ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1224 เฮ่อเหลียนชิงออกหน้าแทนเธอ + ตอนที่ 1225 ปากแข็งไม่ยอมแพ้
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1224 เฮ่อเหลียนชิงออกหน้าแทนเธอ + ตอนที่ 1225 ปากแข็งไม่ยอมแพ้
ตอนที่ 1224 เฮ่อเหลียนชิงออกหน้าแทนเธอ
เหยียนหมิงซุ่นกับเฮ่อเหลียนเช่อโต้ตอบกันไปมาต่างไม่มีใครยอมใคร ไฟโทสะแผ่ไปทั่วทั้งงาน เหล่าแขกในงานไม่กล้าแม้กระทั่งจะเงยหน้ามองจึงทำแค่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไป
รุนแรงไม่เบา ลูกชายทั้งสองคนของเฮ่อเหลียนชิงนี้ต่างก็ไม่ธรรมดากันเลย!
เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่บาดแผลบริเวณคอของเฮ่อเหลียนเช่อ พูดเหน็บแนมว่า “ขนาดกระรอกตัวน้อยของฉันแกยังรับมือกับมันไม่ได้ เฮ่อเหลียนเช่อฝีมือของแกช่าง…..” เขาหยุดพูดพลางส่ายหัวอย่างดูถูก “เฮ่อเหลียนเช่อนายคงไม่ได้โดนดูดมาจนหมดแรงหรอกใช่ไหม? กลับไปเอาไตหมูมาบำรุงหน่อยนะ”
“พรวด”
เหมยเหมยพ่นน้ำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ รีบเอามือปิดปากไหล่สั่นไม่หยุด
“ร่างกายฉันแข็งแรงจะตาย แกต่างหากละที่ควรทำ ดูท่าทางคู่หมั้นของนาย ร่างกายคงใช้การให้พึงพอใจไม่ได้เท่าไร เหยียนหมิงซุ่นถ้าแกทนไม่ไหวฉันสามารถแบ่งเบาแกได้นะ!”
เฮ่อเหลียนเช่อมองเหมยเหมยอย่างดุดันราวกับงูพิษ คำพูดที่พ่นออกมาเหมือนกับพิษร้าย เหยียนซินหย่าหน้าเปลี่ยนสี เตรียมยืนจะปะทะฝีปากแต่โดนเหมยเหมยรั้งไว้ก่อน
แน่นอนว่าเหมยเหมยก็โมโห ไอ้โรคจิตวิปริตสมควรตายนี่พูดว่าตัวเธอเป็นผู้หญิงสำส่อนต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เธอจะไม่โมโหเลยได้ไงเล่า?
ไม่ต้องรอให้เหมยเหมยและเหยียนหมิงซุ่นด่า เฮ่อเหลียนชิงที่นั่งดูฉากสนุก ๆอยู่ก็หยิบถ้วยซุปขึ้นมาแล้วสาดไปที่เฮ่อเหลียนเช่อ
เพราะว่ากะทันหันเกินไป อีกทั้งเฮ่อเหลียนเช่อคิดว่าเฮ่อเหลียนชิงเป็นคนไร้ประโยชน์ที่มีแรงแค่น้อยนิดจึงไม่เห็นอยู่ในสายตา ใครจะคิดว่าจู่ ๆจะถูกดักซุ่มสาดซุปใส่เข้าเต็มหน้าจนมันเยิ้มขนาดนี้ล่ะ
โชคดีที่อาหารนำมาขึ้นโต๊ะนานแล้ว น้ำแกงเลยแค่อุ่น ๆ นอกจากความมันแล้วก็ไม่โดนน้ำแกงลวก
แต่กลับเสียหน้ายับเยินอย่างแรง!
“เมื่อเช้ากินขี้มาหรือไง? ดีแต่พ่นคำพูดซี้ซั้วออกมาอยู่ได้ หนิงเฉินเซวียนแกอย่าเอาแต่สนใจว่าคลอดออกมาแต่ไม่ดูแลให้ดีสิ กลับไปสั่งสอนให้ดีเถอะ พูดจาดี ๆไม่เป็นก็ถือว่าช่างมันเถอะเพราะมากสุดก็แค่เป็นใบ้ แต่ทางน้ำมีไม่ไปดันรั้นจะใช้ถนนแห้ง ๆเอาซะได้ คนสืบทอดวงศ์ตระกูลหนิงของนายก็จะสิ้นสุดลงแค่นี้แหละ!”
