ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1144 โทรศัพท์เตือน + ตอนที่ 1145 เอาตัวเข้าเสี่ยงอันตราย
ตอนที่ 1144 โทรศัพท์เตือน
เหมยเหมยไม่ปริปากพูดอะไร อย่างไรก็ตามเธอยอมเอาตัวเข้ารับความเสี่ยง เพื่อรอให้แม่ลูกจ้าวอิงสยงเปิดเผยธาตุแท้ออกมา สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ เธอและคุณย่าเพิ่งออกจากบริเวณลานบ้าน ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ และยังโทรศัพท์แจ้งเหยียนหมิงซุ่นอีกด้วย
“สุนัขจนตรอกแล้ว……”
เหยียนหมิงซุ่นส่งเสียงยิ้มเยาะ รู้สึกดูถูกจ้าวอิงสยงเป็นอย่างมาก ลูกผู้ชายสุภาพบุรุษที่สง่าผ่าเผย พอเจอปัญหาก็ทำได้แค่เพียงใช้ผู้หญิงมาบังหน้า ผู้ชายแบบนี้อยู่ไปยังจะมีประโยชน์อะไร ไม่สู้ตายๆไปเสียให้จบเรื่อง!
“เพิ่มคนปกป้องคุณหนู อย่าปล่อยให้คุณหนูได้รับบาดเจ็บ” เหยียนหมิงซุนสั่ง
“ครับ จะไม่ปล่อยให้คุณหนูบาดเจ็บแม้แต่ผมเส้นเดียว” ลูกน้องให้สัญญา
เหยียนหมิงซุ่นวางสาย คิ้วขมวดแน่น ถ้าหากทำได้ล่ะก็ เขาก็หวังว่าคนที่จะปกป้องอยู่ข้างกายของเหมยเหมยคือตัวเอง
ตอนที่เขาไปครั้งที่แล้วเกือบจะทำให้พ่อบุญธรรมของเขารู้แล้ว ถ้าหากครั้งนี้ยังบะหน้าที่โดยพลการเกรงว่าคงปิดมันไม่ได้แล้ว ที่สำคัญกว่านั้นคือความพยายามของของเหมยเหมยก็จะเปล่าประโยชน์เช่นกัน
ในเมื่อเด็กน้อยคิดอยากจะให้พ่อบุญธรรมยอมรับ แน่นอนว่าเขาก็ไม่สามารถฉุดยื้อไว้ได้!
เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกไว้วางใจลูกน้องของตัวเองอยู่พอสมควร ปกป้องแค่เหมยเหมยรับรองว่าไม่มีปัญหา แม้ว่าเหตุการณ์เลวร้ายคงไม่เกิดขึ้นแต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้นกันไว้ดีกว่าแก้จะดีกว่า!
เขาครุ่นคิดอยู่นานจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขาโทรเข้าโทรศัพท์ของครอบครัวตระกูลจ้าว พอดีกับคุณปู่จ้าวที่กลับมาจากข้างนอก
“คุณจ้าว ภรรยาและหลานสาวของคุณไม่อยู่บ้านใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ซ่อนเสียงเดิม เขาซ่อนตัวมาสามปี ถึงเวลาที่เขาต้องแสดงตัวแล้ว
คุณปู่ได้ยินเสียงอันคุ้นหู เขาและเหยียนหมิงซุ่นเคยเจอหน้ากันเมื่อสามปีก่อน แต่เสียงในโทรศัพท์ยังคงแตกต่างจากเสียงของคนจริงๆ ดังนั้น คุณปู่จึงฟังไม่รู้ว่าเป็นใคร
“คุณคือใคร?”
