ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1102 ตัดญาติขาดมิตร โหดเหี้ยมอำมหิต + ตอนที่ 1103 ทรมานอย่างช้าๆ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1102 ตัดญาติขาดมิตร โหดเหี้ยมอำมหิต + ตอนที่ 1103 ทรมานอย่างช้าๆ
ตอนที่ 1102 ตัดญาติขาดมิตร โหดเหี้ยมอำมหิต
ผ่านไปไม่กี่วันโอหยางซานซานก็กลับมาเรียนที่โรงเรียน ดูท่าทางปกติไม่ต่างไปจากเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
แต่เมื่อเธอเจอเหมยเหมยก็จะตีตัวออกห่าง ไม่กล้าสู้หน้ากับเหมยเหมย
ภาพเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น จนถึงทุกวันนี้ยังคงติดตาโอหยางซานซานอยู่ เธอจะไม่มีวันลืมเลือน
อีกนิดเดียว…อีกแค่นิดเดียว…เธอกับคุณลุงก็จะ…
โอหยางซานซานไม่กล้าที่จะจินตนาการ หากว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ เธอจะยังมีหน้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้เหรอ?
โชคดีที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่เธอก็ไม่ได้นึกขอบคุณจ้าวเหมย ในทางกลับกันความเกลียดชังที่เธอมีต่อจ้าวเหมยนับวันยิ่งทวีขึ้น!
แทบอยากจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นเอาคืนเหมยเหมยหมดทุกอย่าง ไม่สิ…จะเอาคืนจ้าวเหมยเป็นพันเท่าหมื่นเท่าต่างหาก
โอหยางซานซานหลบอยู่ในซอกมุม จ้องมองจ้าวเหมยที่คุยเสียงเจื้อยแจ้วขบขันอยู่กับเจียงซินเหมยและอู่เซาด้วยแววตาชั่วร้าย แสงอาทิตย์ที่ปล่อยแสงทะลุผ่านใบไม้สาดส่องลงมา ปรากฏท่าทีดีใจพาดผ่านออกมาเล็กน้อยบนใบหน้าของเธอไม่เด่นชัดนัก
คุณแม่บอกว่าเวลาของเหมยเหมยใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว!
เธอรอให้วันนั้นมาถึงอยู่!
เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะให้เหมยเหมยคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าเธอ ทำให้เธออับอายอย่างที่สุด ทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคน เงยหน้าขึ้นมาไม่ได้ไปชั่วชีวิต!
เหมยเหมยรับรู้ถึงสายตาเร่าร้อนจากด้านหลัง เมื่อหันหน้ากลับไป โอหยางซานซานก็มุดตัวหลบ แต่ก็ยังทำให้เหมยเหมยเห็นเข้าอยู่ดี เธอจึงกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ย
เกรงว่าโอหยางซานซานกำลังคิดว่ารอหลังจากที่เธอโชคร้ายคงจะมาเหยียดหยามเธอสินะ!
แต่น่าเสียดาย ที่โอหยางซานซานถูกลิขิตไว้ให้ต้องผิดหวัง!
เธอนั้นรับรู้แผนการชั่วร้ายของจ้าวอิงสยงและหานซู่ฉินมาก่อนแล้ว จะยอมติดกับดักได้ยังไงเล่า?
วางแผนมาแล้วก็ต้องเล่นตามแผนไป จะทำให้คุณปู่จ้าวเห็นว่าลูกชายคนดีและลูกสะใภ้คนเก่งของเขานั้นเป็นคนอย่างไร?
และยังมีคุณย่าจอมเลอะเลือนที่เขาคอยปกป้องมาตลอดชีวิต!
เมื่อคืนวานเหยียนหมิงซุ่นได้โทรมาหาเธอ เล่าท่าทีของเฮ่อเหลียนชิง ซึ่งเหยียนหมิงซุ่นไม่มีทางปล่อยให้เธอเป็นอันตรายแน่ แต่เหมยเหมยกลับต้องการจะพิสูจน์เพื่อให้ชายแก่วิปริตนั่นได้เห็น
คนอย่างจ้าวเหมยไม่มีทางเป็นดั่งนกขมิ้นที่เอาแต่หลบอยู่หลังผู้ชายหรอก!
