ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1148 ละครสนุกๆเพิ่งจะเริ่ม + ตอนที่ 1149 ใบหน้าที่แท้จริง
ตอนที่ 1148 ละครสนุกๆเพิ่งจะเริ่ม
คนในภัตตาคารเยอะขึ้นเรื่อยๆ ด้านล่างคนแน่นเบียดเสียด เซียวเซ่อขึ้นไปชั้นบน ให้สยงมู่มู่เฝ้าดูชั้นล่าง เธอจะขึ้นไปกันที่ชั้นบน
เชอะ เธอปิดกั้นทางออกทุกทางแล้ว ดูสิว่าคนของเฮ่อเหลียนเช่อสารเลวนั่นจะพาเหมยเหมยไปยังไง!
ด้านนอกประตูห้องมีเสียงใสไพเราะของเซียวเซ่อร้องเรียกเสียงดัง “รีบออกมารับเงินกันเร็ว วันนี้ฉันมาฉลองวันเกิด ตั้งใจที่ออกมาโปรยเงินเลยนะ รีบ ๆ เร็วเข้า……”
ลูกค้าชั้นล่างต่างก็ไล่ตามกันขึ้นมา พวกเขาค้นพบแล้วว่า คนบ้าที่โปรยเงินสองคนนี้ หน้าตาดูดีมากก็จริง เงินมีมากก็จริง แต่โง่ทึ่มเสียจริง
ไม่รู้จักเก็บออม!
โอกาสดีๆแบบนี้ พวกเขาจะไม่รับได้อย่างไร?
ใครไหนเลยจะรู้ว่า คุณหนูใหญ่เซียวกำลังรอใช้ประโยชน์จากพวกคุณอยู่!
ชั่วพริบตาทางเดินชั้นสองก็ถูกปิดกั้นด้วยฝูงชน แม้แต่ประตูห้องของเหมยเหมยก็ถูกชนให้เปิดออก ไม่มีใครสนใจทั้งสิ้น เพราะอะไรนะเหรอ?
เพราะว่าบริกรต่างก็ไปแย่งเอาเงินกันหมดแล้วไง!
บริกรเหล่านี้ได้เงินเดือนแค่เพียงสองร้อยหยวนต่อเดือน แต่ทุ่มแรงกายใช้ประโยชน์จากสถานที่เอาเปรียบแห่งนี้คว้าเงินมาได้เกือบพันหยวน คนโง่เท่านั้นแหละที่จะภักดีต่อหน้าที่ของตนในเวลานี้!
ไม่เห็นว่าผู้จัดการต่างก็ไปแย่งเอาเงินด้วยเหรอ!
คุณย่ายังคิดจะโน้มน้าวให้เหมยเหมยดื่มน้ำส้ม เธอคุยกับจ้าวอิงสยงเอาไว้แล้ว ว่าจะใส่ยาลงไปในน้ำส้ม หลังจากนั้นก็รอเหมยเหมยมึน คนของเฮ่อเหลียนเช่อจะมาพาเหมยเหมยไป โดยยังไม่รู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำ!
แต่นังเด็กสมควรตายนี่ก็ไม่รู้เป็นอะไร หาคำพูดดี ๆ พูดไปหมดแล้วก็ยังไม่ยอมดื่มน้ำส้ม แม้กระทั่งผักก็ยังไม่กินสักคำ พูดแค่เพียงว่าเพิ่งจะกินข้าวกลางวัน ยังอิ่มอยู่
“บริกรล่ะ? ทำไมถึงให้คนอื่นทะเล่อทะล่าเข้ามาได้แบบนี้? รีบออกไปนะ!”
คุณย่ามองคนที่พุ่งเข้ามาในห้องสิบกว่าคนโดยความโกรธ ทุกคนต่างถือแตงกวาแทะ แทะจนน้ำไหลกระเด็นไปหมด แถมยังทำหน้ามีความสุข เหมือนกับได้กินลูกท้อศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน
“สาวน้อย ฉันกินแตงกวาหมดไปอันหนึ่งแล้ว!