คุณปู่หวาดระวังในทันที เขาเพิ่งจะเข้าไปในห้องก็พบกระดาษโน้ตที่เหมยเหมยทิ้งไว้ ยังไม่ทันดูโทรศัพท์ก็ดังขึ้นก่อน เขาจึงรับโทรศัพท์และอ่านกระดาษโน้ต เหมยเหมยเขียนเพียงว่าเธอได้ทำตามคำสั่งของคุณย่า พาคุณย่าไปเดินเล่น และยังเขียนเวลาที่ออกไป แม่นยำถึงนาที
ตั้งแต่เหมยเหมยออกไปจนถึงตอนนี้ ยังไม่ถึงสิบนาทีเลย คนลึกลับที่โทรศัพท์มารู้ได้ยังไง?
และเป็นจริงเช่นนั้น คุณปู่ถึงได้ตกใจหวาดผวา เขามองไปรอบ ๆ ห้องรับแขกโดยไม่รู้ตัว อยากรจะหาว่ามีใครแอบมองอยู่ไหมแต่ไม่พบอะไรเลย นั่นก็ยิ่งทำให้คุณปู่รู้สึกจิตใจฟุ้งซ่าน
“คุณจ้าวไม่จำเป็นต้องกังวล ผมไม่คิดร้ายต่อตระกูลจ้าว แค่เพียงอยากจะเตือนคุณ จ้าวอิงสยงและภรรยาของคุณกำลังสมรู้ร่วมคิดหลอกล่อจ้าวเหมยออกไป ลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อเตรียมรับช่วงต่ออยู่ข้างนอก กลัวว่าหากคุณไม่ลงมือทำอะไรอีก หลานสาวของคุณจะ……”
คำพูดสุดท้ายที่เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้พูดให้จบ คุณปู่ก็เข้าใจความหมายของเขาแล้ว สีหน้าซีดเซียว ผมเผ้าก็ชี้ตั้งโด่เด่
“ตอนนี้ภรรยาและหลานสาวไปถึงภัตตาคารเหอผิงเรียบร้อยแล้ว เท่าที่ผมรู้ ลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็อยู่ที่นั่น……” เหยียนหมิงซุ่นพูดต่อ แต่ไม่พูดให้จบ
ตอนนี้ก็ดูแค่เพียงว่าคุณปู่จ้าวจะทำอย่างไรต่อแล้ว หวังว่าคงจะไม่ทำให้เขาผิดหวังหรอกนะ!
คุณปู่ได้ยินเสียงตู๊ด ๆ ในโทรศัพท์ ก็กลับมาสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง แต่สีหน้ากลับดูไม่ได้เป็นอย่างมาก เขาอยากจะไม่เชื่อคำพูดของผู้ชายลึกลับคนนี้มากๆ แต่ความจริงก็อยู่ตรงหน้า ภรรยาและหลานสาวไม่อยู่ที่บ้านจริงๆ
ไม่สนว่าจริงหรือเท็จ เขาก็จะไปสักครั้ง หากว่าไม่จริงก็ดีไป แต่ถ้าหากจริงล่ะก็……
คุณปู่หัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง ตอนนี้เขารู้สึกท้อแท้แล้ว ปณิธานอันสูงส่งเหมือนเมื่อก่อนไม่มีนานแล้ว คิดแค่เพียงอยากกลับบ้าน มีชีวิตที่สงบสุข ไม่คลุกตัวอยู่ในแวดวงนี้อีกต่อไป
สู้รบเขาไม่กลัวตาย แต่การเล่นไปตามแผนตามอุบายพวกนี้ เขาทำไม่ได้จริงๆ!
ในเมื่อไม่มีสงครามแล้ว ถ้าอย่างนั้นเขากลับไปจับจอบดีกว่า!
“คุณชายหมิง คุณปู่จ้าวออกจากบ้านแล้ว”
สองนาทีผ่านไป ลูกน้องก็โทรศัพท์มา มุมปากของเหยียนหมิงซุ่นยกขึ้นเล็กน้อย ยังดีที่ตระกูลจ้าวยังมีคนที่มีไหวพริบมีเหตุมีผลอยู่บ้าง
…………………………………………..