ครั้งนี้เธอจะต้องทำให้ชายแก่จอมวิปริตนั่นได้เห็นในสิ่งที่แตกต่าง โดยยอมรับจากปากของตนขึ้นมาว่าตัวเธอนั้นเป็นคู่หมั้นของเหยียนหมิงซุ่น
อู่เยวี่ยไม่มาโรงเรียนเลย ส่วนลูกพี่ลูกน้องของเจียซินเหมยอย่างหลิวฟาง ไม่กี่วันก็มาเรียนตามปกติ ทั้งยังเข้ามาคุยกับเจียงซินเหมยก่อน แต่เจียงซินเหมยกลับไม่สนใจแต่อย่างใด
“พ่อแม่ของฉันบอกว่า ต่อไปต้องตัดขาดกับครอบครัวป้าใหญ่” เจียงซินเหมยถอดถอนหายใจ
“ควรจะตัดตั้งนานแล้ว ญาติพี่น้องแบบนั้นไม่มียังดีกว่าอีก!” เหมยเหมยเอ่ยอย่างหัวเสีย
พ่อแม่ของเจียงซินเหมยเป็นแบบอย่างของคนอ่อนโยนจิตใจดี ออกทั้งเงินออกทั้งแรง แต่กลับไม่ได้คำขอบคุณจากครอบครัวนั้นแม้แต่น้อย กลับกันเกือบจะทำร้ายลูกสาวเพียงหนึ่งเดียวของเขาอีก
เจียงซินเหมยยิ้มแหย พลางเอาอกเอาใจโดยการเอาหมูสามชั้นน้ำแดงในจานคีบไปวางในชามของเหมยเหมย
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เธอขบคิดอยู่เสมอว่าที่จริงเธอและพ่อแม่ยอมครอบครัวของพี่มากเกินไป การที่เธอถูกหลิวฟางทำร้ายมันก็สมควรแล้ว!
เหมยเหมยมองเธออย่างระอา พลันคีบเนื้อหมูไปวางในชามของอู่เซา พร้อมเอ่ยปากสั่งสอน “ต่อไปนี้ก็รู้จักใจแคบหน่อย อย่าทำตัวเป็นคุณชายตงกัว[1]!”
“เข้าใจแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะต้องโหดเหี้ยมอำมหิตและตัดญาติขาดมิตร นอกจากพ่อแม่และพวกเธอทั้งสอง ใครหน้าไหนฉันก็ไม่สนทั้งนั้น!”
เจียงซินเหมยแสดงสีหน้าจริงจังพร้อมรับปาก เหมยเหมยจึงหลุดขำอย่างอดไม่ได้ พลันมองเธออย่างระอาอีกครั้ง
“เหมยเหมยฉันมีอะไรจะบอก ผู้หญิงอย่างอู่เยวี่ยนิสัยไม่ดีเลย คืนวันนั้นเป็นหล่อนนั่นแหะที่ใส่ร้ายป้ายสี” เจียงซินเหมยพูดอย่างเกลียดชัง
เหมยเหมยพยักหน้าพร้อมเอ่ย “ฉันรู้ ไม่ปล่อยไว้แน่!”
อู่เชาที่ฟังอย่างประหลาดใจ จึงเอ่ยถามอย่างฉงนว่าเกิดอะไรขึ้น เหมยเหมยและเจียงซินเหมยเอื้อมปรบมือประสานกัน “กินเนื้อของนายไป อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านนักเลย!”
……………………………………………………….
ตอนที่ 1103 ทรมานอย่างช้าๆ
เหมยเหมยเตรียมจะไปที่บ้านของอู่เยวี่ยเพื่อเจอเธอ ตั้งแต่คืนวันนั้นที่อู่เยวี่ยถูกจับไปที่สถานีตำรวจก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย
แต่สถานการณ์ของอู่เยวี่ยคงไม่ดีเท่าไรนัก!
