ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1190 หานป๋อหย่วนที่น่าอนาถ + ตอนที่ 1191 ความห่างเหิน
ตอนที่ 1190 หานป๋อหย่วนที่น่าอนาถ
อดีตเหยียนหมิงซุ่นเคยเคารพนับถือจ้าวหวายซานมากแค่ไหนตอนนี้ก็ดูถูกมากเท่านั้น
ตระกูลจ้าวล่มจมหรือไม่นั้นเขาไม่ได้สนใจ สิ่งที่เขาสนใจคือท่าทีที่จ้าวหวายซานมีต่อเหมยเหมยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปล่อยให้ภรรยาลูกชายและลูกสะใภ้วางแผนทำร้ายเด็กโง่ของเขา เขาจะทำหน้าดี ๆ ใส่ตาแก่คนนี้ได้อีกหรือ?
คุณปู่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย การปฏิเสธของเหยียนหมิงซุ่นสร้างความไม่พอใจแก่เขาอย่างมากแต่จะให้เขาลดตัวเอ่ยรั้งขอให้เหยียนหมิงซุ่นอยู่ต่อนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
เหยียนหมิงซุ่นไม่มองเขาอีก แค่พยักหน้าทักทายสองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวกับสองสามีภรรยาจ้าวอิงหนานน้อย ๆ ถึงยิ้มให้เหมยเหมยอีกที พูดเสียงเบา “พี่ไปก่อนนะ พรุ่งนี้พี่จะมารับเธอ!”
“อืม”
เหมยเหมยยิ้มหวานใส่ ความสัมพันธ์ของเธอกับเหยียนหมิงซุ่นถูกเปิดเผยเสียที!
จ้าวอิงหย่งสังเกตเห็นทะเบียนป้ายรถยนต์ของเหยียนหมิงซุ่น ‘京666’ ใจพลันกระตุกวูบอย่างอดไม่ได้
เท่าที่เขาทราบว่าเลขทะเบียนประมาณ 666 888 999 อะไรเทือกนี้คล้ายถูกใครบางคนแย่งไปหมดแล้ว นายใหญ่เป็นคนที่เชื่อในเรื่องวิทยาศาสตร์เลยไม่สนใจเรื่องพวกนี้ แต่มีสองคนที่ให้ความสนใจอย่างมาก
นั่นก็คือคู่ปรับตลอดกาลเฮ่อเหลียนชิงกับหนิงเฉินเซวียน เมื่อเริ่มมีการจดทะเบียนป้ายรถยนต์นั้นเฮ่อเหลียนชิงได้ชิงลงมือก่อน ใช้เส้นสายกวาดป้ายทะเบียนรถยนต์พวกนั้นไปจนเกลี้ยง
แต่คู่หมั้นของหลานสาวเขากลับขับรถยนต์ที่มีป้ายทะเบียน ‘京666’ หรือว่าเขาคือ…
จ้าวอิงหย่งมองไปทางเหมยเหมย เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มมองหลานสาวคนนี้ออกทะลุปรุโปร่งแล้ว!
ทุกคนกลับไปที่ห้องโถงต่างมองเหมยเหมยด้วยสีหน้าที่ประหลาดอย่างมาก จ้าวอิงหนานอดถามไม่ได้ “เหมยเหมย เหยียนหมิงซุ่นเขาเป็นใครกันแน่? มู่มู่บอกว่าเขาคือคุณชายหมิงอะไรนั่น ใช่เรื่องจริงไหม?”
จ้าวอิงหย่งใจกระตุกอีกที คุณชายหมิง?
ท่าทางเขาจะเดาไม่ผิด ว่าที่หลานเขยในอนาคตของเขาคือคนของเฮ่อเหลียนชิง!
จ้าวอิงหย่งกรี๊ดร้องลั่นอยู่ในใจ หนิงเฉินเซวียนเป็นศัตรูของตระกูลจ้าว เฮ่อเหลียนชิงเป็นคู่ปรับของหนิงเฉินเซวียน ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร เมื่อก่อนเขายังเครียดที่หาทางตีสนิทกับเฮ่อเหลียนชิงไม่ได้สักที แต่ตอนนี้…
ดูเหมือนว่าสวรรค์ไม่ยอมปล่อยให้ตระกูลจ้าวล่มแล้ว!
