ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1184 เตรียมเปิดตัวสถานะ + ตอนที่ 1185 มาหาเรื่องถึงบ้าน
ตอนที่ 1184 เตรียมเปิดตัวสถานะ
ทางนี้เฮ่อเหลียนชิงก็กำลังสั่งสอนลูกชายตัวเองอยู่อย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน
“ทำไมแกไม่ตัดหูคนสกุลโอหยางนั่นไปทั้งสองข้าง? ใจไม่เด็ดขาดพอ แบบนี้แกจะทำการใหญ่อะไรได้?”
เฮ่อเหลียนชิงได้ยินว่าเหยียนหมิงซุ่นตัดหูโอหยางสยงไปเพียงข้างเดียวก็เดือดทันที สยงบ้าอะไรนั่น วิธีเพียงหนึ่งเดียวในการกำจัดเศษสวะประเภทนั้นของเขาก็คือ–
ไม่ให้เหลือทางรอด!
เข่นฆ่าให้สิ้นซาก!
ปราบให้ราบคาบ!
ตัดหูไปข้างเดียวมันใช้ได้ที่ไหน ไม่สู้ยายหนูนั่นที่ทำอะไรเด็ดขาดกว่าด้วยซ้ำ!
“ไว้ค่อยตัดทีหลัง” เหยียนหมิงซุ่นตอบเสียงเรียบทำเป็นมองไม่เห็นความโกรธของเฮ่อเหลียนชิง สั่งให้คนรับใช้จัดโต๊ะอาหารเพราะเหมยเหมยของเขาหิวแย่แล้ว
เฮ่อเหลียนชิงสะอึก คิดว่าก็ฟังดูมีเหตุผลดี ตัดครั้งเดียวจนหมดคงไม่ค่อยดีนัก
“งั้นคราวหลังแกเจอครั้งหนึ่งก็ตัดครั้งหนึ่ง ตัดข้างบนเสร็จก็ตัดข้างล่าง อย่าใจอ่อนเด็ดขาด” เฮ่อเหลียนชิงพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็น เผยให้เห็นความตื่นเต้นในเรื่องดิบเถื่อนบนใบหน้า
เหมยเหมยกลอกตาอย่างไม่ใส่ใจ ตาแก่โรคจิตไม่ลงมือเองยังชอบสั่งให้คนอื่นทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้อยู่เรื่อยโดยเฉพาะพี่หมิงซุ่นของเธอ!
แต่ในเมื่อเป็นโอหยางสยงล่ะก็ถือว่าธำรงธรรมแทนสวรรค์แล้วกัน!
กับข้าวหอมกรุ่นถูกเสิร์ฟเต็มโต๊ะในไม่ช้า เหยียนหมิงซุ่นตักน้ำซุปปลาสีใสส่งให้เหมยเหมยก่อนหนึ่งถ้วย เอ่ยเสียงอ่อนโยน “กินน้ำซุปก่อนค่อยกินข้าว”
เหมยเหมยพยักหน้าอย่างเชื่อฟังแล้วตักน้ำซุปเข้าปากคำเล็กๆ ทีละคำๆ ด้วยท่าทางแสนเชื่อง
เฮ่อเหลียนชิงคอยมองถ้วยเปล่าตรงหน้าตัวเองแล้วแค่นเสียงใส่อย่างไม่พอใจ ลูกชายคนนี้ไม่กตัญญูเลยสักนิด ในใจมีแค่ยายสุนัขจิ้งจอกนั่นคนเดียว แม้แต่น้ำซุปยังไม่ตักให้เขาเลย
สู้ไอ้เด็กสวะนั่นไม่ได้ด้วยซ้ำ!
เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ทะเลาะกันไอ้สวะนั่นกตัญญูต่อเขาอย่างดี!