เฮ่อเหลียนชิงด่าออกมาชุดหนึ่งโดยเลือกเอาจุดอ่อนมาด่า หนิงเฉินเซวียนและเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็หน้าดำคล้ำด้วยความโกรธ เคร่งขรึมจนน่ากลัว
“โอ้ย…ฉันนี่มันช่างโง่เขลาจริง ๆ ตระกูลหนิงของพวกแกทางที่ดีไร้ทายาทสืบทอดถึงจะดีที่สุด เฮ่อเหลียนเช่อสนใจจะเดินบนถนนแห้ง ๆ บุรุษบำเรอคนเดียวไม่เพียงพอ วันหลังฉันจะส่งเด็กสาวสวย ๆให้นายสักสองสามคน รับรองว่าเต็มอิ่มถึงอกถึงใจนายแน่นอน!”
เฮ่อเหลียนชิงยิ้มได้อย่างลำพองใจมาก เขาตั้งใจแสดงท่าทีขัดคอหนิงเฉินเซวียน
ไม่มีใครจะเข้าใจเจ้าสารเลวหนิงเฉินเซวียนคนนี้ดีเท่าเขาอีกแล้ว อย่ามองว่าไอ้หมอนี่เคยไปอยู่ที่ต่างประเทศแล้วจะหัวสมัยใหม่นะ แต่ในกระดูกลึก ๆกลับเป็นคนให้ความสำคัญกับการสืบทอดวงศ์ตระกูลมาก ไม่อย่างปีนั้นเขาคงจะไม่เสี่ยงอันตรายกับความพินาศที่สุดในโลกแบบนั้นหรอก ร่วมประเวณีกับน้องสาวคนละแม่จนให้กำเนิดมารหัวขนอย่างเฮ่อเหลียนเช่อออกมา
เพียงเพราะว่าหนิงเฉินเซวียนไม่สามารถตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่นได้อีกต่อไป และจนปัญญาที่จะมีลูกกับผู้หญิงคนอื่น ดังนั้นเขายอมที่จะแบกโลกทั้งใบเอาไว้
“เฮ่อเหลียนชิงของที่ไร้ประโยชน์อย่างนายมีคุณสมบัติอะไรมาสนใจเรื่องทายาทวงศ์ตระกูลของฉัน? ตระกูลหนิงของฉันขอเพียงแค่คิดอยากจะมีเท่าไรก็ย่อมได้ แต่เฮ่อเหลียนชิงอย่างแกไม่มีปัญญาจะมีได้หรอก”
ตามที่คาดไว้เขาเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่ต่อสู้กับเฮ่อเหลียนชิงมานานหลายทศวรรษ โผล่มาเรื่องจุดอ่อนแบบนี้ ความเกลียดชังก็ฉายในแววตาของเฮ่อเหลียนชิง เขากำหมัดแน่น
เหยียนหมิงซุ่นรีบก้าวไปข้างหน้าและตอบกลับไปว่า “พ่อบุญธรรมมีแค่ฉันก็พอแล้ว อีกอย่างคลอดออกมาแต่ไม่เลี้ยงดูสู้ไม่มีเลยจะดีกว่า ตัวอย่างเช่นพวกรักร่วมเพศพวกนั้น ลูกชายแบบนี้คลอดออกมาแล้วมีประโยชน์อะไร?”
เฮ่อเหลียนชิงยิ้มอย่างสบายใจ คำพูดที่พูดออกมายิ่งทิ่มแทง “ใช่ไหมล่ะ เดินถนนแห้ง ๆแบบนั้น ต่อให้จะสาดน้ำพรมมันทุกวันแต่ก็คงไม่ออกดอกออกผลหรอก!”
