ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1064 เก็บเบอร์รี่ + ตอนที่ 1065 ชีวิตในอนาคตของฉัน ฉันตัดสินเอง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1064 เก็บเบอร์รี่ + ตอนที่ 1065 ชีวิตในอนาคตของฉัน ฉันตัดสินเอง
ตอนที่ 1064 เก็บเบอร์รี่
ถึงแม้ว่าภูเขาเฟิ่งหวงซานจะไม่สูง แต่ถ้าปีนไปถึงจุดสูงสุดก็ต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง เหมยเหมยหายใจถี่เล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นสีหน้ากลับไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่นิดเดียว คนบนยอดภูเขาก็ไม่เยอะ คนมากมายกำลังถ่ายรูปอยู่ ยังมีคนส่งเสียงร้องตะโกนลงไปที่ภูเขาด้านล่าง เหมือนจะระบายความอัดอั้นในใจ
“ที่นี่มีผลเบอร์รี่เดือนเก้าเยอะแยะเลยที่ยังไม่โดนแทะกิน!”
เหมยเหมยมองดูบนเนินใหญ่ๆที่มีผลเบอร์รี่เดือนเก้า แดงเหมือนกับหินโมราก็ไม่ปาน ฝังอยู่ท่ามกลางเถาวัลย์ ด้านข้างมีดอกถูหมีเบ่งบานสะพรั่ง ดอกไม้สีขาวกระจัดกระจายพันไปตามลำต้นไม้ใหญ่ บานเต็มไปหมด ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลเย้ายวนคน ดึงดูดผึ้งและผีเสื้อนับไม่ถ้วน
อีกด้านหนึ่งบนเนินเขากลับมีทิวทัศน์ที่สวยงามไปอีกแบบ พุ่มดอกเก๊กฮวยป่าเตี้ยๆโตเต็มไปหมด ดอกไม้สีเหลืองทองเต้นพลิ้วไหวไปตามสายลม ตั้งตรงอย่างทะนงองอาจ เต็มไปด้วยพลังชีวิต
เหมยเหมยมองอย่างใจเต้น หยิบพู่กันออกมาจากกระเป๋า ยืนอยู่แบบนี้และร่างภาพอย่างรวดเร็ว ช่างเป็นทัศนียภาพที่สวยงามอะไรขนาดนี้ เธอจะต้องวาดมันขึ้นมา สามารถใช้ในหนังสือเล่มใหม่ของเธอได้
ให้นางเอกและพระเอกของเธออยู่ในทิวทัศน์ที่สวยงามเช่นนี้และเริ่มจูบแรกของพวกเขา มันจะต้องหวานหยดย้อยแน่นอน!
เธอวาดเร็วมากใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสร็จแล้ว แล้วก็หยิบกล้องถ่ายรูปมาถ่ายภาพสวยๆไว้หลายใบ ถึงได้เริ่มเก็บผลเบอร์รี่เดือนเก้า
เหยียนหมิงซุ่นเด็ดหญ้าขนสีเขียวมากหลายอัน เด็ดเอาใบไม้และเมล็ดหญ้าออก เหลือเพียงลำต้นที่สะอาด เอาเบอร์รี่ที่เก็บมาใส่ไว้บนลำต้นนั้น ต้นหญ้าหนึ่งต้นสามารถร้อยเบอร์รี่ได้สิบกว่าลูก หลังจากนั้นก็ผูกปม สีของมันแดงและสดใส สวยกว่าสร้อยคอหินโมราเสียด้วยซ้ำ
เหมยเหมยเด็ดไปกินไป บางทีก็ป้อนเหยียนหมิงซุ่น ทั้งสองกินอย่างมีความสุข เหมือนกับว่าได้กลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขในหมู่บ้านตระกูลโม่ ตอนนั้นเหยียนหมิงซุ่นก็พาเธอไปที่ภูเขาเพื่อหาผลเบอร์รี่ป่า
วัยรุ่นคนอื่นๆก็มาร่วมสนุกด้วย ช่วยกันเก็บขึ้นมา เหมยเหมยเห็นว่าเก็บได้ไม่น้อยแล้ว ก็แบ่งปันที่ให้คนอื่นบ้าง ไปเก็บดอกเก๊กฮวยป่ากับเหยียนหมิงซุ่นต่อ
