ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1032 ไม่กลัวแผนร้าย + ตอนที่ 1033 มีคนมารับตอนเลิกเรียนดีจัง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1032 ไม่กลัวแผนร้าย + ตอนที่ 1033 มีคนมารับตอนเลิกเรียนดีจัง
ตอนที่ 1032 ไม่กลัวแผนร้าย
เหมยเหมยกำลังฝันว่าตัวเองสวีทกับเหยียนหมิงซุ่นอยู่ ความฝันกำลังดำเนินต่อไปไม่หยุด แต่หน้าของเธอกลับรู้สึกคัน ๆ จมูกก็คันๆ คล้ายกำลังจะจาม
“ฉิวฉิวอย่ามาวุ่นวาย ขอนอนอีกนิดนึงนะ…”
เหมยเหมยไม่อยากจะตื่นจากฝันนี้เลย แถมกำลังจะถึงฉากสำคัญแล้วด้วย ถ้าตื่นขึ้นมาตอนนี้ก็สูญเปล่าไปหมดสิ
ฉิวฉิวไม่รู้จะทำอย่างไรจึงเอามือไปบีบจมูกของเหมยเหมยไว้ มันทำให้เหมยเหมยหายใจไม่ออกจนต้องตื่น ฉากสำคัญยังมาไม่ถึงเลย เธอโมโหจนบีบไปที่ตัวของฉิวฉิวอย่างเต็มแรง
“นี่มันเวลาไหนกันแล้ว เธอยังมีอารมณ์มานั่งฝันอีกหรอ คุณอากับคุณอาสะใภ้ของเธอจะขายเธอให้กับตาโรคจิตนั่นแล้วรู้ไหม…”
ฉิวฉิวตีเธอไปหนึ่งที เมื่อเห็นเจ้านายตัวเองยิ้มอย่างหื่นกาม ก็เดาได้เลยว่าเจ้านายกำลังฝันเรื่องอะไรอยู่
เหมยเหมยพอได้ยินก็ตกใจ เฮ่อเหลียนเช่อมันทำเรื่องอะไรอีก
สามปีมานี้เฮ่อเหลียนเช่อนับว่าดูค่อนข้างจะนิ่ง สถานบำเรออะไรก็ไม่ได้ไปแล้ว แต่ก่อนคุณชายเช่อที่กินทั้งหญิงทั้งชาย ตอนนี้ดูจะกลายเป็นคนดีขึ้นมาแล้ว ทำให้คนทั้งเมืองรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เขาลือกันให้ทั่วว่าเฮ่อเหลียนเช่อเจอรักแท้แล้ว สามปีมานี้เขาซ่อนรักแท้ไว้ที่คฤหาสน์ ซ่อนไว้อย่างดิบดีเสียด้วย ยิ่งทำให้ดูลึบลับมากยิ่งขึ้นไปอีก
เหมยเหมยไม่ค่อยแน่ใจว่า รักแท้ ที่เขาพูดถึง ใช่เหมยซูหานไหม แต่ว่าหลายปีมานี้ก็ไม่ค่อยมีใครได้เจอเหมยซูหานเช่นกัน
แน่นอนว่าเธอไม่ได้ใส่ใจเรื่องรักแท้หรือความเป็นความตายของเฮ่อเหลียนเช่ออยู่แล้ว ขอเพียงแค่เขาไม่มาหาเรื่องเธอก็พอ แต่ตอนนี้คุณอากับคุณอาสะใภ้ของเธอ กลับหาเรื่องมาให้เสียจนได้
เหมยเหมยหัวเราะ แผนที่จ้าวอิงสยงกับหานซู่ฉินวางเอาไว้ซะดิบดี แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่คิดบ้างว่า เธอไม่ใช่หุ่นเชิดที่ใครจะทำอะไรก็ได้
ส่วนการตอบสนองของจ้าวอิงหัวสองสามีภรรยา เหมยเหมยรู้สึกพึงพอใจเลยทีเดียว สำหรับคนอื่น ๆ ในบ้านตระกูลจ้าว เหมยเหมยคงไม่สามารถคาดหวังอะไรได้
“ไม่ต้องเป็นห่วง ยังมีพี่หมิงซุ่นอยู่ อีกอย่างฉันไม่ใช่คนตาย หานซู่ฉินทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”
เหมยเหมยไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลขนาดนั้น เธอมัดผมขึ้น แล้วเดินลงจากเตียง เตรียมล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปกินข้าว
