ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1100 ใจอ่อนเยี่ยงสตรี + ตอนที่ 1101 ทดสอบ
ตอนที่ 1100 ใจอ่อนเยี่ยงสตรี
เรื่องที่เกิดขึ้นในคลับสโมสรไห่เยี่ยนคืนนั้นเหมยเหมยไม่ได้ปิดบังจ้าวอิงหัว เธอไม่ได้บอกให้เหยียนซินหย่ารู้เพราะไม่อยากให้แปดเปื้อนหูของเหยียนซินหย่า
จ้าวอิงหัวสั่งปิดข่าวคืนนั้นทำให้มีคนในเมืองจินเพียงน้อยนิดที่ทราบเรื่องนี้ ส่วนเหล่าคุณชายกลุ่มนั้นย่อมมีพ่อของตัวเองคอยสั่งสอนอีกที
ส่วนโอหยางสยงที่เสียตาไปหนึ่งข้างไม่มีทางยอมอยู่แล้ว ลูกตาของเขาถูกเศษแก้วทิ่มแทงเป็นรูพรุน ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตาที่เก่งที่สุดในโลกก็ไม่อาจใส่กลับคืนให้เขาได้
เสียเปรียบขนาดนี้โอหยางสยงแค้นใจจนแทบอยากจะฆ่าจ้าวเหมยให้แหลกสลาย ต้องให้โดนคร่อมอยู่ใต้ร่างคนนับพันถึงจะระบายความแค้นนี้ได้
เพียงแต่โอหยางสยงยังไม่ทันได้เริ่มทำอะไรตระกูลโอหยางที่กรุงปักกิ่งก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เกิดความโกลาหลขึ้นชั่วขณะ
ที่แท้ก็เกิดเรื่องกับโอหยางปิน ตอนที่เจ้าหมอนี่ออกไปหาความสุขใส่ตัวถูกคนกัดอวัยวะเพศจนขาด นับว่ายังโชคดีที่ของยังอยู่พร้อมหนังหุ้มหนึ่งชั้น
ทว่าการแพทย์ในยุคนี้ไม่ได้ทันสมัยขนาดนั้น ได้ข่าวว่าต่อให้เชื่อมติด ประสิทธิภาพการใช้งานก็ลดลงฮวบ ส่วนรายละเอียดที่ว่าลดลงแค่ไหนก็ไม่มีใครรู้เลย
โอหยางปินเป็นหลานชายคนโตที่ตระกูลโอหยางเห็นว่าเป็นผู้สืบทอดตระกูลต่อ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้โอหยางสยงจำต้องละมือทุกอย่างก่อนจะเร่งเท้ากลับกรุงปักกิ่ง
สองพี่น้องนี้จริงๆ เลย…คนหนึ่งไม่มีเจ้าโลก อีกคนไม่มีดวงตา…พี่ชายน้องชายถูกคู่จริงๆ!
เฮ่อเหลียนชิงอุ้มแมวส้มตัวอ้วนอยู่พลางลูบไล้เบาๆ ด้วยสีหน้าอ่อนโยนและเมตตา
แมวส้มตัวนี้เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนนำมาให้เขา ขณะที่เพิ่งมาถึงสวนฟาร์มมีขนาดตัวเล็กใส่กระเป๋าเสื้อได้ แต่ไม่พ้นครึ่งปีก็ถูกเฮ่อเหลียนชิงป้อนจนกลายเป็นลูกบอลกลม ชื่อหวงฉิวเอ๋อร์ นับว่าเป็นน้องเล็กของฉิวฉิว
เฮ่อเหลียนชิงสีหน้าดูดีขึ้นมาก บนแก้มมีเนื้อเพิ่มขึ้นไม่น้อยไม่ได้ดูหมดอาลัยตายอยากเหมือนเมื่อก่อน
“ตอนนี้โอหยางปินเป็นยังไงบ้าง?” เฮ่อเหลียนชิงถาม เสียงไม่ได้เปลี่ยนไปยังคงแสลงหูเหมือนเดิม
เสี่ยวเมิ่งตอบกลับอย่างนอบน้อม “ไม่ค่อยดี เชื่อมน่ะเชื่อมกลับไปแล้ว แต่ต่อจากนี้คงฉี่ได้อย่างเดียวแล้วล่ะครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…เยี่ยมไปเลย…ฮ่าฮ่า ความสวยงามของมันจะมีประโยชน์อะไร”
เฮ่อเหลียนชิงมีความสุขอย่างน่าแปลก ชอบที่จะได้ยินว่าเจ้าโลกของคนอื่นมีปัญหาที่สุดเลย!