หน้าของเฮ่อเหลียนเช่อแวบผ่านหัวพลันทำให้เฮ่อเหลียนชิงอารมณ์เสียขึ้นมาทันที ความหงุดหงิดที่พลุกพล่านตนเลยตักน้ำซุปหนึ่งถ้วย รสชาติหอมหวานของน้ำซุปปลาได้ปลอบประโลมความหงุดหงิดในใจเขาให้สงบลงไม่น้อย
“อีกไม่กี่วันฉันจะจัดงานเลี้ยง แนะนำสถานะของแก สามปีแล้ว มันถึงเวลาแล้ว!”
จู่ ๆ เฮ่อเหลียนชิงก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการรอคอยและตื่นเต้น อยากเห็นสีหน้าหลังจากสองพ่อลูกชั่วนั่นรู้เรื่องเหลือเกิน จะต้องสนุกมากแน่ ๆ!
“แล้วแต่คุณพ่อเลย” เหยียนหมิงซุ่นไม่มีความคิดเห็นใดๆ
เขาเองก็คาดหวังอย่างมาก!
แต่ว่า–
“วันนั้นเหมยเหมยก็ต้องเข้าร่วมด้วย” เหยียนหมิงซุ่นกล่าว
เฮ่อเหลียนชิงหน้าตึงทันที พูดอย่างไม่พอใจ “เธอจะไปก่อกวนอะไรอีกล่ะ!”
“วุ่นวายอย่างไรเล่า เหมยเหมยเป็นคู่หมั้นของผมก็ต้องออกงานด้วยอยู่แล้ว เผื่อใครบางคนที่ไม่มีไหวพริบ แนะนำผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักให้อีก น่ารำคาญจะตายชัก!” เหยียนหมิงซุ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เฮ่อเหลียนชิงแอบรู้สึกผิดแปลก ๆ เพราะคนที่ไม่มีไหวพริบที่ว่านั่นก็คือเขานั่นเอง
แต่เขาไม่มีทางยอมรับง่ายๆ เขาเป็นพ่อ ต้องฟังตามที่เขาว่าเท่านั้น
“แกมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันยังไม่ตกลงสักหน่อย” เฮ่อเหลียนชิงโต้กลับเสียงสูงหมายจะขัดขืนให้สุดกำลัง อย่างไรเสียเขาก็ไม่อยากให้เหยียนหมิงซุ่นแต่งงานกับยายบ้านั่น ถึงตอนนั้นที่บ้านต้องไม่สงบแน่
เหมยเหมยถลึงตาจ้องเฮ่อเหลียนชิงที่นั่งตรงข้ามด้วยความโกรธ ตาแก่โรคจิตนี้ไม่ยอมรับตัวเองอีกแล้ว ทำไมถึงไม่หิวตายไปนะ!
เหยียนหมิงซุ่นตบมือแฟนสาวตัวเองเบา ๆ เป็นการปลอบไปทีหนึ่งค่อยเอ่ยด้วยเสียงเรียบ “พ่อบุญธรรมพูดผิดแล้ว เหมยเหมยผ่านบททดสอบได้เธอก็เป็นคู่หมั้นของผมแล้ว นี่พ่อบุญธรรมเป็นคนพูดเองกับปากเลยนะ”
“ฉันเคยพูดตั้งแต่เมื่อไหร่…”
เฮ่อเหลียนชิงเหมือนโดนคนบีบคอยังไงอย่างนั้น มองเหยียนหมิงซุ่นล้วงเครื่องอัดเสียงจากกระเป๋าตรงหน้าอกออกมาด้วยสีหน้าสะพรึง เสียงของเขาเป็นเอกลักษณ์เกินไปคิดจะปัดไม่ยอมรับคงไม่ได้
“แค่ยายนั่นเอาตัวรอดจากแผนของไอ้สวะนั่นได้ด้วยตัวเอง ฉันก็ตกลง…”
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มมองเฮ่อเหลียนชิงที่สีหน้าบึ้งตึง “พ่อบุญธรรม จะฟังอีกมั้ย?”
“ปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ ฉันล่ะขี้เกียจจะยุ่งเรื่องของแกแล้ว เหอะ!” เฮ่อเหลียนชิงทั้งโกรธทั้งอาย ก้มหน้าทานข้าวเพื่อกลบเกลื่อนความอายของเขา
เหมยเหมยได้ใจในชั่วขณะพลางขยิบตาใส่เหยียนหมิงซุ่นอย่างซุกซนแต่กลับรู้สึกหวานชื่นไปทั้งใจ
คาดหวังการมาถึงของงานฉลองวันนั้นเหลือเกิน!
แบบนี้เธอก็จะได้เป็นคู่หมั้นของเหยียนหมิงซุ่นอย่างเป็นทางการแล้ว!
…………………………………………….
ตอนที่ 1185 มาหาเรื่องถึงบ้าน
เหยียนหมิงซุ่นมาส่งเหมยเหมยที่บ้านตระกูลจ้าว ซึ่งไม่ได้ส่งแค่หน้าบ้านแต่กลับเข้าไปส่งถึงในบ้าน
หลายวันมานี้ตระกูลจ้าวรังแกเหมยเหมยตั้งมากมาย จะไม่ให้เขาไปเคาะเตือนสติหน่อยหรือ?
อีกอย่างถึงเวลาแล้วที่ต้องให้คนตระกูลจ้าวรู้ว่าเบื้องหลังที่คอยหนุนเจ้าหญิงน้อยของเขาคือใครกันแน่ วันหลังอย่าได้มีตาแต่ไม่มีแววอีก!
ตระกูลจ้าวในยามนี้กำลังคึกคักอย่างมากเพราะคนตระกูลโอหยางมาหาถึงที่ ผู้ที่มาคือคุณย่าโอหยางแล้วก็แม่ของโอหยางสยง เป็นผู้หญิงสองคนในบ้านที่รักและเอ็นดูโอหยางสยงที่สุด
พวกเธอไม่ความแค้นทางการเมืองอะไรหรอกนะ พวกเธอรู้เพียงว่าหลานชาย(ลูกชาย)สุดที่รักของพวกเธอตากับหูหายไปอย่างละข้างล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้าวเหมย พวกเธอจะต้องมาเรียกร้องความยุติธรรมคืนให้ได้!
หากเปลี่ยนเป็นอดีตพวกเธอยังไม่กล้ามาหรอกนะ แต่ตอนนี้ตระกูลจ้าวกลายเป็นตระกูลตกอับแล้ว พวกเธอมีอะไรให้ต้องยำเกรงอีก!
“ตระกูลจ้าวของพวกเธอมันกองโจรชัด ๆ ทะเลาะกันหน่อยก็ควักลูกตาตัดหูกันได้…สยงเอ๋อร์ผู้น่าสงสารของฉัน แล้วเขาจะแต่งงานหาเมียได้อย่างไร…”
ความเก่งกาจของคุณย่าโอหยางเป็นที่ขึ้นชื่อในเขตชุมชนนี้ ส่วนแม่ของโอหยางสยงเองก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร หญิงแต่งงานสองคนพูดโต้กันละประโยคสองประโยคทำเอาคนตระกูลจ้าวจนปัญญากับพวกเธอ
อีกอย่างเรื่องนี้พวกเขาไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ!
อะไรดวงตากับหู!
“พวกเธออย่าเพิ่งโวยวาย พูดให้รู้เรื่อง ตากับหูของโอหยางสยงเป็นอะไร?” จ้าวอิงหัวถามเสียงดัง
คุณย่าโอหยางตวาดใส่ “เพราะลูกสาวของแกนั่นแหละ ทำสยงเอ๋อร์ของฉันตาบอดไปก่อนรอบหนึ่ง วันนี้ยังตัดหูของสยงเอ๋อร์ไปอีก…โอ๊ย…จ้าวเหมยของพวกแกเป็นนางโจรชัดๆ!”
คุณยายคนนี้แรงมากเกินไปเสียงดังก้องจนเพื่อนข้างบ้านมามุงดูด้วยความสนใจ หลังได้ยินคำของคุณย่าโอหยางกลับไม่ค่อยเชื่อเท่าไร
จ้าวเหมยพวกเขารู้จักดี ตัวเล็กอ้อนแอ้น จะควักตากับตัดหูได้อย่างไร?
