ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1116 เล่ห์กลของอู่เยวี่ย + ตอนที่ 1117 ฆ่าคนตาย
ตอนที่ 1116 เล่ห์กลของอู่เยวี่ย
ประตูห้องของอู่เยวี่ยไม่ได้ปิดสนิท เสียงอู้อี้จึงแว่วเล็ดลอดออกมาอยู่เป็นพักๆ มีหรือที่พ่อซ่งจะอดใจไหว ฝืนทนอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจเดินไปยังหน้าประตู มองทะลุผ่านช่องประตูเข้าไปเพื่อชื่นชมหนังสด
มองเห็นเรือนร่างสาววัยแรกแย้มอันสดใสของอู่เยวี่ย คอยปรนนิบัติอยู่ใต้ร่างลูกชายตนอย่างนุ่มนวลชวนคล้อยตาม ลูกตาของพ่อซ่งแทบถลนหล่นออกมา ลำคอแห้งผาก แต่ร่างกายกลับยิ่งขยับเข้าไปด้านหน้าเรื่อยๆ
และโดยไม่รู้ตัว ช่องแคบประตูก็เริ่มเปิดกว้างมากขึ้น แต่เขากลับยังไม่รู้สึกแต่อย่างใด
อู่เยวี่ยลืมตาขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจก็ต้องตกใจที่เห็นพ่อซ่งยืนอยู่หน้าประตู ความรู้สึกสะอิดสะเอียนตีรวนขึ้นมาในทันที แต่เธอก็สามารถฝืนทนเอาไว้ได้
เดิมเธอเองก็ทนไม่ไหว แต่ในตอนนี้เธออยากจะจัดการไอ้สวะทั้งสองคนนี้ให้แหลกเป็นหมื่นท่อน ถึงจะลบล้างความรังเกียจเคียดแค้นในใจของเธอได้!
วันนี้…ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องจบลง!
ซ่งเป่าเลี่ยงเสร็จกิจไปแล้วหนึ่งครั้งแต่ก็ไม่ได้นึกโลภ เตรียมยันกายลุกขึ้นพร้อมที่จะสวมใส่เสื้อผ้า แต่กระนั้นกลับถูกอู่เยวี่ยดึงรั้งเอาไว้ โดยเป็นคนเริ่มขึ้นก่อน ซ่งเป่าเลี่ยงยังหนุ่มแน่นและแข็งแรง เลือดลมสูบฉีดดี มีหรือที่จะทนไหว ฉับพลันที่เริ่มปฏิบัติกิจครั้งต่อไป
พ่อซ่งที่จับตาดูอยู่รู้สึกคันยุบยิบในใจอย่างยากที่จะทน แม่สาวน้อยช่างหิวโหยเสียจริง!
แม้ว่าจะอิจฉาแต่พ่อซ่งก็ได้แต่ดู ตัวเขานั้นจดจำสถานะของตัวเองได้ดี ไม่อยากทำอะไรที่เกินขอบเขต มีให้เสพเป็นอาหารตาก็พอแล้ว
เหอปี้อวิ๋นไม่กลับมาสักที ส่วนทางนี้ซ่งเป่าเลี่ยงปฏิบัติกิจครั้งที่สองเสร็จสิ้นแล้ว อู่เยวี่ยกัดฟันอย่างโกรธแค้น นึกตำหนิเหอปี้อวิ๋นยิ่งกว่าเดิม
ช่างไร้ประโยชน์ ซื้อเหล้าแค่ขวดเดียวใช้เวลานานขนาดนี้เชียว!