พ่อแท้ ๆ VS พ่อบุญธรรม
พ่อบุญธรรมชนะ!
หลังงานเลี้ยงพ่อลูกหนิงเฉินเซวียนก็จากไปด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม รังสีไอเย็นแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายทำให้หนาวสั่นจนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าอยู่ใกล้เขาในระยะร้อยเมตร
…………………………………………………….
ตอนที่ 1225 ปากแข็งไม่ยอมแพ้
เหมยเหมยกลับรู้สึกคันยุบยิบในใจ เมื่อครู่ตอนที่เฮ่อเหลียนเช่อจะจากไป สายตาของเขาที่หันมองเธอดูชั่วร้าย เธอกล้ารับรองเลยว่าไอ้โรคจิตวิปริตสมควรตายนี่คิดเล่ห์เพทุบายอะไรอีกแล้วแน่นอน
เหยียนหมิงซุ่นก็เห็นเหมือนกัน เขาก็คิดเหมือนกันว่าเฮ่อเหลียนเช่อคิดอยากจะจัดการเหมยเหมย เขาจึงแอบวางแผนอยู่ในใจว่าจะจัดการเพิ่มกำลังลูกน้องปกป้องไว้ข้างกายเหมยเหมย
งานเลี้ยงจบลงผู้คนต่างแยกย้าย ห้องโถงด้านหน้าว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว เหยียนซินหย่ากลับไปที่บ้านตระกูลจ้าวพร้อมกับพวกคุณปู่ เหมยเหมยยังคงอยู่ที่สวน เธอยังมีธุระต่อ
“ขอบคุณที่เมื่อครู่คุณช่วยหนูสั่งสอนเฮ่อเหลียนเช่อนะคะ!” เหมยเหมยรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง แต่กลับพูดออกมาตรง ๆอย่างจริงใจ
เมื่อครู่เธอคาดไม่ถึงจริง ๆว่าเฮ่อเหลียนชิงที่ยามปกติไม่แม้แต่จะพูดดีกับเธอสักคำและไม่เคยทำหน้าดี ๆใส่เธอเลยสักนิด กลับช่วยเธอสั่งสอนเฮ่อเหลียนเช่อนับว่าช่วยระบายความโมโหได้ดีจริง ๆ
เธอไม่ใช่คนไม่สำนึกบุญคุณ ในเมื่อเฮ่อเหลียนชิงยื่นมือมาช่วยเธอแน่นอนว่าต้องขอบคุณอยู่แล้ว
เฮ่อเหลียนชิงสีหน้าดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง หากมองสังเกตใกล้ ๆก็จะเห็นสีแดงระเรื่อตรงปลายหูของเขา เขาแค่นเสียงไอหนัก ๆสองสามครั้ง เฮ่อเหลียนชิงเชิดคางขึ้นทำท่าเหมือนรำคาญ
“เธออย่าคิดไปเองฝ่ายเดียว ฉันช่วยหมูช่วยหมาได้แต่ไม่มีทางช่วยเธอหรอก ก็แค่ไม่ชอบหน้าไอ้สารเลวนั้นเห็นแล้วขัดตาก็เท่านั้นเอง”
เสียงแหลมสูงบาดหู คำพูดไม่น่าฟังขึ้นไปอีก เหมยเหมยโดนเขายั่วโมโหจนใบหน้าแดงก่ำไปหมด น้ำตาคลอเบ้า ——โมโหมาก
แต่เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเฮ่อเหลียนชิงได้ ไม่อย่างนั้นตาแก่โรคจิตนี่ก็จะเยาะเย้ยเธอได้อีก เหมยเหมยสูดจมูก จงใจพูดว่า “ฉันรู้ว่าคุณแค่รู้สึกอายจึงจงใจใช้คำพูดนั่นมายั่วโมโหฉัน ฉันเป็นผู้ใหญ่พอจะไม่ถือสาคุณแล้วกัน”
“ฉันอาย? สมองของเธอโดนประตูหนีบมาหรือ? หึ วันข้างหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คิดไปเองฝ่ายเดียว วันหลังต่อให้ฉันจะเห็นว่าเธอจะถูกไอ้สารเลวนั่นเข่นฆ่า ฉันก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอแน่นอน!”