มีคนโชว์ก้านแตงกวาให้เซียวเซ่อดู ในไม่นานก็ได้ธนบัตรร้อยหยวนหนึ่งใบ คนคนนี้ดีใจจนหุบยิ้มไม่ลง สัมผัสแขนเสื้อเบาๆ ราวกับมีเวทมนตร์ออกมาจากถุง จากนั้นก็หยิบแตงกวาสีเขียวกรอบออกมาหนึ่งอัน เขารีบกัดกรุบกรุบในทันที
แตงกวาหนึ่งอันหนึ่งร้อยหยวน เขาแทะสิบอันก็ได้เงินหนึ่งพันหยวน เงินเดือนของครึ่งปีเลยนะ!
โชคดีที่เขายังไม่ได้กินข้าวกลางวัน เงินนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะพระเจ้าโปรยมาหรอกเหรอ!
คนอื่นก็ไม่น้อยหน้า เสียงเคี้ยวกรุบรับดังขึ้นไม่หยุดอย่างเป็นทำนองราวกับเสียงดนตรีก็ไม่ปาน ถือว่าไพเราะมากทีเดียว
เซียวเซ่อเห็นเหมยเหมยที่นั่งตัวตรงแล้ว หันไปขยิบตาใส่เธออย่างซุกซน เหมยเหมยก็ส่งสายตามีเสน่ห์กลับไปให้ ทั้งสองสาวต่างก็ยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ
“บ้ากันไปหมดแล้ว ทุกคนบ้ากันไปหมดแล้ว เหมยเหมยรีบดื่มน้ำส้มให้หมดเร็วเข้า พวกเราไปเดินช็อปปิ้งกัน” คุณย่าเริ่มรู้สึกไม่ดี แต่เธอยังจำคำพูดกำชับของลูกชายได้ ว่าอย่าลืมโน้มน้าวให้เหมยเหมยดื่มน้ำส้ม
“ดื่มน้ำส้มไปก็ไม่ได้เงิน หนูก็ไปแทะแตงกวาดีกว่า หนึ่งอันได้ตั้งหนึ่งร้อยหยวนแหน่ะ!”
เหมยเหมยแค่ดูสถานการณ์เช่นนี้ก็รู้ว่าวันนี้พ้นจากอันตรายแล้ว ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ เฮ่อเหลียนเช่อคงไม่มีฝีมือขนาดแย่งชิงคนไปได้
เธอขี้เกียจที่จะมองใบหน้าบึ้งตึงของคุณย่าแล้ว เบียดแทรกตัวมาถึงหน้าของเซียวเซ่ออย่างรวดเร็ว ถามเสียงเบาว่า “เงินพอไหม?”
“น่าจะพอ ถ้าเธอมีก็เอามาอีกหน่อย”
เหมยเหมยหยิบสองหมื่นหยวนออกมาจากกระเป๋าเป้ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เล็กน้อยแค่นี้ แต่ถ้าหยิบมามากเกินไป กลัวว่าจะมีคนสงสัย อันที่จริงที่เธอหยิบเงินมาสองหมื่นหยวนก้ทำเอาคนอื่นต่างสงสัยเช่นกัน
สายตาของผู้คนที่เบียดเสียดห้อมล้อมตรงนั้นต่างก็มองมา แม่เจ้า สาวสวยสองคนนี้ทำงานโรงพิมพ์ธนบัตรหรือไง?
“ตอนนี้เป็นจังหวะที่ดีที่จะหนี ไปไหม?” เซียวเซ่อถาม
เหมยเหมยส่ายหัว “ไม่รีบ ละครสนุกๆเพิ่งจะเริ่มเอง ใช่แล้ว คุณปู่ของฉันล่ะ ทำไมถึงยังไม่มา?”
…………………………………………..
