ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1266 เหน็บแนมพ่อตา + ตอนที่ 1267 ออดอ้อนเหมือนเด็ก
ตอนที่ 1266 เหน็บแนมพ่อตา
เหมยเหมยไม่กลัวการข่มขู่ของเหยียนโฮ่วเต๋อสักนิด หากว่าเหยียนหมิงซุ่นนั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อชายผู้นี้ เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้คงต้องกระวนกระวายใจอยู่แล้ว แต่เหยียนหมิงซุ่นแทบจะไม่เรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำ เหยียนโฮ่วเต๋อจะเล่นใหญ่แค่ไหนก็เอาเลย เธอจะคิดแค่ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ!
ซึ่งแน่นอนว่าในใจนั้นไม่ได้รู้สึกดีนัก!
ในเมื่อคิดจะยัดเยียดผู้หญิงให้กับผู้ชายของเธอ ก็ไม่นับว่าเป็นคนดีอะไร!
ไม่ต่างไปจากไอ้แก่จอมวิปริตนั่น!
คุณยายหยางที่ได้ยินคำพูดของลูกชายก็ได้แต่ตีหน้านิ่ง จ้าวเหมยเป็นถึงหลานสะใภ้ที่เธอหมายปอง เจ้าลูกอกตัญญูนี่คิดจะทำลายงั้นเหรอ?
อย่าได้แม้แต่จะคิด!
พลันเหลือบเห็นชายชราที่แสดงท่าทีเช่นนั้น ไฟโทสะจึงได้ปะทุขึ้น คุณยายหยางจึงใช้เท้าถีบใส่ใต้โต๊ะอย่างแรงครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งจ้องกลับตาเขม็ง ในแววตานั้นฉายแววเตือนว่า ‘ยังคิดอยากจะกินข้าวดี ๆอยู่ไหม!’
คุณตาเหยียนเจ็บปวดหน้านิ่วเป็นก้อนกลม ยายแก่นี่เตะมาไม่ออมแรงเลย ช่างใจจืดใจดำเสียจริง!
แม้ว่าจะสนใจต่อหญิงสาวที่เหยียนโฮ่วเต๋อเอ่ยถึง แต่เพื่อปากท้องอีกหลายสิบปีของเขา คุณตาเหยียนจึงยินยอมที่จะอยู่ภายใต้การข่มขู่ของคุณยายหยางเสียดีกว่า จึงทำทีมองข้ามสายตาที่เห็นพ้องต้องกันของเหยียนโฮ่วเต๋อไป ได้แก่ก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อไป
ลูกหลานล้วนแล้วแต่มีความสุขของตัวเอง เขาไม่เข้าไปยุ่งเรื่องไร้สาระหรอก!
คุณยายหยางแค่นเสียงอย่างชอบใจ พร้อมกับยึดแย่งเอาจานกระดูกหมูที่เหยียนโฮ่วเต๋อจ้องจะคีบอยู่นั้นมาวางไว้ตรงหน้าเหมยเหมย ฉีกยิ้มด้วยความรักใคร่เอ็นดู “เหมยเหมยกินเยอะๆหน่อยนะ”
“แม่ครับ ผมยังไม่ได้คีบเลยนะ แม่จะยกไปทำไม?”
เหยียนโฮ่วเต๋อคีบได้เพียงแค่อากาศ แม้แต่ขิงดิบก็ยังคีบไม่ได้ จึงไม่พอใจเอามาก
คุณยายหยางมองอย่างนึกรังเกียจ ชี้ไปที่จานผักไม่กี่จานที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าเขา “แล้วพวกนี้ไม่เรียกกับข้าวเหรอ? ให้เรียกว่าอะไร? ถ้าไม่ชอบกินก็กลับบ้านของตัวเองไปเสีย!”
เหยียนโฮ่วเต๋อ : …
นี่เป็นลูกแท้ ๆจริงใช่ไหม?