เหมยเหมยสังเกตเห็นสายตาเร่าร้อนของจ้าวอิงหย่งพลันไม่ค่อยสบายใจเท่าไรเลยพูดกับจ้าวอิงหนานว่า “รายละเอียดหนูก็ไม่รู้ อีกไม่กี่วันเดี๋ยวคุณอาก็รู้เองค่ะ”
คุณปู่ได้ยินชื่อเหยียนหมิงซุ่นก็ใจกระตุกวูบ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าหรือผู้ชายที่ท่าทางน่าเกรงขามจนน่าตกใจคนนี้คือเด็กหนุ่มที่เคยซื้อโทรทัศน์จอสีให้ที่บ้านเมื่อนั้น
คิดไม่ถึงว่าไม่เจอสามปีเหยียนหมิงซุ่นจะเติบโตเร็วปานนี้ คุณปู่เดินฝ่าออกมาจากดงลูกกระสุนมาก่อนย่อมดูออกว่าเหยียนหมิงซุ่นเองผ่านการฆ่าคนมาแล้ว แถมไม่น้อยเสียด้วย
เหมยเหมยไม่อยากอยู่เสแสร้งกับคนตระกูลจ้าวเลยบอกเพียงว่าเหนื่อยขอตัวกลับไปพักผ่อนที่ห้อง แม้คนตระกูลจ้าวมีเรื่องมากมายอยากถามเธอแต่จะให้ห้ามเธอคงไม่ได้กระมัง
จู่ๆ จ้าวเสวียไห่ถามขึ้น “เหมยเหมย หานป๋อหย่วนวางแผนกับโอหยางสยงจริงเหรอ?”
เหมยเหมยมองไปทางเขาพลางตอบกลับเสียงเรียบ “แน่นอน ถ้าพี่สี่ไม่เชื่อลองไปถามหานป๋อหย่วนได้”
จ้าวเสวียไห่หน้าเจื่อนลงคล้ายมีเรื่องที่ยากจะเอื้อนเอ่ย จ้าวเสวียกงมองเขาอย่างเห็นใจจึงตอบแทน “หานป๋อหย่วนอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยังนอนโรงพยาบาลอยู่เลย ต่อให้รักษาได้ก็เป็นได้แค่คนพิการที่ใช้งานไม่ได้แล้ว”
นึกถึงสภาพน่าอนาถของหานป๋อหย่วนที่โรงพยาบาลเมื่อวานจ้าวเสวียกงก็เผลอสูดปากทีหนึ่ง เปลี่ยนความคิดที่เขามีต่อลูกพี่ลูกน้องคนนี้ไปอย่างสิ้นเชิง
เจ้าโลกของเขากลายเป็นแค่ของประดับ ทวารด้านหลังโดนสุนัขทะลุทะลวงจนฉีกขาดที่แม้จะเย็บแล้วแต่ก็ไม่สู้เท่ากับได้มาตอนเกิดอยู่ดี!
เหมยเหมยไม่รู้เรื่องระหว่างหานป๋อหย่วนกับสุนัข เธอเห็นสีหน้าของจ้าวเสวียไห่ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที คิดว่าอีกเดี๋ยวลองไปถามพี่ชายตัวเองดู เขาต้องรู้แน่นอน
……………………………………………..
ตอนที่ 1191 ความห่างเหิน
จ้าวเสวียหลินย่อมต้องรู้อยู่แล้ว แม้เขาจะโกรธชังเล่ห์เหลี่ยมของสามีภรรยาจ้าวอิงสยงมากเช่นกัน แต่นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเขากับลูกพี่ลูกน้องคนอื่น ๆ
เมื่อวานเขาไม่ได้ไปโรงพยาบาลแต่พวกจ้าวเสวียกงกลับมาได้เล่าให้เขาฟังถึงเรื่องวันนั้นที่โดนสุนัขทะลวงรูทวาร หานป๋อหย่วนไม่ได้เป็นคนบอกเองอยู่แล้วแต่เป็นหานซู่ฉินเองที่บอก
หานซู่ฉินอยากให้ลูกชายช่วยขอร้องแทนเธอเพื่อให้ได้กลับมาบ้านตระกูลจ้าว อีกทั้งยังอยากเอ่ยสภาพอนาถในวันนั้นของหานป๋อหย่วนให้จ้าวเหมยได้รับรู้ แน่นอนว่าไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่ตัวเธอพบเจอมา เธอยังไม่หน้าด้านหน้าทนถึงขนาดเล่าเรื่องแบบนั้นต่อหน้าลูกชาย
ความรู้สึกที่สามพี่น้องจ้าวเสวียไห่มีต่อเหมยเหมยเริ่มซับซ้อน พวกเขารู้ดีว่าพ่อแม่ตัวเองต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดต่อน้องสาว แต่เหตุการณ์ที่หานซู่ฉินประสบพบเจอกลับทำให้พวกเขาไม่สามารถปล่อยวางได้
ต่อให้หานซู่ฉินจะทำตัวเองก็ตาม
แต่พวกเขายังไม่สามารถเผชิญหน้ากับน้องสาวได้อย่างสบายใจ บางทีวันเวลาผ่านไปความห่างเหินนี้อาจจะจางลงตามกาลเวลาสินะ!
ฟังจ้าวเสวียหลินเล่าเรื่องของหานป๋อหย่วนกับสุนัขเหมยเหมยก็หลุดขำออกมา ถามด้วยความสงสัย “รูทวารของหมอนั่นคงไม่พังไปแล้วหรอกนะ?”
