ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1146 วิธีของเซียวเซ่อ + ตอนที่ 1147 เด็กผู้ชายโปรยเงิน
ตอนที่ 1146 วิธีของเซียวเซ่อ
เซียวเซ่อได้ฟังสถานการณ์วิกฤตของเหมยเหมย จึงไม่กล้ายื้อเวลาเร่งโทรหาตระกูลจ้าวอย่างไม่รีรอ แต่คนที่รับโทรศัพท์คือเชฟหยวนพ่อครัวของตระกูลจ้าว บอกว่าคุณปู่ออกไปอีกครั้งหลังจากที่เขากลับมา ส่วนไปที่ไหนนั้นไม่มีใครรู้
“จะทำอย่างไรดี?”
สยงมู่มู่ก็ร้อนใจกระวนกระวายทำอะไรไม่ถูก ถูมือไปมาไม่หยุด
เซียวเซ่อมองเขาอย่างเหยียดหยามไปที พลางด่าว่า “คนไม่มีอนาคต ตาแก่เลอะเลือนตระกูลนายไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราไปช่วยเหมยเหมยกันเองเถอะ”
“ช่วยยังไง? พวกเราก็สู้คนของเฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้อยู่ดี” สยงมู่มู่เป็นกังวลมาก โมโหที่ฝีมือการต่อสู้ของตัวเองย่ำแย่ แม้กระทั่งหญิงสาวอย่างเซียวเซ่อก็ยังสู้ไม่ได้
เซียวเซ่อเปิดตู้เซฟ เธอไม่ได้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้เป็นเวลาสามปีแล้ว แต่เซียวจิ่งหมิงและเฝิงไห่ถังกลับมาที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน มันจึงกลายเป็นสถานที่พบปะของพวกเขาสองคนไปแล้ว คนงานที่เธอเหลือไว้อยู่ในบ้าน บอกเธอหมดทุกอย่างนานแล้ว
เรื่องรักๆใคร่ๆของแม่ตัวเอง แน่นอนว่าคุณหนูใหญ่เซียวไม่สนใจ สิ่งที่เธอสนใจก็คือของที่อยู่ในตู้เซฟนี้ต่างหาก
ลูกน้องของเธอบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นเฝิงไห่ถังหรือเซียวจิ่งหมิง มักจะซ่อนเงินไว้ในตู้เซฟเป็นครั้งคราว หลังจากสะสมมาสามปี ตัวเลขน่าจะไม่น้อยเลยล่ะมั้ง
รหัสแน่นอนว่าไม่ต้องเป็นกังวล มันคือวันเกิดของเธอ ไม่มีใครรู้ชัดเจนเท่ากับเธออีกแล้ว
‘คลิ๊ก’
ตู้เซฟเปิดได้อย่างราบรื่น แสงส่องเข้าตาของสยงมู่มู่ เขาจ้องไปที่ทองคำแท่งและธนบัตรในกล่องอย่างตกตะลึง ไม่สามารถละสายตาได้เลย
“บ้านเธอเงินเยอะมากเลย……” ผ่านไปครู่ใหญ่ สยงมู่มู่ถึงได้ทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ ทำให้ได้รับฝ่ามือเหล็กจากคุณหนูใหญ่เซียว
“นายไอ้โง่ รีบ ๆ ไปเร็ว!”
เซียวเซ่อยัดเงินลงไปในกระเป๋าเป้หลายปึกโดยไม่นับเลยสักนิด หัวของสยงมู่มู่คงไม่ลืมวันนั้น เขาประเมินจำนวนเงินในกระเป๋าเป้ของเซียวเซ่ออย่างรวดเร็ว น่าจะมีประมาณห้าถึงหกหมื่นได้
“เธอเอาเงินมากมายขนาดนั้นไปทำอะไร?” สยงมู่มู่ยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเซียวเซ่อ
“มีเงินทองก็สามารถทำทุกอย่างได้ไงล่ะ……เฮ้อ เล่าให้สมองหมูอย่างนายฟังแป๊ปเดียวคงไม่เข้าใจหรอก อีกเดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ”
เซียวเซ่อพูดกับสยงมู่มู่ใส่อย่างรำคาญ และไม่อดทนรอคนขับรถอีกต่อไป เข็นลูกรักของเธอออกมาจากลานบ้าน —— รถฮาร์เลย์ ที่ออดอ้อนให้แม่ของเธอซื้อให้ หลังจากที่เซียงจิ่งหมิงเห็นเธอขี่รถออกไปแค่ครั้งเดียว ก็ตกใจกลัวมากจนล็อครถเอาไว้ ไม่กล้าปล่อยให้ลูกสาวขี่บนถนนอีกเลย
“รีบขึ้นรถ นายชักช้าอืดอาดอะไรอยู่ได้?”