ตอนที่ 1145 เอาตัวเข้าเสี่ยงอันตราย
เหมยเหมยนั่งอยู่บนรถ เห็นคุณย่าที่ขึ้นรถมาก็พูดว่าไปภัตตาคารเหอผิงเลย ก็แอบยิ้มเยาะในใจ
ไม่แม้แต่จะเสแสร้งแล้วเหรอ?
เป็นการกำหนดไว้แล้วว่าเธอเป็นปลาที่อยู่บนเขียง ทำได้เพียงรอที่จะถูกเชือดอย่างเชื่อฟังใช่ไหมล่ะ?
“คุณย่าไม่ได้พูดว่าไปเดินเล่นหรอกเหรอคะ? ทำไมถึงได้ไปภัตตาคารเหอผิงล่ะ?” เหมยเหมยจงใจถาม
คุณย่าหน้าชาเรียบตึง พูดไปส่งๆว่า “อยู่ดีๆก็อยากกินอาหารที่ภัตตาคารเหอผิง อีกเดี๋ยวกินเสร็จพวกเราค่อยไปเดินเที่ยวเล่นกัน”
“ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้เพิ่งจะกินข้าวกลางวันไปหรอกหรือคะ? ทำไมคุณย่าถึงหิวอีกแล้วล่ะ?” เหมยเหมยพูดด้วยน้ำเสียงเกินจริง
คุณย่าหน้าชาอีกครั้ง เวลานี้ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนออกมาเพิ่งจะกินมื้อกลางวันไป ก็แอบก่นด่าจ้าวอิงสยงว่าโง่ในใจไม่หยุด ไม่รู้จัดหาสถานที่ที่มันเหมาะสมกว่านี้
“กับข้าวมื้อกลางวันไม่ถูกปากเท่าไหร่ ฉันเลยไม่ได้กินเยอะเลยหิวเดี๋ยวย่าเลี้ยงเอง” คุณย่าพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง กิริยาท่าทางดูน่าเกรงขาม ดูแข็งแกร่งกว่าลูกชายของเธอร้อยเท่า
เวลานี้เหมยเหมยถึงได้เชื่อว่าคุณย่าผู้เลอะเลือนของตัวเองก็ยังมีความสามารถอยู่บ้าง เพียงแต่เอาอุบายแผนการมาใช้กลับเธอ
“ความอยากอาหารของคุณย่าช่างเยี่ยมจริงๆ หมอห่วยแตกที่ตรวจอาการให้ย่านี่ไม่ได้เรื่องเลย บอกว่าคุณย่าจะไม่รอดแล้ว ให้พวกเรารีบกลับมาพบหน้าคุณย่าเป็นครั้งสุดท้าย โชคดีที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้กลับมาด้วย ไม่อย่างนั้นคงจะเสียเวลาทำงานหมด!”
เหมยเหมยพูดประชด แล้วก็ไม่สนใจด้วยว่าหน้าของคุณย่าจะดำลงเรื่อยๆ ด้วยความโกรธ พูดต่อไปว่า “หนูว่าหมอกำมะลอพวกนั้นคงต้องลาออกแล้ว แม้กระทั่งโรคเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังตรวจไม่เจอ คนที่ใกล้ตายแล้วคนไหนจะเจริญอาหารขนาดนี้ คุณย่าว่าใช่ไหมคะ?”