อื้อหือ สุนัขพันธุ์ทิเบตันกับบลูด็อกอย่างละตัว พันธุ์ใหญ่ทั้งนั้นเลย!
หนำซ้ำยังรุมพร้อมกันสองตัวในเวลาเดียวอีกต่างหาก เฮ่อเหลียนเช่อก็ใจแคบชะมัด ยังไงก็ต้องทาเจลหล่อลื่นให้หน่อยสิ!
สยงมู่มู่ได้ยินเหมยเหมยอธิบายให้เห็นภาพก็ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์อีก ไร้ซึ่งความเห็นใจต่อหานป๋อหย่วน
จ้าวเสวียหลินถลึงตาใส่น้องสาวตัวเองแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเธอไปเรียนรู้คำศัพท์พวกนี้มาจากไหน?
แต่ก็เหมาะสมดี รูทวารหลังของเจ้าหานป๋อหย่วนก็พังไปแล้วนี่นา ได้ยินมาว่าหลังจากนี้ถ่ายหนักยังต้องระวังด้วยแหนะ!
แต่คนที่โหดที่สุดคงไม่พ้นเจ้าหญิงน้อยของพวกเขาที่ไม่ให้หานป๋อหย่วนได้สืบสกุลอีกต่อไป แล้วความสุขของผู้ชายอีกล่ะ!
สมน้ำหน้า!
สยงมู่มู่อยากรีบยืนยันสิ่งที่ตัวเองคาดเดาอย่างอดใจไม่ได้เลยถาม “เหยียนหมิงซุ่นเป็นลูกนอกสมรสของคนใหญ่คนโตสักคนหรือเปล่า?”
เหมยเหมยถลึงตาใส่เขาไปทีหนึ่ง “คำพูดนี้ของนายอย่าให้พี่หมิงซุ่นได้ยินเชียว ระวังเขาจับนายโกนหัวนะ!”
สิ่งที่สยงมู่มู่รักมากที่สุดก็คือผมยาวสลวยถึงบั้นเอวของเขานั่นเอง สำหรับเขาแล้วโทษสถานหนักที่สุดคือการโกนผม ตามคาด—เขารีบเอามือปิดผมแล้วหุบปากอย่างว่าง่าย
จ้าวเสวียหลินกลับคิดถึงเรื่องบางอย่างตลอด ซึ่งไม่นานเขาก็คิดได้พลางตบหัวตัวเองทีหนึ่งแล้วจ้องเหมยเหมยถามขึ้นว่า “เหยียนหมิงซุ่นคือผู้ชายที่มารับเธอบ่อย ๆ เมื่อสามปีก่อนใช่มั้ย?”
666…หมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์นี้เขาจำได้ขึ้นใจ!
เหมยเหมยพยักหน้ารับ “อืม ก็คือพี่หมิงซุ่นนี่แหละ”
“แล้วตอนนั้นทำไมเธอบอกว่าไม่ใช่เขา ทำเอาฉันคิดว่าเธอ…” จ้าวเสวียหลินนึกฉุน ไม่เข้าใจว่าในเมื่อเป็นเหยียนหมิงซุ่นแล้วมีเรื่องอะไรให้ต้องปิดบัง
“ตอนนั้นมีเหตุผลหรอกน่า พี่ก็อย่าถามเลย อีกไม่กี่วันพี่ก็จะเข้าใจเอง!” เหมยเหมยแกล้งทำตัวเป็นนกคุ้ม แสร้งทำทีว่าจะนอนแล้ว เลยไล่พวกเขาสองคนออกไปจากห้อง
ในห้องหนังสือคุณปู่เรียกลูกชายสองคนเข้าไป นอกจากนี้ยังมีสองพี่น้องอย่างจ้าวเสวียเฟิงกับจ้าวเสวียเฉินที่ต่างทำหน้าจริงจังเคร่งขรึม มีเพียงจ้าวอิงหัวที่ใจเต้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“เจ้าสาม เรื่องเหยียนหมิงซุ่นเป็นยังไงกันแน่?” คุณปู่ถามขึ้น
จ้าวอิงหัวยักไหล่ “ผมจะรู้ได้ยังไง รู้แค่ว่าหมอนี่ค่อนข้างไปได้ดีในค่ายทหาร เหมยเหมยสนิทกับเขามาตั้งแต่เด็ก ที่สำคัญหมอนี่ยังหลงเหมยเหมยหัวปักหัวปำ ผมกับซินหย่าก็คิดว่าไม่แย่”
คุณปู่ไม่พอใจอย่างมาก เขาไม่สนใจสักนิดว่าเหยียนหมิงซุ่นจะมีความสัมพันธ์อันดีกับหลานสาวหรือไม่ เขาแค่อยากรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นมีพื้นหลังอะไรหรือเปล่า!
จ้าวอิงหย่งชิงพูดแทรก “พ่อครับ เหยียนหมิงซุ่นคนนี้น่าจะเป็นคนของเฮ่อเหลียนชิง!”
ทุกคนในที่นี้ “…”
……….………………………………….