ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1206 ธำรงธรรม + ตอนที่ 1207 เธอมันหัวขโมย
ตอนที่ 1206 ธำรงธรรม
เหมยเหมยเก็บหนังสือ มองหวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกที่มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจอย่างเยาะเย้ย พูดด้วยท่าทีเย้ยหยันว่า “พวกเธอตอนนี้ยังมีอะไรที่อยากจะพูดอีกไหม? ขอคำอธิบายให้พวกเราทุกคนหน่อยจะได้ไหม? หนังสือเล่มนี้โอหยางซานซานเป็นคนเขียนเองจริงหรือไม่?”
“ฉันเขียนเอง… ฉันเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง…”
ทำอย่างไรโอหยางซานซานก็ไม่ยอมรับ ถึงแม้เธอจะไม่ฉลาด แต่เธอรู้ว่าวันนี้มีนักข่าวมาไม่น้อย เธอจะยอมรับต่อหน้าทุกคนไม่ได้
แต่เป็นไปตามเธอตัดสินใจได้ด้วยเหรอ?
“เธอบอกว่าเธอเป็นคนเขียนก็แปลว่าเธอเป็นคนเขียนงั้นเหรอ? โอหยางซานซาน เธอนี่มันโง่เขลาเสียจริง ๆ เธอยังแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าอันไหนเธอเขียนเองอันไหนเธอไม่ได้เขียน แล้วเธอเอาหน้าที่ไหนมาบอกว่าบทความพวกนี้เธอเป็นคนเขียนเอง หรือว่าเธอคิดว่าพวกเราทุกคนโง่งั้นสิ?”
เหมยเหมยกล่าวโทษอย่างไม่ปราณี และไม่ไว้หน้าเลยสักนิด
“โอหยางซานซานตัวเธอเองไม่มีความสามารถแต่ใช้อำนาจบ้านตระกูลโอหยาง ใช้อิทธิพลข่มหลอกล่อนักเขียนที่ไม่ประสบประสบความสำเร็จมาเขียนให้โดยปั่นหัวคนทั้งประเทศ คิดจะจับเสือมือเปล่าเลยไปขโมยผลงานของคนอื่นมา เพิ่มเกียติยศชื่อเสียงให้กับตัวเอง เธอรู้สึกละอายแก่ใจบ้างไหม?”
เหมยเหมยด่าโอหยางซานซานอย่างเจ็บแสบแบบไม่หยุดหายใจ ผู้คนด้านล่างเวทีร้องเชียร์ยกใหญ่ เสียงปรบมือราวกับคลื่นที่กำลังซัดเข้ามา
โอหยางซานซานทั้งอายทั้งโมโห อยากจะหาที่มุดตัวหายไปให้รู้แล้วรู้รอด
ก่อนหน้านี้เธอมีชื่อเสียงขนาดไหน ตอนนี้เธอก็รู้สึกขายหน้ามากเท่านั้น เสียงปรบมือด้านล่างราวกับมีดเล็ก ทุกเสียงปักเข้ามาในหัวใจของเธออย่างจัง
หวงอวี้เหลียนสุขุมมากกว่า เธอหยิกโอหยางซานซานเต็มแรงรู้สึกผิดหวังกับท่าทีของลูกสาวอย่างมาก ถ้ายังไม่ถึงจุดสุดท้าย จะมายอมแพ้ง่าย ๆได้อย่างไรกัน
“จ้าวเหมย เรื่องหนังสือพิมพ์เธอเป็นคนทำใช่ไหม” หวงอวี้เหลียนถามขึ้นด้วยความสงสัย
เหมยเหมยเหลือบไปมองโอหยางซานซานที่ก้มหน้าก้มตายืนอยู่ข้างหวงอวี้เหลียน พลางยักไหล่เล็กน้อย พูดอย่างไม่ปฏิเสธว่า “ใช่ค่ะ นี่เป็นเซอร์ไพร์สที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้กับงานขายหนังสือของลูกสาวคุณ เซอร์ไพร์สไหมคะ”
ถึงแม้เธอจะไม่ยอมรับ แต่หวงอวี้เหลียนก็มั่นใจอยู่ดีว่าเธอเป็นคนทำก็ยอมรับไปเสียเลยดีกว่า ทำให้หวงอวี้เหลียนคนจอมปลอมโมโหตายไปเลย!
