ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1274 เป้าหมายกลับเป็นเหยียนซินหย่า + ตอนที่ 1275 เซ็นลายเซ็นต์
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1274 เป้าหมายกลับเป็นเหยียนซินหย่า + ตอนที่ 1275 เซ็นลายเซ็นต์
ตอนที่ 1274 เป้าหมายกลับเป็นเหยียนซินหย่า
เหมยซูหานหยิบหนังสือสัญญาที่อู่เยวี่ยเซ็นชื่อแล้วไปโรงแรม เฮ่อเหลียนเช่อพักอยู่ที่นี่
“อู่เยวี่ยตกลงแล้วเหรอ?” เฮ่อเหลียนเช่อถามเสียงยานคาง
“ตกลงแล้วและเซ็นสัญญาแล้วด้วย นายจะดูหน่อยไหม?” เหมยซูหานเป็นฝ่ายยื่นหนังสือสัญญาไปให้ก่อน
เฮ่อเหลียนเช่อไม่แม้แต่จะเหลือบตามองพลางปัดหนังสือสัญญาออกอย่างไม่สบอารมณ์ รั้งเหมยซูหานมาไว้ในอ้อมกอดและเริ่มเลื้อยมืออย่างซุกซน หลายวันนี้เหมยซูหานมักอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่เหมยตลอดเลยทำให้มีเวลาอยู่กับเขาน้อยลง เขาคิดถึงจนจะตายอยู่แล้ว
“สัญญามีอะไรน่าดูกัน ฉันอยากดูนายมากกว่า…”
เฮ่อเหลียนเช่อหัวเราะหยอกเย้าทำเอาเหมยซูหานเองก็เริ่มหวั่นไหวโล่งใจขึ้นกว่าเดิม
สัญญาฉบับนี้เขาขุดหลุมพรางไว้ไม่น้อยซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายคืออู่เยวี่ย เฮ่อเหลียนเช่อดูก็คงไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่เขากลับไม่อยากให้เฮ่อเหลียนเช่อดูมากกว่า
“แล้วนายคิดจะพาอู่เยวี่ยกลับไปเจออานายเมื่อไหร่?” เหมยซูหานถาม ภายในใจมีความหึงหวงเริ่มก่อตัวขึ้น
เขาคงไม่มีวันได้ไปพบหนิงเฉินเซวียนได้อย่างโจ่งแจ้งเปิดเผยตราบชั่วชีวิต
เฮ่อเหลียนเช่อฟังออกถึงความหึงหวงในน้ำเสียงของเหมยซูหานก็หัวเราะชอบอกชอบใจ เขาชอบให้เหมยซูหานหึง ยิ่งหึงมากยิ่งดี
“ไม่รีบ ฉันยังทำธุระทางนี้ไม่เสร็จเลยนี่นา!”
“นายมีธุระอะไรอีก? ก็แค่พาอู่เยวี่ยไปแต่งงานหลอกๆ ไม่ใช่เหรอ?” เหมยซูหานไม่เข้าใจ ก่อนจะมาที่นี่ไม่ได้บอกนี่นาว่ามีธุระอะไร
เฮ่อเหลียนเช่อตาเป็นประกายวับแล้วตอบข้างๆ คูๆ “ธุระที่คุณอาฉันสั่งมา…นายตั้งใจหน่อย…”
……
บทรักร้อนแรงจบลงเหมยซูหานก็หลับสนิท เฮ่อเหลียนเช่อเดินตัวเปลือยไปที่ห้องนั่งเล่นรอให้ลูกน้องมารายงานความคืบหน้าของงาน
“จับความเคลื่อนไหวของเหยียนซินหย่าได้หรือยัง?” เฮ่อเหลียนเช่อถามเสียงเบา
“ได้แล้วครับ ความเคลื่อนไหวของเหยียนซินหย่าง่ายมากปกติก็วาดรูปอยู่ที่บ้าน บางครั้งไปหอศิลป์บ้างหรือซื้อกับข้าวที่ตลาดบ้าง ไม่ค่อยไปสถานที่นอกเหนือจากนี้เท่าไรครับ”
เฮ่อเหลียนเช่อขมวดคิ้ว ไม่ชอบออกจากบ้านก็ชักจะลำบากอยู่สักหน่อย
จะให้เขาวิ่งแจ้นไปลักพาตัวที่เขตศาลากลางจังหวัดก็คงไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ?
