ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1166 หยั่งเชิงอีกครั้ง + ตอนที่ 1167 ต่างก็เริ่มสงสัย
ตอนที่ 1166 หยั่งเชิงอีกครั้ง
ตอนบ่ายเหมยเหมยก็ยังไม่ได้กลับเมืองจิน พวกจ้าวอิงหัวมา ถ้าเธอกลับไปคงไม่เหมาะสมนัก ถึงแม้ว่าหล่อนไม่ยินดีที่จะอยู่ในเมืองหลวงต่อเลยก็ตาม
อาการของคุณย่าไม่ดีมากจริง ๆ ทั้งที่วันก่อนอาการดูไม่ได้หนักขนาดนี้ ผ่านไปแค่คืนเดียวเท่านั้นอาการก็สาหัสถึงเพียงนี้ เหลือเชื่อเลยจริง ๆ
คุณหมอบอกว่าแผลบนตัวคุณยายอักเสบ ทำให้ตัวร้อน ทำให้อวัยวะภายในทำงานได้ไม่ค่อยดีนัก คุณหมอพูดศัพท์ทางการแพทย์มาเยอะมาก เหมยเหมยฟังรู้เรื่องแค่ว่าที่คุณย่าเป็นอย่างนี้ เหตุผลส่วนใหญ่มาจากเพราะกระดูกเชิงกรานหัก แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็มาจากแส้ที่เธอฟาดไปด้วย
พูดอีกอย่างก็คือถ้าคุณย่าเสียชีวิต เธอก็จะกลายเป็นฆาตกรทางอ้อม
นี่คือสิ่งที่คุณหมอพูดมาน่าจะเป็นความต้องการของคุณปู่ด้วยแหละ ตอนนี้คนในตระกูลจ้าวมองเธอด้วยสายตาประหลาด มีแต่สยงมู่มู่เท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม
แน่นอนว่าเหมยเหมยไม่สนใจ ตอนนั้นเธอทำเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง ถึงแม้จะรู้ว่าฟาดแส้ลงไปแล้วจะทำให้คุณย่ามีอันตรายถึงชีวิต เธอก็ยังคงไม่ลังเลใจ
ตอนนั้นคุณย่ากับจ้าวอิงสยงต่างก็เป็นศัตรูของเธอ ถ้าใจอ่อนกับศัตรูก็ถือว่าโหดร้ายกับตัวเอง เธอไม่ใช่พระแม่มารี และยิ่งไม่ใช่พระพุทธเจ้าด้วย
เหมยเหมยมองความวุ่นวายของบ้านตระกูลจ้าวด้วยสายตาที่เฉยชาราวกับมองคนแปลกหน้า ไม่เข้าใกล้คุณย่าเลยแม้แต่น้อย อาการของคุณย่าไม่ดีขึ้นเลย ดูท่าแล้วครั้งนี้คงจะไม่รอด
คุณหมอได้บอกให้เตรียมเรื่องงานหลังจากนี้ไว้ คุณปู่เหมือนแก่ลงนับสิบปี ผมขาวโพลน หลังโก่งโค้งมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้ดูน่าเกรงขามเหมือนอย่างแต่ก่อน มองดูแล้วน่าสงสารมาก
แต่เหมยเหมยก็จะไม่มีทางใจอ่อน ต่อให้เฮ้อเหลียนชิงไม่เตือนเธอเธอก็ไม่ใจอ่อนอยู่ดี เธอไม่อยากให้ตัวเองต้องตกอยู่ในอันตรายอีก
จ้าวอิงหัวสองสามีภรรยามาถึงเมืองหลวงในเวลากลางวันของวันถัดไป คนที่มาด้วยคือจ้าวอิงหนานสองสามีภรรยา พอเห็นคุณยายที่กำลังป่วยหนัก พวกเขาก็ดูมีท่าทีกังวลใจ