หวงอวี้เหลียนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟหน้าเขียวปัด แววตาฉายแววอำมหิต แต่เหมยเหมยไม่กลัวเลยสักนิด อีกทั้งเธอยังหัวเราะอย่างได้ใจมากกว่าเดิม
“จ้าวเหมย ทำไมเธอจะต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับซานซาน หล่อนกับเธอก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกันเลย!” หวงอวี้เหลียนถามขึ้น
เหมยเหมยหัวเราะขึ้นมา มองไปที่หวงอวี้เหลียนด้วยสายตาดูถูก ถึงขั้นกล้าถามคำถามปัญญาอ่อนขนาดนี้เลยหรือ?
“ฉันธำรงความยุติธรรมแทนฟ้าดิน ไม่สนใจความแค้นส่วนตัวทั้งนั้น!” เหมยเหมยพูดด้วยความมั่นใจ ยิ่งทำให้หวงอวี้เหลียนโมโห โมโหที่ไม่ได้ตบยัยนี่สักฉาดสองฉาด
ยิ่งหวงอวี้เหลียนโมโหมากเท่าไหร่ เหมยเหมยก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น รอยยิ้มบนใบหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าวันนี้ภารกิจสำเร็จแล้ว เธอก็ไม่อยากอยู่เสียเวลากับยัยสองแม่ลูกนี่แล้ว!
ถ้ามีเวลาว่างขนาดนั้น เอาเวลาไปนั่งคุยเล่นกับพี่หมิงซุ่นยังจะดีเสียกว่า!
จะได้คุยจู๋จี๋กันด้วย!
“วันนี้รบกวนเวลาทุกคนมามากแล้ว ยังดีที่เรื่องราววันนี้มีผลสรุปออกมาแล้ว เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนคงเข้าใจแล้วว่า…”
เหมยเหมยพูดถึงตรงนี้แล้วชะงักไปครู่หนึ่ง หวงอวี้เหลียนกระโจนเข้ามาราวกับรู้ว่าต่อไปเหมยเหมยจะพูดอะไร แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ เธอกระโจนเข้าไปโดยไม่สนใจอะไรอีกแล้วคิดเพียงแต่จะแย่งโทรโข่งจากมือเหมยเหมย
เหมยเหมยเหยียดยิ้มเล็กน้อย ยักคิ้วให้กับหวงอวี้เหลียนอย่างได้ใจแล้วหลบตัวไปอย่างว่องไว พูดอย่างรวดเร็วออกมาว่า “ผลสรุปวันนี้ก็คือ เรื่องที่ในหนังสือพิมพ์พูดเป็นเรื่องจริง โอหยางซานซา ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ แท้จริงก็เป็นแค่ของปลอม อีกทั้งยังเป็นคนขี้ขโมยอีกด้วย!”
โอหยางซานซานภาพตัด จนในที่สุดหมดสติล้มลงไป
หวงอวี้เหลียนสีหน้าซีดเผือด พยายามพยุงลูกสาวไว้ ไม่ให้วันนี้ขายหน้ามากไปกว่านี้!
จบกัน!
ความพยายามทุกอย่างของเธอพังลงไปหมด!
จ้าวเหมย แกรนหาที่ตาย!
……………………………………..
ตอนที่ 1207 เธอมันหัวขโมย
สิ้นเสียงของเหมยเหมย ด้านล่างเวทีก็เกิดความโกลาหลขึ้นมาในทันที
“ขโมย!”
“จอมหลอกลวง!”
