ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1170 การมาเยือนของหวงอวี้เหลียน + ตอนที่ 1171 ลงมือทันที
ตอนที่ 1170 การมาเยือนของหวงอวี้เหลียน
อาการของคุณย่าในช่วงนี้แย่ลงเรื่อย ๆ คุณหมอได้แจ้งอาการของคุณย่าว่าน่าจะเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันแล้ว คนในตระกูลจ้าวกลับรู้สึกโล่งใจ ในที่สุดก็มีผลออกมาเสียที
เหมยเหมยก็รู้สึกโล่งใจเช่นกัน หล่อนขอลาหยุดมาเพียงหนึ่งอาทิตย์ แต่ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสิบกว่าวันแล้ว ถ้ายังไม่มีข้อสรุปอะไรอีกเธอยังต้องเรียนหนังสืออยู่อีกไหมเนี่ย
ที่สำคัญที่สุดก็คือด้วยไอคิวของเธอ ถ้าไม่ได้ไปเรียนเป็นสิบกว่าวัน เธอจะตามคนอื่นทันได้อย่างไร
หรือว่าจะต้องกลับไปสู่ยุคเด็กที่โหล่ของห้องเหมือนเคย
เมื่อเช้าคุณย่าหายใจไม่ได้เกือบลาจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เธอยังคงเข้มแข็ง ดูดเสมหะออกมาก็ไม่เป็นไรแล้ว แต่อาการยังคงหนักอยู่เอาการ
นายใหญ่ก็ส่งคนมาเยี่ยมคุณย่า แล้วยังบอกให้คุณปู่อาศัยอยู่ที่บ้านใหญ่ไปเลย อย่าไปทรมานคุณย่า จริง ๆแล้วนายใหญ่ไม่เคยคิดที่จะให้คุณปู่จ้าวย้ายออกจากบ้านใหญ่ อีกทั้งยังพูดจาหว่านล้อมตั้งนาน แต่คุณปู่จ้าวกลับยืนกรานเอง นายใหญ่จึงต้องตอบตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกยินดีนัก
เขาไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเขาเป็นหัวหน้าที่ใจแคบไม่ยอมปล่อยวาง แต่ตาแก่โง่จ้าวหวายซานช่างไม่รู้ความอะไรเสียเลย
เป็นเพราะอาการของคุณย่าจึงเพิ่งได้กินข้าวเช้าตอนสิบโมง เหมยเหมยหิวจนท้องไส้กิ่ว แต่คุณปู่จับจ้องเธออยู่ตลอดเวลา ทำให้หล่อนเหมือนมีอะไรจะพูดแต่พูดไม่ได้ รู้สึกอึดอัดจนไม่อยากอาหาร กินโจ๊กไปได้ครึ่งชามก็อิ่มแล้วเตรียมตัวจะออกไปเดินเล่นข้างนอก อยู่ในบ้านอึดอัดจะตายอยู่แล้ว
แต่เธอเพิ่งจะก้าวออกจากประตูใหญ่ เธอดันชนเข้ากับนกยูงสองตัวนั่นก็คือหวงอวี้เหลียนสองแม่ลูก
สองแม่ลูกแต่งตัวด้วยสีสันฉูดฉาด แถมยังเดินหน้าเชิดหยิ่งผยองราวกับนกยูงที่กำลังรำแพนหาง เหมยเหมยเห็นพวกเขาสองคนก็รู้ว่าสองคนนี้ต้องได้ยินข่าวของบ้านตระกูลจ้าวแล้วจงใจมาเยาะเย้ยอย่างแน่นอน
“เฮ้อ ทำไมอยู่ดี ๆป้าจ้าวถึงล้มป่วยลงได้ล่ะ ฉันกับซานซานเพิ่งลงเครื่องมา ได้ยินว่าคุณป้าจ้าวเกิดเรื่อง พอวางสัมภาระเสร็จก็รีบมาเลย พวกเราสองแม่ลูกไม่เคยลืมป้าจ้าวเลยนะคะ”
หวงอวี้เหลียนเห็นคุณย่าที่ซูบผอมเหลือแต่กระดูกก็ตกใจ คิดไม่ถึงว่าคุณย่าจะไม่ไหวแล้วจริง ๆ
