ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1276 อู่เยวี่ยที่แสนมั่นใจ + ตอนที่ 1277 เอาความมั่นใจมาจากไหน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1276 อู่เยวี่ยที่แสนมั่นใจ + ตอนที่ 1277 เอาความมั่นใจมาจากไหน
ตอนที่ 1276 อู่เยวี่ยที่แสนมั่นใจ
“ไม่รู้ว่าแม่ฉันคิดยังไงเหมือนกัน ตอนแรกก็คุยกับอาจี้ไว้ดิบดีแล้วว่าแค่จดทะเบียนสมรสจะไม่จัดโต๊ะจีนแล้ว แต่จู่ๆ ก็บอกว่าจะจัดงาน แล้วยังจะเชิญพ่อฉัน อาสอง คุณปู่คุณย่าฉัน พวกคุณอาฉันอีก วันนั้นจะอึดอัดแค่ไหน!”
อู่เชาไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจว่าแม่ของเขาคิดจะทำอะไร
เหมยเหมยไม่ให้ความสนใจแต่แรก เธอสนิทกับอู่เชาไม่ได้หมายความว่าเธอจะชอบเว่ยชิวเยวี่ย
เว่ยชิวเยวี่ยเป็นคนปลิ้นปล้อนไม่เคยมีความผิดต่อทั้งสองฝ่าย เมื่อชาติที่แล้วเว่ยชิวเยวี่ยเคยช่วยเธอหนหนึ่งตอนก่อนจะเรียนมัธยมปลาย เธอถึงได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยไร้ชื่อแห่งหนึ่งที่อย่างน้อยก็ทำให้เธอมีประวัติการศึกษา
บุญคุณนี้เธอได้คืนมันไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะจ้าวอิงหัวสั่งไว้เว่ยชิวเยวี่ยคงไม่ได้เลื่อนตำแหน่งง่ายดายขนาดนี้ ในเมื่อบุญคุณความแค้นได้จบลงไปแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าร่วมอีก
แต่เธอได้ยินว่าคนตระกูลอู่ต่างก็ไปกันเลยอดสนใจไม่ได้
“พวกคุณปู่คุณย่ากับพ่อของนายก็ตกลงไปกันเหรอ?” เหมยเหมยถาม
อู่เชาเอามือลูบหลังศีรษะ เขาเองก็นึกแปลกใจว่าทำไมถึงตอบตกลงทั้งที่ก่อนหน้านี้พ่อของเขายังโวยวายอยู่เลย!
“ได้ วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ฉันไปแน่ๆ ที่ภัตตาคารเต๋อเยวี่ยใช่ไหม!” เหมยเหมยรับปาก
ไม่ได้เจอคนตระกูลอู่มาหลายปีลองไปดูความสนุกสักหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือเธอต้องให้คนตระกูลอู่ได้เห็นว่าเธอในตอนนี้มีชีวิตที่ดีแค่ไหน ไม่ใช่ลูกเป็ดขี้เหร่อ่อนแออย่างในอดีตอีกแล้ว
ไม่นานวันหยุดสุดสัปดาห์ก็มาถึงซึ่งเหมยเหมยได้เตรียมซองแดงไว้เป็นเงินจำนวนหนึ่งร้อยหยวนที่ในยุคนี้ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่
เธอไปคนเดียวโดยพาฉิวฉิวไปด้วย เนื้อไก่ผัดกากเหล้าดองของภัตตาคารเต๋อเยวี่ยรสชาติไม่เลว ฉิวฉิวเองก็ชอบมากเลยพาเขามากินเนื้อไก่ผัดกากเหล้าดองโดยเฉพาะ
การแต่งกายของเว่ยชิวเยวี่ยกับจี้เจียนโปได้เปลี่ยนโฉมใหม่โดยเจ้าสาวอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดง เว่ยชิงเยวี่ยผอมลงไม่น้อยแต่ก็ยังดูอวบอิ่มเหมือนเดิมจึงใส่ชุดกี่เพ้าได้พอดิบพอดี ขับให้เห็นความสง่าในฉบับผู้ใหญ่ของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จี้เจียนโปอยู่ในชุดสูททางการที่ยังคงยืนหลังตรงเหมือนเดิม รูปร่างเองก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตรงไหน ไม่ได้ดูต่างจากเมื่อห้าปีก่อนสักเท่าไร เมื่อยืนอยู่กับเว่ยชิวเยวี่ยแล้วกลับดูเหมาะสมกันอย่างเหนือคาด
“น้าเว่ย อาจี้ ยินดีด้วยนะคะ ขอให้รักกันยืนยาว”
เหมยเหมยมอบซองแดงไปพร้อมคำอวยพรมงคลก่อนจะหาเก้าอี้นั่งลง
เธอกวาดตามองรอบข้างไม่เห็นคนตระกูลอู่สักคนเลยรู้ว่ามาเร็วเกินไป แต่เธอก็ไม่รีบร้อนใดๆ พลางหยิบเมล็ดทานตะวันขึ้นมาแทะรอการมาถึงของคนตระกูลอู่อย่างอดทน
ตั้งหน้าตั้งตาคอยอยู่นะ!
