ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1216 แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน + ตอนที่ 1217 คาดเดา
ตอนที่ 1216 แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน
เฮ่อเหลียนชิงถูกเหยียนหมิงซุ่นพาตัวออกไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยินยอมเท่าไรนักเพราะนายใหญ่นั่นน่าเบื่อไร้รสชาติ สู้เล่นกับแม่ของยัยเด็กบ้ายังสนุกกว่าเสียอีก!
เหยียนหมิงซุ่นพูดแกมขอโทษว่า “น้าเหยียน คุณจ้าว พ่อบุญธรรมของผมค่อนข้างดื้อรั้น คำพูดที่เขาพูดพวกคุณก็คิดเสียว่าเขาแค่ผายลมแล้วกันครับ อย่าเก็บไปคิดมาก”
เหมยเหมยพยักหน้าตาม “ใช่ค่ะ คิดเสียว่าเขาผายลมออกมาละกัน”
ในใจเหยียนซินหย่าเห็นด้วยสุดขีดแค่ผายลมออกมาเอง แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อีกทั้งลูกบุญธรรมของเขาก็ยังยืนอยู่ตรงหน้า!
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูพูดต่อหน้าเขาอย่างนี้แหละ” เหมยเหมยไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น เธอกับเฮ่อเหลียนชิงพอเจอหน้ากันก็ทะเลาะกัน แค่บอกว่าผายลมยังถือว่าดีแล้วด้วยซ้ำ!
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มแล้วพูดว่า “น้าเหยียนไม่ต้องคิดมากนะครับ พ่อบุญธรรมของผมมักจะบอกว่าเหมยเหมยเป็นคนใสซื่อ จิตใจดี แล้วก็ชอบเหมยเหมยมากๆครับ!”
แต่ที่จริงคำพูดเดิมของเฮ่อเหลียนชิงคือ ‘ยัยเด็กบ้านั่นโง่จะตายเล่นกับเธอคลายเหงาได้ดี แล้วก็ยังกินข้าวได้มากขึ้นด้วย’
แน่นอนว่าเหยียนหมิงซุ่นคิดว่า นี่คือวิธีการแสดงออกว่าชอบของเฮ่อเหลียนชิง ไม่เช่นนั้นจะกินได้มากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร!
เหยียนซินหย่าจึงวางใจลงบ้าง เธอมองตาแกนั่นพลันรู้สึกว่าไม่ค่อยปกติ บางทีเขาอาจจะชอบที่ลูกสาวของเธอพูดจาจาบจ้วงแบบนี้ก็ได้ !
เฮ่อเหลียนชิงถูกลูกน้องพาไปที่ห้องหนังสือ นายใหญ่พอเห็นเขาก็ประหลาดใจ ทำไมตาแก่นี่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นขนาดนี้ อีกทั้งยังอ้วนขึ้นด้วย!
พูดถึงล่าสุดที่นายใหญ่เจอเฮ่อเหลียนชิงคือสองปีก่อน ตอนนั้นเฮ่อเหลียนชิงผอมเหลือแต่กระดูก ดูเหมือนไร้ชีวิต นายใหญ่ยังคิดว่าตาแก่นี่อาจจะใช้ชีวิตได้ไม่ถึงสองปี!
ใครจะไปคิดว่าผ่านไปสองปี เฮ่อเหลียนชิงกลับยิ่งดูมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิม ดูอ่อนวัยมากขึ้นด้วย ดูท่าแล้วยังสามารถก่อเรื่องได้อีกหลายสิบปีทีเดียว
นายใหญ่ทั้งดีใจและกังวลในเวลาเดียวกัน ดีใจที่เฮ่อเหลียนชิงยังไม่ตายจะได้มาสู้กับหนิงเฉินเซวียนต่อ ตำแหน่งของเขาก็จะมั่งคงยิ่งขึ้น
สิ่งที่กังวลก็คือหากเฮ่อเหลียนชิงคิดจะกลับมา ตาแก่นี้น่ากลัวกว่าหนิงเฉินเซวียนเสียอีก ถ้าหากว่ามีวันหนึ่ง เฮ่อเหลียนชิงทำลายหนิงเฉินเซวียน ความสมดุลถูกทำลาย เป้าหมายคนต่อไปของเฮ่อเหลียนชิงจะเป็นใคร?
จะเป็นเขาไหมนะ?
