ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1048 ใครก็อย่าอยู่สบายเลย + ตอนที่ 1049 ลงมือเลย
ตอนที่ 1048 ใครก็อย่าอยู่สบายเลย
โอหยางซานซานเอามือปิดปากแล้วพูดเสียงเล็กเสียงน้อย “อู่เยวี่ยนี่จริงๆ เลยนะ ตอนกินข้าวอย่าพูดเรื่องนี้สิ อีกอย่างหน้าตาดีก็นับว่าเป็นความสามารถอย่างนึงไง อย่างน้อยก็มีคนชอบนี่นา!”
แม้เธอดูถูกดูแคลนกับความมองหมิ่นของอู่เยวี่ยแต่พอได้ฟังแล้วก็รู้สึกได้เอาคืนไปด้วย
ถ้าจะว่าบนโลกใบนี้ใครเกลียดจ้าวเหมยมากที่สุดนอกจากอู่เยวี่ยแล้วเกรงว่าคงมีแต่โอหยางซานซาน
จุดนี้พวกเธอสองคนปรองดองกันดีเพื่อต่อกรกับจ้าวเหมยอย่างเต็มที่
อู่เยวี่ยแค่นเสียงกล่าวว่า “ผู้ชายชอบน่ะสิ ผู้หญิงแบบนี้นอกจากยั่วผู้ชายเก่งแล้วทำอะไรได้อีก? เทียบไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้วเดียวของซานซานเลย ถ้าอยู่ในยุคสมัยก่อนซานซานเธอก็คือฮูหยินใหญ่จากตระกูลผู้ดี นางสุนัขจิ้งจอกพรรค์นั้นอย่างมากเป็นได้แค่ของประดับ ประทังชีวิตจากการขายตัว!”
ขณะที่พูดอยู่สายตาของอู่เยวี่ยก็จดจ้องเหมยเหมยไม่ละสายตาทั้งกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
นักเรียนที่นั่งดูเรื่องสนุกๆ อยู่ต่างตะลึง บุญคุณความแค้นของอู่เยวี่ยกับเหมยเหมยไม่ใช่ความลับในโรงเรียน พวกเขาไม่สอดมือเข้าไปยุ่งเรื่องบุญคุณความแค้นของคนอื่นอยู่แล้ว
แต่เพราะอู่เยวี่ยคะแนนเรียนแย่เกินไปส่วนเหมยเหมยทั้งหน้าตาสวยทั้งการเรียนดี ฉะนั้นนักเรียนส่วนมากยืนอยู่ฝั่งเดียวกับเหมยเหมย
ยามนี้เห็นอู่เยวี่ยกล้าเหยียดหยามจ้าวเหมยอย่างโจ่งแจ้ง บนใบหน้าหลายคนเริ่มฉายแววไม่เห็นด้วย
โอหยางซานซานได้ยินแล้วรู้สึกสะใจอย่างมากแต่เธอไม่อยากให้มีผลต่อภาพลักษณ์ของเธอเลยแสร้งดึงตัวอู่เยวี่ยไว้ “อู่เยวี่ยเธออย่าพูดอีกเลย รีบกินข้าวเถอะ”
“ซานซานเธออย่าห้ามฉันเลย เธอเก่งกว่าเขาตั้งร้อยเท่า เธอกลัวอะไร?”
อู่เยวี่ยทำท่าเหมือนไม่พอใจแทนเพื่อน ถ้านับเรื่องเสแสร้งเก่งโอหยางซานซานยังด้อยกว่าอู่เยวี่ยนัก!
โอหยางซานซานอยากปลีกตัวทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ เหอะ ฝันไปเถอะ!
อย่างไรตอนนี้เธอก็เป็นเสียแบบนี้แล้ว ใครก็อย่าได้ดีไปเลย!
โอหยางซานซานยิ้มเก้อลอบกัดฟันกรอด วันนี้อู่เยวี่ยเป็นบ้าอะไร แม่ของเธอย้ำนักหนาว่าการใหญ่ยังไม่สำเร็จอย่าเป็นฝ่ายท้าทายจ้าวเหมยก่อน
อู่เยวี่ยกำลังสร้างปัญหาให้เธออยู่นะ!
