ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1168 โชคสองชั้น + ตอนที่ 1169 พายุพัดโหมกระหน่ำ
ตอนที่ 1168 โชคสองชั้น
หวงอวี้เหลียนรู้ข่าวในเมืองหลวง เธอดีใจเสียยิ่งกว่าใคร บ้านตระกูลจ้าวได้รับเคราะห์กรรมเสียที
ช่วงนี้มีเรื่องดี ๆเกิดขึ้นไม่ขาดเลยจริง ๆ
แต่ว่าน่าเสียดายเหอปี้อวิ๋นใช้การไม่ได้แล้ว คนที่ควรฆ่าดันไม่ตายกลับไปฆ่าคนอื่นตายเสียอย่างนั้น น่าเสียดายเสียหมากดี ๆตัวหนึ่งอย่างสูญเปล่าแท้ ๆ
แต่ก็ไม่เป็นไรตอนนี้หล่อนไม่ต้องกลัวบ้านตระกูลจ้าวอีกต่อไปแล้ว ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ของจ้าวอิงหัวก็น่าจะต้องเปลี่ยนคน อีกหน่อยหล่อนก็จะมีโอกาสจัดการยัยจ้าวเหมยแล้ว
โอหยางซานซานดีใจยิ่งกว่าหวงอวี้เหลียน ในที่สุดก็สามารถเหยียบจ้าวเหมยผู้หยิ่งผยองได้เสียที น่าเสียดายที่ยัยนั่นตอนนี้ยังอยู่ที่เมืองหลวง ไม่เช่นนั้นเธอจะไปเยาะเย้ยจ้าวเหมยให้สมกับความอัดอั้นที่อยู่ในใจ
“ซานซาน รีบเก็บของเร็ว เราจะไปเมืองหลวงกัน”
โชคดีมักจะมาพร้อมกันสองชั้นเสมอ โอหยางซานซานเพิ่งจะรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถไปเยาะเย้ยจ้าวเหมยได้อย่างทันท่วงที หวงอวี้เหลียนมาแจ้งข่าวเรื่องจะไปเมืองหลวง บอกว่าสำนักพิมพ์วันพลัสโทรมาเมื่อครู่บอกว่างานขายหนังสือที่ฮ่องกงจะเลื่อนเวลาออกไปจะจัดงานที่เมืองหลวงก่อน
โอหยางซานซานดีใจสุด ๆ ขอแค่งานขายหนังสือประสบความสำเร็จเธอก็จะมีชื่อเสียงโด่งดังกลายเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียง ยัยโง่จ้าวเหมยจะเอาอะไรมาเทียบกับเธอได้
ครั้งนี้ไปเมืองหลวงหล่อนจะเหยียบจ้าวเหมยให้จมดิน ให้หล่อนได้รู้เสียบ้างว่าคนที่หัวเราะคนสุดท้ายต่างหากจึงจะเป็นผู้ชนะ
สำหรับเรื่องงานขายหนังสือจะมีคนมาร่วมงานไหมนั้น โอหยางซานซานไม่กังวลใจเลยแม้แต่น้อย เพราะหวงอวี้เหลียนจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเธอมีพร้อมทั้งหน้าตาและความสามารถ ชาติตระกูลก็ดี คนอื่นจะไม่นับหน้าถือตาเหรอ
จะไม่มีคนมาซื้อหนังสือได้อย่างไร
กลัวก็แต่พอถึงตอนนั้นจะมีคนแน่นเบียดเสียดจนไม่หวาดไม่ไหวมากกว่า
ครั้งนี้จ้าวอิงหัวตอบกลับคุณปู่แค่ว่าเหมยเหมยไม่มีวิธีรักษาคุณย่าได้
“พ่อครับ พ่อคิดได้อย่างไรกันว่าเหมยเหมยจะรักษาแม่ให้หายได้ ให้ผมไปหาหมอกู้ไหม แต่ก่อนหมอกู้ก็เป็นคนรักษาซินหย่าให้หายดี”
ถึงแม้ว่าในใจจ้าวอิงหัวจะเริ่มสงสัยแต่เขาไม่มีทางขายลูกสาวแน่ ตอนนี้คุณปู่ทำให้เขาคาดเดาอะไรไม่ได้ มองเจตนาของคุณปู่ไม่ออกยิ่งทำให้เขาต้องยิ่งระมัดระวัง
เรื่องราวที่ลูกสาวเขาต้องพบเจอในช่วงนี้เขารับรู้ทุกเรื่อง ความเห็นแก่ตัวและความโหดร้ายของจ้าวอิงสยงสองสามีภรรยาและคุณย่าทำให้เขาโกรธแค้น ถ้าพูดแบบเนรคุณหน่อย ที่แม่เป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะกรรมที่ทำมาหรอกเหรอ
และโกรธคุณปู่ที่ไม่สนใจอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะความฉลาดของลูกสาวเขาและเหยียนหมิงซุ่นที่คอยปกป้องอยู่ ลูกสาวของเขาอาจจะแย่กว่าหานซู่ฉินก็เป็นได้