จ้าวอิงหัวกับเหยียนซินหย่ายังคงทำตัวเหมือนเดิม เพียงแค่สีหน้าแฝงไปด้วยความกังวลใจเพียงเล็กน้อย เหมยเหมยทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร พอกินข้าวเสร็จก็ออกไปโรงเรียน
ที่หน้าประตูโรงเรียนบังเอิญเจอกับอู่เยวี่ย สีหน้าซีดขาว ขอบตาดำคล้ำ ดูแล้วเหมือนไม่ค่อยสดใส ไม่เหมือนเมื่อวานที่ร่าเริงสดใส เหมยเหมยละสายตาจากหล่อนอย่างรวดเร็ว รีบเดินจ้ำอ้าวออกไป ทำให้สามารถทิ้งระยะห่างกับอู่เยวี่ยที่กำลังเดินอยู่ได้
อู่เยวี่ยมองแผ่นหลังที่สดใสของเหมยเหมย เธอกัดปากแน่น แสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องมาที่ตัวเธอ ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย ความหนาวเย็นกลับทุกส่งไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ไม่เว้นแม้กระทั่งบริเวณปลายเล็บ
เมื่อคืนความต้องการของซ่งเป่าเลี่ยงไม่มีที่สิ้นสุด เขาเล่นเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จนหลัง ๆ เธอเจ็บจนสลบไป ให้ซ่งเป่าเลี่ยงทำทุกอย่างที่เขาอยากจะทำ ทั้งคืนนั้นเหอปี้อวิ๋นก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรทั้งสิ้น
เมื่อเช้าอู่เยวี่ยแทบจะลุกจากเตียงไม่ได้ หว่างขาของเธอเจ็บไปหมด เป็นสิ่งย้ำเตือนความอับอายที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แล้วก็ย้ำเตือนว่าเธอได้สูญเสียของล้ำค่าของผู้หญิงไป
เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเหอปี้อวิ๋น พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่างเธอมีแผนอย่างอื่นอยู่แล้ว….
คนที่เคยทำร้ายเธอ อย่าหวังว่าจะได้มีชีวิตที่ดี
ในขณะที่เธอทุกข์ทรมาน คนอื่นมีสิทธิ์อะไรใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แล้วก็ยัยจ้าวเหมย มีสิทธิ์อะไรมีความสุขมากขนาดนี้
อู่เยวี่ยหรี่ตาลง รังสีความเย็นแผ่ออกมา รอยยิ้มที่มุมปากของเธอทำให้คนอื่นขนลุกได้เลยทีเดียว
เหยียนหมิงต๋าปั่นจักรยานผ่านมา เจอกับอู่เยวี่ย อดไม่ได้ที่จะหยุดรถ แต่พอเท้าของเขาแตะพื้นเล็กน้อย เขาก็รีบเอาขาขึ้นทันที เขาคิดว่าน่าจะรีบไปดีกว่า 3ปีมานี้เยวี่ยเยวี่ยไม่ค่อยจะพูดอะไรกับเขาเสียเท่าไหร่ เขาไม่กล้าทำให้เยวี่ยเยวี่ยโมโห จึงหลบไปก่อนน่าจะดีกว่า
“พี่หมิงต๋า ฉันเดินไม่ไหวค่ะ พี่ไปส่งฉันหน่อยได้ไหมคะ”
อู่เยวี่ยเรียกเหยียนหมิงต๋าไว้ ทำตัวน่าสงสารมองไปที่เขา เหยียนหมิงต๋ารู้สึกดีใจอย่างถึงที่สุด ในที่สุดเยวี่ยเยวี่ยก็ยอมพูดกับเขาแล้ว ดีจัง !