แม้รู้ว่าอู่เยวี่ยกำลังเป็นฝ่ายยั่วยุก่อนแต่โอหยางซานซานกลับไม่ยอมเป็นฝ่ายอ่อนข้อกว่ายามอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ โดยเฉพาะในที่ที่มีจ้าวเหมยอยู่
“เธอพูดอะไรน่ะ ฉันมีอะไรต้องกลัว…” โอหยางซานฝืนยิ้ม
อู่เยวี่ยเดาทางนิสัยของโอหยางซานซานได้อย่างแม่นยำแล้วนั่นก็คือชีวิตที่ดีของเธอ มีคุณแม่ผู้เก่งกาจอย่างหวงอวี้เหลียนคอยวางแผนให้อยู่เบื้องหลัง ไม่อย่างนั้นคนโง่อย่างโอหยางซานซานคงเทียบไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้วของเธออู่เยวี่ยด้วยซ้ำ
“ซานซานเธอมีพื้นหลังครอบครัวที่ดี เป็นลูกคุณหนูที่แท้จริงแล้วยังมีความสามารถ เธอต่างหากถึงจะเป็นดาวเด่นประจำโรงเรียนของเราได้ ส่วนคนที่หน้าตาอย่างกับปีศาจจิ้งจอกนั่นก็เป็นได้แค่ดอกไม้ประดับตามสโมสรอันดับหนึ่งเท่านั้นแหละ”
สโมสรอันดับหนึ่งของคุณหนูใหญ่เฝิงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีนี้และเปิดอีกหลายสาขาตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเมืองจินเองก็มีหนึ่งสาขา หรูหรายิ่งกว่าสาขาใหญ่ในเมืองหลวง เป็นสถานที่เลื่องชื่อไม่มีใครในเมืองจินไม่รู้จัก
อู่เยวี่ยยิ่งพูดให้ชัดเจนกว่าเดิมเหลือแค่ไม่ได้พูดชื่อจ้าวเหมยเท่านั้น ทุกคนต่างมองไปทางเหมยเหมยที่นั่งนิ่งอย่างพร้อมเพรียงเพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อ
เจียงซินเหมยโกรธมานานแล้ว พอได้ยินอู่เยวี่ยเย้ยหยันเพื่อนว่าเป็นโสเภณีจะทนไหวได้อย่างไรไหว ลุกพรวดทันที
“อู่เยวี่ยเธอเป็นบ้าอะไรที่โรงเรียน เหอะ คะแนนสอบตัวเองแย่ยิ่งกว่าขี้หมายังมีหน้ามาว่าคนอื่น เธอเอาหน้ามาจากไหน? ใช่สิ ฉันนึกได้แล้ว หน้าของเธออู่เยวี่ยหนากว่าหนังวัวอีก ตอนนี้ยิ่งน่าขายหน้ากว่าเดิม!”
เจียงซินเหมยปากร้ายไม่แพ้ใคร นอกจากพูดจี้จุดแล้วยังเสียงใสก้อง ไม่นานก็สามารถสกัดมาดทรงพลังของอู่เยวี่ยได้
…………………………….
ตอนที่ 1049 ลงมือเลย
อู่เยวี่ยเองก็ลุกขึ้นพูดอย่างเย้ยหยัน “เจียงซินเหมยเธอต่างหากเป็นหมาบ้าที่คนอื่นเลี้ยง ฉันพูดถึงใครกัน? ฉันได้เจาะจงชื่อมั้ย? ทำไมเธอถึงรีบร้อนจะรับแทนจัง? หรือว่าอยากเป็นโสเภณีจริงๆ!”
โอหยางซานซานใช้มือปิดปากหัวเราะขบขันน้อยๆ สะใจจริงๆ อย่างไรเสียไม่ใช่เธอที่ไปหาเรื่องจ้าวเหมยก่อน เธอแค่นั่งดูเรื่องสนุกๆ มีให้ดูฟรีก็ต้องดูสิ
เจียงซินเหมยโกรธจนหน้าขาวซีด ผู้หญิงคนนี้เองก็เป็นคนนิสัยใจร้อนและคร้านจะต่อล้อต่อเถียงกับอู่เยวี่ยเลยพับแขนเสื้อเตรียมตบกันสักฉาด อู่เยวี่ยตาลุกวาว เธออยากปั่นให้เรื่องมันใหญ่กว่านี้พอดี!