ดอกเก๊กฮวยป่าพวกนี้เต็มไปด้วยพลังชีวิตจริงๆ อีกทั้งยังสะอาดมากด้วย เก็บกลับไปตากแห้งแล้วต้มเป็นชาดื่มก็ดี เหยียนซินหย่าชอบดื่มชาดอกไม้
เก็บมาหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ เก็บเกี่ยวมาได้มากอยู่พอสมควร เหมยเหมยลุกขึ้นเอาถุงใบใหญ่ที่ใส่ดอกเก๊กฮวยป่ายัดใส่ลงไปในกระเป๋า แล้วก็เอาพวงเบอร์รี่ใส่ลงไปในถุง ใช้เพียงมือหิ้วไว้ ไม่อย่างนั้นถ้ากระเป๋าบีบทับก็จะเละกลายเป็นน้ำไป
“พี่หมิงซุ่น พี่เอากลับไปให้คุณยายหยางและคุณตาเหยียนกินสักสามสี่พวงเถอะ ยังมีดอกเก๊กฮวยป่าอีก ฉันจำได้ว่าคุณยายหยางชอบดื่มชาดอกไม้”
พวกเขาลงเขามาอย่างรวดเร็ว เหยียนหมิงซุ่นส่งเหมยเหมยกลับบ้าน เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ไปหมู่บ้านตระกูลโม่เพื่อไปเยี่ยมเยียนคุณยายแล้วก็พวกลุงๆทั้งหลาย สามปีมานี้เขาให้ยาน้ำเพื่อบำรุงรักษาร่างกายกับคนแก่ไปบ้างสามสี่คน ไม่กล้าให้ใช้เยอะ แต่ผลลัพธ์ก็เห็นได้ชัดอยู่ ร่างกายของคนแก่ทั้งสี่คนก็แข็งแรงมาโดยตลอด
เหยียนหมิงซุ่นคิดแล้วก็รับไว้ แถมยังหัวเราะพูดอีกว่า “น่ารักอะไรขนาดนี้ ถึงตอนนั้นพี่จะให้คุณตาคุณยายให้อั่งเปาเธอซองใหญ่เลย”
เหมยเหมยกรอกตามองบน แต่ไม่นาน ตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
เรื่องของเธอและเหยียนหมิงซุ่นผู้เฒ่าทั้งสองของตระกูลเหยียนน่าจะรู้แล้ว เพียงแต่ตอนนี้เธออายุยังน้อย มีบางเรื่องที่ไม่สามารถทำให้ชัดเจนได้ ดังนั้นจึงไม่มีแสดงตัวประเจิดประเจ้อนัก
แต่เหยียนหมิงซุ่นพูดไว้นานแล้วว่า รอแค่เพียงเธอเรียนจบมัธยมปลาย ก็จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขา แถมยังจะไปเยี่ยมผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการด้วย ไม่สามารถทำอะไรปิดบังได้อีกต่อไป
เหยียนหมิงซุ่นส่งเหมยเหมยกลับบ้าน พูดคุยกับเหยียนซินหย่าสองสามประโยคก็ขับรถออกมา
ผู้เฒ่าตระกูลเหยียนทั้งสองต่างก็อยู่บ้าน เหยียนหมิงต๋าก็อยู่ ทำตัวเป็นเด็กดีนั่งทำการบ้านอยู่ที่ลานบ้าน คุณตาเหยียนจับไม้เรียวจ้องมองถมึงทึงอยู่ด้านหลัง ระยะนี้คุณตาเบื่อมากๆ รู้สึกว่าถึงเวลาต้องกระตุ้นหลานชายคนเล็กแล้ว ด้วยเหตุนี้วันที่น่าเศร้าของเหยียนหมิงต๋าก็มาถึง
“คุณตาคุณยาย นี่คือผลเบอร์รี่ป่าและดอกเก๊กฮวยป่าที่เหมยเหมยเก็บมาเพื่อนำมามอบให้คุณตาคุณยายครับ”
เหยียนหมิงซุ่นเอาผลเบอร์รี่ป่าและดอกเก๊กฮวยป่าวางไว้บนโต๊ะ ผลเบอร์รี่สีแดงและดอกไม้สีเหลืองอยู่ด้วยกันทำให้สวยงามเป็นพิเศษ
คุณยายหยางดีใจจนตายิ้มตาหยี คุณตาเหยียนกลับตอบรับเสียงต่ำ มองดูแล้วเหมือนกับไม่ค่อยชอบใจเท่าไร
……………………………………..
