ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1218 ราวกับนั่งบนพรมเข็ม + ตอนที่ 1219 สั่งสอน
ตอนที่ 1218 ราวกับนั่งบนพรมเข็ม
หลังจากเหยียนหมิงซุ่นมาบอกข่าวแล้วก็รีบเดินออกไปจัดการธุระต่อ เหมยเหมย เหยียนซินหย่าและจ้าวอิงหนานพักผ่อนอยู่ที่สวนหลังบ้าน ฉิวฉิวกับหวงฉิวกินอิ่มเต็มที่ กำลังเล่นกันอยู่บนซุ้มองุ่น
“เหมยเหมย มาที่นี่บ่อยเหรอ” จ้าวอิงหนานถามด้วยความอยากรู้
ดูจากท่าทีเมื่อสักครู่ของหลานสาวดูจะคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่าบ้านตระกูลจ้าวเสียอีก เกรงว่าคงจะไม่ได้มาแค่ครั้งสองครั้งแน่!
เหมยเหมยพยักหน้า “ใช่ค่ะ มักจะมาทานข้าวที่นี่บ่อยๆ อาคะ แม่คะ หนูจะพาไปดูสวนดอกไม้ทางนู้นดีกว่า ดอกไม้พวกนั้น หนูเป็นคนลงมือปลูกเองกับมือเลยนะ!”
เหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนานส่งสายตาแห่งความสงสัยให้กัน ดูจากท่าทีของลูกสาว(หลานสาว)แล้ว ราวกับเป็นนายหญิงของที่นี่อย่างชัดเจน เสียแรงที่เมื่อสักครู่พวกหล่อนยังคิดว่าเฮ่อเหลียนชิงคิดไม่ดีกับเหมยเหมย
“เหมยเหมย ทำไมลูกไม่บอกให้เร็วกว่านี้? ที่จริงเมื่อครู่แม่เสียมารยาทมากเกินไปแล้ว” เหยียนซินหย่าตำหนิ
“คิคิ อย่าคิดมากเลยแม่ ตาแก่นั่นนิสัยเสียแบบนี้แหละ ถ้าพูดดีดีกับเขาเขาไม่ฟังด้วยซ้ำ ด่าสักหน่อยถึงจะมีความสุข”
เหมยเหมยเหยียบขึ้นไปบนโต๊ะหิน ดึงองุ่นสองพวงลงมาจากซุ้มองุ่น แล้วส่งให้ทั้งสองคนที่กำลังตกใจ
“กินองุ่นค่ะ องุ่นที่นี่รสชาติไม่เลวเลยค่ะ”
องุ่นรสชาติดีจริง ๆ เฮ่อเหลียนชิงเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรมาปลูกพันธุ์ชั้นดี ไม่อร่อยสิแปลก
เหมยเหมยเด็ดองุ่นยัดใส่ปากเหยียนซินหย่ากับจ้าวอิงหนาน องุ่นรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังพอดีปลอบโยนพวกเขา ทำให้จิตใจค่อย ๆสงบลง เหยียนหมิงซุ่นส่งคนให้มาเรียกพวกเขาไปที่ด้านหน้า งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ที่นั่งของเหมยเหมยเด่นมากเป็นที่นั่งตรงกลาง ใคร ๆก็สามารถเห็นได้ สายตาของผู้คนมากมายจับจ้องราวกับปลายเข็มที่ทิ่มแทง รู้สึกไม่ค่อยสบายนัก
เหยียนซินหย่าฝืนทนนั่งกับลูกสาว จ้าวอิงหนานกลับไปนั่งที่โต๊ะตระกูลจ้าว โต๊ะที่พวกเธอนั่งมีแค่พวกเธอสองแม่ลูก แล้วก็ตาแก่โรคจิตเฮ่อเหลียนชิง แค่พวกเขาสามคนเท่านั้น
เฮ่อเหลียนชิงไม่คิดจะพูดอะไรกับพวกเธอ เหยียนซินหย่ารู้สึกโล่งใจอย่างอดไม่ได้ ถึงแม้จะรู้ว่าตาแก่นี่ไม่ได้คิดร้ายต่อลูกสาว
“คุณหนิงเชิญทางนี้ครับ”
หนิงเฉินเซวียนกับเฮ่อเหลียนเช่อสองคนนั่นมาแล้วมุ่งตรงมานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเขา เหมยเหมยไม่รู้จักหนิงเฉินเซวียน แต่เธอรู้จักเฮ่อเหลียนเช่อ เหมยเหมยใจเต้นตึกตัก
เหยียนหมิงซุ่นจัดที่นั่งอย่างไรกันเนี่ย?
เหมยเหมยไม่รู้ว่าโต๊ะของพวกเขาเฮ่อเหลียนชิงเป็นคนจัดการเอง เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย
เฮ่อเหลียนเช่อเห็นเหมยเหมยก็แสยะยิ้มอย่างเย็นชา หลายวันมานี้เหมยซูหานใส่อารมณ์กับเขา เล่นสงครามประสาทกันมาหลายวันแล้ว ก็เป็นเพราะเขาเล่นงานนังเด็กนี่
เหมยซูหานปากบอกเพราะเรื่องอื่น แต่เขารู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้
อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ว่าเหมยซูหานยังเหลือเยื่อใยให้นังเด็กนี่อยู่!