เป็นอีกครั้งที่เธอใช้มารยาหญิงหว่านล้อมซ่งเป่าเลี่ยงเอาไว้ การต่อสู้ครั้งใหม่ได้ดำเนินอย่างต่อเนื่อง พ่อซ่งที่แอบดูจนเกิดอาการตาค้าง ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าประตูที่ถูกเปิดออกอย่างไม่รู้ตัว
อู่เยวี่ยกัดฟันแน่นพลางขบคิด จะต้องเพิ่มความเหี้ยมโหดอีกสักนิดถึงจะดี ถึงอย่างไรเธอก็เคยผ่านผู้ชายมาหลายคนแล้ว…
เพิ่มขึ้นมาอีกสักคนสองคนก็ไม่เห็นเป็นไร
เธอยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาผ่านไปแล้วยี่สิบนาที เหอปี้อวิ๋นคงใกล้จะกลับมาแล้ว เธอชายตามองพ่อซ่งที่ยืนทำหน้าซื่อบื้ออยู่ และเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาแวบหนึ่ง
ซ่งเป่าเลี่ยงเริ่มเกิดอาการเหนื่อยล้า นอนหอบหายใจอยู่บนตัวอู่เยวี่ย อู่เยวี่ยหันไปหาพ่อซ่งพร้อมฉีกยิ้มหวานหยดย้อย พลางกระดิกนิ้ว ยืดตัวตรง พ่อซ่งที่เลือดในตัวพลุ่งพล่านมีหรือที่จะคำนึงถึงสถานะตัวเองต่อไปอีก ได้แต่หอบหายใจและวิ่งพรวดเข้าไป
“พ่อ ทำไมพ่อถึง…”
ซ่งเป่าเลี่ยงตกตะลึง
พ่อซ่งผลักเขาในจังหวะเดียว พร้อมกับตะโกน “แม่สาวน้อยหิวโหยอยู่ ต้องเราสองคนถึงจะพอ”
อู่เยวี่ยเองก็ไม่ได้หลบหลีกยอมให้พ่อซ่งจัดการแต่โดยดี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ทำเพียงแค่ตั้งใจฟังเสียง และให้ความสนใจต่อความเคลื่อนไหวภายนอก
ในที่สุด…
เสียงฝีก้าวดังแว่วมาแต่ไกล เหอปี้อวิ๋นเดินลงน้ำหนักเท้ามาก เสียงฝีเท้ามีความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งอู่เยวี่ยสามารถได้ยินมัน เธอเหลือบมองกรรไกรที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าประตู มุมปากกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
เวลาช่างเหมาะเจาะมาก!
จนตอนนี้ซ่งเป่าเลี่ยงยังคงไม่ได้สติกลับมา พูดเสียดิบดีว่าเป็นเมียเขา แล้วไฉนในตอนนี้ถึงกลายเป็นเขาและพ่อใช้ร่วมกันได้เล่า?
อู่เยวี่ยชำเลืองมองซ่งเป่าเลี่ยงที่ร่างกายยังคงเปลือยเปล่า และหันมองพ่อซ่งที่ลืมเลือนทุกอย่างสิ้นแล้วผงาดบนตัวเธอ เสียงฝีก้าวจากภายนอกเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่สองพ่อลูกยังคงไม่รู้สึกตัว
หมดเวลาแล้ว…
อู่เยวี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ พลันร้องไห้ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย “…อย่านะ…อย่า ขอร้องพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะ…แม่คะ…รีบมาช่วยหนูที…”
น้ำเสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ พ่อซ่งไม่ได้สนใจใยดีอะไร เขาปฏิบัติกิจไปพลาง พร้อมเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “อยู่ต่อหน้าข้ายังจะเสแสร้งอะไรอีก เมื่อครู่แกก็สนุกด้วยไม่ใช่รึ!”
“เปล่านะ…คุณอาปล่อยหนูเถอะ…พี่ปล่อยหนูเถอะ…ขอร้องพวกคุณล่ะ ฉันต้องสอบเข้ามหาลัย อย่านะ…” อู่เยวี่ยขอร้องอ้อนวอนอย่างทรมาน น้ำตาไหลพรากอาบท่วมใบหน้า
เหอปี้อวิ๋นที่ยกกับข้าวเข้ามาได้ยินเสียงร้องไห้โหวกเหวกโวยวายของลูกสาว สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จึงวางกับข้าวไว้พร้อมมุ่งหน้าไปยังประตูห้องที่ถูกเปิดไว้
…………………………………………………..