ถึงแม้ว่าลูกสาวของเขาจะสามารถช่วยชีวิตของคุณย่าได้จริง จ้าวอิงหัวก็ไม่มีทางให้เหมยเหมยช่วยหรอก อายุขัยของคุณย่ามาถึงแล้วให้ท่านจากไปอย่างสงบเถอะ อย่าสร้างความเดือดร้อนให้เหมยเหมยอีกเลย
เรื่องของหมอกู้ เป็นหมอฝีมือดีที่เหยียนหมิงซุ่นแนะนำมา ฝีมือการรักษาดีมากแต่แค่ไม่อยู่กับที่ หลายปีมานี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน
อีกทั้งเหมือนว่าหมอผู้นี้มีความเป็นมาเหมือนพ่อตาแม่ยายของตัวเอง ประวัติความเป็นมาลึกลับ เขาก็ไม่สามารถตรวจเช็คอะไรได้ รู้แค่ว่าไม่ใช่ศัตรู
เขาก็แค่ตั้งใจพูดถึงหมอกู้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคุณปู่ อาการของคุณย่าตอนนี้จะรอให้คุณปู่หาคุณหมอกู้เจอไหวที่ไหนกัน
คุณปู่มองไปที่จ้าวอิงหัวพลางถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่าพวกแกโกรธแค้นแม่ของแก แต่อิงหัวแกต้องจำไว้ว่า อย่างไรเสียแม่ก็ยังเป็นแม่ที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูแกมา”
จ้าวอิงหัวเจ็บปวดใจเล็กน้อย แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือความโกรธ อดไม่ได้ที่จะพูดเสียดสีออกไปว่า “ผมเห็นว่าเขาเป็นแม่ แต่แม่เคยเห็นว่าผมเป็นลูกบ้างไหม ถ้าในใจเขามีผมเป็นลูกจริง ๆเขาคงไม่วางยาลูกสาวของผม แล้วยังจะส่งลูกสาวของผมให้ไปอยู่ในมือไอ้โรคจิตเฮ่อเหลียนเช่ออีก เขาทำอย่างนี้เป็นการบังคับให้ลูกผมไปตายชัด ๆ”
คุณปู่มองแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นของลูกชายแล้วถอนหายใจ แต่เขายังไม่ถอดใจเพียงเท่านี้หรอก แต่เพียงแค่ต้องไปคิดวิธีที่ดีมาใหม่ หลานสาวของเขาถึงจะยอมแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา
…………………………………
ตอนที่ 1169 พายุพัดโหมกระหน่ำ
ทางฝั่งเหยียนหมิงซุ่นได้รับข่าวแล้ว เฮ่อเหลียนชิงเป็นคนโทรบอกข่าวด้วยตัวเอง
“ยัยเด็กโง่ของแกดูท่าสถานการณ์จะไม่ค่อยดีนัก…” น้ำเสียงของเฮ่อเหลียนชิงดูไม่ได้ทุกข์ร้อนใจนัก และเล่าความคิดของเฮ่อเหลียนเช่อกับคุณปู่จ้าวให้ฟัง
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วแน่น เขารู้ว่าสักวันหนึ่งเรื่องยาวิเศษจะต้องถูกเปิดเผย แต่ว่าเขาแค่คาดไม่ถึงว่าคนที่สงสัยเร็วที่สุดจะเป็นคุณปู่จ้าว อีกทั้งยังล่อเฮ่อเหลียนเช่อคนชั่วมาพัวพันด้วย
ยังดีที่พวกเขายังแค่สงสัย ถ้ายังไม่สามารถหาหลักฐานอะไรที่แน่ชัดได้ เหมยเหมยก็จะยังไม่มีอันตรายใด ๆ
“แกรีบจัดการธุระให้เสร็จแล้วเก็บของกลับเมืองหลวง ถ้ายังไม่มาอีกละก็ยัยเด็กโง่นั่นถูกจับขายแน่ ฉันไม่ช่วยออกหน้าหรอกนะ” เฮ่อเหลียนชิงจีบปากจีบคอพูดด้วยสีหน้ารังเกียจ เสี่ยวเมิ่งที่อยู่ด้านหลังอดยกมุมปากขึ้นไม่ได้
อาการปากไม่ตรงกับใจของนายท่านสาหัสขึ้นทุกวัน
เหยียนหมิงซุ่นสงบนิ่ง ถามหยั่งเชิงว่า “ครั้งนี้ผมกลัวว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเฮ่อเหลียนเช่อตรง ๆเสียแล้ว…”
“เผชิญหน้าก็เผชิญหน้าสิ หรือว่าแกกลัวเจ้ามารหัวขนนั่น ถ้ากลัวก็รีบบอกฉันมาฉันจะได้รีบเปลี่ยนคน…”
เฮ่อเหลียนชิงโมโหขึ้นมาอย่างไร้ต้นสายปลายเหตุกราดด่าชุดใหญ่ ความหมายโดยรวมก็คือถ้าเหยียนหมิงซุ่นไม่กล้าเผชิญหน้ากับเฮ่อเหลียนเช่อ เขาก็จะเปลี่ยนลูกชายนั่นเอง