เหมยเหมยสัมผัสได้ถึงสายตาเยือกเย็นของเฮ่อเหลียนเช่อ ใจก็เต้นตึกตักอีกครั้ง แผ่นหลังเย็บเฉียบ รีบนั่งตัวตรง จะทำท่าทีหวาดกลัวต่อหน้าเฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้
“เฮ่อเหลียนชิง คุณยังไม่ตายอีกเหรอ?” หนิงเฉินเซวียนยังไม่ทันนั่งลงก็พูดคำนี้ออกมา ดูแตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็นคนมีมารยาทมากเสียจริง
หนิงเฉินเซวียนคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า ศัตรูตัวฉกาจของเขาจะสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นทุกวัน ดูแล้วยังดูอ่อนวัยกว่าเขาเสียอีก จะให้ไม่โมโหได้อย่างไรล่ะ?
เฮ่อเหลียนชิงพูดขึ้นว่า “คุณยังไม่ตายเลย ผมจะตายได้อย่างไร!”
หนิงเฉินเซวียนโมโหหน้าเขียว แค่นเสียงไม่พอใจแล้วนั่งลง แต่ทั้งร่างกลับแผ่รังสีความเยือกเย็นออกมา ทำให้เหยียนซินหย่าหนาวจนตัวสั่น ถ้าเป็นไปได้เธอยอมไปนั่งที่มุมลับตายังจะดีเสียกว่า
เหมยเหมยตักน้ำซุปให้แม่ที่น่าสงสารของเธอ ปลอบโยนด้วยเสียงแผ่วเบา เหยียนซินหย่าดื่มน้ำซุปร้อน ๆเข้าไป จิตใจก็สงบลงมาไม่น้อย
เฮ่อเหลียนเช่อมองไปที่เหยียนซินหย่าหลายที นัยน์ตาของเขาเต็มไปความตกตะลึง ในสายตาเขาแล้วเหยียนซินหย่าดูมีรสชาติกว่าจ้าวเหมยมาก ลูกท้อที่สุกงอมแล้วรสชาติถึงจะอร่อยสิ
แต่ตอนนี้เขาชอบแค่พ่อดอกเหมยคนเดียว ผู้หญิงหน้าตาดีขนาดไหนก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้
แต่พอเห็นนังเด็กนี่ค่อนข้างเอาใจใส่ความรู้สึกของแม่ตัวเอง น่าจะพอเอามาใช้ประโยชน์ได้!
……………………………………..
ตอนที่ 1219 สั่งสอน
แขกเริ่มจะทยอยเข้ามานั่งจนเต็มแล้ว เสียงผู้คนดังเซ็งแซ่ ทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้ความจริงถูกเปิดเผย
ตระกูลจ้าวนั่งกันเต็มโต๊ะแล้ว โต๊ะของพวกเขาห่างจากโต๊ะของเหมยเหมยเล็กน้อย
“พ่อ ดูสิ เหมยเหมยนั่งโต๊ะเดียวกับเฮ่อเหลียนชิง แล้วก็ยังมีน้องสะใภ้ด้วย”
จ้าวอิงหย่งดีใจเป็นอย่างมาก เขาเห็นความสัมพันธ์ของหลานสาวกับเฮ่อเหลียนชิงสนิทสนมกันยิ่งกว่าที่เขาคิดเสียอีก!
นี่ช่างเป็นข่าวดีจริง ๆ!
จริง ๆแล้วคุณปู่เห็นเหมยเหมยตั้งแต่แรกแล้ว ความคิดของเขาเหมือนกับจ้าวอิงหย่ง ในใจทั้งตื่นเต้นและเจ็บปวด
เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก!
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า จ้าวหวายซานอย่างเขาผู้เป็นวีรบุรุษมาทั้งชีวิต กลับจะต้องมาพึ่งพาหลานสาวประคองตระกูลจ้าว
สิ่งที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกไม่ดีก็คือ เขาไม่แน่ใจว่าหลานสาวจะยอมไหม!