ตอนที่ 1149 ใบหน้าที่แท้จริง
เซียวเซ่อบอกว่าคุณปู่จ้าวมีธุระให้ออกไปข้างนอก เหมยเหมยขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ เหตุผลที่เธอกล้าเสี่ยงอันตรายออกมาในวันนี้ จุดประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดก็คือให้คุณปู่ได้รู้ธาตุแท้ของคุณย่าและจ้าวอิงสยง
แต่ตอนนี้คุณปู่ไม่อยู่ แผนเธอครั้งนี้ก็เสียเปล่าแล้ว!
“ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ น่าเสียดายจริงๆ” เหมยเหมยรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง เธออยากจะเห็นจริง ๆ ว่าหลังจากที่คุณปู่โดนตบหน้า จะมีสีหน้าเช่นไร?
โทรศัพท์เร่งให้มาเมืองหลวงครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าไม่ควรอกตัญญู ยังพูดอีกว่าคำว่าจ้าวต้องรักใคร่กลมเกลียว ถ้าจะเจริญรุ่งเรืองก็เจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ร่วงก็ร่วงไปด้วยกัน บอกเธอและพ่อแม่อย่าเฉยเมยจนเกินไป……
คำพูดพวกนี้เป็นคำพูดที่คุณปู่เคยพูดทั้งหมด กล่าวหาว่าในช่วงสามปีที่ผ่านมานี้ครอบครัวของเธอตีตัวออกห่างจากตระกูลจ้าวที่สุด
เมื่อยืนอยู่บนความชอบธรรม ครอบครัวของเธอก็จนปัญญาที่จะสามารถโต้แย้งคุณปู่ได้ ทำได้แค่เพียงยอมรับคำตำหนิเหล่านี้ แต่เธอกลับยากที่จะทำใจยอมรับได้
มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายเธอ แถมจะให้เธอต้องแบกรับคำประนามอีก?
ต่อให้คุณปู่ไม่มีใจที่คิดจะทำร้าย แต่เขากลับปล่อยให้ฆาตกรพวกนี้ทำผิดโดยไม่ห้ามปราม เขาปัดความรับผิดชอบนี้ไม่ได้
หลายวันมานี้คู่สามีภรรยาจ้าวอิงสยงใช้เล่ห์เพทุบายไม่จบไม่สิ้น เธอไม่เชื่อว่าคุณปู่จะไม่สังเกตเห็น แต่คุณปู่คนนี้กลับไม่แยแส ไม่คิดทำอะไรเลยสักอย่าง ถ้าไม่รู้ยังคิดว่าคุณปู่เป็นคนคอยกำกับอยู่เบื้องหลังเสียอีก!
แน่นอนว่าตามที่เหมยเหมยมอง คุณปู่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวผู้เลอะเลือนแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับคนคอยกำกับ ทำให้ยิ่งเกลียดขึ้นไปอีก!
ดังนั้นเธออยากจะให้คุณปู่ได้เห็นเองกับตาว่าญาติพี่น้องของเขาที่พูดว่าคำว่าจ้าวต้องรักใคร่กลมเกลียวมีตัวตนธาตุแท้อย่างไร ดูสิว่าเขายังจะมีหน้าพูดจาที่น่าสะอิดสะเอียนพวกนี้อีกไหม!
แต่คุณปู่ไม่มา ต่อให้เธอคาดการณ์ไว้ดิบดีแค่ไหน แผนการก็จนปัญญาที่จะดำเนินการต่อ เหมยเหมยเตรียมที่จะออกไปกับเซียวเซ่อ จ้าวอิงสยงที่หัวเต็มไปด้วยเหงื่อก็เบียดเสียดเข้ามา
อันที่จริงเขาอยู่ใกล้ๆกับภัตตาคารนี่แหละ ดังนั้นเขาถึงได้มาถึงอย่างรวดเร็ว
เซียวเซ่อสายตาดีมาก เห็นจ้าวอิงสยง เธอก็รีบเดินไปอีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้จ้าวอิงสยงเห็นเธอ
เหมยเหมยก็ยกเลิกความคิดที่จะหนีไป อยากจะดูอยู่เหมือนกันว่าจ้าวอิงสยงยังคิดจะทำอะไร
จ้าวอิงสยงเห็นว่าเหมยยังแข็งแรงมีชีวิตชีวาอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจคุณแม่ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำไม่ได้ ช่างไม่มีประโยชน์เสียจริงๆ!