“คุณชายเช่อ รอบตัวเหยียนซินหย่ามีคนคอยคุ้มกันอยู่ เหมือนจะเป็นลูกน้องของจ้าวอิงหัว” ลูกน้องรายงานต่อ
เฮ่อเหลียนเช่อเลิกคิ้ว จ้าวอิงหัวมีอิทธิพลของตัวเอง?
มิน่าตระกูลจ้าวล่มแล้วแต่ตำแหน่งผู้ว่าการของเขากลับไม่สั่นคลอนสักนิด
เรื่องนี้ชักจะลำบากสักหน่อย เมืองจินไม่ใช่อาณาเขตของเขา เหยียนหมิงซุ่นมีลูกน้องซุ่มอยู่ทางนี้ไม่น้อย หากเขามีความเคลื่อนไหวเพียงนิดเหยียนหมิงซุ่นต้องรู้ได้ทันที
คุณอาเขาเพิ่งรับปากต่อหน้านายใหญ่มาก่อนว่าจะไม่เป็นปรปักษ์ต่อเฮ่อเหลียนชิงอีก นี่เพิ่งผ่านมาได้สองเดือนหมาด ๆ จะให้คุณอาผิดคำพูดไม่ได้!
ต้องรู้เรื่องยาวิเศษนี้ให้ได้ ขอแค่เอาใจคุณอาให้ได้ ไม่แน่คุณอาอาจเลิกต่อต้านเหมยซูหานก็ได้
“มีวิธีดี ๆอะไรบ้างไหมที่จะลักพาตัวเหยียนซินหย่ามาได้เงียบ ๆ ไม่ให้เหยียนหมิงซุ่นสาวเรื่องมาถึงตัวฉันได้” เฮ่อเหลียนเช่อถามลูกน้อง
มีลูกน้องคนหนึ่งทำท่าจะพูดแต่ก็เงียบ เฮ่อเหลียนเช่อถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่งเขาถึงยอมบอก “คุณชายเช่อ ความจริงมีคนคนหนึ่งที่เราใช้ประโยชน์ได้”
“ใคร?”
“หวงอวี้เหลียน เธอเป็นคู่ปรับของจ้าวเหมย เกลียดจนอยากจะฆ่าทั้งครอบครัวจ้าวเหมยไปให้รู้แล้วรู้รอด” ลูกน้องอายุสามสิบกว่า หน้าตาไม่เท่าไรแต่รูปร่างกลับแข็งแรงบึกบึน
เฮ่อเหลียนเช่อลูบคางไปมา หวงอวี้เหลียนใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ด้วยสิ แต่ว่า–
“แกหาทางติดต่อหวงอวี้เหลียนได้เหรอ?” เฮ่อเหลียนเช่อถาม
คนอื่นหัวเราะร่วนกันอย่างพร้อมเพรียง “คุณชายเช่อ เจ้าหมอนี่ใช้แผนเสน่ห์ความเป็นผู้ชายเพื่อตามสืบหวงอวี้เหลียน ตอนนี้กำลังไปได้สวยเลยเชียว!”
เพิ่งอิ่มท้องมาหนึ่งมื้อเฮ่อเหลียนเช่ออารมณ์ดีไม่หยอกเลยหัวเราะตามไปด้วย ก่อนจะให้ลูกน้องคนนี้ไปติดต่อหวงอวี้เหลียน
ค่ำคืนนั้นลูกน้องร่างบึกบึนคนนี้ก็ได้บรรเลงเพลงรักกับหวงอวี้เหลียนด้วยกันอีกหน และได้ถ่ายทอดคำสั่งของคุณชายเช่อ ขอแค่หวงอวี้เหลียนจับตัวเหยียนซินหย่ามาได้เฮ่อเหลียนเช่อจะช่วยกำจัดจ้าวเหมยให้เธอ
……………………………………..
