ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1198 เปิดโปง + ตอนที่ 1199 ออกโรงเอง
ตอนที่ 1198 เปิดโปง
ในมือเหมยเหมยถือหนังสือโอหยางซานซาน ส่วนสยงมู่มู่ถือหนังสือพิมพ์ เป็นหนังสือพิมพ์รายวันของปักกิ่งใหม่ล่าสุดของวันนี้ หลักฐานที่เกี่ยวข้องจากการที่โอหยางซานซานจ้างมือปืนนั้นถูกแฉจนหมดเปลือก
เพราะเพิ่งตีพิมพ์ลงไปคนส่วนมากได้อ่านไปเพียงหนังสือพิมพ์ตอนเช้าแต่ไม่ทันอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน แม้แต่หวงอวี้เหลียนกับโอหยางปินก็ยังไม่เห็นด้วยซ้ำ
โอหยางซานซานพอเห็นเหมยเหมย อารมณ์ก็ดิ่งลงทันที รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มฝืดลงไม่ได้สดใสร่าเริงเหมือนเมื่อครู่ พยายามเรียกกำลังใจเพื่อแจกลายเซ็นต่อ
หวงอวี้เหลียนที่อยู่หลังเวทีใจสั่นวูบเช่นกันเมื่อเห็นพวกเหมยเหมย มีลางว่าจ้าวเหมยมาที่นี่ต้องแฝงด้วยเจตนาร้าย เธอรีบหันไปทางคนรักเก่า โอหยางปินขมวดคิ้วส่งสายตาเป็นเชิงให้เธอใจเย็นอย่าวู่วาม
“ไม่เป็นไร ลำพังแค่หล่อนคนเดียวจะทำอะไรได้ อย่าตื่นตูมไปหน่า” โอหยางปินไม่ได้เห็นเหมยเหมยอยู่ในสายตา ทำท่าไม่แยแสสักนิด
หวงอวี้เหลียนเห็นเขานิ่งได้ขนาดนี้ใจก็สงบลงบ้าง คิดว่าเหมยเหมยมาดูเพราะความอิจฉา ความไม่พอใจ ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ
“หนังสือพิมพ์รายวันเมืองหลวงมาแล้ว…ข่าวใหม่ล่าสุด…นักเขียนชื่อดังโอหยางซานซานจ้างมือปืนเขียนหนังสือ…ฉบับละสิบสตางค์ รีบซื้อเร็ว พลาดแล้วพลาดเลยนะ!”
จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนร้องขึ้นกลางหอศิลป์เสียงดังฟังชัดก้อง โดยเฉพาะการเอ่ยถึงชื่อบุคคลยอดนิยมในวันนี้ ทุกคนต่างมองไปทางแผงขายหนังสือพิมพ์แล้วรีบแย่งซื้อกันคนละฉบับ
เพราะหวงอวี้เหลียนอยู่หลังเวทีเลยได้ยินไม่ค่อยชัด เห็นเพียงว่าคนล่างเวทีต่างแห่กันไปซื้อหนังสือพิมพ์ โดยแต่ละคนถือหนังสือพิมพ์อ่านกันคนละฉบับอย่างออกรสออกชาติไม่แม้แต่จะสนใจซื้อหนังสือแล้ว
เพราะมีคำเตือนจากเจ้าของแผงหนังสือพิมพ์ทุกคนเลยข้ามไปอ่านบทความข่าวเกี่ยวกับโอหยางซานซานโดยตรง แม้ไม่ใช่การพาดหัวข่าวใหญ่แต่เนื้อข่าวกลับมีไม่น้อย ข้อมูลความละเอียดมาก เว้นแต่เพียงไม่ได้เขียนข้อมูลส่วนตัวของมือปืนสามคนนั้น ส่วนเรื่องอื่นชี้แจงอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
สีหน้าที่ต่างประหลาดใจของทุกคนต่างมองไปทางโอหยางซานซานที่ยังไม่รู้เรื่องบนเวที หากบนหนังสือพิมพ์เป็นเรื่องจริง ผู้หญิงคนนี้ก็น่ารังเกียจเกินไปแล้ว!
“จริงหรือเนี่ย? จ้างคนแต่งจริงเหรอ?”
“โอ้โห…จ้างสามคนด้วย…หน้าไม่อายเลย…ยังมีหน้ามาออกหนังสืออีก เห็นเราเป็นคนโง่กันหรือไง?”
