ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1278 ได้ลูกเขยเศรษฐี + ตอนที่ 1279 คงตายใจไปแล้ว
ตอนที่ 1278 ได้ลูกเขยเศรษฐี
อู่เยวี่ยมองเหมยเหมยแวบหนึ่งอย่างดูแคลนแล้วพูดกับอู่เจิ้งซือเสียงอ่อนโยนว่า “พ่อคะ เราไปนั่งทางนั้นกัน อย่าไปสนใจคนไม่รู้จักสำนึกบุญคุณอย่างเขาเลยดีกว่า อนาคตเขาต้องเสียใจทีหลังแน่!”
“อืม…ลูกเป็นเด็กดีกว่าตั้งแต่เล็กจนโตเลย!”
อู่เจิ้งซือตบหลังมืออู่เยวี่ยเบา ๆอย่างปลื้มใจและทำหน้าเอ็นดูรักใคร่ไร้ซึ่งความเย็นชาเฉกเช่นเคย
เหมยเหมยคร้านจะสนใจสองพ่อลูกจอมหลงตัวเองแล้วไม่มองพวกเขาอีก ทว่ากลับนึกแปลกใจที่อู่เจิ้งซือกับอู่เยวี่ยทำหน้าชื่นตาบานเดินเชิดหน้าเชิดตา แล้วไหนจะพูดอยู่นั่นว่าเธอต้องเสียใจภายหลัง…
ความมั่นใจที่มากะทันหันนี่มันอะไรกัน?
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่!
ไว้กลับไปให้พี่เสือสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับอู่เจิ้งซือและอู่เยวี่ยกันแน่
ตามด้วยอู่เจิ้งเต้าและพวกคุณปู่อู่ที่มาถึงงานตามๆ กัน อู่เจิ้งเต้ากลับแต่งตัวดูดีไม่โทรมเหมือนอย่างเคยแต่ความโศกเศร้าที่ฝังอยู่ข้างในกลับลบไม่เคยออก
ไม่อาจทัดเทียมจี้เจี้ยนโปที่แต่งตัวหล่อเหลามีชีวิตมีชีวาได้เลยสักนิด และไม่คู่ควรกับเว่ยชิวเยวี่ยในตอนนี้
คิดไม่ถึงอู่เจิ้งหงเองก็มาด้วย แต่เธอดูเหมือนจะบวมขึ้นกว่าเดิม หน้ามันเยิ้มเส้นผมมันแผลบดูแก่กว่าเว่ยชิวเยวี่ยเป็นสิบปี มิน่าจี้เจียนโปถึงทนไม่ไหว
สองพี่น้องจี้เหวินฮุ่ยไม่มา จี้เหวินเฟิงเรียนมหาวิทยาลัยอยู่นอกพื้นที่เลยมาไม่ได้ ส่วนจี้เหวินฮุ่ยไม่ได้เรียนมัธยมปลายแต่เลือกเรียนสายอาชีพครูโดยตรงแต่ก็อยู่เมืองจินเช่นกัน แต่ที่ไม่มาคงเพราะทำใจไม่ได้
บอกได้เพียงว่าเว่ยชิวเยวี่ยโชคดีไม่น้อย เป็นผู้หญิงผ่านการหย่าร้างและมีลูกติดย่อมลำเค็ญอยู่แล้ว
แต่มีบางส่วนที่ยิ่งลำบากก็ยิ่งอ้วนเพราะมีความกดดันมากก็ยิ่งกินมากกว่าปกติ ทำให้ไขมันเพิ่มขึ้นไปตามๆ กัน อย่างเช่นอู่เจิ้งหงในตอนนี้
แต่มีคนอีกประเภทที่พอลำบากก็จะผอมฮวบลงเหมือนโดนมีดเฉือนเนื้อออกวันละครึ่งกิโลอย่างเว่ยชิวเยวี่ยเช่นกัน
