ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1036 หึงเล็กน้อย + ตอนที่ 1037 ขอเลี้ยงข้าว
ตอนที่ 1036 หึงเล็กน้อย
ตกดึกเหยียนหมิงซุ่นกลับมาอีกครั้ง ถนนหนทางที่คุ้นเคย เหมยเหมยก็ทำการบ้านเสร็จตั้งนานแล้ว เธอโผตัวเข้าไปในอ้อมกอดที่แสนคิดถึง เธอถูตัวไปมาในอ้อมกอดแผ่นกว้างของเขา
พวกเขาสองคนโอบกอดกันไปมาอยู่สักพัก ค่อยแยกจากกันอย่างไม่เต็มใจนัก เหยียนหมิงซุ่นอุ้มหญิงสาวมานั่งที่บนตัก บั้นท้ายนิ่ม ๆ งอน ๆ ของเธอทำให้เขาใจสั่น เขาทำได้เพียงหาเรื่องพูดคุยเพื่อจะเบี่ยงเบนความสนใจ
เหมยเหมยเอาเรื่องที่เมื่อเช้าหานซู่ฉินโทรมา เล่าให้เขาฟัง ยังพูดไม่ทันจบ เหยียนหมิงซุ่นก็ทำหน้านิ่งไป แรงอาฆาตแผ่กระจายออกมาจนทำให้เหมยเหมยตัวสั่นไปหลายครั้ง
เหยียนหมิงซุ่นลดอารมณ์โมโหลง แล้วกอดหญิงสาวแน่นขึ้นกว่าเดิม แล้วปลอบโยนเธอว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ มีพี่อยู่”
จะขายภรรยาในอนาคตของเขาเพื่อปกป้องตัวเองงั้นหรอ
เหอะ ฝันไปเถอะจ้าวอิงสยง เขาจะทำให้สองสามีภรรยาคู่นี้ต้องเสียใจไปตลอดทั้งชีวิต
เหมยเหมยขานรับอย่างเชื่อฟัง เธอไม่เคยเป็นห่วงอยู่แล้ว เพราะมีจ้าวอิงหัวกับเหยียนหมิงซุ่นอยู่ เธอยังจะต้องกลัวอะไรอีก
“เฮ่อเหลียนชิงยังได้แนะนำผู้หญิงให้พี่อยู่อีกไหม”
สิ่งที่เหมยเหมยเป็นกังวลยิ่งกว่าก็คือตาเฒ่าโรคจิตนั่น 3 ปีมานี้เขาไม่ลดความพยายามที่จะให้เสี่ยวเมิ่งค้นหาหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์ทั่วประเทศ แต่ละคนมีความอัปลักษณ์ที่แตกต่างกันไป
ทุกที่ที่เหยียนหมิงซุ่นไปทำงาน ตลอด 3 ปีมานี้ เฮ่อเหลี่ยนชิงก็จะให้เขาได้เจอกับผู้หญิงอัปลักษณ์ในพื้นที่นั้น ๆ เหมยเหมยตอนแรกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ตอนนี้รู้สึกชินชาไปเสียแล้ว
ไม่ใช่ว่าเธอดูคนจากหน้าตา แต่ผู้หญิงพวกนั้นมีเอกลักษณ์มากเกินไป เหยียนหมิงซุ่นยังไม่ทันได้เห็นจิตใจที่ดีงามของหญิงสาวพวกนั้น ก็อาจจะตกใจเสียก่อนจนไม่กล้าไปเจออีก
แน่นอนว่า ชินมันก็ชินอยู่ แต่ว่าอาการหึงเล็กน้อย มันก็จำเป็นต้องมีกันบ้าง
เหยียนหมิงซุ่นยิ้ม เขาดีดหน้าผากหญิงสาวเบา ๆ เขาชอบที่องค์หญิงของเขาแสดงอาการหึงหวง เหมือนกับแมวน้อยกำลังพองขน น่ารักที่สุด
”เหมยเหมยเธอก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าพ่อบุญธรรมพี่เป็นอย่างไร อย่าว่าแต่คนที่หน้าปกติทั่วไปเลย ถึงเป็นไซซีกลับชาติมาเกิด ก็ยังสู้นิ้วมือของเหมยเหมยนิ้วหนึ่งยังไม่ได้เลย”
เหยียนหมิงซุ่นหยอดคำหวานอย่างเต็มที่ เหมยเหมยยิ้มหน้าบาน แต่สักครู่ก็กลับมาทำหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า: “อย่างไรเสียถ้าฉันเห็นพี่อยู่กับผู้หญิงคนอื่นล่ะก็ หึ คอยดูว่าฉันจะจัดการกับพี่ยังไง”
ถึงแม้ว่าจะพยายามทำท่าทีดุดัน แต่สีหน้าท่าทางของเธอกลับไม่ได้ดูน่ากลัวขนาดนั้น แต่ดูเหมือนกำลังอ้อนเสียมากกว่า
“เธอจะจัดการกับพี่ยังไงหรอ”
เหยียนหมิงซุ่นจงใจถาม ถอนลมหายใจรดไปที่หญิงสาว หญิงสาวหูร้อนจนกลายเป็นสีชมพู
เหมยเหมยนิ่งไป พูดอะไรไม่ออก เธอจะรู้ได้อย่างไงว่าควรจัดการอย่างไร เธออดไม่ได้ที่จะเขินอาย มองจ้องไปที่ตาของเขา งั้นเธอก็แถเป็นเรื่องอื่นไปเลยละกัน
