ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1044 มือปืน + ตอนที่ 1045 โอหยางซานซานที่ทะเยอทะยาน
ตอนที่ 1044 มือปืน
การเซ็นสัญญากับซิงซิงจบลงด้วยดีที่ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีปรีดา ลุงหลานหลินเจิ้นกั๋วทั้งสองคนต่างหากที่ตื่นเต้นที่สุดเพราะสำนักพิมพ์ของพวกเขาเป็นดั่งเลือดเนื้อที่พวกเขาลงทุนมากว่าครึ่งชีวิต หากปิดตัวลงจริงๆ สองลุงหลานคู่นี้น่าจะเสียใจที่สุด
หลินฮั่นเหวินสอบถาม “คุณจ้าวเคยได้ยินนักเขียนที่ชื่อโอหยางซานซานมั้ยครับ?”
เหมยเหมยเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ โอหยางซานซานเริ่มแต่งบทความตั้งแต่เมื่อไร? หรือว่าชื่อนามสกุลเหมือนกัน?
“เธอแต่งหนังสือเรื่องอะไรคะ?” เหมยเหมยถาม
หลินฮั่นเหวินล้วงหนังสือเล่มบางจากกระเป๋าทำงานออกมาแล้วยื่นให้ “นี่เป็นหนังสือรวมบทความของเธอ เป็นนักเขียนมือใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัวในสองปีนี้เหมือนกัน ภาษาเขียนก็ดูคล่องเหมือนผู้ใหญ่”
เหมยเหมยดูวันตีพิมพ์ของหนังสือก่อนพบว่าเพิ่งตีพิมพ์ปีนี้และตีพิมพ์ไปจำนวนห้าพันเล่ม หน้าแรกของหนังสือเป็นรูปถ่ายของนักเขียน
ก็ได้ ไม่ต้องรอยืนยันแล้วว่าเป็นคนชื่อสกุลเหมือนกันเฉยๆ หรือเปล่าเพราะผู้หญิงในรูปก็คือนางแพศยาโอหยางซานซานนั่นเอง
คำนำได้เขียนแนะนำโอหยางซานซานอย่างละเอียดว่าเชี่ยวชาญการเล่นฉิน การแข่งหมาก การแต่งบทกลอนและการวาดรูป แล้วไหนยังหน้าตาสวยงามขนาดนี้แทบจะเป็นที่โปราดปราณของพระเจ้าเลยล่ะ
เหมยเหมยแค่นหัวเราะใส่ หวงอวี้เหลียนใช้แผนใหม่หรือ?
เส้นทางการเป็นนักวาดไม่เป็นไปตามที่หวังก็เปลี่ยนมาเบียดเบียนวงการนักเขียนแทนงั้นสิ?
เหอะ จากสติปัญญาของโอหยางซานซาน ตีให้ตายเธอก็ไม่เชื่อว่าบทความเหล่านี้ถูกแต่งโดยโอหยางซานซาน เหมยเหมยเลือกอ่านมาหนึ่งถึงสองบทความ หลินฮั่นเหวินพูดไม่ผิดเพราะภาษาเขียนนั้นดูช่ำชองคล่องแคล้วไม่แพ้เจ้าอ้วนน้อย
ต่อให้ภาษาเขียนของเจ้าอ้วนน้อยจะช่ำชองขนาดไหนก็ยังสัมผัสได้ถึงความอ่อนเยาว์ได้บ้าง ในเมื่ออายุยังน้อยกันอยู่!
แต่บทความเหล่านี้ของโอหยางซานซานกลับไม่มีกลิ่นอายความอ่อนเยาว์ หากไม่มีรูปถ่ายของโอหยางซานซานตรงหน้าปกคงคิดว่าเป็นผลงานของนักเขียนที่มากด้วยประสบการณ์คนใดคนหนึ่งแน่
“คุณหลินคิดว่ายังไงคะ?” เหมยเหมยถาม
หลินฮั่นเหวินตอบตรงๆ “บทความเหล่านี้มีหลายรูปแบบ ทั้งเฉียบคม สนุก ผ่อนคลาย รู้สึกว่าไม่ได้เขียนด้วยคน ๆ เดียวกัน ต่อให้เป็นผลงานของคนเดียวกันก็ไม่มีทางใช่ผลงานของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง มีประสบการณ์ชีวิตและความรู้สึกนึกคิดบางอย่างที่ไม่มีทางเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะเขียนออกมาได้”
“เพราะฉะนั้นความหมายของคุณหลินคือ?”
หลินฮั่นเหวินยิ้มตอบ “ความจริงคุณจ้าวเข้าใจความหมายของผมแล้ว ทางนั้นของเรามีอาชีพหนึ่งเรียกว่า ‘มือปืน’ มีนักเขียนบางส่วนที่จะจ้างคนที่มีทักษะการเขียนที่ดีช่วยแต่งบทความแทนพวกเขาเพื่อเร่งปิดต้นฉบับ สุดท้ายก็ประทับด้วยชื่อของนักเขียน คนที่ช่วยแต่งบทความพวกนี้ก็คือมือปืน”
เหมยเหมยยกนิ้วโป้งให้เขา สายตาเฉียบคมอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด บทความพวกนี้ของโอหยางซานซานมาจากมือปืนอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?