เหมยเหมยกินอิ่มหนำสำราญ เหลือบเห็นเหยียนโฮ่วเต๋อกินผักก็พลันอารมณ์ดีขึ้นมา เธอยิ้มพร้อมทั้งใช้มีดแทงซ้ำไปอีกหนึ่งครั้ง “ลุงเหยียนคะ ลุงไม่ลองโทรไปหาพี่หมิงซุ่นล่ะ? มีเรื่องอะไรลุงก็ถามเขาเองเลย แล้วก็ผู้หญิงที่ลุงเห็นดีเห็นงามด้วย ลุงก็บอกพี่หมิงซุ่นไปให้ชัดเจนเลยสิคะ ไม่แน่ว่าถ้าพี่หมิงซุ่นอารมณ์ดีก็อาจจะกลับมาเยี่ยมคุณลุงด้วยตัวเอง!”
เหอะ พี่หมิงซุ่นกลับมาคงได้ด่าไอ้แก่หนังเหนียวนี่เสีย!
เมื่อนึกถึงไอ้ลูกอกกตัญญูจอมโหดนั่น เหยียนโฮ่วเต๋อจึงเผลอหดคออย่างทำอะไรไม่ถูก
หากว่าเขากล้าถามต่อหน้าลูกชาย คงไม่ต้องมาญาติดีตีสนิทกับจ้าวเหมยถึงเพียงนี้หรอก?
“กินข้าว ๆ พี่หมิงซุ่นของเธอยุ่ง ลุงไม่รบกวนจะดีกว่า” เหยียนโฮ่วเต๋อกลั้วหัวเราะ
เหมยเหมยมองเหยียดเขาแวบหนึ่ง คิด ๆแล้วก็เอ่ยเสริมอีกว่า “แต่หนูว่าลุงเหยียนอย่าพูดกับพี่หมิงซุ่นเลยจะดีกว่าค่ะ ในเมื่อสายตาลุงเหยียนเองก็ไม่ได้เฉียบแหลมอะไร ปกติแล้วหญิงสาวที่ลุงมักจะมองข้ามนั้นเป็นดั่งไข่มุก ส่วนหญิงสาวที่คุณลุงชื่นชอบก็เป็นเพียงแค่ตาปลา!”
ก็เพราะเก็บเอาตาปลาอย่างถานซูฟางมา เลยทำให้ไข่มุกเม็ดล้ำค่าอย่างโม่เหวินเซียงต้องตาย!
เหยียนโฮ่วเต๋อและคนอื่นๆ ต่างก็หน้าถอดสี แม้ว่าคำพูดที่เหมยเหมยเอ่ยออกมานั้นจะติดตลกไปบ้าง แต่ความหมายโดยนัยแน่นอนว่าพวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดี
คุณยายหยางถอนหายใจไปพลาง ทั้งชีวิตของเธอ สิ่งเดียวที่รู้สึกผิดก็คือเรื่องสะใภ้คนก่อนหน้า คงต้องรอวันหน้าลงไปรับผิดต่อเหวินเซียงแล้วล่ะ!
เหมยเหมยไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรต่อจึงลุกขึ้นเพื่ออำลา
คุณยายหยางไปส่งเธอ เมื่อเห็นท่าทีของคุณยายผู้มีเมตตาแลดูจะหดหู่ เหมยเหมยจึงทำใจไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “คุณยายหยาง ตอนนี้พี่หมิงซุ่นสบายดี แล้วก็เก่งมากด้วย คุณยายไม่ต้องเป็นห่วงเขานะคะ!”
“อืม…ขอแค่พวกเธอคบกันดีก็ดีแล้ว ส่วนพ่อของหมิงซุ่น เหมยเหมยไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก คิดเสียว่าเขาพูดจาไร้สาระ!”
คุณยายหยางนิ่งไปสักพัก ก่อนที่พูดต่ออย่างผ่อนคลาย
ในคำพูดที่เหมยเหมยเอ่ยกับเขา เรื่องพ่อบุญธรรมที่เหยียนโฮ่วเต่อพูดถึงคงนับว่าเป็นเรื่องจริง
หมิงซุ่นของเธอมีอนาคตก้าวไกลแล้ว!