คืนวันนั้นเธอให้คนของพี่เสือถ่ายภาพเก็บไว้ไม่น้อย เมื่อมองถึงระดับความคึกคะนองจากภาพถ่าย อู่เยวี่ยคงต้องนอนอยู่บนเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือน!
ช่างอยากเห็นสภาพน่าสงสารของอู่เยวี่ยในตอนนี้จัง!
แต่ต่อให้ตอนนี้อู่เยวี่ยจะน่าสงสารถึงเพียงไหน ก็ไม่อาจลบล้างความแค้นในใจของเธอได้!
เมื่อชาติก่อนเธอได้รับความทุกข์ทนทรมานมามาก เจ็บปวดมามาก ในชาตินี้อู่เยวี่ยค่อย ๆ ชดใช้คืนแล้วกัน!
อย่าคิดปีนหนีจากเรื่องโสมมไปชั่วชีวิต!
เหมยเหมยสอบถามถึงห้องพักผู้ป่วยของอู่เยวี่ย พร้อมกับซื้อช่อดอกเบญจมาศสีขาวหนึ่งช่อ ถือโอกาสช่วงพักเที่ยง ออกไปที่โรงพยาบาลเพียงลำพัง
อู่เยวี่ยตัวคนเดียวนอนพิงอยู่บนเตียงคนไข้ ประตูถูกผลักออก เธอนึกว่าร้านอาหารเอาอาหารมาส่ง แต่พอเหลือบไปเห็นว่าเป็นใครก็ทำเอาเธอกัดฟันแน่น!
“จ้าวเหมยแกยังกล้ามาอีก?” อู่เยวี่ยขยำผ้าปูที่นอนแน่น บนหลังมือเผยให้เห็นเส้นเอ็นปูดออกมา ความเคียดแค้นถาโถมเข้าใส่
เหมยเหมยปิดประตูลง ค่อยๆ เดินเข้าไปยืนอยู่หน้าเตียงคนไข้ จ้องอู่เยวี่ยที่บ้าคลั่งอย่างผู้มีอำนาจเหนือกว่า พร้อมส่งยิ้มอ่อนๆ ให้
“ใช่ไง ฉันมาเพื่อเยาะเย้ยเธอ เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ฉันอารมณ์ดีแค่ไหน”
เหมยเหมยนำดอกเบญจมาศสีขาวที่มีหยดน้ำเกาะวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง และหันมาส่งยิ้มให้เธออีกครั้ง
“ดอกไม้นี่สวยดีใช่มั้ยล่ะ ฉันตั้งใจเลือกมาให้เองกับมือเลยนะ!”
อู่เยวี่ยกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นจนเลือดไหลซึมออกมา หากว่าสายตาสามารถฆ่าคนได้ล่ะก็ เกรงว่าเหมยเหมยคงเละไม่เป็นชิ้นดีแล้ว
“จ้าวเหมย แกต้องไม่ตายดีแน่ แกต้องตกนรกขุมอเวจี!” น้ำเสียงแหบแห้งของอู่เยวี่ยแลดูน่าเกรงกลัว แววตากลับยิ่งสาดความอำมหิตยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
เหมยเหมยหัวเราะเยาะใส่ไปที พลันก้มตัวลงสบตากับอู่เยวี่ย เอ่ยพูดทีละคำทีละประโยค “นรกอเวจีฉันเคยตกไปตั้งนานแล้ว อู่เยวี่ย ตอนนี้ถึงตาเธอแล้ว!”
อู่เยวี่ยตกใจไม่น้อยต่อความเยือกเย็นในแววตาของเธอ ร่างกายพลันสั่นเทิ้ม
ที่จ้าวเหมยพูดหมายความว่าไง?