ตอนที่ 1117 ฆ่าคนตาย
อู่เยวี่ยได้ยินความเคลื่อนไหวจากภายนอกอย่างชัดเจน เธอจึงเริ่มร้องไห้เสียงดังมากขึ้น ร่างกายบิดไปมาอย่างรุนแรง เงื้อมือขีดข่วนร่างกายของพ่อซ่งอย่างแรง กระทั่งขีดข่วนจนเกิดรอยเลือดไหลซึมออกมา
พ่อซ่งรู้สึกเจ็บแสบไฟโทสะจึงประทุ ตบหน้าอย่างจังโดยไม่คิด พร้อมกับด่าทอ “ไม่รู้ดีชั่ว ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย ไม่งั้นข้าจะเอาแกไปขายที่ไนท์คลับ”
เหอปี้อวิ๋นตกใจกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้าจนวิญญาณแทบสลายออกจากร่าง ตัวแข็งยืนทื่อ มองดูอย่างเหม่อลอย
ลูกสาวของเธอ ความหวังอันสูงส่งของเธอ ลูกสาวที่จะทำให้เธอได้เชิดหน้าชูตา
ตอนนี้กลับถูกสามีเธอกระชากเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่า กดไว้ใต้ร่างพร้อมกับทำเรื่องหน้าไม่อาย ข้างกายยังมีลูกเลี้ยงที่ยืนเปลือยกายอยู่ด้วย
ต่อให้เป็นคนโง่ก็ยังรู้ ว่าไอ้สารเลวทั้งสองคนนี้ทำอะไรกับลูกสาวเธอ!
“แม่…ช่วยหนูด้วย…หนูยังต้องเข้ามหาลัยนะ…หนูยังต้องแต่งงานอีก…” อู่เยวี่ยตะโกนร้องห่มร้องไห้ น้ำเสียงแหบแห้ง ดิ้นรนเอาเป็นเอาตาย
เหอปี้อวิ๋นพลันสะดุ้งโหยง โผล่เข้าไปหมายจะดึงพ่อซ่งออกมา พร้อมตะโกนอย่างเดือดดาล “แกมันสารเลว…แกลงมาเดี๋ยวนี้นะ…ทำไมแกถึงทำกับเยวี่ยเยวี่ยแบบนี้…”
พ่อซ่งตกใจต่อการปรากฏตัวของเหอปี้อวิ๋นเป็นอย่างมาก เกิดความละอายในใจอยู่บ้าง แต่ฉับพลันเขากลับมาวางมาดอีกครั้ง สองแม่ลูกนี่เขาเป็นคนเลี้ยงดู นอนด้วยหน่อยจะเป็นไรรึ?
“ถอยไปนู่นเลย ไอ้แก่อย่างข้าเลี้ยงมาตั้งหลายปี ทำไมจะหลับนอนด้วยไม่ได้ ยังไงข้าก็จะเอา!”
พ่อซ่งถูกฉีกหน้าจนย่อยยับมีหรือที่จะหลงเหลือความละอายใจ ครั้นลงแรงปฏิบัติกิจต่อหน้าของเหอปี้วิ๋น อู่เยวี่ยร้องห่มร้องไห้ พร้อมทั้งดิ้นรน จ้องมองเหอปี้อวิ๋นด้วยน้ำตาไหลพราก
เธอนึกโกรธแค้นในใจ ไร้ประโยชน์เสียจริง ทำไมยังไม่ลงมืออีก?