“หน้าไม่อาย…คืนเงิน ฉันไม่มีวันซื้อหนังสือของคนขี้ขโมยหรอก คืนเงินมา…”
“คืนเงิน…”
……
ตอนแรกมีอยู่แค่ไม่กี่เสียงแต่ไม่นานก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายแม้แต่เหล่าบรรดาหน้าม้าที่หวงอวี้เหลียนใช้เงินซื้อมา ก็ตะโกนตามออกมาด้วย
หนังสือเล่มหนึ่งได้เงินตั้ง 4.8 หยวน ถ้าได้คืนเงินพวกเขาก็จะได้เงินเพิ่มอีกตั้ง 4.8 หยวน ใครจะโง่ไม่ทำล่ะ!
ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่ม เหล่าผู้คนที่โกรธแค้นต่างพากันกรูขึ้นเวท ตะโกนขอคืนเงิน พิธีกรตกใจจนต้องหนีไปซ่อน บนเวทีเหลือเพียงแต่หวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกและเหมยเหมยเท่านั้น
“แน่นอนว่าต้องขอเงินคืน ถ้าหากพวกคุณซื้อหนังสือเล่มนี้ไปก็เท่ากับว่าสนับสนุนของโจร ต้องคืนเงินเท่านั้น!” เหมยเหมยพอได้โอกาสก็ใส่ไฟทำให้ทุกคนโกรธแค้นมากขึ้นไปอีก ผู้หญิงบางคนเริ่มผลักหวงอวี้เหลียน คำด่าที่ด่าออกมานั้นแน่นอนว่าไม่ได้สวยงามมากนัก
ทางด้านนักข่าวก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเบียดเสียดกันเข้ามา ถามคำถามที่ตรงประเด็นในทุกคำถาม หวงอวี้เหลียนเคยเจอสถานการณ์ใหญ่ขนาดนี้เสียที่ไหน หล่อนก็รู้สึกตกใจแตกต่างจากเมื่อสักครู่ที่ดูสูงส่งสง่างาม พูดอ้ำ ๆอึ้ง ๆ อยู่แบบนั้น
คนอื่นกลับรู้สึกว่าหวงอวี้เหลียนเป็นวัวสันหลังหวะ ยิ่งดูถูกดูแคลนสองแม่ลูกมากขึ้นไปอีก
มีบางคนถึงขนาดพูดถึงเรื่องราวฉาวโฉ่เมื่อสามปีที่แล้ว รวมไปถึงภาพฉาวของหวงอวี้เหลียนกับโอหยางปิน อีกทั้งชาติกำเนิดของโอหยางซานซาน ด้านล่างเวทีวิพากวิจารณ์กันอย่างหนักหน่วง ยิ่งทำให้มีคนรู้เรื่องความลับเกี่ยวกับบ้านตระกูลโอหยางมากขึ้น
เหมยเหมยเห็นภาพความวุ่นวายของหวงอวี้เหลียนเช่นนั้นก็ส่งเสียงสะใจเบา ๆ แล้วกระโดดลงจากเวที ทำหน้าส่งสัญญาณให้กับเซียวเซ่อกับสยงมู่มู่ ทั้งสามคนก็เบียดออกมาจากผู้คนเพื่อออกไปสมทบกับเหยียนหมิงซุ่นที่รออยู่ด้านนอก เมื่อโอหยางปินพาคนเข้ามา ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของพวกเหมยเหมยแล้ว
“โอหยางซานซาน ช่วงนี้น่าจะต้องอยู่เงียบ ๆไปพักใหญ่” สยงมู่มู่มีความสุขเป็นอย่างมาก เขารำคาญผู้หญิงที่อวดเก่งอวดฉลาดแบบโอหยางซานซานเป็นที่สุด
เซียวเซ่อเหลือบมองเขาอย่างไม่ยี่ระแวบหนึ่ง แค่นเสียงเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“ใครจะไปรู้ ถ้าหล่อนไม่เข็ด แล้วมาหาเรื่องฉันอีกล่ะ!” เหมยเหมยพูดเชิงล้อเล่นขึ้นมา
แต่ในใจของหล่อนมั่นใจมาตั้งแต่แรกแล้วว่าต่อไปโอหยางซานซานจะต้องกลับมาหาเรื่องหล่อนอีกแน่ แต่ช่วงนี้ก็น่าจะสงบเสงี่ยมไปอีกสักพัก
เมื่อสามปีที่แล้วหวงอวี้เหลียนสองแม่ลูกถูกขับไล่ออกจากบ้านตระกูลโอหยาง ถ้าไม่ใช่เพราะหวงอวี้เหลียนคิดวิธีนี้ออกมา จนถึงป่านนี้พวกเขาสองแม่ลูกก็อาจจะยังไม่ได้กลับมา แต่ว่าวันนี้บ้านตระกูลโอหยางขายหน้าขนาดนี้ สองแม่ลูกนี้น่าจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลอีกครั้งหนึ่งแล้วกระมัง !