โอหยางเซี่ยงหมิงรับผิดชอบส่วนวรรณกรรมศิลปะอยู่แล้ว หวงอวี้เหลียนจะหามือปืนไม่กี่คนคงไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ
หลินฮั่นเหวินพูดต่อ “นักเขียนที่ชื่อโอหยางซานซานคนนี้เคยติดต่อผมมาช่วงก่อนหน้านี้ อยากให้ซิงซิงช่วยตีพิมพ์ให้แต่ถูกผมปฏิเสธไป ผมเดาว่าเธออาจจะไปหาอีเจีย”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา”
เหมยเหมยออกจะสมน้ำหน้าด้วยซ้ำ หวงอวี้เหลียนไปหาอีเจียก็รอถูกปอกลอกให้หนังหลุดไปเถอะ!
แต่หวงอวี้เหลียนแค่อยากจะช่วยสร้างกระแสให้โอหยางซานซานมากกว่าเพื่อให้ดื่มด่ำกับตำแหน่งนักเขียนวัยรุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฉายานี้ค่อนข้างได้รับความนิยมอยู่ค่อนข้างสูง พอจะช่วยเคลือบทองไว้บนตัวโอหยางซานซานได้หลายชั้นแล้ว!
เหมยเหมยที่นั่งอยู่ในรถยิ่งคิดยิ่งไม่พอใจจนอดยู่ปากไม่ได้ โอหยางซานซานอาศัยความลำบากของคนอื่นเพื่อเติมสีสันให้ตัวเอง ทำเรื่องผิดบาปผิดหลักจรรยาบรรณแบบนี้เธอควรช่วยธำรงธรรมแทนสวรรค์ดีหรือเปล่านะ?
เหยียนหมิงซุ่นดูออกถึงความไม่พอใจของแฟนสาวเลยกระซิบข้างหูเธอเบาๆ “ให้ฉันช่วยตามหาหลักฐานมือปืนของโอหยางซานซานให้มั้ย?”
เหมยเหมยดวงตาลุกวาวพลางโอบลำคอเหยียนหมิงซุ่นไว้แล้วพยักหน้าแรง ๆ แถมยังเป็นฝ่ายมอบรอยจูบให้ก่อนหนึ่งที
……………………………
ตอนที่ 1045 โอหยางซานซานที่ทะเยอทะยาน
อิทธิพลของเหยียนหมิงซุ่นในตอนนี้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก ไม่กี่วันเขาก็ตามหามือปืนที่ช่วยแต่งบทความแทนโอหยางซานซานได้
เป็นดั่งหลินฮั่นเหวินพูดไว้ไม่มีผิด มือปืนไม่ได้มีเพียงคนเดียวแต่มีถึงสามคน ชายสองคนกับหญิงอีกหนึ่งคน
สามคนนี้ล้วนเป็นนักเขียนที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงนัก มีความสามารถแต่กลับโดนกลบถึงได้ถูกหวงอวี้เหลียอ้างว่าจะช่วยตีพิมพ์หนังสือพวกเขามาหลอกล่อ หลอกเอาทั้งสามคนไปช่วยเป็นมือปืนให้โอหยางซานซานอย่างสมยอมใจ
ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นทำงานรวดเร็วมีประสิทธิภาพ บันทึกคำให้การของทั้งสามคนพร้อมทั้งให้เซ็นชื่อประทับรอยนิ้วมือ
“เหมยเหมยกะจะเปิดโปงโอหยางซานซานเมื่อไหร่? ตอนนี้เหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นเอาคำให้การเหล่านี้ให้เหมยเหมยดู
เหมยเหมยส่ายศีรษะแรงๆ สายตาที่กำลังขบคิดแล่นพาดผ่าน “ไม่ใช่ตอนนี้ รออีกสักช่วงก่อน รอให้หนังสือของโอหยางซานซานตีพิมพ์ มีชื่อเสียงแล้วค่อยว่ากัน”
เหยียนหมิงซุ่นแค่ฟังก็รู้ทันว่ายายเด็กคนนี้กำลังวางแผนอะไรอยู่ถึงกระตุกยิ้มมุมปาก หยิกแก้มเหมยเหมยเบาๆ หนึ่งทีพูดเสียงสูง “ร้ายขึ้นนะ?”
เหมยเหมยกลอกตาใส่เขาแวบหนึ่งแล้วคำรามขึ้นว่า “ฉันกำลังธำรงธรรมแทนสวรรค์อยู่ ปราบมารปีศาจ!”
