ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1214 เหยียนซินหย่าโมโห + ตอนที่ 1215 สมองเหมือนกัน
ตอนที่ 1214 เหยียนซินหย่าโมโห
เหมยเหมยทำให้จ้าวอิงหนานตกใจเป็นอย่างมากรีบไปดึงเธอไว้ ข้างหน้าคือเฮ่อเหลียนชิงผู้ฆ่าคนได้อย่างไร้ความปราณี เหมยเหมยตะโกนเสียงดังขนาดนี้ พวกเรายังจะได้กลับบ้านกันอยู่ไหมเนี่ย?
“อาคะ ไม่ต้องกลัวค่ะ!” เหมยเหมยพูดจาปลอบโยน
จ้าวอิงหนานกระตุกปากเล็กน้อยมองเธอด้วยสายตาตักเตือนแวบหนึ่ง พูดเสียงเบาว่า “แกเก็บอาการหน่อย พวกเราจะไม่ยอมตกเบี้ยล่างตอนนี้ รีบไปกันเถอะ”
เหยียนซินหย่าก็คิดอย่างนั้นเช่นเดียวกัน ถึงแม้เธอจะไม่รู้จักเฮ่อเหลียนชิง แต่เห็นตาแก่นี่แล้วก็ดูไม่ใช่คนดีอะไร ดูแปลกเสียด้วยซ้ำ อาจจะมีปัญหาทางจิตก็เป็นได้
คิดถึงคนที่มีปัญหาทางจิตแล้วเหยียนซินหย่าก็นึกถึงเหอปี้อวิ๋น ผู้หญิงคนนี้ฆ่าคนไปสองคน อีกทั้งยังกรีดหน้าหร่วนเป่าฮุ่ยจนเสียโฉม ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวอิงหัวออกหน้า ผู้หญิงคนนี้แม้แต่โทษก็ไม่ต้องรับผิดถือว่าเป็นคนโรคจิตจึงให้พ้นโทษไปเลย
แต่ถึงแม้ว่าเป็นเช่นนี้เหอปี้อวิ๋นก็ได้รับโทษเพียง 5 ปีเท่านั้น
ชีวิตคนสองคนเลยนะ เหยียนซินหย่านึกขึ้นก็ใจหาย ถึงแม้คนที่ตายสองพ่อลูกนั่นจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าหวาดกลัวอยู่ดี
จากเรื่องนี้ทำให้เหยียนซินหย่าคิดได้ว่าเวลาเจอคนโรคจิตต้องถอยไปอยู่ห่าง ๆห้ามเข้าใกล้ เพราะมิฉะนั้นถ้าตายก็เท่ากับตายฟรี
เฮ่อเหลียนชิงไม่พอใจกับท่าทีของเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานเป็นอย่างมาก จะมีท่าทีเกรงกลัวไปทำไมกัน?
หรือว่าเขาหน้าตาน่ากลัวเหรอ?
ทั้งที่เขาเป็นคุณชายที่ดูสง่างามแท้ ๆ ถึงแม้ตอนนี้อายุจะมากแล้วแต่ไม่น่าเกลียดแน่นอน ผู้หญิงสองคนนี้หมายความว่าอย่างไรกัน?
“คนไหนเป็นแม่ของยัยเด็กบ้านี่” เฮ่อเหลียนชิงถามเสียงแหลม
เหยียนซินหย่าใจเต้นตึกตักเดินออกมาอย่างกล้าหาญ “ฉันเป็นแม่ของเหมยเหมย คุณมีธุระอะไร?”