คนที่มาก่อนกลับเป็นอู่เจิ้งซือกับอู่เยวี่ย สองพ่อลูกดูท่าทางสนิทสนมเหลือเกินจนเหมยเหมยรู้สึกแปลกใจ อู่เจิ้งซือไม่ชอบอู่เยวี่ยไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้ถึงดูสนิทขนาดนี้?
ทันทีที่เข้ามาอู่เจิ้งซือก็เห็นเหมยเหมยตั้งแต่แวบแรก ตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วปรี่เดินตรงมาหาเธอ
“เหมยเหมย เธอมาร่วมงานเหมือนกันเหรอ?” อู่เจิ้งซือรู้สึกแย่จับใจ
สาวงามตรงหน้าเดิมควรเป็นลูกสาวของเขา แต่บัดนี้กลับกลายเป็นลูกสาวของคนอื่น กลายเป็นคนแปลกหน้ากับเขา ส่วนเกียรติยศศักดิ์ที่เธอได้ทั้งหมดก็ล้วนให้จ้าวอิงหัวได้เปรียบไป
หลายวันก่อนเขาได้ดูรายการวัยรุ่นอัจฉริยะ เหมยเหมยในจอโทรทัศน์ออร่าเฉิดฉาย สอบได้คะแนนยอดเยี่ยมเช่นนั้น หากจ้าวเหมยยังเป็นลูกสาวของเขาคงสร้างหน้าตาให้เขาไม่น้อย!
เหมยเหมยยิ้มตอบเบาบาง “ค่ะ”
อู่เยวี่ยปรายตามองเหมยเหมยที่ออร่าเฉิดฉายด้วยสายตาเย็นยะเยือกแต่กลับไม่ได้มองด้วยความอิจฉาอย่างเดิมอีกต่อไป อีกหนึ่งปีเธอจะกลายเป็นภรรยาของเฮ่อเหลียนเช่อที่แม้แต่จ้าวอิงหัวพ่อแท้ๆ ของจ้าวเหมยยังต้องก้มหัวให้ จากนี้ไปจ้าวเหมยอย่าคิดจะยืนเชิดหน้าชูตาต่อหน้าเธออีก!
ถึงเมื่อนั้นเธอจะให้จ้าวเหมยได้ลิ้มลองรสชาติของการถูกผู้ชายนับสิบรุมโทรม ความอับอายที่เธอเคยได้รับจะต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่า!
…………………………………………
ตอนที่ 1277 เอาความมั่นใจมาจากไหน
อู่เจิ้งซือเดิมยังอยากคุยกับเหมยเหมยอีกสักพัก แต่เห็นเธอสีหน้าท่าทีเย็นชาในใจพลันคุกรุ่น รู้สึกว่าเหมยเหมยไร้มารยาทสิ้นดี ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นผู้อาวุโสหรือเปล่า
“เหมยเหมย อย่างไรเสียเมื่อก่อนฉันก็เลี้ยงเธอมาตั้งสิบสองปี จำเป็นต้องไร้เยื่อใยขนาดนี้เชียวเหรอ?” อู่เจิ้งซืออดพูดไม่ได้
เมื่อนั้นเขาขโมยเด็กมาซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดจริง ๆ แต่เขาก็ได้รับบทลงโทษแล้ว ตกงานที่มีหน้ามีตาจนตกอยู่ในสภาพครึ่งผีครึ่งคน หากไม่ใช่เพราะเขามีความสามารถจะมีชีวิตสุขสบายอย่างในตอนนี้ได้เสียที่ไหน!
เขาทำเรื่องผิดมาเขายอมถูกลงโทษแต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มีบุญคุณที่เลี้ยงดูจ้าวเหมยหรือเปล่า?
คุณงามความดีของเขามีมากกว่าแต่คนตระกูลจ้าวกลับไม่รู้จักสำนึกบุญคุณสักนิด เป็นพวกไม่รู้คุณเหมือนจ้าวเหมยกันทั้งนั้น
เหอะ เขาฟังเยวี่ยเยวี่ยเล่าว่าตระกูลจ้าวในตอนนี้เทียบกับอดีตไม่ได้ กลายเป็นตระกูลตกอับตั้งนานแล้ว ส่วนว่าที่ลูกเขยในอนาคตของเขาอย่างเฮ่อเหลียนเช่อกลับเป็นตระกูลเศรษฐีในอันดับต้น ๆ อีกปีเดียวเท่านั้นเขาจะกลายเป็นพ่อตาของคุณชายตระกูลเศรษฐีที่ใส่ชุดฝังเพชรทั้งตัว
ฮ่าฮ่าฮ่า…
ถึงตอนนั้นใครจะกล้าดูถูกอู่เจิ้งซืออย่างเขาได้!