……………………………………………………
ตอนที่ 1267 ออดอ้อนเหมือนเด็ก
ตกเย็นเหมยเหมยทักหาเหยียนหมิงซุ่นไป ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะได้รับข้อความไหม เพราะเหยียนหมิงซุ่นติดออกปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะอยู่ในผืนป่าไม้หรือท้องทะเลทราย ต่างก็ไม่มีสัญญาณ ต่อให้ได้รับก็ไม่อาจโทรกลับมาได้อยู่ดี
เพียงแต่ครั้งนี่นับว่าโชคดีไม่น้อย ไม่นานนักเหยียนหมิงซุ่นก็โทรกลับมา
“พี่หมิงซุ่น เมื่อไหร่พี่จะกลับมาคะ?”
พอเหมยเหมยได้ยินเสียงของเหยียนหมิงซุ่น ไหนเล่าจะจดจำเหยียนโฮ่วเต๋อผู้ไร้ซึ่งจรรยาธรรม ได้แต่ทอดเสียงยาวออดอ้อนออเซาะ
ประเภทฉลาดเพียบพร้อมรู้ความดูจะไกลจากตัวเธอไปมาก อีกทั้งยังแลดูเหนื่อยหน่ายไปหน่อย เธอทำตัวเป็นผู้หญิงออดอ้อนเหมือนเด็กคงจะดีเสียกว่า!
เหยีนหมิงซุ่นกลั้วหัวเราะเสียงเบา “อีกไม่นานหรอก อีกแค่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ช่วงนี้เป็นเด็กดีไหมครับ?”
“เป็นเด็กดีค่ะ เชื่อฟังมากด้วย…” เหมยเหมยลากหางเสียงยาว ราวกับลากน้ำเชื่อมหยาดเยิ้มก็มิปาน ลากเสียงยืดยาว ให้ความหวานละมุนส่งผ่านไปยังปลายสาย
เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกร้อนรุ่ม เจ้าปีศาจน้อย แค่โทรมาเฉย ๆยังยั่วยวนเขาได้ถึงขนาดนี้เชียว!
แม้จะมองไม่เห็นบุคคลจากปลายสาย แต่เขาก็จินตนาการได้ถึงสภาพแวดล้อมของอีกฝ่าย เหมยเหมยจะต้องอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย พร้อมกับเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดนอนฮัลโหล คิตตี้สีชมพูที่เขาให้ ปล่อยผมที่ดกดำยาวสยาย ทั้งยังกอดเครื่องโทรศัพท์อยู่บนเตียง…
ก้นกลมกระดกเชิด เท้าเปล่าที่เหยียดยาวนั้นปัดป่ายไปมา…
หากนอนคว่ำอยู่ล่ะก็ เจ้าตัวแสบจะต้องบิดตัวไปมาจนเป็นเกลียว คอเสื้อก็คงจะ…
เหยียนหมิงซุ่นไม่อาจควบคุมความคิดและจินตนาการทั้งหกของเขาได้เลย อีกทั้งยิ่งคิดก็ยิ่งลึกขึ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งหอมหวาน…จุดตันเถียน[1]ยิ่งรู้สึกร้อนเร่ามากขึ้น…
“พี่หมิงซุ่น ทำไมพี่ไม่พูดล่ะ?”