ผู้ชายทั้งโลกไม่ต้องมีเจ้าโลกต่างหากถึงจะดี!
“จัดการยังไง? จะให้นายใหญ่รู้ไม่ได้ วุ่นวาย!” เฮ่อเหลียนชิงถามอีก
เสี่ยวเมิ่งพูดยิ้มๆ “หมิงซุ่นเป็นคนจัดการท่านยังไม่ไว้วางใจอีกเหรอ?”
“เหอะ…”
เฮ่อเหลียนชิงลูบหัวฉิวเอ๋อร์ไปมาพลางหยิบปลาตากแห้งโต๊ะข้างๆ ป้อนให้เจ้าแมว
“เมี๊ยว!”
เจ้าแมวสีส้มขานเรียกทีหนึ่งแล้วถูหน้าไปมากับเฮ่อเหลียนชิงแล้วค่อยๆ กินอย่างเอร็ดอร่อย
เฮ่อเหลียนชิงยิ้มอย่างพึงพอใจ ต้องการความรู้สึกที่ป้อนสำเร็จแบบนี้ไงล่ะ
“ตาของโอหยางสยงโดนเจ้าก้อนขาวข่วนเหรอ?” เฮ่อเหลียนชิงถามด้วยความสนใจ
“ครับ โอหยางสยงกับหลานชายตระกูลหานคิดจะเล่นงานคุณจ้าวแต่กลับถูกคุณจ้าวตลบหลังกลับ” เสี่ยวเมิ่งตอบ
เฮ่อเหลียนชิงแค่นเสียงหัวเราะเยาะ ดวงตาฉายแววชื่นชมที่แม้แต่ตัวเขายังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
“ใจอ่อนตามประสาผู้หญิง ข่วนให้ตาบอดไปข้างเดียวจะมีประโยชน์อะไร? ต้องทำลายทั้งสองข้างสิ แล้วค่อยจัดการเจ้าโลกไม่ให้สืบทอดลูกหลานได้อีก…”
เฮ่อเหลียนชิงยังคงไม่พอใจต่อเหมยเหมยเหมือนเดิม อย่างไรเสียเหมยเหมยทำอะไรก็ผิดไปหมด เขาต้องหาเรื่องตำหนิอยู่เรื่อย
เสี่ยวเมิ่งรีบกล่าว “ที่สืบสกุลของหลานชายของตระกูลหานโดนคุณจ้าวทำลายไปแล้ว คิดว่าน่าจะฉี่ได้อย่างเดียว”
เฮ่อเหลียนชิงยิ้มอย่างพอใจ นี่สิถึงจะเข้าท่า!
ไม่ว่าใครที่ไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้สวะนั่นก็เป็นสวะกันทั้งหมด ควรจัดการผู้ชายให้ไม่ต้องมีที่สืบสกุลต่อ ผู้หญิงก็จับไปขายตามซ่องให้หมด
เหอะ เขาไม่ใช่คนใจอ่อนอะไรหรอกนะ!