“แม่คะ…หนูไม่มีหน้าอยู่ต่อแล้ว…แม่หยิบกรรไกรมาให้หนู หนูยอมปาดคอตัวเองให้ตายไปเสียจะดีกว่า หนูไม่มีหน้าอยู่ต่อแล้ว…” อู่เยวี่ยร้องไห้อย่างน่าสงสาร แต่สายตากลับจดจ่อไปที่กรรไกรบนโต๊ะนั่นไม่คลาย
เหอปี้อวิ๋นมองตามสายตาของเธอไป กรรไกรใหญ่ที่ส่องสะท้อนแสงปรากฏอยู่บนโต๊ะอย่างทันตา ซึ่งปกติแล้วเธอจะใช้มันฆ่าปลาและเชือดคอไก่ ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้?
เหอปี้อวิ๋นที่ได้รับการกระตุ้นจึงมีแววตาแน่นิ่ง ไม่มีเวลามาคิดเรื่องไร้สาระนี้แล้ว เธอจ้องมองพ่อซ่งที่กำลังขยับไปมาบนเรือนร่างของลูกสาว จากนั้นหันมามองอู่เยวี่ยที่เอาแต่ตะโกนอยากตาย ฉับพลันแววตาก็เป็นประกาย
“เยวี่ยเยวี่ยที่แสนดี แม่มาช่วยหนูแล้ว…มีแม่อยู่ทั้งคน ไม่มีใครกล้าทำร้ายลูกได้…”
เหอปี้อวิ๋นเอ่ยพูดอย่างตะกุกตะกัก เดินโซซัดโซเซเข้าไปคว้ากรรไกร เมื่อเป็นเช่นนั้นก็โผตัวเข้าไปหาพ่อซ่งที่ยังไม่รู้ตัว จังหวะที่ซ่งเป่าเลี่ยงได้สติกรรไกรในมือของเหอปี้อวิ๋นได้แทงทะลุเข้าร่างของพ่อซ่งไปแล้ว
เลือดสีแดงเข้มไหลทะลักพรั่งพรู พ่อซ่งไม่แม้แต่จะเปล่งเสียงร้องโอดครวญก็ล้มลงไปบนเตียง
“พ่อ…”
ซ่งเป่าเลี่ยงตกใจเป็นอย่างมาก เขาเหลือบมองไปเห็นเหอปี้อวิ๋นถือกรรไกรที่มีเลือดหยดไหล จึงเกิดอาการขนหัวลุกชัน จังหวะนั้นเขาพึ่งนึกได้แม่เลี้ยงของเขาป่วยเป็นโรคประสาทนี่!
ไม่ทันได้สนใจบาดแผลของพ่อซ่ง ซ่งเป่าเลี่ยงหมายจะวิ่งออกไปนอกห้องอย่างไร้สติ แต่กลับถูกอู่เยวี่ยดึงรั้งเอาไว้แน่น พร้อมหันไปร้องไห้โวยวายกับเหอปี้อวิ๋น “แม่ เขาและคุณลุงรวมหัวกันรังแกหนู หนูไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว…”
“เยวี่ยเยวี่ยไม่ต้องกลัว…มีแม่อยู่ทั้งคน ใครหน้าไหนก็ไม่อาจรังแกลูกได้…”
เหอปี้อวิ๋นพูดประโยคเดิมซ้ำๆ สติฟั่นเฟือนเลื่อนลอย หันไปหาซ่งเป่าเลี่ยงพร้อมกับใช้กรรไกรแทงโดยไม่แม้แต่จะคิด ซ่งเป่าเลี่ยงหมายจะเข้าไปแย่งกรรไกรจากเหอปี้อวิ๋น แต่อู่เยวี่ยกลับกอดเขาแน่นเพื่อรั้งตัวเขาไว้
แค่ชั่วพริบตาเขาก็รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ถูกแทงบริเวณทรวงอก เลือดไหลทะลักพรั่งพรูอีกครั้ง ซ่งเป่าเลี่ยงแข้งขาอ่อนแรง ล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นและไม่รับรู้อะไรอีก
……………………………………………….