เฮ่อเหลียนชิงพูดอย่างแข็งกร้าว แต่คนในสวนกลับไม่มีใครเชื่อเลยสักคน
ก่อนที่นายท่านพวกเขาจะจัดงานเลี้ยง ไม่เห็นทำเหมือนที่ให้คำมั่นสัญญาสัญญาไว้สักนิด พูดนักพูดหนาว่าคุณหนูจ้าวจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรเขาก็ไม่สน แต่เฮ่อเหลียนเช่อเพิ่งจะพ่นคำหยาบคายใส่ นายท่านก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย
เฮ้อ ไอ้โรคปากแข็งไม่ยอมแพ้ของนายท่าน เมื่อไรจะแก้ไขได้สักทีเนี่ย!
เหมยเหมยไม่โมโหแต่กลับหัวเราะ “คุณคิดอยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยแล้วยื่นไหวด้วยเหรอ?” เธอพูดเสียงต่ำ “เรี่ยวแรงยังสู้ฉันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”
เฮ่อเหลียนชิงหน้าเปลี่ยนสีทันที เขาเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอ เป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงที่แท้จริง บวกกับอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง โชคไม่ดีเท่าเด็กสมควรตายคนนั้นจริง ๆ
ตีคนได้แต่อย่าหักหน้า ด่าคนได้แต่ห้ามเผยจุดอ่อน ยัยเด็กสมควรตายคนนี้อยากเป็นปฏิปักษ์นักหรือไง?
เหยียนหมิงซุ่นที่กำลังสั่งให้ลูกน้องทำความสะอาดสนามหญ้าหน้าบ้านก็ได้ข่าวว่าพ่อบุญธรรมของเขากำลังทะเลาะอยู่กับแฟนตัวน้อยของเขา จึงรีบเข้ามาคว้าเจ้าหญิงตัวน้อยของเขาที่กำลังเหยียบเท้าปึงปังด้วยความโกรธเอาไว้
“เอาเถอะ ๆ……พวกเราไปเล่นทางด้านนั้นกันเถอะ อย่าไปถือสาเลยเนอะ!”
เหยียนหมิงซุ่นพูดปลอบด้วยท่าทีที่อ่อนโยนและน้ำเสียงนิ่มนวล ถึงแม้ว่าเขาอยากจะหัวเราะก๊าก ไม่รู้ว่าพ่อบุญธรรมของเขาพูดอะไรบ้างถึงทำเอาภรรยาของเขาโมโหเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้
“เขาด่าฉัน……ยังพูดอีกว่าสมองเหมือนหมู……ยังว่าฉัน……”
เหมยเหมยน้อยใจเป็นอย่างมาก ฟ้องด้วยน้ำตาที่ไหลพราก ๆ ภูเขาที่พักพิงของเขามาเสียที
“เธอยังว่าฉันสู้พวกผู้หญิงไม่ได้เลย!”
เฮ่อเหลียนชิงตะโกนเสียงแหลม ไม่ยอมอ่อนข้อให้กันเลยแม้แต่นิดเดียว
“ก็คุณว่าหนูก่อน……คุณมันคนแก่แต่ไม่น่าเคารพ!”
“เธอก็ไม่เคารพผู้อาวุโส……ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่!”
……
เหยียนหมิงซุ่นรีบกอดภรรยาที่กำลังจะระเบิดเอาไว้แล้วหันไปจ้องเตือนเฮ่อเหลียนชิงที่กำลังชอบใจอยู่ แล้วพูดไม่มีเสียงว่า ‘ฉิวฉิว’ เฮ่อเหลียนชิงก็หุบปากลงในทันที กอดฉิวฉิวเอาไว้แน่นรีบให้เสี่ยวเมิ่งเข็นเขากลับห้อง
แต่ห้ามไม่ให้ยัยเด็กสมควรตายนี่นึกถึงฉิวฉิวขึ้นมาได้ เขายังเล่นด้วยไม่หนำใจเลย!
………………………………………………………..