ตอนที่ 1065 ชีวิตในอนาคตของฉัน ฉันตัดสินเอง
คุณยายหยางอารมณ์เสียแล้วหันไปจ้องเขม็งใส่คุณตา “คุณทำเสียงประหลาดแบบนี้หมายความว่ายังไง? เหมยเหมยออกไปเที่ยวยังนึกถึงพวกเรา เป็นเด็กดีขนาดไหน คุณฮึ่มๆอะไร?”
คุณตาเหยียนอับอายจนโมโห ตระหนักถึงคนรุ่นหลังที่อยู่ตรงหน้า ก็พลันพูดใส่อย่างหงุดหงิดว่า “ฉันทำเสียงฮึดฮัดอะไร หูข้างไหนของคุณได้เสียงฮึดฮัดของฉันฮะ!”
“หูทั้งสองข้างของฉันได้ยินหมดนั้นแหละ เชอะ คุณอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันบอกเอาไว้เลยนะ หลานสะใภ้เหมยเหมยคนนี้ฉันพึงพอใจเป็นอย่างมาก วันหลังถ้าคุณกล้าชักสีหน้าต่อหน้าของเหมยเหมย ทำให้หลานสะใภ้ของฉันตกใจหนีเตลิดเปิดเปิงไป วันหลังฉันก็จะไม่ทำกับข้าวให้ตาแก่เลอะเลือนอย่างคุณอดจนหิวตายไปเลย!”
คุณยายหยางใช้สองมือเท้าสะเอว ไม่ให้ความยำเกรงคุณตาเหยียนเลยแม้แต่นิดเดียว
ตั้งแต่รู้ถึงความสัมพันธ์อันคลุมเครือระหว่างหลานชายคนโตและจ้าวเหมย ตาแก่สมควรตายนี่ก็มีท่าทางเหมือนจะเป็นจะตาย พอเห็นเข้าตาของเธอร้อนเป็นไฟ
เด็กน้อยเหมยเหมยคนนั้นหน้าตาสะสวย นิสัยก็ดีน่ารัก แถมยังเป็นถึงลูกสาวของผู้ว่าการตำแหน่งใหญ่โต ส่องโคมไฟหายังหาหญิงสาวไม่ได้ดีเท่านี้ ตาแก่สมควรตายสมองคงมีปัญหาแล้วล่ะ!
คุณตาเหยียนโกรธจนหนวดกระตุก ฝีปากของเขาคมคายสู้ภรรยาของเขาไม่ได้ อายุก็เยอะแล้ว ลิ้นก็แข็ง ยิ่งโมโหยิ่งพูดไม่ออก ตัวเองยังโมโหแทบตาย
ผ่านไปอยู่นานคุณตาเหยียนถึงพ่นออกมาได้ประโยคหนึ่ง “……ถึงยังไงฉันก็ไม่ชอบเด็กน้อยจ้าวเหมยคนนั้นอยู่ดี!”
“คุณมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ชอบ? คุณพูดเหตุผลออกมาให้ฉันฟังเลยนะ!” คุณยายหยางซักถามด้วยน้ำเสียงโมโห
เหยียนหมิงต๋าผ่อนลมหายใจ คุณตาไม่เพ่งเล็งมาที่เขาแล้ว เขาดึงผลเบอร์รี่ป่าที่อยู่บนโต๊ะหินมากิน กินอย่างออกรสออกชาติ
“พี่ใหญ่ คุณตาคัดค้านที่พี่กับจ้าวเหมยคบกันนะ!” เหยียนหมิงต๋าพูดเสียงเบา อยู่ดีๆก็เกิดความดีอกดีใจไปกับความโชคร้ายของคนอื่น
ใครให้เขาคัดค้านเรื่องของเขากับอู่เยวี่ย ตอนนี้กรรมตามสนองแล้วล่ะสิ?
เข้าใจถึงความรู้สึกปวดใจที่ไม่ได้อยู่กับคนที่รักแล้วใช่ไหม?
เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่ดวงตาของน้องชายตัวเองที่มีความดีใจอยู่อย่างแปลกใจ ตบไปที่หัวของเขาทีหนึ่งอย่างทนไม่ไหว นับวันก็ยิ่งโง่ลงทุกที ถานซูฟางทำถึงได้คลอดคนที่โง่ขนาดนี้ออกมาได้นะ!