จริงๆแล้วเฮ่อเหลียนชิงรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเหยียนซินหย่ากับเหมยเหมยมีความสัมพันธ์อะไรกัน เพราะสองแม่ลูกหน้าตาค่อนข้างคล้ายกัน โดยเฉพาะไฝบริเวณคิ้ว ดูก็รู้ทันทีว่าเป็นแม่ลูกกัน
“คุณมาก็ดีแล้ว รีบพายัยเด็กบ้านี่กลับไปอบรมสั่งสอนให้ดี ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หน้าหนาราวกับกำแพง ทุกวันเอาแต่มาเกาะลูกชายผมไม่ปล่อย ดูคุณแล้วน่าจะเป็นคนมีมารยาท แต่ทำไมถึงเลี้ยงลูกสาวที่หน้าด้านหน้าทนแบบนี้ออกมาได้กันนะ?”
เฮ่อเหลียนชิงฟ้องยาวเหยียด มองไปที่เหยียนซินหย่าที่โกรธจนตัวสั่น เหมยเหมยที่โกรธจนหน้าเขียว เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาในทันที รู้สึกสบายไปตั้งแต่หัวจรดเท้า
ไม่กี่วันก่อนโดนยัยเด็กบ้านี่ต่อปากต่อคำ ความโมโหที่เก็บมาจนถึงตอนนี้ ในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยออกมาเสียที!
ความจริงแล้วเหมยเหมยรู้สึกคุ้นชินกับคำพูดเหน็บแนมเสียดสีของเฮ่อเหลียนชิงมานานแล้ว แต่ตาแก่โรคจิตนี่กลับพูดจาอย่างนี้ต่อหน้าแม่ของเธอ เหยียนซินหย่าสาวเรียบร้อยจากบ้านตระกูลใหญ่ จะทนกับคำพูดเช่นนี้ได้อย่างไร?
เธอกลัวว่าแม่ตัวเองจะเชื่อสิ่งที่ตาแก่โรคจิตพูด แล้วโมโหจนทำลายสุขภาพ
“คุณเป็นคนที่สมองมีปัญหาหรืออย่างไร ลูกสาวของฉันมีมารยาท เป็นเด็กรู้ความว่านอนสอนง่าย ใครเจอใครก็ชื่นชม คุณพูดบ้า ๆอะไรออกมา ฉันคิดว่าเป็นเพราะลูกชายของคุณมีจิตคิดพิศวาสลูกสาวฉันแล้วมาระรานไม่เลิกเสียมากกว่ามั้ง?”
ไม่รอให้เหมยเหมยพูดอะไร เหยียนซินหย่าก็ด่าชุดใหญ่ เธอที่ปกติอ่อนโยนเรียบร้อยกลายร่างเป็นสาวนักรบต่อกรกับเฮ่อเหลียนชิง
เฮ่อเหลียนชิงชะงักไปสักพัก เขาไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง ไม่สิ ทำไมเหยียนซินหย่าไม่เหมือนตามในข้อมูลที่บอกไว้ล่ะ ? ความอ่อนโยนสง่างามอยู่ตรงไหนกัน?
นี่มันผู้หญิงขวางโลกไร้เหตุผลชัด ๆ !
มิน่าถึงสอนลูกสาวแบบเหมยเหมยออกมาเป็นแบบนี้!
เหยียนซินหย่าไม่รู้ความสัมพันธ์ของเฮ่อเหลียนชิงกับเหยียนหมิงซุ่น คิดว่าลูกชายของเฮ่อเหลียนชิงที่พูดถึงเป็นคนอื่น แค่เธอคิดว่ามีคนหื่นกามมาตามติดลูกสาวเธอ เธอก็เริ่มรู้สึกเกิดโมโหที่ผสมปนเปเข้ามา
“ถ้าคุณมีเวลาว่างก็เอาเวลาไปสั่งสอนลูกชายหน่อยนะ อย่าทำตัวเหมือนหมาเห็นกระดูกก็เข้าไปแทะ คนอย่างคุณมีหน้ามาว่าลูกสาวฉันด้วยเหรอ?”