เขาไม่คิดว่าลูกสาวที่ถูกเขาทอดทิ้งไปแล้วจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงแบบนี้ได้ แต่งงานกับหานป๋อหย่วนก็ทำเขาพึงพอใจมากแล้วแต่ตอนนี้กลับพลิกผัน เยวี่ยเยวี่ยกลับตกเป็นที่หมายปองของคุณชายเฮ่อได้เสียอย่างนั้น!
พระเจ้าไม่ยอมทอดทิ้งเขา!
ตอนนี้อู่เจิ้งซือยืนเชิดหน้าเหมือนอู่เยวี่ย ทอดสายตามองไปทางเหมยเหมยยังติดแววสงสารหน่อย ๆ รู้สึกว่าอดีตลูกสาวของเขาคนนี้โชคไม่ดีเลยจริง ๆ
เมื่อก่อนเห็นแก่อำนาจอิทธิพลของตระกูลจ้าวเลยทรยศเขา แต่ตอนนี้ตระกูลจ้าวล้มไปแล้วและเขาอู่เจิ้งซือกำลังจะผงาดขึ้น
อนาคตจ้าวเหมยได้รู้ความจริงคงรู้สึกเสียใจจะแย่ ตอนนั้นหากจ้าวเหมยคิดอยากจะกลับมาอยู่เคียงข้างเขาเขาคงไม่ยอม แน่นอนว่าหากจ้าวเหมยยอมขอร้องหลายครั้งหน่อยบางทีเขาจะลองพิจารณดูได้
ในเมื่อจ้าวเหมยมีหน้าตาเป็นที่ประจักษ์ซึ่งงดงามกว่าเหยียนซินหย่าในวันวานมากโข ไหนจะมีชื่อเสียงแต่เล็กแต่น้อย มีสาวงามที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและชื่อเสียงคงเพียงพอจะดึงดูดคุณชายตระกูลใหญ่โตได้อีก
ถึงเมื่อนั้นจะให้ลูกเขยคนโตแนะนำเสียหน่อย เขาก็จะได้มีลูกเขยผู้ยิ่งใหญ่ถึงสองคน ไม่แน่ตระกูลอู่อาจได้ก้าวเข้าสู่แวดวงสังคมที่เขาเคยใฝ่ฝันมานานนั่นได้!
อู่เจิ้งซือยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้นจนหน้าแดงก่ำ อยากให้เวลาผ่านไปไว ๆ เขาอยากเห็นจ้าวอิงหัวล่มจมในเร็ววัน แบบนี้ก็จะได้รับตัวจ้าวเหมยกลับมาได้อย่างราบรื่น!
เหมยเหมยนึกรังเกียจสายตาของอู่เจิ้งซือที่มองตัวเองราวกับกำลังมองสินค้าตัวหนึ่งจนอดขมวดคิ้วไม่ได้
“คุณอู่ คุณต้องแยกแยะให้ดีว่าบุญคุณที่เลี้ยงดูมาสิบสองปี ฉันไม่ได้ยินยอมจะรับมัน แต่เป็นผลลัพธ์ที่คุณทำผิด ส่วนสิบปีนั้นฉันใช้ชีวิตอย่างไร? ตอนนี้คุณพูดแบบนี้ไม่รู้สึกละอายแก่ใจบ้างเหรอ?”
เหมยเหมยมองชายจอมเสแสร้งเห็นแก่ตัวคนนี้อย่างเย็นชา น่ารังเกียจยิ่งกว่าเหอปี้อวิ๋นเป็นร้อยเท่า
เหอปี้อวิ๋นทำเรื่องชั่วร้ายมาล้วนเป็นเพราะได้รับคำอนุญาตกลายๆ จากอู่เจิ้งซือ
แล้วก็การตายของเธอในชาติที่แล้วอู่เจิ้งซือเองก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด แถมยังให้ปากคำที่สถานีตำรวจว่าเธอเป็นโรคประสาทถึงทำให้เธอกับลูกรักของเธอตายฟรี
อู่เจิ้งซือสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเปลี่ยนใจทันที เดิมทียังอยากให้จ้าวเหมยแต่งงานผูกญาติกับคุณชายตระกูลผู้ดี แต่ตอนนี้ดูท่าว่ายายคนนี้ไม่รู้จักเจียมตัวและไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ
งั้นก็อย่าหาว่าเขาใจเหี้ยมแล้วกัน!
“เหอะ…อนาคตเธออย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน!” อู่เจิ้งซือทำหน้าโมโห
เหมยเหมยไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าผู้ชายคนนี้เอาความมั่นใจมาจากไหน เธอหัวเราะเย้ย “สบายใจได้ ฉันจะมีแต่ความรู้สึกโชคดีอยู่เสมอ!”
โชคดีที่ชาตินี้ได้หลุดพ้นจากสถานที่กินคนอย่างบ้านตระกูลอู่ในเร็ววัน!
……………………………………….