ตีให้ตายพวกเขาก็ไม่เชื่อ!
“ซานซานเธอเล่าเรื่องตอนนั้นให้ชัดเจนว่าจ้าวเหมยก่อเรื่องยังไง!” คุณย่าโอหยางกระชากโอหยางซานซานมา
โอหยางซานซานคล้ายยังจะไม่ได้สติกลับมาจากเรื่องช่วงเช้า แต่เธอผู้ที่ยำเกรงต่อคุณย่าของเธอมาโดยตลอดนั้นจะกล้าขัดเสียที่ไหน ได้แต่เล่าเรื่องคาราโอเกะกับร้านน้ำชาด้วยเสียงตะกุกตะกัก
“ไม่หรอกน่า…เหมยเหมยเป็นคนทำจริงๆ เหรอ?”
ทุกคนกระซิบกระซาบแต่ก็ยังไม่ค่อยเชื่อนัก
เหมยเหมยที่อยู่ข้างนอกได้ยินทุกอย่างชัดเต็มสองหูก็อดแค่นเสียงหัวเราะไม่ได้ โอหยางซานซานเลี่ยงประเด็นสำคัญบอกไปเพียงเหตุการณ์ที่เธอทำต่อโอหยางสยง กลับไม่บอกว่าทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น!
“จ้าวเหมยใจเหี้ยมจริงๆ ควักลูกตายังไม่พอ วันนี้ยังตัดหูสยงเอ๋อร์ของฉันไปอีก…สยงเอ๋อร์ของฉัน…”
คุณย่าโอหยางร่ำไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจจริง ๆ แม้โอหยางปินเป็นหลานชายที่เธอให้ความสำคัญที่สุดแต่โอหยางสยงเธอก็รักเหมือนกัน!
“หลีกหน่อย หลีกหน่อย!”
เหมยเหมยเบียดตัวเข้าไปข้างใน เหยียนหมิงซุ่นแรงเยอะแค่ผลักเบาๆ คนที่มุงอยู่รอบข้างก็แยกทางให้พวกเขาได้แทรกตัวเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ในขณะนี้จ้าวอิงหัวถามขึ้นว่า “ยังไม่บอกว่าเรื่องควักตาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า พวกคุณต้องพูดที่มาที่ไปก่อนสิ ลูกสาวของผมเป็นเด็กดีจะไปทำร้ายคนโดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร? อีกอย่างโอหยางสยงเป็นผู้ชายบรรลุนิติภาวะแล้ว ลูกสาวฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กอ่อนแอ เธอจะเอาความสามารถที่ไหนมาทำร้ายคน?”
ความหมายที่แฝงนั้นก็คือหรือว่าหลานชายเธอเชื่อถืออะไรไม่ได้?
คุณย่าโอหยางสะอึกเพราะหาคำโต้กลับไม่ได้
แต่เธอไม่ใช่คนนิสัยท้อถอยง่าย ๆอยู่แล้ว ความงี่เง่าไร้เหตุผลเป็นเรื่องถนัดของเธอแล้วจะยอมแพ้ได้ง่ายๆ เสียที่ไหน พาลตะโกนกลับ “สยงเอ๋อร์ของฉันยอมเธอ ไม่ถือสาเด็กผู้หญิงอย่างเธอ ใครจะรู้ว่าลูกสาวเธอนิสัยโหดเหี้ยมทารุณ”
จ้าวอิงหัวกำลังจะโต้กลับแต่ดันเห็นลูกสาวตัวเองก่อนและไม่ทันเห็นเหยียนหมิงซุ่นเพราะความเร่งรีบจึงถามไปว่า “เหมยเหมย ที่หล่อนบอกว่าลูกควักดวงตาของโอหยางสยงไป เป็นเรื่องจริงเหรอ?”
เหมยเหมยยิ้ม พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “จริงสิ หนูควักเอง”
ทุกคน “…”
จ้าวอิงหัวปวดใจนัก แล้วทำไมถึงยอมรับเสียงเด็ดขาดขนาดนั้น?
………………………………………..