……………………
ตอนที่ 1101 ทดสอบ
เสี่ยวเหมิงติดตามเฮ่อเหลียนชิงมาสิบกว่าปี เป็นธรรมดาที่จะเข้าใจถึงอาการป่วยทางใจของนายท่าน เมื่อเห็นว่าเขาอารมณ์ดีไม่น้อย จึงถือจังหวะเอ่ยพูด “นายท่าน จ้าวอิงสยงสองสามีภรรยาจะยกเหมยเหมยให้แต่งงานกับมารผจญนั่น”
เฮ่อเหลียนชิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่งอย่างประหลาดใจ พร้อมเอ่ยถาม “ไอ้มารผจญนั่นไม่ใช่ว่าชื่นชอบคนที่ชื่อเหมยซูหานที่เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ? เบื่อแล้ว?”
“เปล่าครับ มารผจญนั่นถือว่ารักเหมยซูหานจริง ตอนนี้ความรักของทั้งคู่ยังเร่าร้อนกันอยู่เลย เพียงแต่จ้าวอิงสยงคู่สามีภรรยายังไม่ทราบเรื่องนี้ ทั้งยังคิดว่ามารผจญนั่นยังมีรสนิยมเหมือนกับแต่ก่อน” เสี่ยวเหมิงอธิบาย
เฮ่อเหลียนชิงแสดงออกอย่างไม่พอใจ “คิดว่าตนเองฉลาด แท้จริงโง่เขลาอย่างที่สุด นางเด็กบ้านั่นรู้เรื่องนี้ไหม?”
“รู้ครับ หมิงซุ่นเองก็รู้ เขาอยากจะสั่งสอนจ้าวอิงสยงสักเล็กน้อย” เสี่ยวเหมิงพูดออกไปถึงจุดประสงค์ของเหยียนหมิงซุ่น
เฮ่อเหลียนชิงนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะเอ่ย “ตอนนี้ยังไม่ต้องลงมือ ให้นางเด็กนั่นรับมือด้วยตัวเองก่อน”
เสี่ยวเหมิงชะงัก พลันเอ่ยว่า “หมิงซุ่นไม่มีทางยอมให้คุณหนูจ้าวจัดการรับมือกับปัญหานี้ด้วยตัวเองแน่”
เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยเป็นดั่งของรักของหวงและแก้วตาดวงใจ ไม่อย่างนั้นจะส่งคนไปทำลายถอนรากถอนโคนพวกลูกหลานของโอหยางปินได้อย่างไร
จ้าวอิงสยงสองสามีภรรยาวางแผนคิดทำร้ายจ้าวเหมย เหยียนหมิงซุ่นต้องรู้อยู่แล้ว จะทำเป็นนิ่งดูดายโดยไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยได้ยังไงเล่า?
เฮ่อเหลียนชิงชักสีหน้า พร้อมทั้งพูดตำหนิ “งั้นก็อย่าให้เขารู้ เขาคงไม่มีทางปกป้องนางเด็กบ้านั่นไปได้ตลอดชีวิตหรอก เอาตามนี้แล้วกันเรื่องนี้ให้นางเด็กบ้านั่นจัดการด้วยตัวเอง!”
เสี่ยวเหมิงมีท่าทีเปลี่ยนไป ไม่กล้าพูดเกลี้ยกล่อมอีก แต่ก็ยังคงเลียบๆ เคียงๆ เพื่อเอ่ยถาม “นายท่าน แล้วถ้าเกิดคุณหนูจ้าวรับมือไม่ไหว ถูกจ้าวอิงสยงสองสามีภรรยาวางแผนทำร้ายเข้าจะทำอย่างไร?”
“ทำอย่างไร? นั่นก็ต้องโทษที่ตัวเธอเองไม่มีความสามารถพอ เหอะ อยากเป็นลูกสะใภ้ของฉันมันไม่ง่ายหรอก!” เฮ่อเหลียนชิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เสี่ยวเหมิงเข้าใจในความหมายแฝงที่เขาเอ่ย พลันกระตุกยิ้มแล้วพูดว่า “นี่นายท่านไม่คัดค้านให้คุณหนูจ้าวและหมิงซุ่นคบกันแล้วรึ?”