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจอย่างจนใจ พูดเตือนขึ้นว่า “พ่อบุญธรรม ก่อนหน้านี้พ่อบอกว่าปีกของผมยังไม่แข็งแรงดี ไม่ควรเผชิญหน้ากับเฮ่อเหลียนเช่อโดยตรง”
เฮ่อเหลียนชิงอึ้งไปสักพักคิดขึ้นได้ว่าเหมือนเมื่อก่อนตัวเองจะเคยพูดประโยคนี้ไป ไม่รู้ผีที่ไหนเจาะปากมาพูด เขาด่าด้วยความโกรธปนเขินอายว่า “ฉันบอกแค่ว่าปีกแกยังไม่แข็งแรงพอ หรือว่าตอนนี้ขนแกยังขึ้นไม่ครบหรือไง”
“แน่นอนว่าขึ้นครบแล้วครับ พ่อบุญธรรมโปรดวางใจครับ สามวันหลังจากนี้ผมจะกลับเมืองหลวง”
เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับด้วยความเคารพ แต่เขากลับรู้สึกว่าคำพูดที่เขาพูดมันทะแม่ง ๆแปลก ๆ
เฮ่อเหลียนชิงพึงพอใจเป็นอย่างมาก ได้มอบหมายคำสั่งใหม่ว่า “รวบรวมสติไว้ให้ดี ลูกชายของฉันจะต้องแข็งแกร่งกว่าเจ้ามารหัวขนนั่นเป็นร้อยเท่า จะแพ้ไม่ได้”
เหยียนหมิงซุ่นวางสายลงพลันครุ่นคิด เดิมทีคิดว่าจัดการจ้าวอิงสยงไปได้เรื่องหนึ่งน่าจะจบลง ใครจะไปคิดว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น คลื่นพายุเพิ่งจะเริ่มเหมยเหมยของเขาอยู่ใจกลางของวังวนนั้น ถ้าไม่ระวังแม้แต่นิดเดียวก็จะถูกพายุซัดเข้าไป ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนกลับมาได้อีกตลอดไป
แต่ว่ามีเขาอยู่ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเหมยเหมยได้แม้แต่ปลายเล็บ
“รีบ ๆจัดการให้เรียบร้อย สามวันหลังจากนี้กลับเมืองหลวง” เหยียนหมิงซุ่นออกคำสั่งด้วยท่าทีเคร่งขรึม คาดหวังจะได้เผชิญหน้ากับเฮ่อเหลียนเช่อ แอบรู้สึกดีใจเบา ๆ
สามวันต่อมาที่สนามบินเมืองหลวง
หวงอวี้เหลี่ยนกับโอหยางซานซานเดินออกมาด้วยสีหน้าพออกพอใจ ผ่านมาสามปีแล้วครั้งนี้เหมือนเป็นการหอบชื่อเสียงเกียรติยศกลับบ้านเกิด
“แม่คะ คุณย่ายังไม่ให้เราเข้าบ้านอีกใช่ไหมคะ” โอหยางซานซานรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย คำสาปแช่งของคุณย่าโอหยางเมื่อสามปีก่อนหล่อนยังจำได้ขึ้นใจ
หวงอวี้เหลียนหัวเราะร่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ลูกเป็นคนที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ เอาชื่อเสียงเกียรติยศกลับมาให้บ้านตระกูลโอหยางไม่น้อย คุณย่าคงจะกุลีกุจอรีบมาเอาใจลูกเสียมากกว่า”
โอหยางซานซานค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง รอยยิ้มได้ใจจะหุบอย่างไรอยู่เล่า ใช่แล้วเด็กสาวที่เพียบพร้อมอย่างเธอจะมีตระกูลไหนบ้างไม่อ้าแขนต้อนรับ
สองแม่ลูกมองตากันแล้วก็หัวเราะกวักมือโบกรถแท๊กซี่อย่างมีความสุข มุ่งหน้ากลับไปที่บ้านใหญ่
ได้ยินมาว่าคุณย่าจ้าวอาการไม่ค่อยดีเต็มทีแล้ว แน่นอนว่าพวกเธอจะต้องไปแสดงความเสียใจสักหน่อย อีกทั้งการกลับบ้านในครั้งนี้ต้องได้กลับไปอยู่ที่บ้านใหญ่ โผล่หน้าไปเยาะเย้ยยัยจ้าวเหมยทุกวันสิถึงจะดี
หวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกเพิ่งจะก้าวออกไป เหมยซูหานก็ก้าวออกจากสนามบินตามมาติด ๆ เขาแอบกลับมา เรื่องของบ้านตระกูลจ้าวเขาก็ได้ยินมาเช่นกัน เขาอยากจะกลับมาดูเหมยเหมยว่ามีอะไรที่เขาพอจะช่วยเหลือได้บ้าง
…………………………………………