นายใหญ่จ้องพินิจพิเคราะห์เฮ่อเหลียนชิงที่ดูสดใส บนใบหน้าไม่ได้แสดงท่าทีเช่นใด ยิ้มเล็กน้อย “คุณกินยาวิเศษอะไรมา? ถึงกลับมาดูเด็กได้ขนาดนี้”
เฮ่อเหลียนชิงสีหน้าไม่เปลี่ยน ยิ้มแล้วพูดว่า “ยังจะมียาวิเศษอะไรได้อีก ก็มีแต่พวกธัญญาพืชทั้งหลาย กินข้าวเยอะขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้นเอง”
นายใหญ่ถามด้วยความประหลาดใจว่า “อาการเบื่ออาหารของคุณดีขึ้นแล้วหรือ? ใครรักษาให้หาย ทำไมผมไม่ยักรู้”
“ใช่ เพื่อนสาวของหมิงซุ่นเป็นคนรักษาให้” เฮ่อเหลียนชิงพูดพลางหัวเราะ
“เพื่อนสาวเหรอ? เด็กสาวคนนั้นของตระกูลจ้าวหรือ? เธอรักษาโรคเป็นเมื่อไหร่กัน?” นายใหญ่พูดชื่อเหมยเหมยออกมา สายตาเฮ่อเหลียนชิงสั่นไหวเล็กน้อย แล้วแอบยิ้มเยาะ
เขารู้ว่าตาแก่นี่ไม่วางใจ แน่นอนว่าต้องส่งคนมาสะกดรอยตาม เหอะ…เขาใช่คนที่ตาแก่นี่จะมาดักฟังอะไรง่าย ๆเสียที่ไหน เรื่องที่มาดักฟังไป แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่เขาตั้งใจจะให้นายใหญ่รู้เท่านั้น
หากเขาไม่ต้องการให้ใครได้รู้ ถึงแม้ว่าจะเป็นพระโพธิสัตว์มาเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก
“เด็กคนนั้นแหละ เธอรู้เรื่องการแพทย์เสียที่ไหน แต่ยัยเด็กนี่กินข้าวแล้วดูน่าสนใจดีแค่เห็นก็อยากอาหารแล้ว กินข้าวกับยัยเด็กนี่ไม่กี่มื้อ อาการเบื่ออาหารของผมก็ดีขึ้นเลย”เฮ่อเหลียนชิงไม่ได้ปิดบังอะไร มุมปากแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม
นายใหญ่ไม่ค่อยเชื่อนัก เขาจงใจถามขึ้นว่า “ดูท่าแล้วคุณน่าจะชอบยัยหนูตระกูลจ้าวคนนั้นมากใช่ไหม?”
เฮ่อเหลียนชิงหุบยิ้มลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ก็พอได้ ใครให้ลูกชายผมชอบล่ะ ถึงผมจะไม่ชอบแต่จะไปทำอะไรได้”
สีหน้าท่าทางเหมือนผู้ปกครองที่เป็นห่วงลูกหลานในตอนนี้ แตกต่างจากสีหน้าท่าทางรังเกียจที่แสดงต่อหน้าเหยียนซินหย่าเมื่อสักครู่ราวกับเป็นคนละคนกันเลยเชียว
………………………………………………………………
ตอนที่ 1217 คาดเดา
ถึงแม้นายใหญ่จะสงสัยว่าเฮ่อเหลียนชิงอาการดีขึ้นเพราะมียาวิเศษ แต่เขาก็รู้ว่าตาแก่นี่ไม่มีวันพูดความจริงๆ เดี๋ยวค่อยวางแผนสืบเรื่องนี้ในภายหลัง หากมียาวิเศษที่ทำให้คนฟื้นจากความตายได้จริง เขาจะปล่อยไปง่าย ๆได้อย่างไร!
“วันนี้คุณจัดงานเลี้ยงใหญ่ เตรียมจะกลับมาแล้วใช่ไหม?” นายใหญ่ถามกลับแววตาเป็นประกาย
นี่จึงจะเป็นจุดประสงค์ที่เขามาในวันนี้
เฮ่อเหลียนชิงหลบซ่อนตัวมาเกือบ 20 ปี จู่ ๆ ก็พุ่งพรวดออกมา อีกทั้งยังรับลูกบุญธรรม นายท่านจะไม่คิดมากได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นในมือของเฮ่อเหลียนชิงมีพลังที่ทำให้คนกลัว หากเขาอยากจะทำอะไรขึ้นมา… ต้องเกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้นแน่
เฮ่อเหลียนชิงยิ้มอย่างรู้ทัน เขารู้ว่านายใหญ่จะคิดแบบนี้ เหอะ…ถ้าเขาอยากจะทำอะไรจริง ๆ ตำแหน่งนายใหญ่หลายปีมานี้จะมั่นคงเช่นนี้หรือ?
“ผมมันเป็นคนไร้ประโยชน์ จะกลับมาได้อย่างไรเล่า? แต่ว่าก็จะมีบางคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว ถ้าให้มานั่งอธิบายทีละคนทีละคนคงวุ่นวายน่าดู ผมก็เลยเชิญทุกคนมาเสียเลย พูดให้รู้เรื่องในทีเดียว”
เฮ่อเหลียนชิงพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา อันนี้เป็นคำพูดจากใจเขาจริง จุดประสงค์ในการจัดงานเลี้ยงด้วยเหตุผลนี้ แน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันยอมรับว่า เขากำลังทำเพื่อหนุนนำให้ยัยเด็กนั่น!