“เรื่องของฉันคุณตาเข้ามาจุ้นจ้านได้เหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดเบาๆ
ชีวิตในอนาคตของเขา เขาตัดสินด้วยตนเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับใครทั้งนั้น!
เหยียนหมิงต๋าตกตะลึง หลังจากนั้นสีหน้าท่าทางของเขาก็มีความโมโหอยู่เล็กน้อย ถามออกมาว่า “ถ้าอย่างนั้นพี่ทำไมต้องยุ่งเรื่องของผมกับอู่เยวี่ยด้วย?”
“รอจนนายไม่ใช้เงินของที่บ้านแล้ว ฉันก็จะไม่ยุ่งเรื่องของนาย!”
คำพูดประโยคเดียวของเหยียนหมิงซุ่นทำให้เหยียนหมิงต๋าที่เพิ่งจะยกไหล่ขึ้นมาลู่ลงไป ถอนหายใจอย่างยอมรับในชะตาชีวิต แม้จะผายลมออกมายังไม่กล้า
ใครให้เขามีความสามารถสู้พี่ชายของเขาไม่ได้กันล่ะ!
ทางด้านคุณตาเหยียนพอโดนภรรยาพ่นน้ำลายใส่หน้ายกใหญ่ ก็โมโหจนไม่ไหว พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เด็กน้อยคนนั้นมีจิตใจที่ฉลาดขี้ระแวงเกินไป แถมยังเอาแต่ใจหยิ่งยโสโอหัง ผู้หญิงแบบนี้จะสามารถทำหน้าที่สำคัญเป็นหลานสะใภ้คนโตของตระกูลเหยียนของฉันได้ยังไงกัน!”
คุณยายหยางส่งเสียงร้องเกินจริงออกมาว่า “ตระกูลเหยียนของคุณมีราชบัลลังก์ให้สืบทอดเหรอ หรือว่าคุณจะให้ทรัพย์สมบัติมหาศาลกับหลานชายคนโต? ยังมีภารกิจสำคัญงั้นด้วยสิ? โอ้โห้เฮ้ย หน้าเหี่ยวย่นของแกโดนสุนัขกัดกินไปแล้วมั้ง!”
ใบหน้าแก่ๆของคุณตาเหยียนเดี๋ยวม่วงเดี๋ยวแดงด้วยอารมณ์โกรธ ร่างกายสั่นเทา ชี้นิ้วไปที่คุณยายหยางพูดคำว่า ‘คุณ……’ อยู่นาน แต่ก็ยังไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
คุณยายหยางก็ไม่ต้องให้เขาพูด เธอยังพูดไม่จบเลย คุณยายมีกำลังวังชายอดเยี่ยมจะตาย ฝีปากดีกว่านกขุนทองเสียอีก หลังเกษียณอยู่ว่างๆก็เบื่อ ก็เลยเหลือแค่เพียงความสุขจากการด่าให้ตาแก่โมโหเนี่ยแหละ
“ตาแก่เลอะเลือนอย่างคุณก็มีสติหน่อยเถอะ เหมยเหมยเป็นถึงลูกสาวของเลขาธิการพรรคเทศบาล เขาไม่ดูถูกตระกูลครูจน ๆ ของคุณก็บุญแล้ว!”
คุณตาเหยียนโมโหจนมือสั่น ครั้งนี้กลับพูดสวนได้อย่างว่องไว “ฉันก็ไม่ให้ค่าพวกเขาเหมือนกัน เชอะ!”
”คุณไม่ให้ค่าแต่ฉันให้!”
คุณยายหยางตวาดใส่คุณตาเสร็จก็หันไปยิ้มให้เหยียนหมิงซุ่นอย่างเอ็นดูพร้อมพูดว่า “หมิงซุ่นขอให้วางใจ ไม่มีใครกล้าคัดค้าน ไม่อย่างนั้นยายจะทำให้เขาหิวตายไปเลย!”
คุณตาเหยียนพ่นลมหายใจอันหนักหน่วงออกมาอย่างไม่พอใจ เหยียนหมิงซุ่นกลับหัวเราะเบาๆพูดว่า “คุณยายอย่ากังวลไปเลย คนที่ผมชอบพอด้วย สิ่งที่อยากทำ ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้อยู่แล้ว”
…………………………………………