“จะจัดการอย่างไรก็ช่าง พี่จะถามรายละเอียดทำไม หรือว่าพี่อยากอยู่กับผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม ใช่ไหม”
เหมยเหมยพูดใส่หูของเขา ทำให้น้ำลายของเธอกระเด็นเข้าเต็มหูเหยียนหมิงซุ่น
เหยียนหมิงซุ่นไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหู แล้วก็กัดเบา ๆ ไปที่ใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังโมโห “พี่อยากจะอยู่กับเจ้าดื้อคนนี้…”
เหมยเหมยพูดอะไรไม่ออกไปเลยในทันที เธอเอามือประสานกันด้วยความเขินอาย หน้าแดงระเรื่อ เมื่อกี้ยังเป็นสิงโตอยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นน้องแมวเหมียวไปเสียแล้ว
พวกเขาสองคนที่แนบชิดกันอยู่อย่างนี้ คุณมีฉัน ฉันมีคุณ ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ความเงียบกลับชนะเสียงโหวกเหวกเจี๊ยวจ๊าวไปแล้ว เวลานี้บรรยากาศภายในห้องราวกับเต็มไปด้วยฟองสบู่สีชมพูแห่งความรัก
“พี่ไม่ได้หยุดเหรอ ทำไมยังต้องทำธุระอีก” เหมยเหมยถามขึ้น ทำลายความเงียบลง
เหยียนหมิงซุ่นยิ้ม แล้วเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของหญิงสาว “เรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”
ตรอกซอยมืดมิดสักแห่งในเมืองจิน จูเหว่ยกำลังนอนหมดอาลัยตายอยากอยู่บนกองขยะ เขามองดวงจันทร์ที่อยู่บนท้องฟ้าอย่างหมดหวัง ตอนนี้ใจของเขาเหน็บหนาวยิ่งกว่าแม่นางฉางเอ๋อร์ในกว่างหานกงเสียอีก
………………………………………………
ตอนที่ 1037 ขอเลี้ยงข้าว
เหมยเหมยไม่ได้ถามเหยียนหมิงซุ่นต่อว่าเรื่องส่วนตัวอะไร ถึงแม้ว่าจะเป็นสามีภรรยากัน ก็ควรจะต้องมีพื้นที่ให้กันบ้าง ตอนนี้พวกเขายังไม่ใช่สามีภรรยากันด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเธอไม่ควรเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเขามากนัก
โทรศัพท์ดังขึ้น จ้าวอิงหัวสองสามีภรรยานอนอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ทนายหม่าโทรศัพท์มา จ้าวอิงหัวโอนสายมาให้กับเหมยเหมย
ทนายหม่ามาแจ้งข่าวดี เมื่อช่วงบ่ายคุณหลินมาหาเขา ไม่เพียงแต่ตอบตกลงกับข้อเสนอสามอย่างของเหมยเหมย เขายังยินดีให้เหมยเหมยมาร่วมลงทุนด้วย ส่วนเรื่องรายละเอียดหลินเจิ้นกั๋วจะขอคุยกับเหมยเหมยด้วยตัวเอง
“หลินเจิ้นกั๋วจะมาถึงเมื่อไหร่” เหมยเหมยถาม
“3 วันหลังจากนี้”
“ถ้าอย่างนั้นสัญญาลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนั้นของฉัน ฉันยังไม่เซ็นตอนนี้ รอหลังจากที่ฉันคุยกับหลินเจิ้นกั๋วเสร็จ ค่อยเซ็นสัญญาอีกฉบับหนึ่ง” เหมยเหมยพูดอธิบาย
หลังจากวางโทรศัพท์ เหมยเหมยยักคิ้วให้กับเหยียนหมิงซุ่นอย่างได้ใจ “ฉันปิดงานใหญ่ไปได้อีกงานแล้วนะ”
เหยียนหมิงซุ่นยกนิ้วโป้งให้กับเธอ แสดงความชื่นชม “สุดยอด อีกหน่อยธุรกิจของพี่ พี่จะให้เธอดูแลทั้งหมดเลย”
“ไม่เอา ฉันไม่อยากจะเหนื่อยขนาดนั้น” เหมยเหมยปฏิเสธอย่างไม่ใยดี
ธุรกิจภายใต้ชื่อของเหยียนหมิงซุ่นนั้นมีมากมายก่ายกอง นอกจากธุรกิจที่เขาสร้างเองในตอนแรกแล้ว ยังมีธุรกิจของเฮ่อเหลียนชิงที่นับไม่ถ้วน เธอจะเอาปัญญาที่ไหนไปดูแล
