ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1074 โทรศัพท์แปลกหน้า + ตอนที่ 1075 เลขมั่วๆ
ตอนที่ 1074 โทรศัพท์แปลกหน้า
วันต่อมาเป็นวันจันทร์ เหมยเหมยตั้งใจสังเกตเหยียนหมิงต๋าเป็นพิเศษ ดูแล้วไม่ได้แตกต่างอะไรจากปกติ เพียงแต่ตอนกลางวันกินข้าวก็ไม่ไปที่โรงอาหาร แต่กลับไปกินข้าวที่บ้านอย่างเชื่อฟัง
อีกทั้งเจ้าหมอนี่ก็อดไม่ได้คิดอยากจะไปหาอู่เยวี่ยที่ห้องเรียนข้างๆ แต่เพราะสายตาของเหมยเหมยที่ส่งไป เขาก็ถอยเท้ากลับไปนั่งอยู่กับที่
เหมยเหมยถอนหายใจ ช่างเป็นเวรกรรมจริงๆ!
ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ เหยียนหมิงต๋าก็ยังจะเป็นจะตายเพราะอู่เยวี่ยอยู่ดี ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีการไหนก็แยกพวกเขาออกจากกันไม่ได้!
ช่างมัน ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติแล้วกัน!
ตอนนี้อู่เยวี่พัวพันอยู่กับหานป๋อหย่วน เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อชาติที่แล้ว ไม่แน่ว่าชาตินี้อู่เยวี่ยอาจจะไม่เห็นเหยียนหมิงต๋าอยู่ในสายตาแล้วก็ได้!
อีกอย่างคุณตาเหยียนก็ลงทะเบียนให้กับเหยียนหมิงต๋าเรียบร้อยแล้ว ถ้าการตรวจร่างกายไม่มีปัญหาอะไร ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเหยียนหมิงต๋าก็ต้องไปกองทัพทหารแล้ว
กองทัพทหารมีเหยียนหมิงซุ่นคอยสอดส่องอยู่ อู่เยวี่ยคิดจะยั่วยวนก็ทำอะไรไม่ได้!
อู่เยวี่ยทําหน้านิ่งเฉยเหมือนไม่มีความรู้สึกอะไร ในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกอารมณ์ดีไม่น้อย เธอได้ตกลงกับหานป๋อหย่วนแล้ว อีกไม่กี่วันจะพาเขาไปพบอู่เจิ้งซือ
นี่นับได้ว่าเป็นการดูตัวกับผู้ใหญ่แล้วหรือเปล่านะ?
หางคิ้วของอู่เยวี่ยเลิกขึ้นด้วยความปิติยินดี ใบหน้าชมพูระเรื่อ เคยโดนผู้ชายรุกล้ำร่างกายก็ยิ่งตื่นตัว เหมือนกับดอกไม้ตูมที่กำลังจะบานสะพรั่งแล้ว ดอกไม้ที่บอบบางกำลังเบ่งบาน
วันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงอย่างรวดเร็ว เหยียนหมิงซุ่นกลับไปที่กองทัพทหารแล้ว อันที่จริงที่เขากลับมาครั้งนี้เขามีภารกิจอื่น เขาจัดวางลูกน้องของตนเองไว้ในเมืองจิน แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น
ถึงแม้ว่าเฮ่อเหลียนชิงจะมีลูกน้องอยู่ที่เมืองจิน แต่ว่าคนเหล่านั้นใช้เพื่อการทำงานเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ทำกิจส่วนตัว
ดังนั้นเขาจึงต้องมีลูกน้องที่เป็นของตัวเอง เขาไม่ค่อยวางใจเหมยเหมย ต้องมีใครสักคนอยู่เคียงข้างเธอ เขาถึงจะสบายใจได้
เพียงแต่เสียดายที่ตอนนี้ความสามารถของเขามีจำกัด จนปัญญาที่จะได้ใช้ลูกน้องชั้นยอดได้ ที่จัดวางไว้เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพที่ปลดประจำการแล้ว ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจึงถูกปลดประจำการ ประสิทธิภาพการรบยังดีมาก
เหมยเหมยกลับไม่รู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นทำเรื่องพวกนี้เพื่อเธอ ทุกครั้งที่ต้องจากเธอไปก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้พบกันครั้งต่อไป หวังว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขึ้นอีกหน่อย เร็วขึ้นอีกหน่อยเท่านั้น……
วันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงอย่างรวดเร็ว เหมยเหมยอารมณ์บูดบึ้งเล็กน้อย ดึงอารมณ์ให้ดีขึ้นไม่ได้ เหยียนหมิงซุ่นไม่อยู่ เธอคนเดียวไหนเลยยังจะมีอารมณ์เล่น
“เหมยเหมย วันหยุดพวกเราไปภูเขาเฟิ่งหวงซานเก็บใบเมเปิ้ลสีแดงกลับมาทำโปสการ์ดดีไหม?” เจียงซินเหมยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความฮึกเหิม
อู่เชาคล้อยตามอย่างมีความสุข “ดีสิ ฉันสัญญากับมู่มู่และเซียวเช่อแล้ว ว่าจะส่งโปสการ์ดให้พวกเขา!”