“จ้าวเหมย เธออาฆาตแค้นอะไรฉัน? การที่พ่อแม่ลำเอียงก็ไม่ใช่ความผิดฉัน ทำไมเธอจะต้องตามจองล้างจองผลาญฉันด้วย?” อู่เยวี่ยเอ่ยถามอย่างขุ่นเคือง
เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมจ้าวเหมยแค้นเธอฝังหุ่นขนาดนั้น?
จู่ ๆ เหมยเหมยก็หัวเราะขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด เสียงหัวเราะทำให้อู่เยวี่ยรู้สึกเหน็บหนาวไปทั้งหัวใจ พลางลอบมองเหมยเหมยที่หัวเราะเสียงดัง
เหมยเหมยในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกแปลกหน้าอย่างมาก ทั้งยังรู้สึหวาดกลัวเป็นพิเศษ
“อู่เยวี่ย ประโยคนี้ควรเป็นฉันที่ถามเธอ เธออาฆาตแค้นอะไรฉันกันแน่? ทำไมเธอต้องตามจ้องล้างจองผลาญกับฉันตั้งแต่เด็กด้วย?”
คำพูดเหมยเหมยชะงักไป ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “แค่เป็นเพราะว่าฉันหน้าตาดีกว่าเธอ?”
“ไม่ใช่นะ ฉันไม่เคยเจาะจงทำอะไรเธอเลย มีแต่เธอที่เจาะจงมาทำร้ายฉัน!” อู่เยวี่ยถูกพูดจี้ใจดำ จึงนึกละอายพลันตวาดเสียงดังด้วยความโกรธ
เหมยเหมยพูดกล่าวอย่างเย็นชา “อู่เยวี่ยต่อให้เธอจะไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่มีทางปกปิดความใจดำอำมหิตของเธอได้ ฉันไม่เคยทำร้ายเธอก่อนเลย ทุกๆ ครั้งเป็นเธอที่คิดจะทำร้ายฉันก่อน”
เธอมองอู่เยวี่ยที่หน้าตาซีดเซียวขึ้นเรื่อยๆ อย่างเยาะเย้ย และเอ่ยเสริม “อู่เยวี่ย สภาพของเธอในตอนนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะตัวเธอนั้นรนหาที่เอง!”
“ไม่ใช่นะ เป็นเธอที่ทำร้ายฉัน เป็นคนชั่วช้าอย่างเธอต่างหากที่ทำร้ายฉัน…”
อู่เยวี่ยคว้าข้าวของบนเตียงขว้างใส่เหมยเหมยอย่างบ้าคลั่ง เหมยเหมย…เบี่ยงตัวหลบ พร้อมทั้งชูนิ้วใส่เธออย่างดูถูก ก่อนจะมุ่งเดินออกไปทางประตู
ภาพถ่ายพวกนั้นอย่าให้อู่เยวี่ยเห็นจะดีที่สุด ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เธอจะต้องทรมานยัยผู้หญิงชั่วนี่ไปอย่างช้าๆ
ทำให้เธอได้สัมผัสถึงความเจ็บปวดจากหัวใจลามไปถึงกระดูก!
เป้าหมายในวันนี้ได้ลุล่วงแล้ว ผลลัพธ์ถือว่าไม่เลวเลย เห็นอู่เยวี่ยในตอนนี้เจ็บปวดถึงเพียงนี้ เหมยเหมยรู้สึกพึงพอใจมาก ในจังหวะที่เอื้อมมือเตรียมจะเปิด ประตูด้านนอกกลับถูกผลักเปิดเสียก่อน เหมยซูหานโผล่มากะทันหัน ทั้งคู่ต่างประจันหน้ากันอย่างจัง
…………………………………………………………….
[1] คุณชายตงกัว เป็นหนึ่งในนิทานปรัมปราของจีน ซึ่งเนื้อเรื่องมีลักษณะคล้ายคลึงกับเรื่องราวของชาวนากับงูเห่า
เพราะคุณชายตงกัวได้ช่วยเหลือหมาป่าเอา แต่สุดท้ายกลับถูกหมาป่าจับกินเสียได้