พอได้เริ่มทำการแสดงไปสักพัก หวงอวี้เหลียนก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาทำเป็นซับน้ำตามองคุณย่าด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า โอหยางซานซานก็อยู่ในอารมณ์เดียวกัน เพียงแต่ความสามารถในการแสดงน้อย บนใบหน้าจึงไม่มีร่องรอยน้ำตา พยายามยู่คางทำหน้าเหมือนหล่อนกำลังเสียใจ น่าตลกสิ้นดี
ถึงแม้ว่าบ้านตระกูลจ้าวจะไม่ชอบสองแม่ลูกนี้ แต่พวกเขามาเยี่ยมคุณย่าจะไล่พวกเขาออกไปก็คงใช่เรื่อง
อีกทั้งสถานการณ์ของตระกูลจ้าวในตอนนี้จะมีหน้าที่ไหนไล่พวกเขาออกไปได้ล่ะ
“ลุงจ้าว ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าที่บ้านจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ได้ยินมาว่าพวกคุณจะย้ายออกจากบ้านใหญ่แล้ว อีกหน่อยฉันอยากจะมาเยี่ยมลุงจ้าวก็คงจะไม่มีโอกาสแล้วสินะ…”
หวงอวี้เหลียนถอนหายใจมองหน้าคุณปู่ที่มีสีหน้าบึ้งตึงเหมือนคนท้องผูก เธอพยายามอย่างมากที่จะไม่แสดงสีหน้าสะใจออกมา
“ดูสิทำไมพี่รองถึงได้เลอะเลือนขนาดนี้ ทำให้คุณป้าโมโหจนต้องล้มป่วย หานซู่ฉินอีกคน ทำไมแต่ก่อนฉันถึงดูไม่ออกว่าหล่อนเป็นคนแบบนั้น ไม่น่าคุณป้าถึงได้โมโหจนเป็นแบบนี้ ลุงจ้าว…ลุงต้องเข้มแข็งไว้นะคะ อย่าเป็นอะไรไปอีกคนนะคะ”
หวงอวี้เหลียนมองคุณปู่ด้วยสายตาห่วงใย แต่สิ่งที่พูดออกมาทุกคำราวกับมีดที่กรีดแทงหัวใจ คุณปู่โกรธจนหน้าซีด แต่ก็ไม่อยากจะลดตัวลงไปทะเลาะกับผู้หญิง
พวกจ้าวอิงหย่งพ่อลูกก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย ผู้ชายที่ดีจะต้องไม่ทะเลาะกับผู้หญิง
นิสัยของอันหย่าฟางเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งยิ่งคาดหวังอะไรไม่ได้ เหยียนซินหย่าอยากจะออกหน้า ถึงแม้หล่อนจะไม่พอใจคุณปู่ แต่อย่างไรเสียก็เป็นคนในตระกูลเดียวกัน เธอไม่สามารถทนยืนดูเฉย ๆได้
เหมยเหมยจับเธอไว้ เดินก้าวไปข้างหน้าโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงเอาแส้ฟาดไปสองที หวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกเจ็บจนร้องเสียงหลง แล้วรีบหันไปมองผู้กระทำด้วยความเดือดดาล
…………………………………………………
ตอนที่ 1171 ลงมือทันที
“เหมยเหมยเธอนี่ช่างกล้านักนะ นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าตบฉัน?”
โอหยางซานซานมองเหมยเหมยราวกับศัตรูคู่แค้นด้วยดวงตาแดงก่ำ ที่โกรธยิ่งกว่านั้นก็เพราะตระกูลจ้าวพังพินาศไปแล้ว แต่นางสารเลวนี่ไปได้ความมั่นใจมาจากไหนถึงได้ความกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้?
