ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1210 คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ + ตอนที่ 1211 ปกป้องลูกสาว
ตอนที่ 1210 คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ
เหยียนหมิงซุ่นพยักหน้า “เชิญแล้ว หนิงเฉินเซวียนกับเฮ่อเหลียนเช่อก็เชิญมาแล้ว”
พรุ่งนี้เป็นวันดีที่เฮ่อเหลียนชิงจะจัดงานเลี้ยงขึ้น สถานที่จัดคือสวนฟาร์ม สวนฟาร์มสถานที่กว้างขวาง เอาโต๊ะไปวางหนึ่งร้อยตัวก็ไม่มีปัญหา
เฮ่อเหลียนชิงที่เงียบเหงามาสิบกว่าปี จู่ ๆก็เกิดแจกบัตรเชิญกะทันหัน เรื่องนี้เป็นที่น่าจับตามองเสียยิ่งกว่าหวงอวี้เหลียนกลับไปมีความสัมพันธ์กับคนรักเก่าเสียด้วยซ้ำ เป็นกระแสไปทั่วทั้งเมืองทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ
พวกเขาไม่รู้ว่าเฮ่อเหลียนชิงต้องการจะทำอะไร?
เพราะนี่คือตัวอันตรายที่ทำให้คนปวดหัวได้ยิ่งกว่าอาวุธนิวเคลียร์!
เหมยเหมยได้ยินว่าเฮ่อเหลียนเช่อถูกรับเชิญมาเช่นกันพลันตาโตลุกวาวอย่างอดไม่ได้ “เขาบ้าไปแล้วเหรอ? ไม่กลัวว่าพรุ่งนี้คนชั่วสองคนนั้นจะมาก่อเรื่องหรืออย่างไร?”
เหยียนหมิงซุ่นจูบลงไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา ปลอบโยนว่า “ไม่กลัวหรอก พรุ่งนี้นายใหญ่ก็จะไปเช่นกัน หนิงเฉินเซวียนน่าจะว่านอนสอนง่ายเสียยิ่งกว่าหวงฉิวอีก”
หนิงเฉินเซวียนถึงแม้อยากจะขึ้นมาแทนที่นายใหญ่ แต่ต่อหน้าเขาต้องทำเป็นจงรักภักดี กระทั่งหากว่าใครอยากจะทำร้ายนายใหญ่ เขาจะต้องออกมาประจานคนนั้นเป็นคนแรกแน่
เหมยเหมยไม่ได้เค้นถามต่อ เรื่องพวกนี้หล่อนไม่ค่อยเข้าใจถามไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี อีกอย่างเธอเชื่อใจเหยียนหมิงซุ่น เขาบอกว่าไม่มีปัญหาก็ต้องไม่มีปัญหาแน่นอน
ทั้งสองหวานกันต่ออีกสักพักก็เก็บของกลับบ้าน
พรุ่งนี้สวนฟาร์มจะต้องเตรียมจัดงานเลี้ยงใหญ่ เหยียนหมิงซุ่นในฐานะที่เป็นคุณชายเจ้าของงานของสวนฟาร์ม อีกทั้งตาแก่เฮ่อเหลียนชิงเป็นคนดีแต่สั่ง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ให้เหยียนหมิงซุ่นไปเป็นคนจัดการ นัดในวันนี้เหยียนหมิงซุ่นแอบหาเวลาว่างออกมาเองเสียด้วยซ้ำ
เหยียนหมิงซุ่นส่งเหมยเหมยกลับบ้านตระกูลจ้าว ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว จ้าวอิงหย่งกลับมาแล้ว เขาถูกย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ว่างงาน ทุกวันไม่มีอะไรให้ทำ เข้างานเลิกงานจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้จ้าวอิงหัวกลับเมืองจิน เขายุ่งมาก ๆ เห็นว่าคุณย่ายังไม่จากไปในเร็ววันนี้ จึงกลับไปจัดการธุระก่อน
จ้าวอิงหย่งเห็นรถของเหยียนหมิงซุ่นแล่นออกไป สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาในทันที เหมยเหมยก็ไม่ได้สนใจเขาเดินขึ้นไปข้างบนเลย หล่อนไม่ได้ติดค้างอะไรบ้านตระกูลจ้าวเสียหน่อย ทำไมต้องมานั่งดูสีหน้าคนบ้านตระกูลจ้าวด้วย?