เขากับยัยเด็กเจอหน้ากันต้องกัดกันอยู่เรื่อย ยัยเด็กนั่นถูกคนอื่นรังแก เขาสิดีใจเสียแทบไม่ทัน!
นอกจากนั้นเขายังอยากจะบอกสองคนนั้นว่า เขาเฮ่อเหลียนชิงยังมีชีวิตอยู่ดีมีสุข ร่างกายแข็งแรงดีมาก พวกแกล้างคอรอไว้ได้เลย นั่งรอความตายอยู่ที่บ้านเสียเถอะ!
แน่นอนนายใหญ่รู้เรื่องที่ไม่กี่วันก่อนเหยียนหมิงซุ่นทำตัวเป็นวีรบุรุษไปช่วยสาวงาม แต่คนขี้สงสัยอย่างเขากลับรู้สึกว่าจุดประสงค์ของเฮ่อเหลียนชิงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
“พูดไปแล้วทำไมคุณถึงรับลูกบุญธรรม? แต่ก่อนคุณบอกไม่ใช่หรือว่ามาคนเดียวก็จะต้องไปคนเดียว” นายใหญ่อยากจะถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง
ศักยภาพที่แท้จริงของเหยียนหมิงซุ่นถึงจะเป็นสิ่งที่นายใหญ่กลัวที่สุด
เฮ่อเหลียนชิงรับลูกบุญธรรมที่เก่งกว่าเฮ่อเหลียนเช่อ เขาจะไม่กลัวได้อย่างไร!
เฮ่อเหลียนชิงพูดเสียงเบาว่า “อายุเยอะแล้ว ความคิดก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมก็ต้องหาลูกชายมาใส่เสื้อไว้ทุกข์ให้ผมเสียหน่อยสิ”
นายใหญ่ฟังคำเสียดสีตัวเองที่แฝงในคำพูดเขาออก พอนึกถึงเรื่องเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับตาแก่ที่อยู่ด้านหน้าขึ้นมา ก็อดที่จะรู้สึกสงสารไม่ได้ ความสงสัยเริ่มเบาบางลงไป
“มันก็ใช่ ผมเห็นว่าหมิงซุ่นก็เป็นเด็กที่ไม่เลวเลย” นายใหญ่ชื่นชมอย่างตะกุกตะกัก
เฮ่อเหลียนชิงเงยหน้ามองเขา พูดด้วยท่าทีจริงจังว่า “คุณวางใจได้ ในชีวิตนี้ของผมไม่ขออะไร จุดประสงค์เดียวที่ผมมีชีวิตอยู่ต่อก็คือฆ่าหนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูกให้ตาย ผมไม่มีวันรามือจากพวกเขาแน่”
นี่เป็นครั้งแรกที่เฮ่อเหลียนชิงแสดงการตัดสินใจว่าจะฆ่าหนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูกนั้นอย่างเปิดเผย ถือว่าเป็นการฉีกผ้าผืนชั้นสุดท้ายออกไปอย่างไม่ปิดบังสักนิด
นายใหญ่ชะงักไปชั่วครู่ ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับความคิดที่จะฆ่าหนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูกของเฮ่อเหลียนชิง เรื่องราวความชั่วร้ายของทั้งสามคนนี้ ใช้เวลาสามวันสามคืนก็คงจะเล่าไม่จบ
“พวกคุณ…”
ถึงแม้ในใจอยากจะให้สองนั้นตายสักเท่าไรแต่ยังต้องรักษาภาพพจน์อยู่ดี เฮ่อเหลียนเช่อพูดขัดแกมเสียดสีเบา ๆว่า “คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอก ขอเพียงแค่หนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูกนั้นตาย ผมถึงจะได้ลาทางโลกปลีกวิเวกอย่างแท้จริงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสบายใจ”
นายใหญ่เปิดปากถอนหายใจอย่างจนปัญญา แต่ในใจรู้สึกมีความสุขมาก
เวลาผ่านไปเร็วมากแขกในสวนฟาร์มทยอยมามากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาดีใจกันมากต่างพากันมาสำรวจสวนฟาร์มลึกลับแห่งนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สิ่งที่อยากรู้ที่สุดก็คือจุดประสงค์ของเฮ่อเหลียนชิงที่จัดงานเลี้ยงครั้งนี้
หรือว่าเป็นเพราะกำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว?
ไม่ใช่สิไม่ใช่ คนใกล้ตายที่ไหนจะมีอารมณ์เลี้ยงข้าวคนอื่น!
……
ทุกคนต่างก็คิดกันไปคนละทาง ความข้องใจทำให้พวกเขาเฝ้ารอคอยการเริ่มงานเลี้ยงเป็นพิเศษ รอให้เฮ่อเหลียนชิงเป็นคนมาบอกคำตอบด้วยตัวเอง
……………………………………………………