…………………………………….
ตอนที่ 1033 มีคนมารับตอนเลิกเรียนดีจัง
การเรียนของวันนี้สิ้นสุดลง เหมยเหมยเข็นรถออกมา เธอมาพร้อมกับอู่เชาและเจียงซินเหมย อู่เชากับเจียงซินเหมยอาศัยอยู่ไม่ไกล พวกเขามักจะมาเรียนและกลับบ้านพร้อมกัน ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นแบบยิ่งทะเลาะกันยิ่งสนิทกัน
“เสี่ยวเชา เธอกลับไปเรียบเรียงผลงานให้เรียบร้อย ทางนี้ตกลงเมื่อไหร่ฉันจะบอกเธออีกที” เหมยเหมยให้คำมั่น
เธอให้อู่เชาเรียบเรียงผลงานที่ตีพิมพ์ในช่วงหลายปีนี้ เพื่อนำไปตีพิมพ์ที่ฮ่องกง ผลงานของอู่เชา ภาษาสละสลวยมีเอกลักษณ์ เธอคิดว่าต้องหาตลาดได้แน่ ๆ
อู่เชาพยักหน้าด้วยความรู้สึกขอบคุณ “ผลออกมาเมื่อไหร่ เหมยเหมยเดี๋ยวฉันจะเลี้ยงเคเอฟ…”
เหมยเหมยเกิดความรู้สึกสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าหญิงตั้งครรภ์เสียอีก เหมยเหมยกับเจียงซินเหมยมองไปที่เจ้าอ้วนด้วยสายตาอ้อนวอน “ไม่เป็นไรหรอก เธอค่อย ๆ กินไปคนเดียวเถอะ ฉันกินแค่พวกเนื้อย่างเสียบไม้ก็พอแล้ว”
เธอไม่เข้าใจความรักของเจ้าอ้วนที่มีต่อเคเอฟซี กินมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมยังกินได้ไม่เบื่ออีก
อู่เชาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก แล้วก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมเพื่อนสนิทของเขาถึงไม่ชอบกินเคเอฟซี มันอร่อยมาก ๆ เลยนะ เขากินถึงอายุ 100 ปีเลยก็ยังได้
“เหมยเหมย…”
เสียงของเหยียนหมิงซุ่นดังขึ้น เหมยเหมยเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ เธอเห็นหนุ่มรูปงามกำลังเดินตรงมาที่เธอ แสงอาทิตย์ที่ปกคลุมไปทั่วร่าง จนร่างกายสะท้อนแสงออกมาเป็นประกาย
“พี่หมิงซุ่น พี่มาได้อย่างไร”
เหมยเหมยทำตัวราวกับนกนางแอ่นตัวเมีย โผเข้าหาเหยียนหมิงซุ่น จริง ๆ เธออยากจะโผเข้ากอดเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ตรงนี้คือหน้าประตูโรงเรียน มีสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องมองอยู่
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มเล็กน้อย “ผมมารับคุณเลิกเรียน”
เหยียนหมิงต๋ากับอู่เยวี่ยหัวเราะพูดคุยกันเดินออกมา หนุ่มผู้นี้ก่อนหน้าดูหมดอาลัยตายอยาก ตอนนี้กลับดูสดใส เห็นได้ชัดว่าอู่เยวี่ยมีอิทธิพลต่อเขามาก
พอออกจากโรงเรียน เหยียนหมิงต๋าก็ขึ้นไปบนจักรยาน เตรียมจะส่งอู่เยวี่ยกลับบ้าน แต่พอเขาเงยหน้าขึ้น ก็เจอกับพี่ชายที่กำลังยืนก้มหน้าคุยกับจ้าวเหมย เขาใจกระตุกเล็กน้อย เข็นจักรยานแล้วก้าวเพียงเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ โดยรักษาระยะห่างกับอู่เยวี่ยเกิน 3 เมตร