“เหมยเหมย ไปดูคุณย่าหน่อยสิ” จ้าวอิงหย่งพูดขึ้น
เหมยเหมยหยุดชะงักไม่ได้โต้ตอบอะไร แล้วเดินลงมาจากบันได เดินไปยังห้องของคุณย่า คุณย่านอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่บนเตียงนอน มีแต่เสียงของเครื่องที่อยู่ข้างเตียงเท่านั้น
กลิ่นในห้องไม่ค่อยดีนัก เหยียนซินหย่ากับอันหย่าฟางดูแลคุณย่าอยู่ในห้อง และยังมีจ้าวอิงหนานด้วย
เหมยเหมยขมวดคิ้วมองไปที่คุณย่าแวบหนึ่ง แล้วก็เดินออกจากห้องไปใช้เวลาไม่ถึงสองนาที
“ทำไมออกมาเร็วขนาดนี้? พูดกับคุณย่าเสียหน่อยสิ ดีไม่ดีคุณย่าอาจจะอาการดีขึ้นก็ได้” จ้าวอิงหย่งรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความตำหนิติเตียน
เหยียนซินหย่าแย่งพูดขึ้นมาว่า: “ตอนนี้คุณย่าไม่ได้รับรู้อะไรทั้งนั้น เหมยเหมยพูดกับท่านตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร?”
จ้าวอิงหย่งรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเหมยเหมยไม่ยอมพูดอะไรกับคุณย่า เขาก็แค่รู้สึกรำคาญ รำคาญแบบไม่รู้ต้นสายปลายเหตุก็เลยอยากจะหาเรื่องหลานสาว
“ถึงแม้ว่าแม่ของผมจะไม่ได้ยินแต่รู้สึกได้แน่นอน ในฐานะที่เหมยเหมยเป็นหลานสาว ตอนนี้เป็นเวลาที่เธอควรจะแสดงความกตัญญู วัน ๆออกไปแต่ข้างนอกไม่เห็นแม้แต่เงากลับมาก็ไม่มาดูแลย่าสักนิด มันคืออะไรกัน?” จ้าวอิงหย่งหาประเด็นมาตำหนิ
เหยียนซินหย่าจับเหมยเหมยที่กำลังจะเถียงไว้ มองไปที่จ้าวอิงหย่งด้วยสายตาเย้ยหยัน
แต่ก่อนหล่อนเคยรู้สึกว่าลุงสามป็นคนที่ซื่อตรงที่สุด ตอนนี้ดูแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากจ้างอิงสยงเลยสักนิด
“พี่พูดว่าเหมยเหมยเป็นคนอกตัญญู แล้วพี่ล่ะ? พี่เคยมาแสดงความกตัญญูตอนไหน?” เหยียนซินหย่าไม่ยอมเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าคิดจะมารังแกลูกสาวหล่อนเป็นอันขาด!
……………………………………..
ตอนที่ 1211 ปกป้องลูกสาว
เหยียนซินหย่าไม่ยอมเลยแม้แต่น้อยสู้อย่างถึงที่สุด จ้างอิงหย่งคิดไม่ถึงเลยว่าน้องที่มีท่าทีอ่อนโยนขี้ขลาดมาโดยตลอดกลับกล้าต่อปากต่อคำกับเขา?
“น้องพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ฉันไม่กตัญญูตอนไหน? ไม่เห็นเหรอว่าช่วงนี้ฉันกลับมาเร็วตลอด!” จ้าวอิงหย่งพูดด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ
เหยียนซินหย่าแสยะยิ้ม มุมปากแสดงให้ถึงการเยาะเย้ยเล็กน้อย “พี่สาม พี่จำเป็นต้องกลับมาไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างถึงแม้ว่าพี่กลับมาแล้ว พี่ทำอะไรบ้าง ทางแม่นี่ฉันกับพี่สะใภ้ก็คอยดูแลอยู่ พี่ก็ไม่เข้ามาในห้องนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? พี่มีสิทธิ์อะไรมาว่าเหมยเหมย?”