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าบนหนังสือพิมพ์เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ เราอย่าเพิ่งด่วนตัดสินกันเลยดีกว่า”
“จะเท็จได้ยังไงอีก นี่มันหนังสือพิมพ์รายวันเมืองหลวงเชียวนะ สำนักพิมพ์รายวันเมืองหลวงไม่ใช่สำนักพิมพ์เล็กๆ สักหน่อย จะรายงานข่าวที่ไม่ใช่ความจริงได้ยังไง?”
“นั่นสิ…หนังสือพิมพ์รายวันเมืองหลวงเลยนะ…ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นความจริงแล้วสิ น่ารังเกียจมาก เสียดายเงินฉันตั้งสี่หยวนแปดสิบสตางค์”
……
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หลายคนเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ แม้คนส่วนมากเป็นนักแสดงรับเชิญจากการว่าจ้างของหวงอวี้เหลียนแต่ก็มีจำนวนคนไม่น้อยที่มาเพราะชื่นชอบโอหยางซานซานจากใจจริงจึงตั้งใจมาหาไอดอลของพวกเขาโดยเฉพาะ
แต่ตอนนี้ไอดอลที่พวกเขานับถือและชื่นชอบเสมือนนางฟ้าคนนี้กลับถูกป่าวประกาศว่าเป็นปีศาจที่จ้องจะเอาผลผลิตของคนอื่นมาเป็นของตัวเองโดยเฉพาะ เหล่าหนุ่มสาวเดือดดาลขึ้นมาในทันที ไม่พอใจต่อโอหยางซานซานที่หลอกลวงความรู้สึกของพวกเขาอย่างมาก
หวงอวี้เหลียนสังเกตถึงความผิดปกติถึงให้คนไปซื้อหนังสือพิมพ์รายวันเมืองหลวงมา เพิ่งเห็นรายงานข่าวหน้านั้นเธอก็แทบเป็นลมหมดสติไป!
ทั้งที่เธอจัดการทุกอย่างไว้อย่างดีแล้วทำไมถึงยังเกิดข้อผิดพลาดได้?
ตรงไหนกันแน่ที่ผิดพลาด?
หวงอวี้เหลียนนึกถึงจ้าวเหมยตามสัญชาตญาณ เธอมองไปทางเหมยเหมยที่ยิ้มเหมือนได้ของรักของหวงด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก ต้องเป็นฝีมือของเหมยเหมยไม่ผิดแน่
นางแพศยารนหาที่ตายแล้ว!
……………………………………………..
ตอนที่ 1199 ออกโรงเอง
แม้หวงอวี้เหลียนอยากจะพุ่งไปกำจัดเหมยเหมยล่างเวทีให้พ้นตาแต่เธอรู้ดีว่าตอนนี้สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือแก้ข่าวให้ลูกสาว เพื่อให้โอหยางซานซานมีชื่อเสียงเธอทุ่มเทอย่างหนัก คิดหาทุกวิถีทางถึงได้ใช้วิธีการเป็นนักเขียนออกหนังสือ เห็นอยู่กับตาว่าใกล้จะประสบความสำเร็จแล้ว
จะให้นางแพศยาจ้าวเหมยทำลายไม่ได้!
เธอยังคาดหวังว่าหลังจากลูกสาวมีชื่อเสียงจะได้เฉิดฉายต่อหน้ายายแก่นั่นสักที!
โอหยางซานซานเองก็เริ่มสังเกตถึงความผิดปกติของผู้คนล่างเวทีแต่เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงเผลอหันหน้ามองไปหลังเวทีด้วยความกังวลใจ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” คุณปู่โอหยางเองก็ดูออกเลยชักจะไม่พอใจเสียแล้ว
“พ่อคะ ไม่มีอะไร ฉันจะไปดูสักหน่อย” หวงอวี้เหลียนแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างใจเย็น หัวสมองแล่นอย่างรวดเร็วพลางคิดว่าควรแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้อย่างไรดี
โอหยางปินรู้เรื่องที่จ้างมือปืน เขาส่งสายตาให้หวงอวี้เหลียนแวบหนึ่งก่อนจงใจเอ่ยว่า “ซานซานดังเกินไปเลยทำให้คนไม่พอใจ ไม่ต้องกลัว เราไม่ได้ทำผิดไม่ต้องกลัวใครจะมาทำร้ายได้”
หวงอวี้เหลียนเข้าใจความหมายของเขานั่นก็คือให้เธอไม่ยอมรับความจริง มีคนรักเก่าคอยเป็นเกราะหนุนหลังให้หวงอวี้เหลียนก็สบายใจขึ้นมาก พกรอยยิ้มสง่างามเดินไปหน้าเวที โอหยางซานซานที่กำลังกระวนกระวายพอเห็นคุณแม่ก็ใจสงบลงในทันที
ไม่ว่าเมื่อไรคุณแม่ก็คิดหาทางแก้ปัญหาได้เสมอ วันนี้ก็ต้องไม่มีปัญหาอะไร
โอหยางซานซานเชื่อมั่นในตัวหวงอวี้เหลียน!