เหยียนซินหย่ายิ่งคิดก็ยิ่งโมโหแล้วก็ด่าต่ออีกเป็นชุด เฮ่อเหลียนชิงโดนด่าจนมึนไปเลย
บ้าเอ้ย ผู้หญิงคนนี้กินอะไรเข้าไปถึงได้กล้ามากขนาดนี้นะ?
……………………………………………….
ตอนที่ 1215 สมองเหมือนกัน
ในใจเหมยเหมยรู้สึกถึงอบอุ่นแล่นไหลผ่านเข้ามา ปกติแม่เธอขนาดทะเลาะก็ยังทำไม่เป็น แต่ตอนนี้เพื่อเธอแล้วกลับกล้าด่าตาแก่โรคจิต
แต่ทำไมแม่ของเธอถึงเปรียบพี่หมิงซุ่นเป็นหมาล่ะ?
แล้วเธอก็ไม่ใช่กระดูกเสียหน่อย!
เธอยังไม่ทันได้แก้ต่างอะไรเหยียนซินหย่าก็ดึงตัวเธอมา แล้วพูดเสียงดังว่า “เหมยเหมยพวกเราไปกันเถอะ ให้เหยียนหมิงซุ่นส่งพวกเรากลับบ้าน ข้าวนี่ไม่ต้องกงไม่ต้องกินมันละ”
จ้าวอิงหนานไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ความอยากอาหารของเธอถูกเฮ่อเหลียนชิงทำให้ตกใจจนหายไปหมดแล้ว จะกินลงอีกเสียที่ไหนกัน?
กลับบ้านไปกินอาหารฝีมือเชฟหยวนน่าจะดีกว่า
เฮ่อเหลียนชิงเพิ่งได้สติกลับมา แสยะยิ้มพูดขึ้นว่า “ผมให้พวกคุณไปแล้วเหรอ? ในเมื่อมาถึงบ้านผมแล้ว อย่าคิดว่าจะได้ออกไปง่าย ๆ!”
เหยียยนซินหย่าหน้าซีดเผือด ความคิดสี่มิติของศิลปินในตัวเธอทำให้เธออดคิดเรื่องฆ่าคนทำลายศพ ทำลายศพเพื่อทำลายหลักฐานไง…
แล้วเธอก็มองไปที่พืชพันธุ์ต่าง ๆและเถาวัลย์องุ่น ก็คิดถึงวิธีอำพรางศพทำลายหลักฐานที่ดีขึ้นมาได้ในทันที——ปุ๋ยคอก
สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน สมองเหมือนกันเป๊ะ!
“คุณ คุณคิดจะทำอะไร? เหมยเหมย ลูกกับอารีบหนีไป แม่…จะขวางเอาไว้ให้ก่อน” เหยียนซินหย่ากลัวจนขาสั่น แต่ก็ดันลูกสาวให้ไปอยู่ด้านหลังให้จ้าวอิงหนานรีบพาหนีไป
ถึงแม้เหมยเหมยจะรู้สึกตื้นตันใจแต่เธอรู้สึกตลกมากกว่า แต่ก่อนทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่าแม่ตัวเองน่ารักขนาดนี้!
“เฮ้ ถ้าคุณยังมาหลอกแม่ฉันอีก ระวังฉันจะไม่ให้ฉิวฉิวมาเล่นกับคุณอีกต่อไปแล้วนะ!” เหมยเหมยงัดไม้เด็ดออกมา
เฮ่อเหลียนชิงมองด้วยสายตาดุดันส่งเสียงไม่พอใจ แล้วชี้ไปที่เก้าอี้หินข้าง ๆด้วยท่าทีที่มีเมตตา “แล้วจะต้องเชิญให้พวกคุณนั่งด้วยไหมล่ะ?”
เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานตอนนี้รู้สึกทะแม่ง ๆ เหมือนว่าเหมยเหมยจะสนิทสนมกับตาแก่โรคจิตนี้พอสมควร อีกทั้งความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดูไม่ธรรมดาด้วย
เหมยเหมยดึงทั้งสองคนที่มีความสงสัยอยู่เต็มหัวให้นั่งลง แย่งชอคโกแลตสองชิ้นจากมือของเฮ่อเหลียนชิงส่งให้พวกเธอ ชอคโกแลตทำให้จิตใจสงบนิ่งลงได้ แม่กับอาของเธอน่าจะตกใจไม่น้อยต้องผ่อนคลายบ้าง
ฉิวฉิวพอเห็นเจ้านายของตัวเองก็รีบทิ้งคนบางคน แล้วกระโจนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเหมยเหมย
เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานมองกันไปมา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“แม่คะ อาคะ เขาชื่อเฮ่อเหลียนชิง เป็นพ่อบุณธรรมของพี่หมิงซุ่นค่ะ”
ในเมื่อได้เจอกันแล้ว แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรกันอีก ถึงแม้ว่าเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับตกใจมาก ไม่ใช่ลูกนอกสมรสก็พอแล้ว
แน่นอนว่าพวกเธอรู้สึกแปลกใจมาก เฮ่อเหลียนชิงอยู่ที่เมืองหลวง เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนเมืองจิน ทั้งสองคนมาบรรจบเจอกันได้อย่างไร?
จ้าวอิงหนานคิดลึกไปมากกว่านั้น ดูจากท่าแล้วเหยียนหมิงซุ่นน่าจะมีเฮ่อเหลียนชิงเป็นพ่อบุญธรรมนานแล้ว แต่เหมยเหมยแค่ไม่ยอมพูด ไม่ยอมปริปากบอกอะไร แม้แต่พี่กับพี่สะใภ้ก็ไม่รู้ ความคิดแบบนี้เหมือนกับเด็กอายุสิบกว่าขวบเสียที่ไหนล่ะ?
ถึงแม้จะคิดว่าเหมยเหมยระวังตัวมากเกินไป แต่พอเธอคิดไปถึงพี่ชายกับแม่ที่บ้านก็รู้สึกว่าโชคดีแล้วล่ะ
แล้วก็ยังดีที่เหมยเหมยทำอะไรก็ระมัดระวังเป็นอย่างดีถึงไม่ถูกเล่นงานได้ไงล่ะ!
ตอนนี้เหยียนซินหย่าก็เข้าใจแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกชายที่เฮ่อเหลียนชิงพูดถึงคือเหยียนหมิงซุ่น จึงเริ่มหน้าเริ่มแดงขึ้นมา เมื่อสักครู่เธอว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นหมา!
แต่ว่า——
“คุณเฮ่อเหลียนค่ะ หมิงซุ่นกับเหมยเหมยสองคนนี้บริสุทธิ์ใจต่อกัน มีความรู้สึกที่ดีให้กัน เมื่อสักครู่สิ่งที่คุณพูดไม่ถูกต้อง อีกหน่อยอย่าพูดอีกนะคะ” เหยียนซินหย่ายังคงจดจำคำที่เฮ่อเหลียนชิงพูดกับลูกสาวเมื่อสักครู่ได้
เฮ่อเหลียนชิงกรอกตามองบนกำลังจะอ้าปากด่า เหยียนหมิงซุ่นผู้ได้รับข่าวเดินเข้ามา เฮ่อเหลียนชิงตอนนี้หูตาไวรีบสงบปากสงบคำทันที
“พ่อบุญธรรมครับ นายใหญ่มาแล้ว รออยู่ที่ห้องหนังสือครับ”
เหยียนหมิงซุ่นมีท่าทีเคารพนอบน้อม แต่กลับมีแววตาที่ตักเตือนว่า นั่นเป็นแม่ยายของผมในอนาคตเชียวนะ!
เฮ่อเหลียนชิงมองกลับไปด้วยสายตาดุดัน ไม่ใช่แม่ยายของฉันเสียหน่อย!
……………………………………………..