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะร่า แน่นอนว่าเขาแค่ล้อเล่น ธุรกิจพวกนั้นของเขามีคนที่เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่แล้ว เขาเองแทบจะไม่ต้องเป็นกังวลอะไร อีกอย่างเขาจะยอมให้องค์หญิงของเขาไปลำบากได้อย่างไร
“ไม่อยากยุ่งก็ไม่ต้องยุ่ง เหมยเหมยอยากจะทำอะไรก็ทำอันนั้น เธอมีความสุขถึงจะสำคัญที่สุด” เหยียนหมิงซุ่นพูดคำหวานที่กินใจที่สุดในโลก หญิงสาวยิ้มจนตาหยี มันช่างหวานจับใจ
หานป๋อหย่วนก็ได้รับสายจะหานซู่ฉินเช่นกัน ในสายเขาอาจจะดูเคารพนับถือหานซู่ฉิน แต่ในใจกลับรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่พอใจที่หานซู่ฉินพูดจากลับกลอกไปมา
เธอพูดเอาไว้แล้วว่าจะให้จ้าวเหมยกับเขา แต่ตอนนี้กลับจะให้เฮ่อเหลียนเช่อ หมายความว่าอย่างไร
นี่ล้อเขาเล่นหรืออย่างไรกัน
ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจอย่างมาก แต่หานป๋อหย่วนก็ไม่ได้เถียงอะไรกลับไป เพียงแค่ตบปากรับคำมาเท่านั้น แล้วบอกว่าจะไปพูดหว่านล้อมเหมยเหมย ให้เหมยเหมยเห็นแก่ส่วนรวมเป็นหลัก
แน่นอนว่าหานป๋อหย่วนไม่ได้เชื่อฟังขนาดนั้น เขาทิ้งมหาวิทยาลัยที่เมืองหลวงเพื่อจ้าวเหมย แล้วไหนจะทิ้งอนาคต อีกทั้งเสียช่วงชีวิตวัยรุ่นไปอีก 3 ปี ถ้าจะให้ทิ้งไปทั้งอย่างนี้เขาจะยอมได้อย่างไรกัน
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งงานกับเหมยเหมย แต่อย่างน้อยขอให้เขาได้ลิ้มลองเธอสักหน่อย จ้าวเหมยสวยขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรต้องได้นอนกับเธอสักครั้ง เขาถึงจะพอใจ
หานป๋อหย่วนทนรอจนเลิกเรียนไม่ไหว กลางวันก็เลยรีบไปหาเหมยเหมยที่โรงเรียนอีจง มหาวิทยาลัยเมืองจินใกล้กับโรงเรียนอีจงมาก เพียงแค่ไม่กี่นาทีก็เดินถึง สะดวกมาก
พักกลางวันมีเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง พอกับการที่จะคุยธุระแล้ว หานป๋อหย่วนมั่นใจในฝีปากของตัวเอง เขาต้องทำธุระที่คุณป้าฝากมาได้สำเร็จแน่ แล้วก็ต้องได้สาวงามกลับไปด้วย
ออดเลิกเรียนวิชาสุดท้ายของคาบเช้าดังขึ้น เหมยเหมยถือกล่องข้าวเดินออกมาจากห้องเรียน แล้วก็เจอเข้ากับหานป๋อหย่วนที่กำลังยืนรออยู่หน้าห้องเรียน เขายิ้มให้กับเธอ เธอขมวดคิ้วในทันที
หลังจากที่เธอเห็นธาตุแท้ของหานซู่ฉิน เธอก็มีอคติต่อหานป๋อหย่วนด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าเดิมเธอก็ไม่ได้มีความรู้สึกดี ๆ อะไรให้กับเขาอยู่แล้ว
“เหมยเหมย…”
หานป๋อหย่วนเพิ่งเริ่มจะพูด เหมยเหมยก็ตัดบทเขาด้วยท่าทีที่รำคาญว่า “มีเรื่องอะไร รีบพูดมา”
หานป๋อหย่วนยิ้มเจื่อน ๆ เขาพยายามอดทน แล้วพูดว่า “พี่มีธุระอยากจะคุยกับเธอ มื้อกลางวันพี่ขอเลี้ยงข้าวเธอได้ไหม พวกเรากินไปคุยไป”
เมื่อวานหานซู่ฉินเพิ่งจะโทรศัพท์มา วันนี้หานป๋อหย่วนก็จะมาเลี้ยงข้าว มันเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่ามาเพื่ออะไร เหมยเหมยเดิมทีอยากจะปฏิเสธ แต่พอคิดได้อีกทีเธอก็ยิ้มขึ้นมา
“ได้สิ แต่ฉันจะพาเพื่อนไปด้วยนะ ไม่มีปัญหาใช่ไหม”
หานป๋อหย่วนเหลือบไปมองที่รูปร่างของเจ้าอ้วน เขากัดฟัน ทำตัวเหมือนใจกว้างแล้วพูดว่า “แน่นอนว่าไม่มีปัญหา เพื่อนของเหมยเหมยก็คือเพื่อนของพี่อยู่แล้วครับ”
……………………………….