คุณหมอพวกนั้นโดนซื้อตัวโดยคู่สามีภรรยาหานซู่ฉิน แน่นอนว่าพูดโกหกเพื่อช่วยจ้าวอิงสยง หลังจากนั้นก็จัดการเก็บกวาดทั้งหมดไปแล้ว
ทหารที่ขับรถตกใจจนปิดปากแน่น ไม่กล้าแม้กระทั่งจะหายใจแรง แต่ก็อดมองผ่านกระจกไม่ได้ กลับเห็นคุณย่าโมโหจนจะขาดใจแล้วจริงๆ แต่เหมยเหมยกลับยิ้มตาหยี ปากเล็ก ๆ ก็ยังพูดจาฉอด ๆ ไม่หยุด ใบหน้าไร้เดียงสา ทำให้คนมองไม่ออกว่าคำพูดพวกนั้นหลุดออกมาด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจกันแน่
พวกเธอมาถึงภัตตาคารเหอผิงอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลานี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนสำหรับการทานอาหาร ภัตตาคารมีคนเข้าคนออกตลอด กิจการขายดิบขายดีมาก
จ้าวอิงสยงจองห้องพิเศษ 201 ไว้แล้วเรียบร้อย คุณย่าบอกผู้จัดการล็อบบี้ ผู้จัดการพาพวกเขาขึ้นไปชั้นบนอย่างเคารพนบน้อม คุณย่ารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เดินเบียดเหมยเหมยบนทางเดิน เธอแค่ต้องการทำงานที่ลูกชายมอบหมายให้เสร็จโดยเร็ว และก็ให้นังเด็กสมควรตายนี่ได้รับการสั่งสอนด้วย
“กิจการดีขนาดนี้ยังมีห้องพิเศษเหลืออยู่อีก คุณย่าคงไม่ได้จองเอาไว้ก่อนเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ?” เหมยเหมยจ้องคุณย่าอย่างเอาเป็นเอาตาย อยากจะดูว่าท้ายที่สุดแล้วเธอมีความคิดที่จะเปลี่ยนใจหรือไม่
คุณย่าตำหนิออกมาอย่างหมดความอดทนว่า “แกจะพูดอะไรเยอะแยะ ฉันหิวจะตายแล้ว รีบขึ้นไปกินข้าว กินเสร็จจะไปเดินเล่น”
เหมยเหมยส่งเสียงยิ้มเยาะ ถึงแม้ว่าจะไม่สนใจความรักของญาติที่เรียกว่าครอบครัวพวกนี้ แต่ในเวลานี้เธอก็ยังรู้สึกเสียใจ ญาติพี่น้องของตระกูลจ้าวพวกนี้ โหดเหี้ยมยิ่งกว่าตระกูลอู่เสียอีก!
“คุณย่าขึ้นไปก่อน หนูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
เหมยเหมยไม่เห็นใบหน้าบึ้งตึงของคุณย่า หันไปถามถึงตำแหน่งห้องน้ำกับบริกรแล้วก็ไป แต่เธอก็แวบกลับไปที่ล็อบบี้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าคุณย่าขึ้นไปชั้นบนแล้ว เธอโทรศัพท์หาเซียวเซ่อ
เซียวเซ่อและสยงมู่มู่กำลังรอเธออยู่ที่บ้าน แต่รอมาแล้วครึ่งค่อนวันก็รอไม่ไหว กำลังร้อนใจอยู่เลย
”เซียวเซ่อไม่ต้องพูดอะไร คุณย่าของฉันและจ้าวอิงสยงสมรู้ร่วมคิดกันที่จะทำร้ายฉัน ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้อง 201 ของภัตตาคารเหอผิง เธอโทรแจ้งคุณปู่ของฉันให้เขามาที่นี่โดยเร็วที่สุด ฉันไม่สามารถถ่วงเวลาที่นี่ได้นานมากนัก”
เหมยเหมยพูดจบอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำภายในสองสามประโยคแล้วก็วางสาย วันนี้เป้าหมายที่เอาตัวเข้าเสี่ยงอันตรายของเธอก็คืออยากจะเปิดเผยธาตุแท้อันน่ารังเกียจของภรรยาและลูกชายของคุณปู่ให้เห็นต่อหน้าต่อตาด้วยตัวเองกับมือ
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องฟังคุณปู่พร่ำเพ้อเรื่องความรักในครอบครัวอีกต่อไป ฟังแล้วจะอ้วก!
………………………………………..