เหมยเหมยเองก็ไม่ได้เสียเวลาพูดกับเธออีก แสยะยิ้มก่อนที่จะออกแรงใช้แส้ฟาด โอหยางซานซานสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ด้านนอกสวมเสื้อถักสีชมพูทับ เนื้อผ้าบางเบา เมื่อถูกแส้ฟาดไปสองทีก็เกิดรอยจ้ำเลือดขึ้นบนผิวหนัง
“…อ๊าก…จ้าวเหมยแกรนหาที่ตายใช่ไหม…ตระกูลจ้าวของแกถูกโค่นล้มไปแล้ว แกยังกล้าทำร้ายฉันอีกเหรอ? ฉันจะบอกให้พ่อฆ่าแกให้ตาย!”
โอหยางซานซานตะโกนขึ้นอย่างเดือดดาล หลุดเอ่ยสิ่งที่อัดอั้นภายในใจออกมาเสียหมด ทุกคนในตระกูลจ้าวต่างมีท่าทีทีเปลี่ยนไป แลดูเป็นกังวลเอามาก
เหมยเหมยต่อปากต่อคำอย่างมีสติ “พ่อของเธอคนไหนหรือ? โอหยางปินหรือโอหยางเซี่ยงหมิง?”
“ก๊าก”
สยงมู่มู่กลั้นขำไม่อยู่ จ้าวเสวียหลินและพี่น้องคนอื่น ๆต่างกลั้นยิ้มเอาไว้ บรรยากาศตึงเครียดโดยรอบแลดูผ่อนคลายลงไปมาก
หวงอวี้เหลียนมีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก ทั้งยังรู้สึกสงสารลูกสาว เธอโกรธแค้นจ้าวเหมยมากขึ้น เพียงแต่เธอนั้นมีความคิดความอ่านที่ลึกซึ้ง ต่อให้ในใจจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแค่ไหนแต่ก็ไม่แสดงความรู้สึกออกมาทางสีหน้าเลย แต่กลับวางแผนที่จะบอกกับโอหยางปินให้เขาหาวิธีจัดการกับคนชั่วช้าอย่างจ้าวเหมยให้ถึงที่สุด
ตอนนี้โอหยางปินเป็นถึงลูกน้องคนสนิทของเฮ่อเหลียนเช่อ หวงอวี้เหลียจึงมีความมั่นใจอย่างเหลือล้น
“คุณลุงจ้าว คุณลุงควรจะอบรมสั่งสอนหลานสาวคุณไว้หน่อย หล่อนจะไปเข้าใจสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปและเข้าใจสถานะของตนเองอย่างชัดเจนได้เช่นไร ฉันเห็นแก่หน้าของคุณป้าจ้าวหรอกถึงไม่คิดเล็กคิดน้อยด้วย แต่คนอื่นคงจะไม่ใจกว้างมากเท่าฉันหรอกนะคะ โดยเฉพาะจ้าวเหมยที่มีรูปลักษณ์หน้าตาอรชรอ้อนแอ้น พวกผู้ชายบางคนก็มักจะชื่นชอบเธอในลักษณะเช่นนี้…”
“เพี้ยะ”
จ้าวอิงหัวโกรธจนหน้าเขียว นางผู้หญิงคนนี้กล้าหยามลูกสาวต่อหน้าเขา ไม่เห็นหัวเขาเลยหรืออย่างไร!
“หวงอวี้เหลียน คุณไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้กล้ากำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้? ชายชู้อย่างโอหยางปินหรือ? ถ้าคุณเก่งมากก็เรียกโอหยางปินมาเลย อยากเห็นเหมือนกันว่าต่อหน้าฉันเขาจะกล้าเหิมเกริมขนาดไหน!”
จ้าวอิงหัวยังไม่ทันหายโมโห เมื่อได้เห็นใบหน้าของหวงอวี้เหลียนที่แต่งแต้มอย่างจัดจ้านยิ่งรู้สึกสะอิดสะเอียน จึงทนไม่ไหวพลั้งมือตบหน้าไปหนึ่งฉาด และตวาดขึ้นว่า “ไสหัวไปซะ ลูกสาวของผมยังมีผมที่คอยปกป้องอยู่ ผมยังมีชีวิตอย่างปกติสุขดี!”
โอหยางซานซานมองจ้าวอิงหัวอย่างหวาดกลัว เมื่อก่อนเธอเคยเห็นจ้าวอิงหัวในโทรทัศน์แลดูนอบน้อมมีมารยาท แต่ในตอนนี้กลับมีท่าทีราวกับจะต่อยได้แม้กระทั่งผู้หญิง?
