูลแล้ว จ้าวอิงหัวถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่สีหน้าของเขาก็ยังดูไม่ดีมากนัก เหยียนซินหย่าเลยถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น จ้าวอิงหัวจึงได้เล่าเรื่องราวที่เมื่อกี้หานซู่ฉินโทรมาให้เธอฟัง
“ถุย”
เหยียนซินหย่าตบลงไปที่ขาของจ้าวอิงหัวอย่างแรง มือของเธอหนักมาก จ้าวอิงหัวเจ็บจนแผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อ ยิ้มเจื่อน ๆ แล้วมองไปยังภรรยาที่โกรธจนคิ้วขมวดเข้าหากัน
“ฉันจะโทรหาหานซู่ฉินยัยคนไร้น้ำใจ ผู้ชายของตัวเองก่อเรื่อง เรื่องอะไรมาโยนขี้ให้ลูกสาวของฉัน หน้าไม่อายสิ้นดี ทำไมแต่ก่อนฉันถึงดูไม่ออกว่าหล่อนเป็นคนที่จิตใจร้ายกาจได้ขนาดนี้ จ้าวอิงหัวไม่ต้องมาจับฉัน รีบปล่อยฉันเดียวนี้ ไม่งั้นคุณจะต้องนอนที่ห้องรับแขกไปหนึ่งปีเลยนะ…”
หลังจากสิ้นเสียง จ้าวอิงหัวรีบชักมือกลับอย่างไม่ลังเลใจ ทำได้เพียงมองดูภรรยาเดินดุ่ม ๆ เท้าเปล่าไปที่ห้องรับแขก เขารีบเดินตามไปในทันที กลัวว่าภรรยาจะโกรธจนขว้างโทรศัพท์ทิ้ง
หลายร้อยอยู่นะนั่น !
หานซู่ฉินกำลังลังเลว่าจะโทรหาจ้าวอิงหัวอีกรอบดีไหม โทรศัพท์ก็ดังขึ้น หล่อนเห็นโทรศัพท์มีสายเข้าก็รู้สึกได้ใจ คิดว่าจ้าวอิงหัวคงคิดได้แล้ว รู้ว่าถ้าจ้าวอิงสยงโดนโค่นล้มลง ตำแหน่งลูกพี่ใหญ่ของเขาก็ต้องจบลงด้วยเหมือนกัน
“อิงหัว…”
หานซู่ฉินกำลังจะกล่าวคำทักทาย ก็ถูกเหยียนซินหย่าพูดแทรกขึ้น “หานซู่ฉินจิตใต้สำนึกของคุณโดนหมาคาบไปกินแล้วหรือไง คุณดูแลผู้ชายของตัวเองไม่ได้ แล้วจะมาโยนขี้ให้ลูกสาวของฉัน ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ ถ้าใครกล้ามาทำอะไรลูกสาวฉัน ฉันจะเล่นมันให้ถึงที่สุด หานซู่ฉินถ้าคุณกล้าก็ลองดูละกัน….”
เหยียนซินหย่าไม่ได้ทำตัวอ่อนโยนเหมือนอย่างที่เคย หล่อนตะโกนด่าไม่หยุด เสียงดังจนคุณฉิวที่กำลังหลับอยู่บนโซฟา ยังต้องลุกขึ้นมาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
“หานซู่ฉินคุณไม่ต้องมาพูดจาหว่านล้อมฉัน ผู้ชายของคุณตายไป ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเหมยเหมย คุณอยากจะประจบเฮ่อเหลียนเช่อฉันไม่ว่า แต่อย่าคิดมาเอาลูกสาวฉันไปเกี่ยวด้วย ทำไมคุณถึงไม่เอาหลานสาวคุณเข้าไปเอี่ยวแทนล่ะ คุณคิดว่าฉันกับอิงหัวไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วหรือไง…”
เหยียนซินหย่าด่าหานซู่ฉินไปหนึ่งฉอด ถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง หลังจากวางสาย เธอก็โทรศัพท์อีกครั้ง ครั้งนี้โทรหาคุณปู่จ้าว เพื่อจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
“พ่อคะ เฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนอย่างไร มีใครในเมืองนี้ไม่รู้บ้าง พี่สะใภ้รองจะส่งเหมยเหมยไปลงนรกด้วยมือตัวเอง หล่อนมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ หรือว่าตอนนี้บ้านตระกูลจ้าวจำเป็นจะต้องขายลูกสาวกินแล้วหรอ”
จ้าวอิงหัวถอนหายใจ เฮ้อ ภรรยาเขากล้าพูดคำนี้ออกมาเลยหรอ
แต่ว่ามันก็ถูกนะ นี่คือการขายลูกสาวกินชัด ๆ
แล้วขายลูกสาวสุดที่รักของเขาเสียด้วย นัยน์ตาเขาแสดงให้เห็นถึงความโกรธ ถ้าหากว่าคุณไร้ซึ่งความเมตตาใด ๆ เขาก็จะไม่มีความเมตตาใด ๆ เหมือนกัน
ในตอนนี้ เขาดีใจที่เมื่อ 3 ปีก่อนได้วางแผนเตรียมการเอาไว้ เลยไม่กลัวว่าจะไม่ทันการ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องปรึกษากับเหยียนหมิงซุ่นก่อน กลัวแค่ว่าหานซู่ฉินจะไม่ยอมแพ้เรื่องนี้
คุณปู่จ้าวโกรธจนหน้าแดงก่ำ มากกว่านั้นคือความละอายใจ คำพูดทุกคำของเหยียนซินหย่า เหมือนกับมีดที่กำลังกรีดแทงหัวใจของเขา
ขายลูกสาวกิน——
ปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยยุ่ง แต่ตอนนี้ลูกชายของเขากลับทำเรื่องที่น่าอับอายขนาดนี้ คิดจะเอาหลานสาวเขามาเอี่ยวด้วย
เขาวางสายลง พยายามระงับอารมณ์โกรธแล้วโทรหาจ้าวอิงสยง ให้พวกเขาสองสามีภรรยากลับมาที่เมือง
เหยียนซินหย่ายังคงโมโหอยู่ จึงระบายความโมโหไปที่สามีของตัวเอง “จ้าวอิงหัว ฉันขอเตือนคุณเลยนะ ถ้าคุณกล้าร่วมมือกับพี่ชายและพี่สะใภ้ของคุณทำเรื่องชั่วๆ เราก็หย่ากัน เหมยเหมยมากับฉัน คุณก็อยู่คนเดียวไปละกัน”
……………………………………………….
[1] เทพเจ้าตามคติความเชื่อของจีน เป็นเทพเจ้าแห่งสวรรค์ โดยทำหน้าที่ปกติประตูสวรรค์