ตอนที่ 1275 เซ็นลายเซ็นต์
ช่วงนี้ภายใต้การติวของอู่เชากับเจียงซินเหมยนับว่าเหมยเหมยพอจะตามคุณครูทันแล้ว เหนื่อยสายตัวแทบขาด
เธอคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนมีพรสวรรค์ด้านการเรียนจริง ๆ ตอนประถมหรือมัธยมต้นยังพอได้แค่เธอต้องใช้เวลามากหน่อย ตั้งใจเล่าเรียนก็ยังพอรักษาผลสอบไว้อันดับกลางค่อนไปทางต้นของห้องได้
พอมาถึงชั้นมัธยมปลายบวกกับเธอข้ามมาเรียนอีกหนึ่งชั้นก็ยิ่งเรียนเหนื่อยกว่าเดิม โชคดีที่เธอเป็นเด็กโควตาด้านศิลปะ เงื่อนไขคะแนนสอบวิชาต่างๆ เลยไม่สูงมาก คะแนนระดับปานกลางของเธอในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว
แต่ตอนเรียนกลับเปลืองแรงพอสมควร เปลืองแรงยิ่งกว่าสมัยประถมและมัธยมต้นด้วยซ้ำ ไม่เหมือนเจียงซินเหมยกับอู่เชา แม้คะแนนสอบของสองคนนั้นพอ ๆกับเธอแต่เขาดูเรียนสบายมากเลยนี่นา!
“ปวดหัวจะแย่ ให้ฉันวาดรูปสามมิติยังง่ายกว่าอีก ให้ฉันคิดคำนวณก็เอาถึงตายเลย ไหนจะรูปวงจรไฟฟ้าอีก อะไรค่าบวกค่าลบการต่อแบบอนุกรมการต่อแบบขนาน หัวฉันโตหมดแล้ว เฮ้อ เมื่อไหร่จะถึงเวลาแยกสายสักทีเนี่ย?”
เจียงซินเหมยเพิ่งอธิบายโจทย์เรขาคณิตให้เธอหนึ่งข้อตามด้วยโจทย์วิชาฟิสิกส์ ภาพวงจรไฟฟ้าแสนซับซ้อนเหล่านั้นทำเอาเหมยเหมยอยากสบถด่าถึงบุพการีเสียเหลือเกิน
เธอไม่รู้ว่าเรียนพวกนี้ไปแล้วจะใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง!
เท่าที่เธอคิดคณิตศาสตร์แค่เรียนบวกลบคูณหารภายในเลขหลักร้อยก็พอ ส่วนภาษาอังกฤษเรียนก็ได้ไม่เรียนก็ได้ ภาษาจีนกลับสำคัญยิ่งกว่า ประวัติศาสตร์เองก็ง่ายแค่จำให้แม่นก็พอ การเมืองแม้จะน่าเบื่อไปสักหน่อยแต่ก็เรียนง่ายกว่าวิชาคณิตฟิสิกส์เคมีมากโข
เธออยากถามบรรดาผู้เชี่ยวชาญในกระทรวงศึกษาธิการเหลือเกินว่าวิชาฟิสิกส์เคมีที่เรียนในตอนนี้ได้ใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงหรือเปล่า?
ในเมื่อไม่ใช่สิ่งจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน แล้วทำไมต้องเรียนพวกนี้ด้วย?
หากเพื่อความจำเป็นต่อด้านการงานก็ไปเรียนเอาตอนมหาวิทยาลัยก็ได้นี่นา!