ในเมื่อเธอในตอนนี้ชีวิตก็ล้มเหลวพอแล้วไม่ว่าจะพุ่งชนใครก็ชนะ เรื่องยิ่งใหญ่ยิ่งดี!
เหมยเหมยคว้าเจียงซินเหมยไว้แล้วส่ายศีรษะให้เธอน้อยๆ เจียงซินเหมยกล่าวอย่างโมโห “เธอฟังสิว่าหล่อนพูดจาไม่น่าฟังขนาดไหน!”
“ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนพ่นคำสกปรกแบบนี้ออกมา เธอถือสากับเด็กเรียนแย่แบบนี้ก็เหมือนลดคุณค่าตัวเองนะ!”
เพิ่งสิ้นเสียงเหมยเหมยอู่เยวี่ยก็หวีดร้องแทรกมาทันที “จ้าวเหมยเธอว่าใครเรียนแย่? เธอพูดมาให้รู้เรื่องนะ!”
แม้ตอนนี้คะแนนสอบของเธอไม่ดีแต่อู่เยวี่ยกลับไม่อยากถูกคนอื่นมองว่าเป็นเด็กเรียนแย่เลยสักนิด เธอยังภูมิใจกับอดีตที่เคยรุ่งเรืองของเธอมาโดยตลอดและไม่เคยคิดว่าตัวเองเรียนแย่
เธอแค่ไม่อยากเรียนเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจากความรู้ของเธอการจะสอบได้อันดับหนึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายมาก!
“เธอรีบรับไว้ทำไม? หรือว่าเธอคิดว่าตัวเองเป็นเด็กเรียนแย่ที่คะแนนยิ่งกว่าเศษเลขนั่นล่ะ?” เหมยเหมยย้อนคำพูดทั้งหมดที่อู่เยวี่ยเคยว่าเจียงซินเหมยไว้ก่อนหน้ากลับไปจนเพื่อนนักเรียนคนอื่นหัวเราะออกมาเสียงดัง
นักเรียนที่สามารถเข้าเรียนโรงเรียนอีจงได้ล้วนเป็นนักเรียนดีเด่นแถวหน้าประจำเมือง ต่อให้มีการใช้เส้นบ้างแต่คะแนนไม่ได้แย่ชวนให้โกรธเท่าอู่เยวี่ย ฉะนั้นในโรงเรียนอู่เยวี่ยจึงไม่ได้มีมนุษยสัมพันธ์ต่อคนรับข้างสักเท่าไรนัก
เพื่อนๆ ต่างไม่ใคร่จะสนใจเธอ ตอนนี้ก็ย่อมไม่มีใครแก้ต่างแทนเธอนอกจากเหยียนหมิงต๋า
“เหมยเหมยเธออย่าว่าเยวี่ยเยวี่ยแบบนี้ ยังไงหล่อนก็เป็นพี่สาวของเธอนะ!” เหยียนหมิงต๋ามองเหมยเหมยอย่างไม่พอใจ
“เหยียนหมิงต๋าหุบปากเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เรื่องของนาย ไสหัวไปเลยไป๊!”
เหมยเหมยตวาดเสียงดุดันใส่เหยียนหมิงต๋าอย่างไม่เกรงใจ เหอะ คืนนี้จะให้เหยียนหมิงซุ่นสั่งสอนเจ้าโง่นี่สักที
อู่เยวี่ยพูดประชด “จ้าวเหมยตอนนี้เธอยังไม่ได้แต่งงานกับพี่หมิงซุ่นเลยก็จะวางมาดพี่สะใภ้แล้วเหรอ?”