อย่างไรเสียก็เป็นแม่แท้ ๆ ถึงแม้จะมีความโกรธแค้นมากมาย แต่มาจนถึงตอนนี้แล้วก็เหลือแค่เพียงความเจ็บปวดเท่านั้น
พวกพี่น้องจ้าวเสวียหลินก็ทยอยกันกลับมา ขาดเพียงแต่จ้าวอิงสยงสองสามีภรรยาเท่านั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่บ้านตระกูลจ้าวมาพร้อมหน้ากันได้ถึงเพียงนี้
พี่ใหญ่จ้าวเสวียเฟิงกับพี่รองจ้าวเสวียเฉิง เหมยเหมยเคยเจอพวกเขาเพียงครั้งสองครั้งเท่านั้นเคยคุยด้วยไม่กี่คำ แต่กับจ้าวเสวียไห่ยังมีความสนิทสนมกันอยู่บ้าง แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูน่ากระอักกระอ่วนนัก
จ้าวเสวียเฟิง จ้าวเสวียเฉิง และจ้าวเสวียไห่เป็นสามพี่น้องลูกชายของหานซู่ฉินกับจ้าวอิงสยง เรื่องของจ้าวอิงสยงยังไม่เท่าไรเขาทำตัวเอง แต่รูปฉาวของหานซู่ฉินที่แพร่กระจายไปทั่วเกี่ยวข้องกับเหมยเหมยเต็ม ๆ
พอเห็นสีหน้าของพวกจ้าวเสวียไห่แล้ว เหมยเหมยก็รู้เลยว่าทั้งสามพี่น้องต้องเห็นภาพพวกนั้นแล้วแน่
พอนึกถึงว่าจ้าวเสวียไห่ดีต่อหล่อนในวัยเด็ก เหมยเหมยก็ลอบถอนหายใจยาว หล่อนไม่เสียใจที่ทำอย่างนั้นกับหานซู่ฉิน หล่อนเพียงรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ต้องสูญเสียพี่ชายไปหนึ่งคน
ตกดึกจ้าวอิงหัวตั้งใจมาหาเหมยเหมยมองลูกสาวตัวเองด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน เมื่อสักครู่คุณปู่เรียกเขาไปพบ ได้พูดถึงเรื่องที่จะให้เหมยเหมยช่วยคุณย่าอีกครั้งหนึ่ง เขาเถียงกลับไปอย่างไม่ลังเลใจ
ลูกสาวของเขาไม่ใช่เจ้าแม่กวนอิมเสียหน่อย คุณหมอก็บอกแล้วว่าไม่รอด เธอจะช่วยแม่เขากลับมามีชีวิตได้อย่างไร
แต่คุณปู่กลับพูดเป็นตุเป็นตะ พอคิดถึงเรื่องที่ในช่วงหลายปีมานี้เขากับภรรยาสุขภาพดีขึ้นมากจนน่าตกใจ จ้าวอิงหัวก็เริ่มสงสัย หรือว่าลูกสาวของเขาจะเป็นนางฟ้าที่มาจากสวรรค์จริง ๆ
“เหมยเหมย คุณปู่บอกว่าลูกสามารถช่วยคุณย่าให้หายได้” จ้าวอิงหัวถาม
เหมยเหมยหัวเราะกับตัวเอง คุณปู่ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ คิดจะให้จ้าวอิงหัวมาถามหยั่งเชิงเธออีก หากว่าหล่อนไม่ได้มาเกิดใหม่ก็อาจจะหลุดปากพูดไปแล้ว เพราะชาติที่แล้วเธอโง่สิ้นดี
“ทำไมคุณปู่พูดแบบนั้นล่ะคะ หนูไม่ใช่หมอเสียหน่อยจะช่วยคุณย่าได้อย่างไรกัน คุณพ่อก็เลอะเลือนเหมือนคุณปู่แล้วหรือไงคะ” เหมยเหมยพูดด้วยท่าทีเกินจริง
………………………………………………