เหมยเหมยแอบบ่นพึมพำอยู่เงียบ ๆ พักหนึ่งแต่ก็ยอมให้เจียงซินเหมยอธิบายวงจรไฟฟ้าต่ออย่างยอมแพ้
“จ้าวเหมย ช่วยเซ็นชื่อให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
นักเรียนชายห้องอื่นหลายคนถือหนังสือของเหมยเหมยอยู่ในมือเดินเข้ามาในห้องเรียนอย่างเคอะเขิน เรียกกำลังใจก่อนจะขอลายเซ็นโดยที่เหมยเหมยยอมเซ็นให้แต่โดยดี แถมยังยิ้มให้เหล่านักเรียนชายอีกต่างหาก ทำเอานักเรียนกลุ่มนี้เขินจนหน้าแดงจนหุนหันหนีออกจากห้องเรียนไป แม้แต่ตอนเดินยังรู้สึกตัวลอยอยู่เลย
“จ้าวเหมย เธอให้ลูกพี่ลูกน้องของเธอเซ็นให้พวกเราด้วยได้ไหม? เซ็นบนหนังสือของเธอก็พอ”
มีนักเรียนหญิงอีกจำนวนไม่น้อยที่วิ่งโร่เข้ามาโดยถือหนังสือของเธอด้วยเช่นกัน แต่กลับไม่ให้เหมยเหมยเซ็นเพราะพวกเธออยากให้สยงมู่มู่เป็นคนเซ็น เอ่ยถึงสยงมู่มู่เหล่านักเรียนหญิงต่างทำหน้าเคลิบเคลิ้มดั่งต้องมนตร์
“พี่ฉันไปต่างประเทศแล้ว หรือว่าให้อู่เชาเซ็นให้พวกเธอแล้วกัน!”
เหมยเหมยโกหกหน้าตาย เรียกให้เหล่านักเรียนหญิงเศร้าสลดเหลือเกินและฝืนใจยอมให้เจ้าอ้วนน้อยเป็นคนเซ็นให้
หลังจากเซ็นติดต่อกันหลายเล่ม อู่เชาที่ใบหน้างุนงงถึงไหวตัวทันแล้วกล่าวว่า “ทำไมฉันต้องมาเซ็นบนหนังสือเธอด้วย? ฉันเซ็นหนังสือตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ?”
“ฮ่าฮ่า ไว้คราวหน้าฉันเซ็นบนหนังสือนายก็พอแล้วนี่!” เหมยเหมยยิ้มตาหยี
อู่เชาเองก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละ ใจจริงไม่ได้ถือสาอะไรก่อนจะไล่เซ็นหนังสือในมือของเหล่านักเรียนหญิงจนหมด เขามองเหมยเหมยอย่างลังเลแวบหนึ่งพร้อมสีหน้าที่อยากพูดบางอย่างแต่ก็ไม่พูดสักที
“เป็นอะไร? อย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงนักเลย มีอะไรรีบบอกมา” เจียงซินเหมยพูดเร่งเร้า
อู่เชาถลึงตาใส่เธอทีหนึ่งแล้วตอบเสียงแผ่วเบา “แม่ฉันกับอา…อดีตอาเขยกำลังเตรียมจะแต่งงานกันในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้แหละ แม่ฉันจะจัดงานเลี้ยงที่ภัตตาคารเต๋อเยวี่ย แม่ฉันให้ฉันเชิญเหมยเหมยเธอไปร่วมงานด้วย”
เหมยเหมยนิ่งงัน ค่อนข้างเห็นด้วยกับเว่ยชิวเยวี่ยที่กล้าจะไขว่คว้าความสุขหนที่สองในชีวิตของตัวเอง เพียงแต่อีกฝ่ายเป็นอดีตอาเขยอย่างจี้เจียนโปก็แอบรู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน
โดยเฉพาะอู่เชา อดีตเคยเรียกว่าอาเขย ตอนนี้ควรเรียกว่าอะไรดีนะ?
…………………………………..