เซียวเซ่อโยนหมวกกันน็อกให้กับสยงมู่มู่ เห็นเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เป็นเวลานาน ก็โมโหจนคว้าคอเสื้อ เหมือนกับการโยนลูกไก่ สยงมู่มู่นั่งอยู่ที่เบาะหลัง ในเวลาอันรวดเร็ว รถที่สุดแสนจะเท่ก็ส่งเสียงคำรามออกไป
เป็นพิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้วว่า เซียวเซ่อขี่รถได้ปราดเปรียวมาก แม้ว่าเมืองหลวงในช่วงต้นทศวรรษ 1990 จะไม่มีรถยนต์มากเท่าสมัยใหม่ แต่ถนนตอนนี้ไม่กว้างเหมือนสมัยใหม่ การจราจรยังคงติดขัด
ขับรถไม่เร็วเท่าขี่มอเตอร์ไซค์จริงๆ
สยงมู่มู่กอดเอวเล็กๆของเซียวเซ่อแน่น ไม่กะจิตกะใจคิดเรื่องโรแมนติกอะไรทั้งนั้น ตับไตไส้พุงกำลังจะพุ่งออกมาอยู่แล้ว
“เซียวเซ่อ……เธอมีใบขับขี่ไหม……” สยงมู่มู่ตะโกนเสียงดัง
“ไม่มี……หุบปาก……”
เซียวเซ่อหันไปตวาดใส่หนึ่งที สยงมู่มู่ตกใจจนหุบปากในทันที แขนที่โอบรอบเอวเล็กๆก็ยิ่งออกแรงบีบขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้าเขาต้องกลายเป็นผีอยู่ใต้ท้องรถจริงๆ จะยังไงก็ต้องลากตัวเธอลงมาด้วย!
รถของเซียวเซ่อแล่นผ่านตรอกซอกซอยเล็กๆ จนมาถึงภัตตาคารเหอผิงก่อนคุณปู่จ้าว ในเวลานี้ห่างกันไม่ถึงสิบนาทีก่อนที่เหมยเหมยจะขึ้นไปชั้นบน เซียวเซ่อจอดรถเสร็จ ก็ดึงสยงมู่มู่ซึ่งใบหน้าพะอืดพะอมและแข้งขาอ่อนแรงลงมา
เธอไม่คาดหวังกับความขี้ขลาดไร้ประโยชน์นี้อีกต่อไป หยิบธนบัตรร้อยหยวนใหม่เอี่ยมออกมาจากกระเป๋าเป้หนึ่งปึก แกะแผ่นกระดาษที่ปิดไว้ออก หยิบเงินเอาไว้แล้วตะโกนว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน ขอเลี้ยงทุกคนกินข้าว อยากกินข้าวก็มาเอาเงิน ยิ่งกินเยอะอั่งเปาก็ยิ่งเยอะนะ……”
…………………………………………..
ตอนที่ 1147 เด็กผู้ชายโปรยเงิน
เซียวเซ่อตะโกนออกมาสุดเสียง สิ่งที่ทำเอาทุกคนจับจ้องมากที่สุดก็คือธนบัตรในมือของเธอ ผู้คนต่างเร่งฝีเท้าวิ่งเข้ามาในทันที ถล่มทลายเข้าไปในภัตตาคารทั้งหมด ล็อบบี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และมีผู้คนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้จัดการล็อบบี้มองไปที่เซียวเซ่ออย่างตะลึงงัน เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้สึกว่ากิจการรุ่งเรืองเป็นเรื่องที่ดี!
คนเยอะขนาดนี้ หลังครัวจะทำทันได้อย่างไร?
“ไม่ต้องกังวล อาหารไม่จำเป็นต้องทำให้ร้อน คุณแค่เอาแตงกวา มะเขือเทศพวกนั้นหยิบออกมาก็พอแล้ว ฉันยังคงจ่ายให้คุณอยู่ดี สิบเท่าของราคาตลาด”
เซียวเซ่ออยากจะรีบแก้ไขปัญหาเลยดึงเงินออกมาหนึ่งปึกแล้วยัดใส่อ้อมกอดของผู้จัดการ
ผู้จัดการก็ถือว่าเป็นคนที่ฉลาดคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าเซียงเซ่อทำเรื่องบ้าบอประสาทเสียทำไม แต่เรื่องดีๆอย่างเงินที่ตกลงมาจากท้องฟ้านั้น ถ้าเขาไม่หยิบมันขึ้นมาเขาก็จะเป็นคนโง่สิ
“วางใจได้เลย แตงกวามะเขือเทศมีพอแน่นอน ขอให้คุณหนูรอสักครู่!”