ตอนที่ 1167 ต่างก็เริ่มสงสัย
อาการของคุณย่าแย่ลงทุกวัน ตอนนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแล้ว ถึงแม้จะเป็นนายแพทย์ฮว่าถัวกลับชาติมาเกิดก็คงไร้หนทางจะช่วยชีวิตได้
บ้านตระกูลจ้าวกำลังอยู่ในความโศกเศร้า บรรยากาศอึมครึมราวกับติดอยู่ในโคลนตมทำให้คนต่างรู้สึกไม่ดีนัก เหมยเหมยไม่อยากอยู่บ้านเพราะต้องเผชิญหน้ากับพวกจ้าวเสวียไห่จนรู้สึกอึดอัด กลางวันจึงไปนั่งเล่นกับเซียวเซ่อที่บ้านตระกูลเซียว น่าเสียดายที่ฮ่องเต้กับไทเฮาไม่อยู่ทำให้ขาดสีสันไปหน่อย
“ดูท่าแล้วคงต้องรอให้คุณย่าขึ้นสวรรค์ก่อน เธอถึงจะสามารถกลับเมืองจินได้” เซียวเซ่อพูดขึ้น
เหมยเหมยพยักหน้าด้วยความเบื่อหน่าย กระซิบข้างหูหล่อนเบา ๆว่า “ยืดเยื้อแบบนี้มันน่ารำคาญจริง ๆจะว่าก็ว่าเถอะควรจะถอดเครื่องช่วยหายใจให้เขาได้ไปสบายเสียที”
เมื่อชาติที่แล้วหล่อนเคยได้ยินรายงานข่าวว่าการใส่เครื่องช่วยหายใจนั้นทรมานมาก คนไข้ไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่ยังมีสติดีอยู่ เป็นอารมณ์ที่อยากตายแต่ตายไม่ได้ ญาติไม่สามารถเข้าใจได้เลย ในต่างประเทศจึงเสนอให้มีการุณยฆาตขึ้นมาอย่างถูกต้อง แต่แค่ภายในประเทศนี้ยังเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายอยู่เท่านั้นเอง
ตอนนี้คุณย่าพึ่งพาแค่เครื่องช่วยหายใจให้มีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจออกก็จะสิ้นลมหายใจในทันที แต่แค่คำนี้ไม่มีใครกล้าพูดออกมา
คุณหมอก็ไม่กล้า เหมยเหมยยิ่งไม่กล้า
มีเพียงแค่คุณปู่เท่านั้นที่มีสิทธิ์พูดคำนี้ แต่ว่าเขาต้องการใช้คุณย่าเพื่อมาหยั่งเชิงเหมยเหมย คงอยากจะให้คุณย่ามีชีวิตอยู่ต่อ แล้วเขาจะพูดคำนี้ออกมาได้อย่างไรกัน
“บ้านตระกูลจ้าวเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยอันตรายจริง ๆ เท่าที่ฉันดูมาไม่มีใครดีสักคน” เซียวเซ่อพูดอย่างไม่แยแส
เหมยเหมยก็คิดเช่นนั้นเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าพวกจ้าวอิงหย่งจะไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย แต่ตั้งแต่ต้นจนจบมีแต่อันหย่าฟางที่เตือนด้วยคำพูดคลุมเครือเพียงประโยคเดียวเท่านั้นและไม่ได้มีท่าทีอะไรอีก มองดูดายไม่คิดจะช่วยอะไรสักนิด