หวงอวี้เหลียนก็นึกไม่ถึงว่าคนที่จะออกหน้ารับคือจ้าวอิงหัว เธอเลียบริเวณมุมปาก กลิ่นคาวเลือดค่อย ๆฟุ้งกระจายทั่วปาก พลันนึกโกรธแค้นต่อจ้าวอิงหัวไปด้วย
เธอเหลือบมองหญิงสาววัยเยาว์อย่างเหยียนซินหย่า และยังมีจ้าวเหมยที่หน้าตางดงามไม่ต่างกัน ทั้งอิจฉาและเคียดแค้น เล่ากันมาว่าเฮ่อเหลียนเช่อชอบทั้งเด็กทั้งคนแก่ ต้องยุยงให้โอหยางปินมาเอาตัวนางสองแม่ลูกนี่ไปขึ้นเตียงกับเฮ่อเหลียนเช่อให้ได้ สองแม่ลูกปรนนิบัติด้วยกันไปเลย เหอะ จะคอยดูสิว่าจ้าวอิงหัวจะยังมีหน้าอยู่ในวงการนี้ต่อไปไหม!
“จ้าวอิงหัว คุณมันก็กล้าแต่วางอำนาจบาตรใหญ่ต่อหน้าผู้หญิง คอยดูเถอะ ต่อไปถึงคิวคุณที่ต้องมาขอร้อง…”
หวงอวี้เหลียนจดจ่ออยากให้ตำแหน่งของจ้าวอิงหัวถูกโค่นล้มลงในเวลาไม่เกินหนึ่งเดือน ถึงตอนนั้นเธอจะจัดการกับตระกูลน่ารังเกียจนี่อย่างไร้ซึ่งความปรานี จะต้องทำให้จ้าวอิงหัวเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส เพื่อเป็นการเอาคืนต่อการที่เธอถูกตบในวันนี้ถึงสองครั้ง
เหมยเหมยหัวเราะเยาะไปทีพร้อมกับฟาดแส้ตามไปอีกครั้ง หวงอวี้เหลียนจึงรีบเบี่ยงหลบแต่ก็ถูกปลายแส้ฟาดโดนต้นคอจนปรากฏรอยเลือดซิบ เจ็บจนเธอเหงื่อไหลท่วมตัว
“พ่อฉันเนี่ยนะต้องไปขอร้องคุณ? เหอะ สมองถูกบ่มด้วยโปรตีนจนเลอะเทอะหรือไง? ไสหัวออกไป ถ้ายังทำตัวเหลวไหลที่บ้านของฉันอีก ฉันจะฟาดให้ตายทั้งสองแม่ลูกเลย!”
เหมยเหมยพูดขึ้นพร้อมกับฟาดแส้อีกครั้ง หวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกตกใจจนร่างสั่นเทิ้ม แส้เส้นนี้ก็ไม่รู้ว่าทำมาจากอะไรโดนฟาดทีหนึ่งนี่เจ็บเป็นบ้าเลย!
“ซานซานของฉันจะเซ็นสัญญาที่หอศิลป์ในอีกไม่กี่วันนี้ ตอนนี้เขาเป็นถึงนักเขียนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ พวกแกใครก็เทียบไม่ได้…”
หวงอวี้เหลียนหยิบเอาหนังสือเพียงไม่กี่เล่มออกมาจากกระเป๋า พร้อมกับวางลงบนโต๊ะอย่างโอหัง และนี่คือจุดประสงค์หลักที่เธอมาในวันนี้
“รอให้ลูกสาวของคุณมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศก่อนแล้วค่อยมาอวด ไสหัวไป!”
เหมยเหมยฟาดแส้ไปอีกครั้ง หวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกจึงจากไปอย่างรวดเร็ว เหตุที่ยังคงนิ่งงันอยู่เพราะคิดไม่ถึงว่าเหตุใดพวกจ้าวเหมยถึงได้มีความมั่นใจถึงเพียงนี้เล่า?
ไปเอามาจากที่ไหนนะ?
………………………………………………………