อู่เจิ้งหงมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ดวงตาเรียวรีคับคล้ายกับคุณย่าอู่ถูกบีบเข้าหากันเป็นขีดเส้นตรงเพราะไขมันตรงใบหน้าที่มากเกินไป อีกทั้งสุขภาพของเธอเองก็ไม่ค่อยดีเท่าไรแค่ระยะทางสั้นๆ จากประตูของภัตตาคารมาถึงห้องโถงก็หอบไม่หยุด
ความจริงเหมยเหมยก็นึกเห็นใจอู่เจิ้งหงพอสมควร ไม่ว่าคุณอาหญิงในอดีตคนนี้เป็นอย่างไรแต่อย่างน้อยเธอก็จริงใจต่อจี้เจี้ยนโป
หนำซ้ำจี้เจี้ยนโปเองก็ได้ผลประโยชน์จากอู่เจิ้งหง คนเราพอดำเนินชีวิตมาถึงช่วงวัยกลางคนกลับโดนผู้เป็นสามีทอดทิ้ง อู่เจิ้งหงน่าสงสารจริง ๆ
แน่นอนว่าเธอก็ไม่ใช่ฝ่ายบริสุทธิ์ทั้งหมด ในเมื่อนิสัยขี้สงสัยขี้ระแวงของเธอไม่มีผู้ชายปกติคนไหนจะทนได้
คุณปู่อู่กับคุณย่าอู่เองก็เห็นเหมยเหมยเลยมีสีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่กลับไม่ได้หน้าด้านหน้าทนอย่างอู่เจิ้งซือ เพียงแค่ยืนมองอยู่ห่าง ๆไม่ได้เข้ามาทักทาย
เว่ยชิวเยวี่ยกับจี้เจี้ยนโปยืนกล่าวคำขอบคุณแขกบนเวที ทั้งสองคนล้วนเป็นคนพูดจาฉะฉานและเก่งในเรื่องการพูด แขกล่างเวทีต่างปรบมือดังกึกก้อง มีแค่ตระกูลอู่ที่ทำสีหน้าอึดอัดอย่างมาก
อู่เชามีพี่ชายอู่เจี๋ยคอยดูแลความเรียบร้อยในงานอยู่เขาที่ว่างงานเลยวิ่งมากระซิบกระซาบกับเหมยเหมย
“เธอได้ยินมั้ย? อู่เยวี่ยได้คู่หมั้นที่ดีล่ะ”
เหมยเหมยเลิกคิ้วพลันนึกถึงความได้ใจของสองพ่อลูกอู่เยวี่ยก่อนหน้านี้ หรือว่าอู่เยวี่ยจะหาคู่หมั้นเศรษฐีหนุ่มได้?
“ใครเหรอ? สมองไม่มีปัญหาใช่มั้ย?”
คนตาบอดที่ไหนที่ถูกตาต้องใจดอกไม้ที่แสนบอบช้ำเสียยิ่งกว่าช้ำอย่างอู่เยวี่ยเข้า?
อู่เชากลอกตาใส่เธอทีหนึ่ง อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาเวลาพูดจาเกรงใจกันหน่อยไม่ได้หรือไง
ไม่นานเขาก็พูดเสียงเบาอย่างอดไม่ได้ “เหมือนจะเป็นคนใหญ่คนโตของเมืองหลวง ฉันได้ยินคุณปู่ฉันบอกว่าเจ้าหมอนั่นเก่งมาก แม้แต่ตระกูลจ้าวอย่างพวกเธอก็สู้ไม่ได้”
อู่เชาเหลือบมองเหมยเหมยอย่างระวังแวบหนึ่งเห็นว่าเธอไม่ได้โมโหใด ๆเลยพูดต่อ “อาสองกับพวกคุณปู่ฉันดีใจแทบแย่แหนะ ดีกับอู่เยวี่ยมากประคบประหงมเธออย่างกับเจ้าหญิง”
เจ้าอ้วนน้อยเบะปากอย่างน้อยใจ สองวันก่อนเขาไปที่บ้านคุณปู่ คุณย่าได้ต้มไก่ไว้ตัวหนึ่งที่อดีตน่องไก่ต้องเป็นของเขาแต่วันนั้นคุณย่ากลับให้อู่เยวี่ยทั้งหมด
น้อยใจชะมัด!