“ตอนนี้ก็รอคุณย่าขึ้นสวรรค์แล้วฉันก็จะกลับเมืองจิน เข้ามาเมืองหลวงให้น้อยหน่อยจะดีกว่า จะไปมาหาสู่กับพวกเขามากไม่ได้” เหมยเหมยเล่าถึงแผนการของตัวเอง
เซียวเซ่อขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเพื่อนตัวเองไม่ได้เรื่องเสียเลยจริง ๆ แต่พอนึกถึงโรคจิตเฮ่อเหลียนเช่อ หล่อนก็รู้สึกว่าไม่มาแหละดีแล้ว ใครจะไปรู้ว่าตาบ้านั่นจะบ้าขึ้นมาอีกเมื่อไร
“ครั้งนี้บ้านตระกูลจ้าวของพวกเธอเจอเคราะห์ใหญ่ ฉันว่าคนที่น่าจะดีใจที่สุดน่าจะเป็นโอหยางซานซานแล้วล่ะ กลับไปเมืองจินครั้งนี้เธอต้องระวังตัวหน่อยนะ” เซียวเซ่อเตือน
“ไม่กลัวหรอก เธอลืมไปแล้วเหรอในมือของฉันยังมีภาพถ่ายของเธออยู่” เหมยเหมยยักคิ้วให้กับเพื่อน เซียวเซ่อเพิ่งนึกถึงรูปถ่ายเมื่อสามปีก่อนได้จึงหัวเราะออกมา
ทางฝั่งเฮ่อเหลียนเช่อก็เฝ้าสังเกตการณ์บ้านตระกูลจ้าวตลอดเวลา การกระทำคำพูดทุกอย่างของตาแก่จ้าวไม่สามารถรอดพ้นไปจากสายตาเขาได้
“ตาแก่จ้าวให้จ้าวเหมยช่วยคุณย่าเหรอ เขาไม่ได้บ้าไปแล้วใช่ไหม” เฮ่อเหลียนเช่อรู้สึกขบขัน แต่ไม่นานนักเขากลับหัวเราะไม่ออก แล้วมีท่าทีที่สงบนิ่งขึ้นมาในทันที
เขานึกถึงฉิวฉิว กระรอกขนสีขาวที่แลดูฉลาดมากต่างจากสัตว์ทั่วไป แล้วเขายังคิดถึงเรื่องที่โอหยางสยงเคยพูดไว้ว่า จ้าวเหมยสามารถใช้พิษได้ หานป๋อหย่วนโดนยัยนั่นเล่นงานเสียกลายเป็นท่อนไม้ไปเลย เมื่อสามปีที่แล้วที่สโมสรเขาก็ได้เห็นฝีมือของยัยผู้หญิงคนนี้แล้วเหมือนกันไม่ใช่เหรอ
ดูท่าแล้วในตัวจ้าวเหมยต้องมีความลับอะไรบางอย่างจริง ๆ
ไม่แน่อาจจะมียาวิเศษที่ทำให้คนอายุยืนยาว พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นเฮ่อเหลียนเช่อก็พลันรู้สึกมีความสุขขึ้นมา ความหวังของหนิงเฉินเซวียนก็คือมีอายุยืนยาวกว่าตาแก่นั่น แต่ว่าคุณลุงของเขาสุขภาพไม่ค่อยดีจะตายเมื่อไรก็ไม่รู้
ถ้าหากว่าเขาสามารถหาความลับในตัวจ้าวเหมยเจอจนทำให้คุณลุงมีอายุยืนยาว อย่างนี้พอคุณลุงมีความสุข คุณลุงก็คงจะไม่ขัดขวางเรื่องของเขากับเหมยซูหาน
เฮ่อเหลียนเช่อวางแผนอยู่ในใจแล้วกวักมือเรียกลูกน้องมาสั่งการลงไป บนใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ตาแก่จ้าวโง่จะตายไป ย่าแก่ ๆแบบนั้นจ้าวเหมยจะสนใจได้ไง ถ้าจะจัดการก็ต้องจัดการคนที่จ้าวเหมยให้ความสนใจสิ
ขอเพียงแค่จ้าวเหมยมียาวิเศษจริง ๆ เธอต้องหลุดอะไรมาบ้างแน่
…………………………………………………