หล่อนพูดจี้ใจดำอย่างจัง จ้าวอิงหย่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ โกรธเสียจนหน้าเขียวจนเกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
อันหย่าฟางจับเขาไว้ ส่ายหัวเบาเบาเตือนเขา จ้าวอิงหย่งเงียบลงแต่โดยดี สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ซินหย่าอย่าถือสาพี่สามเลยนะ พี่สามช่วงนี้อารมณ์ไม่ดี เธออภัยให้เขาหน่อยแล้วกัน” น้อยนักที่อันหย่าฟางจะพูดอะไรออกมา
เหยียนซินหย่าไม่ใช่คนที่ชอบเหน็บแนมเสียดสีอยู่แล้ว เมื่อสักครู่หล่อนแค่อยากจะปกป้องลูกสาวนาน ๆจะโมโหเสียทีหนึ่ง ตอนนี้อันหย่าฟางออกหน้า หล่อนก็คงจะไม่ดึงดันเถียงต่อ
“เหมยเหมยกลับไปพักผ่อนเถอะ ตรงคุณย่านี่มีแม่กับป้าสามคอยดูแลอยู่ ลูกไม่จำเป็นต้องมาหรอก”
เหยียนซินหย่าพูดอย่างจงใจ จ้าวอิงหย่งแค่นเสียงไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ อันหย่าฟางก็ลากจ้าวอิงหย่งกลับไปที่ห้อง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาจ้าวอิงหย่งกลัวภรรยาอยู่แล้ว เห็นว่าภรรยาสีหน้าไม่ดีนักในใจก็อดไม่ได้ที่จะตุ้ม ๆต่อม ๆไปด้วย
“คุณโง่หรืออย่างไร? ไม่มีเรื่องอะไรแล้วคุณไปหาเรื่องพวกอิงหัวพวกเขาทำไม?” อันหย่าฟางมองสามีด้วยความโมโห
“ก็ผมโมโห ทั้งที่จ้าวเหมยพูดจาดี ๆไม่กี่คำผมก็จะกลับไปตำแหน่งเดิมได้แล้ว แต่พวกเขากลับดูดายไม่ยอมช่วยเหลือ คุณว่าผมจะไม่โมโหได้อย่างไร?” จ้าวอิงหย่งพูดด้วยความโมโห
อันหย่าฟางแสยะยิ้มมองสามีด้วยสายตาดูถูก โง่ปัญญาอ่อนเสียจริงเลย ในช่วงหลายปีนี้ถ้าไม่ใช่หล่อนช่วยวางแผนอยู่เบื้องหลัง จ้าวอิงหย่งจะมาถึงทุกวันนี้ได้อย่างไรเล่า?
แต่ตอนนี้กลับถูกตาโง่จ้าวอิงสยงพังหมดทุกอย่าง!
แน่นอนว่าหล่อนโมโหมาก แต่หล่อนรู้ว่าตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ ยิ่งทำมากก็ยิ่งผิดมากเท่านั้น
เรื่องความสัมพันธ์ของหลานสาวจ้าวเหมยกับเฮ่อเหลียนชิง ตอนนี้หล่อนยังไม่มั่นใจนัก แต่ในเรื่องที่ยังไม่มั่นใจ หล่อนจะยังไม่ยอมลงมือง่าย ๆแน่
อีกอย่างถ้าจ้าวเหมยจะสนิทกับเฮ่อเหลียนชิงจริง ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งไปหาเรื่องจ้าวเหมยไม่ได้ จะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบ้านจ้าวอิงหัวเท่านั้นจึงจะสามารถขอร้องให้จ้าวเหมยช่วยขอคืนตำแหน่งให้จ้าวอิงหย่งได้
อีกอย่างตอนนี้บ้านจ้าวอิงหัวกำลังไม่พอใจเรื่องที่จ้าวเหมยถูกเล่นงาน โกรธแค้นที่บ้านแทบแย่ ตาโง่จ้าวอิงสยงก็โง่สิ้นดีไม่คิดจะสานความสัมพันธ์กับบ้านจ้าวอิงหัวไม่พอยังจะไปหาเรื่องอีก ช่างโง่เสียจริง
ยังดีที่ถึงแม้จ้าวอิงหย่งจะไม่ฉลาด แต่มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือเชื่อฟังภรรยา อันหย่าฟางล้างสมองให้เขาทั้งคืนถือว่าทำให้เขากลับมามีความคิดปกติได้เสียที
ตอนกินข้าวในเช้าของวันถัดมา เหมยเหมยเห็นจ้าวอิงหย่งมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสก็อดตกใจไม่ได้
วันนี้จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย?
“เหมยเหมย กลางวันนั่งรถของลุงสามไปสิ” จ้าวอิงหย่งเสนอตัว แต่ในใจก็รู้สึกแปลกๆ แต่จำเป็นต้องเชื่อฟังคำพูดของภรรยา
เหมยเหมยส่ายหัว “ไม่ต้องค่ะ พี่หมิงซุ่นจะมารับฉันกับแม่ค่ะ”
ไม่รู้ว่าจ้าวอิงหย่งจะมาไม้ไหน อยู่ให้ห่างหน่อยน่าจะดีเสียกว่า
จ้าวอิงหย่งเก็บความโมโหไว้ ถ้าปกติคงจะโมโหออกมาแล้วแต่วันนี้เขาต้องอดทน ทำได้เพียงก้มหน้ากินข้าวด้วยความหงุดหงิด ไม่กล้าทำให้ภรรยาของเขาโมโหอีก
คุณปู่มองหลานสาวด้วยสายตาที่ซับซ้อน อารมณ์ก็ซับซ้อนด้วยเช่นกัน กลางวันทุกอย่างก็น่าจะถูกเปิดเผย เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าหลานสาวของเขาอาจจะเป็นที่สนใจของคนทั่วทั้งเมือง
แต่เขากลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด!
…………………………………………………