เดิมทีเหมยเหมยก็ไม่ได้สนใจ แต่พอได้ยินชื่อของสยงมู่มู่กับเซียวเซ่อก็พลันใจเต้นขึ้นมา คิด ๆ แล้วก็พยักหน้า
“ก็ได้ วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายพวกเธอมาหาฉันแล้วกัน!”
ภูเขาเฟิ่งหวงซานในฤดูใบไม้ร่วงนั้นสวยงามมาก น้ำค้างย้อมต้นเมเปิลสีแดงให้แดงเหมือนเพลิงไฟ นอกจากนี้ยังมีใบไม้สีทองจำนวนมากที่ยังไม่ได้ย้อมเป็นสีแดง มองจากระยะไกล เหมือนภาพวาดทิวทัศน์ที่สวยงามก็ไม่ปาน แม้แต่ปรมาจารย์ที่เก่งที่สุดก็ไม่สามารถผสมสีที่สดใสและมีชีวิตแบบนี้ได้
ทั้งสามคนเก็บได้ค่อนข้างมากอัดแน่นไปด้วยใบไม้สีแดงเต็มถุง เตรียมตัวกลับไปเลือกใบไม้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเพื่อทำโปสการ์ด
ตอนลงเขาฟ้าก็มืดแล้ว ทั้งสามคนหิวจนท้องร้อง ก็เลยเตรียมตัวไปกินข้าวกันก่อน
“วันนี้ฉันเลี้ยงเอง” เหมยเหมยพูด
จ้าวอิงหัวไปราชการที่ต่างจังหวัดแล้ว เหยียนซินหย่าก็ไปเข้าร่วมรายการทีวี ดึก ๆ นู่นถึงจะกลับบ้าน เธออยู่คนเดียวขี้เกียจทำกับข้าว สู้ไปกินข้างนอกดีกว่า
แน่นอนว่าเจียงซินเหมยและอู่เชามีความยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อน ทั้งสามสั่งอาหารเลิศรส ต่างก็หิวโซจนจะตายอยู่แล้ว แข่งกินกันอย่างตะกละตะกลาม
“ติ๊ดๆ”
เพจเจอร์ในกระเป๋าของเจียงซินเหมยดังขึ้น เธอนึกว่าเป็นพ่อแม่เร่งให้เธอกลับบ้าน ใครจะไปรู้ว่าที่แท้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอส่งมา
ไม่ได้พูดอะไรมาก พูดแค่เพียงว่าให้เธอรีบโทรกลับไป ดูรีบร้อนมาก
ที่สำคัญที่สุดเป็นเบอร์แปลก
………………………………………….
ตอนที่ 1075 เลขมั่วๆ
ลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมยก็เรียนอยู่ที่อีจง เป็นนักเรียนชั้นม.6 อยู่ชั้นเดียวกับโอหยางซานซานแต่คนละห้องกัน
“แปลกจัง ดึกขนาดนี้ลูกพี่ลูกน้องของฉันทักหาฉันมีเรื่องอะไรนะ?” เจียงซินเหมยจับต้นชนปลายไม่ถูก
อู่เชาพูดว่า “โทรกลับไปถามก็รู้แล้ว ไม่แน่อาจจะเป็นเรื่องด่วนจริงๆก็ได้นะ!”
ผลการเรียนของลูกพี่ลูกน้องเจียงซินเหมยดีมาก ปกติไม่ค่อยชอบพูดเท่าไร นิสัยเป็นคนเงียบสุขุมเก็บความรู้สึก ทุกครั้งที่เห็นพวกเขาก็ทำแค่ส่งยิ้มบาง ๆ ให้ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเข้ามาคุยด้วยเลย พวกเขารู้สึกกับลูกพี่ลูกน้องคนนี้ก็ไม่แย่เลยทีเดียว
เหมยเหมยพูดว่า “เคาท์เตอร์ตรงนั้นมีโทรศัพท์ รีบโทรกลับไปเถอะ ถ้าหากว่ามีเรื่องด่วนจริง ชักช้าคงจะไม่เป็นการดี”
เจียงซินเหมยคิด ๆ แล้วก็ว่าใช่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบลูกพี่ลูกน้องคนนี้ นิสัยอมทุกข์ เข้ากันไม่ได้ และอีกอย่างเธอไม่ค่อยชอบพ่อแม่ของลูกพี่ลูกน้องคนนี้เอาเสียเลยจริงๆ
ซึ่งก็คือป้าและลุงคนโตของเธอ ทั้งคู่เป็นคู่รักที่เหมาะสมกันมากจริง ๆ อยากกินแต่ขี้เกียจทำงาน ขี้โกงเล่ห์เหลี่ยมเยอะ กระต่ายยังไม่กินหญ้าของคอกข้าง ๆ แต่พวกเขาสองคนกลับชอบสร้างความพินาศให้คนรอบตัว มันน่าโมโหจริงๆ
พ่อแม่ของเธอเห็นลูกพี่ลูกน้องของเธอเป็นเด็กดีน่ารัก บางทีก็ช่วยเรื่องเงินทองบ้าง แต่สองสามีภรรยาคู่นี้ไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในบุญคุณ ตรงข้ามกลับยังพูดลับหลังพวกเขาอีกว่าเป็นคนใจแคบขี้งก มีเงินมากมายขนาดนั้น ก็ไม่รู้จักช่วยเหลือส่งเสียให้มากกว่านี้หน่อย ช่างน่าโมโหเสียจริงๆ
จึงโทรศัพท์ต่อสายอย่างรวดเร็ว ในโทรศัพท์มีเสียงประหม่าดังออกมา
“พี่คะ มีเรื่องอะไรกันแน่?” เจียงซินเหมยถาม
“ซินเหมย ฉัน…เธอ……สามารถส่งเงินมาให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
เสียงพูดจาตะกุกตะกัก พวกเหมยเหมยกลับไม่ได้สงสัยอะไร เพราะปกติลูกพี่ลูกน้องของเจียงซินเหมยก็พูดจาแบบนี้อยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินพูดจาคล่องเป็นประโยคขนาดนี้มาก่อน
เจียงซินเหมยคิ้วขมวดแน่น ถามว่า “พี่อยู่ไหน?”