น้ำเสียงของเหมยเหมยได้ฉุดดึงความคิดที่เตลิดไปไกลของเหยียนหมิงซุ่นให้กลับมา พลันรีบหันกลับไปมองยังบรรดาป้าอ้วนๆ ข้างถนนอย่างเร็วพลัน ภารกิจในครั้งนี้อยู่ที่เขตชายแดนทางตอนเหนือ ผู้หญิงแถบนี้ช่วงก่อนยังไม่มีลูกรูปร่างดีเซ็กซี่ไม่น้อย แต่เมื่อคลอดบุตรแล้วรูปร่างก็ไม่ต่างไปจากลูกบอลที่เป่าลมเข้าไป ชั่วพริบตาก็กลายเป็นมารดาตัวใหญ่ดั่งภูเขาสูงใหญ่
บรรดาป้า ๆที่เดินพลุกพล่านตามท้องถนนต่างก็ตัวใหญ่ ความเร่าร้อนตรงจุดตานเถียนพลันสงบลงอีกครั้ง จนสามารถกลับมาพูดคุยได้ตามปกติ
“ไม่มีอะไรหรอก เป็นเด็กดีรอพี่อยู่ที่บ้าน พี่จะเอาเนื้อแห้งอร่อย ๆกลับไปฝาก” เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเอาใจด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มจาง ๆ ดึงดูดสายตาสาวน้อยสาวใหญ่ในเขตชายแดนไม่น้อย
หลายคนต่างพากันหยุดฝีก้าว สำรวจชายหนุ่มฮั่นที่มีร่างกายกำยำชวนดึงดูด หญิงสาวบางคนที่ใจกล้าหน่อย ได้แวะเวียนเดินเข้ามาตรงหน้าเหยีนนหมิงซุ่น ทอดมองเขาอย่างเย้ายวน
ริมฝีปากสีแดงก่ำ…เมืองติดชายแดนแห่งนี้ ไม่มีจุดไหนที่ไม่เย้ายวนเลย
เหยียนหมิงซุ่นใช้ภาษาถิ่นเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา “ผมพูดกับภรรยาของผมอยู่ เชิญคุณออกไปอยู่ห่าง ๆหน่อยครับ”
หญิงสาวทั้งหลายพอรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นมีภรรยาแล้วก็พลันหมดความสนใจในทันที จึงได้แต่ยิ้มเก้อก่อนเดินจากไป
“พี่หมิงซุ่น พี่คุยกับใครคะ? ใช่ผู้หญิงไหม? น่าตาดีไหม?”
ผู้หญิงมักมีลางสังหรณ์ที่แม่นมาก แม้ว่าความฉลาดของเหมยเหมยจะไม่ได้อยู่กับการเรียน แต่ในเวลานี้กลับคาดเดาได้อย่างตรงจุด อีกทั้งน้ำเสียงก็เริ่มแย่ลง
เหยียนหมิงซุ่นลูบหัวตัวเองไปมาอย่างหนักใจ พร้อมกับเอ่ยปลอบไปไม่กี่ประโยค แต่ก็สามารถพูดจนทำให้เด็กน้อยของตนนั้นอารมณ์ดีขึ้นมาได้
“พี่หมิงซุ่น ฉันมีอะไรจะบอกพี่ วันนี้พ่อของพี่ชวนฉันไปกินข้าวด้วย เพราะอยากถามถึงเรื่องของพี่ ฉันไม่ได้บอกอะไรเขาเลยนะ” เหมยเหมยเอ่ยพูดได้ใจอย่างต้องการคำชม เหยียนหมิงซุ่นเห็นหางของเธอที่ปัดป่ายไปมาราวกับหมาน้อย
“เก่งมาก กลับไปพี่ต้องให้รางวัลสักหน่อย”
ใช้วิธีการของเขาในการ ‘ให้รางวัล’ จะต้องทำให้เหมยเหมยไม่มีวันลืมเลือนและร่างกายของเขาได้ปลดปล่อยด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสองตัวแหนะ!
เสียงแว่วดังมาจากทางถนนอีกฝากนั่นคือเสียงจากลูกน้องของเขา เหยียนหมิงจึงเอ่ยกำชับไปเพียงไม่กี่ประโยค ก่อนจะวางสายอย่างอาลัยอาวรณ์และรีบจากไปอย่างร้อนรน
………………………………………………
[1] จุดสัมผัส หรือจุดเลือดลมที่อยู่บริเวณใต้สะดือ