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มน้อยๆ ช่างมีเหตุมีผลเสียจริง ดูเข้มแข็งกว่าคนอ่อนแอในวัยเด็กคนนั้นเยอะ
ผ่านไปไม่กี่วันลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นก็มารายงานว่าโอหยางซานซานเซ็นสัญญาสิบห้าปีกับอีเจียโดยมีส่วนแบ่งครึ่งต่อครึ่ง ดูท่าทางอีเจียจะให้หน้าหวงอวี้เหลียนมากทีเดียว
โอหยางซานซานเพิ่งเซ็นสัญญาไปหวงอวี้เหลียนก็เริ่มปั่นกระแส ปฏิเสธไม่ได้ว่าทักษะการปั่นกระแสของผู้หญิงคนนี้ไม่ด้อยไปกว่าดาราดังพวกนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
หวงอวี้เหลียนเองก็มาผิดเวลาไปหน่อย หากเธอเกิดช้าสักไม่กี่สิบปีแค่รูปลักษณ์ภายนอก โฉมหน้าของเธอรวมถึงทักษะการปั่นกระแสชั้นเยี่ยมของเธอแล้ว ต้องเป็นดาราที่มีกระแสแถวหน้าแน่นอน
“พวกเธอได้ข่าวมั้ย? โอหยางซานซานเขียนหนังสือล่ะตอนนี้กำลังวางขายที่ฮ่องกง อีกสักพักจะมีงานแจกลายเซ็นที่ฮ่องกงด้วย”
“พระเจ้า โอหยางซานซานเก่งจัง หน้าตาสวยขนาดนี้ ทั้งเก่งฉิน เล่นหมากเป็น เขียนหนังสือเป็น วาดรูปก็เป็น พระเจ้า คนเรียนแย่อย่างเรายังมีทางรอดอีกไหมนะ?”
“สมแล้วที่รุ่นพี่โอหยางเป็นไอดอลของฉัน ทั้งหน้าตาดีและมากด้วยความสามารถแล้วยังขยันมุ่งมั่นแบบนี้อีก ฉันจะเรียนรู้จากเธอ!”
……
เพื่อนร่วมห้องกำลังถกเกี่ยวกับหนังสือของโอหยางซานซาน มีทั้งคนอิจฉามีทั้งคนที่นับถือจากใจจริง อีกส่วนหนึ่งที่พูดกระแนะกระแหน แต่เพื่อนส่วนใหญ่อิจฉากันทั้งนั้น
ในเมื่อเด็กสมัยนี้ยังใสซื่อบริสุทธิ์นักไม่ได้เจ้าเล่ห์เจ้าแผนการเหมือนเด็กรุ่นใหม่ แม้พวกเขาจะอิจฉาคนที่มีความสามารถจริงๆ แต่ส่วนมากก็ให้ความชื่นชม
เหมยเหมยแค่นยิ้มในใจ ให้โอหยางซานซานได้ใจไปก่อน
ตอนนี้เธอปีนไปอยู่ที่สูงมากแค่ไหน อนาคตก็มีแต่จะร่วงตกลงมามากเท่านั้น!
เจียงซินเหมยซุบซิบกับเจ้าอ้วนพลางพูดด้วยความขุ่นเคือง “ทำไมนายไม่เปิดเผยเรื่องที่นายเป็นคุณชายน่าหลันล่ะ? ถ้านายบอกไปนะโอหยางซานซานก็เทียบไม่ได้หรอก”
เจ้าอ้วนน้อยรีบส่ายหน้า “ถ่อมตัวถ่อมตัว ไม่จำเป็นต้องไปแก่งแย่งชื่อเสียงจอมปลอมพวกนี้”
สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือเรื่องเงิน ของอย่างชื่อเสียงอะไรเทือกนี้ต้องโทษที่เขายังอายุน้อยเกินไปเลยรู้สึกจากใจว่าของพวกนี้ไม่ได้สร้างความสุขแก่เขามากเท่าเงิน!
เจียงซินเหมยคุกรุ่นเพราะความเฉยเมยต่อเรื่องชิงดีชิงเด่นของเจ้าอ้วนน้อยเลยเบนทิศไปยังเหมยเหมย
“พวกเธอละทางโลกกันแล้วหรือไง? ทั้งที่มีของดีอยู่ในตัวกลับถ่อมตัวบ้าบออยู่ได้ ตอนนี้ดีล่ะสิให้โอหยางซานซานได้หน้าไปเต็มๆ…จะบ้าตาย!”
เจียงซินเหมยก่นด่าไปหลายประโยคก็ยังไม่สาแก่ใจเลยด่าต่อ “ถ้าฉันมีความสามารถเท่าพวกเธอ คุยโม้ไปทั่วสารทิศแล้ว ไม่มีทางเปิดช่องให้โอหยางซานซานได้หน้าหรอก?”
“นั่นไง พระเจ้ารู้ว่าเธอมีนิสัยชอบอวดเลยจงใจไม่ให้เธอมีความสามารถด้านการเขียนหนังสือ!”
อู่เชาจงใจพูดหยอกล้อเรียกให้เจียงซินเหมยตบหลังกบาลไปทีหนึ่ง ไม่นานเธอเองก็หัวเราะตาม
…………………………..