“ร้านคาราโอเกะไห่เหยียน ฉัน……ฉันเลี้ยงคาราโอเกะเพื่อนนักเรียน แต่เงินที่พกมาไม่พอ ซินเหมย เธอ……เธอ……”
เจียงซินเหมยขี้เกียจที่จะฟังต่อ พูดตัดบทว่า “พี่รอฉันครู่เดียว เดี๋ยวฉันไปหา”
เสียงในสายโทรศัพท์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดขอบคุณเสียงเบา ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างอยากพูดต่อ แต่มีเสียงดังจ้อกแจ้กจอแจออกมาในสายโทรศัพท์ ทำให้ได้ยินไม่ค่อยชัดนัก
“ฉันไม่กินแล้ว ฉันเอาเงินไปให้ลูกพี่ลูกน้องก่อน พวกเธอกลับบ้านไปก่อนเถอะ!” เจียงซินเหมยพูด
เหมยเหมยมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ “ลูกพี่ลูกน้องเธอทำไมถึงได้ไปร้านคาราโอเกะได้ล่ะ?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ เมื่อก่อนให้เธอไปเล่นกันที่ร้านคาราโอเกะ เธอทำหน้าหยั่งกับเห็นผี ตอนนี้กลับทำเองซะงั้น แถมยังพาเพื่อน ๆ ไปเลี้ยงที่ร้านคาราโอเกะเองอีก”
เจียงซินเหมยก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ บอกลาพวกเหมยเหมยแล้วก็ขี่จักรยานไปทางร้านคาราโอเกะไห่เหยียน
อู่เชาและเหมยเหมยก็แยกทางกัน ทั้งสองคนกลับทางใครทางมัน บ้านใครบ้านมัน
เหยียนซินหย่ายังไม่กลับบ้าน เหมยเหมยรีบอาบน้ำแล้วก็กอดฉิวฉิวนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา เปลี่ยนไปช่องที่เหยียนซินหย่าจัดรายการอยู่ เป็นรายการเกี่ยวกับการวาดภาพ ผู้จัดรายการก็คือจ้าวเป่าฮุ่ย
เหยียนซินหย่าเป็นแขกรับเชิญ และยังมีปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายคน พูดคุยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การวาดภาพของสำนักและปรมาจารย์ยุคโมเดิร์นของหวาเซี่ย
ตอนนี้กำลังถกกันเรื่องสำนักเหยียน จ้าวเป่าฮุ่ยจำเป็นต้องแนะนำเหยียนซินหย่าให้ผู้ชมฟังอีกครั้ง ด้านล่างเวทีมีเสียงปรบมืออันอบอุ่นมากมายดังขึ้น เหมือนกับกระแสน้ำไหลยาวนานไม่หยุด
ผู้ชมที่มาเข้าร่วมรายการประเภทนี้ ส่วนใหญ่มักจะมีความรู้การศึกษามีความสามารถสูง หรือทำงานในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการวาดภาพ แน่นอนว่าต้องเคยได้ยินชื่อของเหยียนตานชิงมาก่อนแน่นอน
ตอนนี้พอได้ยินว่าเหยียนซินหย่าเป็นลูกสาวของปรมาจารย์เหยียนตานชิง จะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง?
เหมยเหมยก็ปรบมือตามไปด้วย ดีใจสุด ๆ เธอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวเป่าฮุ่ยใกล้จะแข็งทื่อไปแล้ว!
“ติ๊ดๆ”
เสียงเพจเจอร์ดังขึ้น รหัสก็คือหมายเลขเพจเจอร์ของเจียงซินเหมย แต่จอแสดงผลกลับเป็นตัวหนังสือจีนมั่ว ๆไม่ได้ความ
………………………………………….