“สวัสดีครับทุกท่าน ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาร่วมงานเลี้ยงนี้ สาเหตุที่นายท่านเชิญทุกคนมาร่วมงานในวันนี้ ก็เพื่อประกาศข่าวดีเรื่องหนึ่ง”
เสี่ยวเมิ่งพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ช่างแตกต่างกับเขาที่สุขุมเยือกเย็นในเวลาปกติ ทำหน้าที่ได้ดีกว่าพิธีกรมืออาชีพเสียอีก
เสี่ยวเมิ่งส่งไมค์ให้กับเฮ่อเหลียนชิง เหยียนหมิงซุ่นก็เดินมาอยู่ด้านข้างเขา
“ทุกท่าน ผมจะขอแนะนำให้ทุกคนให้รู้จักลูกบุญธรรมของผม เหยียนหมิงซุ่น หมิงซุ่นทักทายทุกคนเสียหน่อย”
เฮ่อเหลียนชิงเสียงแหลมมาก พอพูดใส่ไมค์ยิ่งทำให้ระคายหู ฟังแล้วรู้สึกทรมานหูเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่มีใครกล้าแสดงออกมา
เหยียนหมิงซุ่นรับไมค์ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเฮ่อเหลียนเช่อแวบหนึ่ง ทำปากเยาะเย้ย พูดด้วยความเบิกบานใจว่า “ได้มาเป็นลูกบุญธรรมของพ่อ ถือเป็นโชคดีของผมอย่างมาก ต่อจากนี้ผมจะกตัญญูต่อพ่อบุญธรรม นำภารกิจของพ่อบุญธรรมมาเป็นเป้าหมาย ไม่ทำให้พ่อบุญธรรมต้องผิดหวังครับ”
พอพูดถึงตรงนี้ เหยียนหมิงซุนก็มองไปที่หนิงเฉินเซวียนสองพ่อลูก คนที่รู้เรื่องก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี นี่เป็นการบอกเป็นนัยว่ากำลังจะเกิดพายุขึ้นในเมืองหลวงแล้ว
เฮ่อเหลียนเช่อได้รับคำท้าทายจากเหยียนหมิงซุ่น สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยน ลุกพรวดจะระเบิดอารมณ์ หนิงเฉินเซวียนห้ามเขาไว้ ใช้สายตาตักเตือน เฮ่อเหลียนเช่อนั่งลงอย่างไม่พอใจ สีหน้าดูไม่ได้เลย
เฮ่อเหลียนชิงส่งเสียงไม่พอใจ พึมพำกับตัวเองว่า “เด็กน้อยบ้าระห่ำ หลายปีผ่านไปไม่ได้มีการพัฒนาเอาเสียเลย อยู่ใกล้ใครก็จะเป็นอย่างนั้นจริง ๆสินะ!”
เสียงไม่ได้ดังมากแต่ก็ไม่ถือว่าเบา ทั้งโต๊ะได้ยินกันทุกคน เหมยเหมยเบะปาก เธอรู้สึกว่าคำพูดของตาแก่โรคจิตออกมาจากความโกรธแค้นเสียมากกว่า!
เฮ่อเหลียนเช่อสีหน้าเปลี่ยนอีกครั้ง ลุกขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่ก็ถูกหนิงเฉินเซวียนกดลงไปอีกครั้ง
“ตาแก่บ้าเอ้ยระวังตัวไว้เถอะ” เฮ่อเหลียนเช่อพูดอย่างเหี้ยมโหด สิ้นเสียงก็มีเงาสีขาวผ่านไปอย่างรวดเร็ว เฮ่อเหลียนเช่อรู้สึกเจ็บบริเวณลำคอ จนต้องส่งเสียงร้องออกมา
ฉิวฉิวโจมตีสำเร็จเพียงครั้งเดียวแล้วรีบกลับไปอยู่บนต้นไม้ ร้องขอความดีความชอบจากเหมยเหมย: “เจ้านาย ผมเก่งใช่ไหมล่ะ?”
“เด็กดี เดี๋ยวตาแก่โรคจิตจะซื้อชอคโกแลตให้หนึ่งคันรถเลย” เหมยเหมยพูดอย่างยิ้มแย้ม ฉิวฉิวมีความสุขจนม้วนตัว แล้วก็พาน้องหวงฉิวออกไปวิ่งเล่นด้วยกัน
เฮ่อเหลียนเช่อยื่นมือไปลูบตรงลำคอ แต่สัมผัสถึงรอยเลือด ลำคอรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ย้ำเตือนเขาว่าเมื่อสักครู่เขาโดนคน…ไม่สิ เขาไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไรมาลอบโจมตีเขา
“เช่อเอ๋อร์เป็นอะไรไป?” หนิงเฉินเซวียนเห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจ ถึงแม้ปกติเขาจะชอบดุด่าทุบตีเฮ่อเหลียนเช่อ แต่ในใจกลับรู้สึกรักและเอ็นดูอยู่ตลอด อย่างไรเสียก็เป็นลูกชายแท้ ๆของเขา!
อีกทั้งยังเป็นลูกชายคนเดียวของผู้หญิงที่เขารักที่สุด จะไม่ให้เจ็บปวดใจได้อย่างไร?
เฮ่อเหลียนเช่อร้องเสียงซี้ด แล้วส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ”
เมื่อสักครู่เขาเห็นอย่างชัดเจนว่ามีเงาสีขาวมาทำร้ายตัวเอง สถานการณ์นี้ดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก สามปีก่อนตอนที่จับเหมยเหมยที่สโมสรอันดับหนึ่ง เขาก็ถูกเงาสีขาวลอบโจมตีเช่นกันเป็นแบบเดียวกับเงาสีขาวในวันนี้เลย
…………………………………………………….