ผู้จัดการถือธนบัตรที่มากพอที่จะใช้งานได้สามวันเอาไว้ เดินเข้าไปที่ครัวด้านหลังอย่างร่าเริง ให้คนย้ายแตงกวาและมะเขือเทศออกมาทั้งหมด บังเอิญมีแครอทอยู่ถุงหนึ่ง ล้วนเป็นของดีที่เอาไว้สำหรับทำออร์เดิร์ฟ เพียงพอสำหรับความต้องการของคุณหนูใหญ่ที่อยู่ข้างนอกแล้ว
“มากินของดีๆกัน ยิ่งกินมากรางวัลก็ยิ่งมาก……เดินผ่านก็อย่าพลาดกันล่ะ……”
สยงมู่มู่ก็เป็นคนฉลาดเช่นกัน แค่มองก็เข้าใจว่าเซียวเซ่อคิดจะทำอะไร วิ่งออกไปข้างนอกภัตตาคารทันทีเพื่อชักชวนลูกค้า ยังกลัวว่าจะมีคนไม่เชื่อจึงยื่นธนบัตรร้อยหยวนให้ไปหลายคน เพื่อให้คนที่สัญจรไปมาให้ความสนใจพากันเข้ามาในภัตตาคาร ไม่ต้องพูดถึงพื้นที่ยืนในล็อบบี้มันไม่มีที่ให้ยืนแล้ว แม้แต่ถนนทางเข้าภัตตาคารก็ยังแออัดเต็มไปด้วยผู้คน
เฮ่อเหลียนเช่อที่รอจนชักจะทนไม่ไหว เขาได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องของเขาที่จัดการให้ไปรับคุณย่าแล้ว
คุณชายเช่อ อยู่ดีๆภัตตาคารเหอผิงก็ล้อมรอบไปด้วยผู้คน ถูกปิดกั้นทุกทิศทุกทาง คนของพวกเราเข้าไปไม่ได้ด้วยซ้ำ“ ลูกน้องลำบากใจ และยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง
“เกิดอะไรขึ้น?” เฮ่อเหลียนเช่อถามเสียงต่ำ
“มีคนบ้าสองคนหยิบเอาเงินก่อนใหญ่มาเลี้ยงคนที่ภัตตาคารให้กินแตงกวา เป็นธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนทั้งหมด คนเดินถนนทั้งหมดต่างก็วิ่งไปเพื่อเอาเงิน”
พวกลูกน้องมองไปที่ธนบัตรสองใบที่เขาเพิ่งนำกลับมาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม แต่พลันนึกได้ว่าพวกเขาทำงานไม่สำเร็จ บทลงโทษของเฮ่อเหลียนเช่อ รอยยิ้มของเขาก็เจื่อนลงไปทันที
เฮ่อเหลียนเช่อโมโหจนตบลงไปที่มุมโต๊ะหนึ่งที โอหยางสยงที่อยู่ข้างกายตื่นตกใจจนตัวสั่นไปหมด เมื่อวานพวกเขาและหานซู่ฉินสนุกกันอยู่หลายชั่วโมง ตอนนี้กำลังสะอิดสะเอียนอยู่พอดี!
ต้องการเด็กผู้หญิงที่สดใหม่ที่น่าอร่อยถูกปากอย่างจ้าวเหมยมาปลอบใจด่วน!
เฮ่อเหลียนเช่อโทรศัพท์หาจ้าวอิงสยงอีกครั้ง ใช้อำนาจขมขู่ใส่ จ้าวอิงสยงไหนเลยจะกล้าฝ่าฝืน รับปากอย่างเต็มปากเต็มคำว่าจะไปที่ภัตตาคารด้วยตัวเอง แล้วจะพาจ้าวเหมยออกมา
ส่วนการหายตัวไปของหานซู่ฉิน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคนนึกถึง
เหยียนหมิงซุ่นก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องเช่นกัน พอได้ยินว่ามีคนบ้ามาโปรยเงินนั่นคือเซียวเซ่อและสยงมู่มู่ เขาก็อดยิ้มไม่ได้ ใช้เงินแก้ปัญหาช่างเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!
“เฝ้าติดตามตามทางออกทั้งหมดของภัตตาคารให้ดีก็พอ เรื่องอื่นๆไม่ต้องไปสนใจ!” เหยียนหมิงซุ่นออกคำสั่ง
ดูตามสถานการณ์ในตอนนี้ คนของเขาคงไม่จำเป็นต้องออกหน้าแล้ว
ต่อให้เฮ่อเหลียนเช่อจะประมาทเลินเล่อแค่ไหน ก็คงไม่กล้าทำความชั่วโดยลักพาตัวเหมยเหมยไปอย่างโจ่งแจ้งอย่างไร้ยางอายต่อหน้าผู้คนที่จับตามองอยู่หรอก ยิ่งไปกว่านั้นคุณปู่จ้าวก็น่าจะมาถึงที่นี่ในเร็วๆนี้
เหมยเหมยที่อยู่บริเวณชั้นสองก็ยังพบความผิดปกติจากด้านนอก เธอรีบถามบริกรว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อบริกรพูดถึงท่าทางของคนบ้าทั้งสอง เหมยเหมยก็รู้เลยว่าเป็นใคร ความทุกข์ใจที่เดิมทีมีอยู่ก็พลัยมลายหายไปราวกับควันหายไปท่ามกลางอากาศ
ชาตินี้มีเพื่อนที่ดีที่จริงใจอย่างเซียวเซ่อและสยงมู่มู่ มีความสำคัญมากกว่าญาติพวกนั้นตั้งหลายร้อยเท่า!
…………………………………………