“ทุกท่าน เรื่องบนหนังสือพิมพ์ไม่ใช่ความจริง มีคนจงใจกุข่าวใส่ร้ายลูกสาวฉัน ทุกท่านเป็นคนมีเหตุผล ไม่น่าจะหลงกลได้ง่าย ๆหรอกใช่ไหมคะ?”
หวงอวี้เหลียนอ้าปากก็เอ่ยชมทุกคนในที่นี้ก่อนหนึ่งรอบบวกกับเธอที่แต่งตัวดูดีภูมิฐาน น้ำเสียงอ่อนโยนฟังดูเป็นมิตรจึงมีคนจำนวนมากเกิดอาการลังเลใจ ไม่รู้ควรเชื่อใครดี
“ใช่ ต้องมีคนจงใจใส่ร้ายนักเขียนโอหยาง คนเริ่มดังก็ย่อมมีคนชัง เราไม่เชื่อคนจิตใจชั่วร้ายพวกนี้หรอก!”
ท่ามกลางผู้คนมีคนตะโกนแทรกขึ้นมาด้วยอารมณ์รุนแรง ไม่นานคนอื่นก็พลอยคล้อยตามไปด้วย สถานการณ์พลิกทำให้ส่วนใหญ่เลือกจะเชื่อโอหยางซานซาน
หวงอวี้เหลียนยิ้มอย่างได้ใจ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอกำหนดไว้ นางแพศยาจ้าวเหมยคิดจะสู้กับเธองั้นหรือ?
เหอะ ยังอ่อนหัดไปหน่อย!
สถานการณ์กลับคืนสู่สภาพเดิมในไม่ช้า โอหยางซานซานเริ่มแจกลายเซ็นอีกครั้งโดยหวงอวี้เหลียนลอบมองไปล่างเวที เหมยเหมยรับรู้ได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาทางเธอก็ฉีกปากยิ้มกว้างให้ทีหนึ่ง
หวงอวี้เหลียนมุ่นคิ้วยังรู้สึกพะวงอยู่เล็กน้อย เธอมักรู้สึกว่าจ้าวเหมยต้องมีเจตนาแอบแฝง หรือว่านางแพศยาคนนี้ยังมีแผนต่อจากนี้อีก?
ไม่ได้ ต้องหาทางไล่จ้าวเหมยไปจากที่นี่ วันนี้เป็นวันสำคัญของซานซาน ห้ามใครมาทำลายเด็ดขาด!
หวงอวี้เหลียนเดินอ้อมไปหลังเวทีคิดจะปรึกษากับโอหยางปินว่าควรไล่จ้าวเหมยอย่างไรดี เสียงใสที่ถูกขยายให้ดังขึ้นจากล่างเวทีทำให้เธอชะงักฝีเท้า หัวใจเต้นระส่ำรัว
ตามคาด–
นางแพศยาเริ่มแผนการแล้ว!
“นักเขียนโอหยาง…” เหมยเหมยกัดฟันเน้นที่คำว่า ‘นักเขียน’ คนฉลาดย่อมฟังออกถึงน้ำเสียงเย้ยหยันที่แฝงอยู่จึงหันไปมองทางเหมยเหมยอย่างพร้อมเพรียง ไม่เข้าใจว่าหญิงสาวหน้าตาสะสวยน่าหลงใหลผู้นี้คิดจะพูดอะไรกันแน่
หวงอวี้เหลียนส่งสายตาให้พิธีกรแวบหนึ่ง พิธีกรเข้าใจความหมายเลยรีบยิ้มกล่าว “คุณหนูท่านนี้ ตอนนี้เป็นเวลาแจกลายเซ็นของนักเขียนโอหยาง ยังไม่รับคำถามใด ๆเดี๋ยวเรามีช่วงทำกิจกรรมร่วมกัน ถ้าคุณมีคำถามอะไรค่อยรอถามตอนนั้นก็ได้นะคะ!”
เหมยเหมยยู่จมูกพลางชี้ไปที่คุนพลุกพล่านก่อนกล่าว “เดี๋ยวคนพวกนี้ก็ไปแล้ว คำถามของฉันก็ไม่มีผู้ชมน่ะสิ แล้วจะสนุกอะไร!”
……………………………………………………