“เซ่อเซ่อ นักข่าวพวกนั้นรู้ใช่ไหมว่าควรเขียนข่าวอย่างไร?” เหมยเหมยยังคงรู้สึกไม่วางใจ
ถึงแม้ครั้งนี้ไม่ได้เล่นงานโอหยางซานซานจนถึงที่สุด แต่ก็จัดการไม่ให้หล่อนกระดิกตัวได้ไปอีก 2-3ปีนี้ ทางที่ดีที่สุดคือทำให้พวกเขาตกใจกลัวแล้วอยู่ห่างจากเธอเสีย ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก
เซียวเซ่อทำมือโอเค “ไม่ต้องเป็นห่วง แน่นอนว่างานออกมาดุจเทพนิมิตแน่ ให้บ้านตระกูลโอหยางทั้งตระกูลอยู่ไม่เป็นสุขกันไปเลย”
เหมยเหมยกระพริบตาให้หล่อน ทั้งสองรับรู้กันพลันหัวเราะอย่างเบิกบานใจ
สยงมู่มู่กลับไม่เข้าใจ “เหมยเหมย เราไม่ได้บอกว่าพวกเขาดักโจมตีเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงออกหน้าเองด้วย? ถ้าหากว่าหวงอวี้เหลียนแอบดักแก้แค้นคืนจะทำอย่างไร?”
เหมยเหมยกรอกตามองบนใส่เขา “แต่ก่อนฉันไม่เคยยุ่งกับพวกเขา หวงอวี้เหลียนยังจะมายุ่งกับฉันเหมือนกัน ในเมื่อมันไม่มีความแตกต่าง ฉันก็ต้องระบายความโกรธออกมาให้หมดสิ สีหน้าท่าทางเมื่อกี้ของหวงอวี้เหลียนช่างน่าสะใจเสียจริง!”
สยงมู่มู่รู้สึกสะใจไม่ออก เขาไม่ใช่ไม่รู้ถึงความโหดเหี้ยมของหวงอวี้เหลียน แต่ก่อนมีบ้านตระกูลจ้าวคอยคุ้มหัวอยู่ แต่ตอนนี้อำนาจบ้านตระกูลจ้าวไม่เหมือนก่อน ถ้าเกิด…
เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอด เขาเหลือบไปมองสยงมู่มู่ที่กำลังกังวลใจ จึงพูดด้วยเสียงที่หนักแน่นว่า “ฉันไม่ให้เหมยเหมยเป็นอะไรไปแน่”
เหมยเหมยส่งยิ้มหวานให้เขา สยงมู่มู่จึงเพิ่งจะนึกได้ว่ามีบอสเหยียนหมิงซุ่นอยู่จึงรู้สึกสบายใจขึ้น
บทบาทช่างเปลี่ยนไปรวดเร็ว ตามไม่ทันเลยจริงๆ!
……………………………………………….