“คุณลุงรองก็มากินข้าวด้วยเหรอ?” เหมยเหมยมองไปที่จ้าวอิงสยงที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม แล้วก็มองไปทางคุณย่า
จ้าวอิงสยงไล่คนในห้องออกไป ภายในห้องเงียบสงัดลงในพริบตา เขาล็อกประตูเสร็จก็นั่งลงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มองเหมยเหมยด้วยสายตาน่ากลัว
ฝั่งเฮ่อเหลียนเช่อให้เวลาเขาแค่เพียงหนึ่งชั่วโมง เขาก็เลยไม่อ้อมค้อมอะไรทั้งนั้นแล้ว หลานสาวคนนี้ไม่ฟังอะไรใคร พูดมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
“เหมยเหมย ลุงรองหาคู่ครองตระกูลผู้ดีมาแนะนำ คุณชายเช่ออยากจะพูดคุยกับเธอดี ๆ หลานก็ตามลุงไปด้วยกันดีๆเถอะ!” จ้าวอิงสยงก็ขี้เกียจจะเสแสร้งทำเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจเมตตาอ่อนโยนแล้ว แสดงสีหน้าดุดันใส่
เหมยเหมยก็ไม่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอีก ส่งเสียงยิ้มเยาะ “คุณลุงรองช่างไร้ยางอายจริงๆ เฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนแบบไหน ลุงคิดว่าหนูไม่รู้เหรอ? คู่ครองดี ๆ แบบนี้เอาไว้ให้ภรรยาของลุงเองเถอะ”
คุณย่าตำหนิเสียงสูงว่า “นังเด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ทำไมถึงได้พูดกับลุงรองแบบนั้น?”
“คนที่เลวยิ่งกว่าหมูกว่าหมาแบบเขา สัตว์เดรัจฉานที่ขายหลานสาวแท้ๆ ตัวเองได้ เขาควรค่าแก่การเคารพด้วยเหรอ? คุณย่าก็อย่าได้ใจจนเกินไป ไอโรคจิตวิปริตเฮ่อเหลียนเช่อคนนั้นไม่ชอบคนหนังเหี่ยวๆแบบคุณย่า ไม่อย่างนั้นคุณย่าก็อาจจะโดนลูกชายตัวดีของคุณย่าขายให้ก็ได้!”
เหมยเหมยไม่แย่แสอะไรทั้งนั้นแล้ว ด่าสองแม่ลูกคู่นี้ไม่เหลือชิ้นดี ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย
คุณย่าอ้าปากค้างพะงาบ ๆ ด้วยความโกรธ คว้าจานบนโต๊ะแล้วโยนไปที่เหมยเหมย “เด็กเวร……ตอนนั้นฉันไม่ควรไปรับแกกลับมาเลย……”
เหมยเหมยหลบจานที่ขวางมาอย่างง่ายดาย พูดประชดประชันว่า “คิดว่าหนูอยากจะกลับมาให้พวกคุณขายหนูเหรอ?”
จ้าวอิงสยงก็โมโหไม่เบาเหมือนกัน ใบหน้าของเขาดุร้ายโหดเหี้ยม ค่อย ๆ เดินไปเบื้องหน้าเหมยเหมย เส้นเลือดที่มือขึ้นปูด
เวลาที่เฮ่อเหลียนเช่อให้น้อยลงเรื่อย ๆ เขาถ่วงเวลาไม่ได้แล้ว ยัยเด็กสมควรตายนี่เป็นพวกดื้อด้าน วันหลังต่อให้แต่งเข้าตระกูลดี ๆ ก็คงไม่คิดตอบแทนเขา ไม่สู้ว่าใช้ประโยชน์ตอนนี้จะดีกว่า
………………………………………..