สีหน้าเพื่อนๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อยและเริ่มกระซิบกระซาบ
“พี่หมิงซุ่นที่ว่าคือพี่ใหญ่ของเหยียนหมิงต๋าใช่มั้ย? ผู้ชายที่หลายวันนี้มาคอยรับจ้าวเหมยคนนั้น หล่อมากเลยล่ะ!”
“ใช่ เขานั่นแหละ พวกเธอยังไม่รู้สินะ สามปีก่อนโรงเรียนมีเทพบุตรสองคน คนหนึ่งชื่อเหยียนหมิงซุ่น คนหนึ่งชื่อเหมยซูหาน สองคนนี้คนหนึ่งเย็นชาดุจไชมึ้งชวยเสาะ[1] อีกคนก็อบอุ่นดั่งฮวยมั่วเล่า[2] ต่างก็ตรงสเปคฉันหมดเลย!” คนที่พูดคือนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปลายปีหนึ่งคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในอีจงมาตั้งแต่เด็ก
“เหมยซูหานใช่คนที่สอบได้อันดับหนึ่งสายศิลป์ของเมืองจินเมื่อสามปีก่อนใช่มั้ย? ฉันเคยเห็นรูปเขาบนหนังสือพิมพ์ เป็นคุณชายที่ดูดีจริงๆ!”
“ใช่ เขานั่นแหละ เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยปักกิ่ง ตอนนี้น่าจะปีสามแล้ว”
“เหยียนหมิงซุ่นล่ะ? ตอนนี้เขาเรียนมหาวิทยาลัยที่ไหน?”
“เขาน่ะ ตอนนี้เป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลกเชียวล่ะ เหยียนหมิงซุ่นเองก็เกรดดีเหมือนกันแต่เขาไม่ได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยเพราะไปเป็นทหารแล้ว ได้ยินว่ากำลังไปได้ดีในค่ายทหารจนเลื่อนตำแหน่งแล้วล่ะ!” ผู้หญิงคนก่อนหน้าทำตาเป็นประกาย สีหน้าเคลิบเคลิ้ม
พี่ชายทหารในชุดลายทหารมักสร้างความหวั่นไหวแก่เหล่าหญิงสาวได้เสมอ ทั้งที่เหยียนหมิงซุ่นสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้แท้ๆ แต่กลับเลือกทิ้งอนาคตอันสวยงามโดยอาสาไปสมัครเป็นทหารเพื่อปกป้องประเทศชาติ จึงเรียกให้เหล่านักเรียนชายและนักเรียนหญิงที่กำลังอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่ออดเอนเอียงไปทางนั้นโดยห้ามใจตัวเองไม่ได้
“จ้าวเหมยโชคดีชะมัด อนาคตฉันก็จะหาแฟนเป็นทหารเหมือนกัน” นักเรียนหญิงหลายคนแอบสาบานกับตัวเอง
เหมยเหมยที่ได้รับสายตาประกายที่ท้วมท้นไปด้วยความอิจฉาปนแค้นใจก็ฉงน แต่ไม่มีเวลามาครุ่นคิดให้ละเอียด เธอเองก็ไม่มีอยากมาเสียเวลาให้กับอู่เยวี่ย
เดินไปหยิบชามข้าวบนโต๊ะอาหารของอู่เยวี่ยที่ข้างในเต็มไปด้วยเคาหยกสีดำสนิทแล้วก็ผัดไข่ใส่กุยช่ายคว่ำใส่หัวอู่เยวี่ย
เมนูเคาหยกสีดำ ไข่สีเหลือง ผักกุยช่ายสีเขียว เนื้อสีน้ำตาล เม็ดข้าวสีขาว…
สภาพดูไม่จืดเลยจริงๆ!
………………………
[1] ไชมึ้งชวยเสาะ หรือภาษาจีน ซีเหมินชุยเสวี่ย มิตรสนิทของเล็กเซียวหงผู้มีบุคลิกเย็นชา ในนิยายเรื่อง ‘เล็กเสี่ยวหงหงส์ผงาดฟ้า’
[2] ฮวยมั่วเล่า หรือภาษาจีน ฮวาหม่านโหลว ตัวละครอีกตัวในนิยายเรื่องเดียวกัน