จะให้พี่ใหญ่เห็นไม่ได้ว่าอยู่กับเยวี่ยเยวี่ย ไม่เช่นนั้นถ้ากลับไปคงจะลำบากแน่ ๆ
ถึงแม้ว่า 3 ปีมานี้ เหยียนหมิงซุ่นจะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แต่ในใจของเหยียนหมิงต๋า เขายังคงเป็นพี่ใหญ่ที่เข้มงวดเสมอ ทำให้เขาไม่กล้าที่จะซุกซนเลยแม้แต่น้อย
อู่เยวี่ยก็เห็นเหยียนหมิงซุ่นเช่นกัน ถึงแม้ว่าเธอจะมีใจให้กับเหมยซูหาน แต่ก็ยังถูกท่าทีที่สง่างามของเหยียนหมิงซุ่นดึงดูดสายตาเอาไว้ เธอมองไปที่เหยียนหมิงซุ่นโดยไม่ละสายตา
ขณะที่เหยียนหมิงซุ่นกำลังหัวเราะให้กับเหมยเหมย แววตาแสดงความเอ็นดู ดูก็รู้ทันทีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น อู่เยวี่ยกัดริมฝีปากแน่น สายตาของความเอ็นดูนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ
ทำไมจ้าวเหมยถึงมีแต่คนรัก คนเอ็นดู
เหมยซูหานก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้แม้แต่เหยียนหมิงซุ่นก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน จ้าวเหมยให้พวกเขากินยาเสน่ห์อะไรกันแน่
ความอิจฉายิ่งทำให้อู่เยวี่ยยิ่งเกลียดเหมยเหมย ตอนนี้สิ่งที่เธออยากจะทำมากที่สุดก็คือ ทำลายจ้าวเหมย
ทำลายทุกอย่างของจ้าวเหมย
หน้าตา พรหมจรรย์ พวกนี้จะต้องทำลายให้หมด
ให้ยัยนี่กลายเป็นหนูข้างถนนที่ใครเห็นใครก็รังเกียจ
พอคิดได้แบบนี้ อู่เยวี่ยก็ยิ้มออกมา สายตาสะท้อนให้เห็นถึงความร้ายกาจ
เหยียนหมิงต๋าเดินไปข้างหน้าเหยียนหมิงซุ่นด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ พูดเดียวเสียงเบา ๆ ว่า “พี่ใหญ่…”
เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่เขาแวบหนึ่ง หางตาก็เหลือบไปเห็นอู่เยวี่ยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงปกติว่า “วันนี้กลับบ้านคุณปู่”
“ครับ…”
เหยียนหมิงต๋าตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เชื่อฟัง มองไปที่อู่เยวี่ยด้วยความลังเลใจ สุดท้ายก็ขี่รถกลับไปที่โรงเรียน
เขาไม่มีความกล้าพอที่จะไปส่งอู่เยวี่ยกลับบ้านต่อหน้าพี่ใหญ่
อู่เยวี่ยก่นด่าว่าคนไก่อ่อนอยู่ในใจ นั่งอยู่ในห้องเรียนมาทั้งวัน ตอนนี้เธอปวดตัวหนักขึ้นกว่าเดิม จนเดินกลับบ้านไม่ไหวแล้วจริง ๆ ในขณะที่เหยียนหมิงซุ่นกำลังจะเปิดประตูรถ ให้เหมยเหมยขึ้ยรถก่อน อู่เยวี่ยเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ กัดฟันแล้ววิ่งเข้าไปหาพวกเขา
……………………………………..