เฮ่อเหลียนชิงเชิดปลายคางขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมสบถออกมาว่า “คงต้องรอดูว่านางเด็กบ้านั่นมีฝีมือพอหรือไม่ ถ้าไม่มีฝีมือก็นับว่าเป็นความโชคร้ายแล้วล่ะ ไว้ฉันค่อยแนะนำคนดีๆ ให้กับหมิงซุ่น”
สามปีมานี้เขาแนะนำหญิงสาวดีๆ ให้กับหมิงซุ่นเป็นจำนวนไม่น้อย แต่เจ้าเด็กนั่นก็ยังคิดว่าไม่เข้าตา ยังดั้นด้นที่จะแขวนคอตายอยู่บนต้นไม้ต้นนั้นของจ้าวเหมย
แม้ว่าหนทางนี้จะไม่ราบรื่น เขาเองก็คงต้องคิดหาวิธีอื่น
จะต้องทำให้นางเด็กบ้านั่นพบเจอกับความยากเข็ญจนต้องถอยหนีไปให้ได้!
ซึ่งแน่นอน ถ้าหากว่านางเด็กบ้านั่นสามารถหลุดพ้นจากแผนการของจ้าวอิงสยงสองสามีภรรยานั่นได้ ก็เท่ากับว่าเธอยังมีฝีมืออยู่บ้างก็ยังพอที่มีคุณสมบัติจะเป็นลูกสะใภ้ของเขาได้อยู่!
สิ่งที่เฮ่อเหลียนชิงไม่รู้คือ เสี่ยวเหมิงออกมาก็โทรหาเหยียนหมิงซุ่นในทันที ยกเอาคำพูดก่อนหน้าที่ได้เอ่ยออกมานั้นบอกกับเขาอย่างไม่มีตกหล่อนแม้แต่คำเดียว
“หมิงซุ่น เรื่องของคุณหนูจ้าวนายอย่าเข้าไปยุ่งเลย ให้เธอเป็นคนจัดการเอง นายท่านไม่ง่ายเลยที่จะยอมปริปากพูดยอมรับ” เสี่ยวเหมิงกำชับ
น้ำเสียงของเหยียนหมิงซุ่นถูกเปล่งออกมา “ผู้หญิงของฉันไม่จำเป็นต้องมีฝีมืออะไรมาก ฉันปกป้องเธอได้!”
เสี่ยวหมิงเกิดอาการร้อนรน “นายนี่มันสมองขี้เลื่อยจริง ๆ รู้ว่านายมีฝีมือ แต่นายรับประกันได้หรือว่าสามารถจับตาดูคุณหนูจ้าวได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง? นายคงไม่ได้หวังจะให้เมียตัวเองเป็นดั่งนกขมิ้นที่ถูกขังอยู่ในกรงหรอกใช่ไหม?”
เหยียนหมิงซุ่นนิ่งเงียบไป เสี่ยวเหมิงพูดถูก เขาไม่อาจปกป้องเหมยเหมยได้ตลอดเวลา
หากว่าเหมยเหมยมีความสามารถในการป้องกันตัวเองได้ นั่นจึงนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
“ก็ได้ แต่ยังไงฉันก็คงต้องส่งคนแอบปกป้องเหมยเหมย” เหยียนหมิงซุ่นกล่าว
เสี่ยวเหมิงเอ่ยขึ้นอย่างโมโห “นายนี่ทำไมถึงพูดไม่รู้จักฟังเลย? นายท่านบอกแล้วไง…”
“นายก็อย่าทำให้เขารู้ก็สิ้นเรื่อง” เหยียนหมิงซุ่นพูดจบก็ตัดสายไป
เสียงตู๊ดๆๆ ส่งผ่านมาจากลำโพง เสี่ยวเหมิงจึงถอนหายใจอย่างจนใจ
ต้องดูแลสองคนนี้อยู่ดีสินะ !
…………………………………………………..