…………………………………………
ตอนที่ 1279 คงตายใจไปแล้ว
เดิมทีเหมยเหมยคิดว่าคู่หมั้นที่อู่เยวี่ยหาได้จะเป็นหานป๋อหย่วนแต่พอฟังแล้วต้องไม่ใช่หานป๋อหย่วนแน่ ตระกูลหานในเมืองหลวงเป็นเพียงตระกูลลำดับท้ายๆ ต่อให้ตอนนี้ตระกูลจ้าวตกอับก็ใช่ว่าตระกูลหานจะทัดเทียมได้
ไม่ใช่หานป๋อหย่วนแล้วจะเป็นใครได้?
มีใครที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีก!
ไม่นานเธอก็นึกถึงโอหยางปิน อู่เยวี่ยรู้จักคนไม่มากหากบอกว่าเคยมีความสัมพันธ์กับคุณชายจากเมืองหลวง นอกจากหานป๋อหย่วนก็มีแต่โอหยางปิน
อีกอย่างตระกูลโอหยางในตอนนี้ราวกับพระอาทิตย์ที่เจิดจรัส สถานการณ์ดูเข้ากับที่อู่เชาบอกเป็นอย่างดี
แต่เธอก็รู้สึกไม่น่าเป็นไปได้ โอหยางสยงรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอู่เยวี่ยในคืนที่ร้านคาราโอเกะไห่เยี่ยน ต่อให้โอหยางสยงตาบอดไปข้างหนึ่งหูขาดไปข้างหนึ่งก็ไม่ถึงกับต้องลดมาตรฐานไปเอาอู่เยวี่ยมาเป็นภรรยาหรอก
ไม่ว่าอย่างไรเหมยเหมยก็คิดไม่ถึงว่าผู้ชายตาบอดที่ว่าจะเป็นโรคจิตอย่างเฮ่อเหลียนเช่อ!
งานแต่งงานถือว่าผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นซึ่งอู่เจิ้งหงเองก็ไม่ก่อเรื่องใดๆ เพียงแค่ทำหน้าบึ้งตึงตลอดงานและไม่เข้าใจว่าในเมื่อเธอไม่พอใจแล้วเหตุใดถึงยังมาร่วมงานแต่งงานอีก
ภายหลังเหมยเหมยรู้มาจากอู่เชาว่าเหตุผลที่เว่ยชิวเยวี่ยกับจี้เจี้ยนโปจัดงานในภัตตาคารก็เพราะสองพี่น้องอู่เจิ้งหงกับอู่เจิ้งเต้า
เพราะสองคนนี้เคยตามไปอาละวาดถึงที่ทำงานพวกเขาอยู่หลายครั้งและด่ากราดด้วยถ้อยคำหยาบคาย เว่ยชิวเยวี่ยกับจี้เจี้ยนโปเองก็ชักโกรธเลยตัดสินใจจัดโต๊ะจีน ไหนจะส่งบัตรเชิญให้คนทั้งตระกูลอู่เป็นพิเศษเพราะจงใจอยากจะเอาคืน
คนตระกูลอู่ที่ได้รับบัตรเชิญย่อมเดือดดาลอยู่แล้ว พวกเขาคิดๆ ดูแล้วว่าไม่ควรอ่อนข้อให้อดีตลูกสะใภ้และลูกเขยได้ ดังนั้น…
จึงสร้างความอึดอัดโดยการมาร่วมงานแต่งงานอย่างโจ่งแจ้ง!
งานเลี้ยงเลิกราแขกในงานต่างทยอยกลับและเหมยเหมยเองก็เตรียมกลับบ้านจึงแวะกล่าวลาสองสามีภรรยาเว่ยชิวเยวี่ย อู่เจิ้งหงสับเท้าเดินนำหน้าเธอไปอย่างรวดเร็วอย่างไร้ซึ่งความห่อเหี่ยวใจเหมือนก่อนหน้า
เหมยเหมยหยุดฝีเท้าลงหลงคิดว่าอู่เจิ้งหงต้องมาหาเรื่องแน่ เธอไม่อยากเข้าไปยุ่งเลยได้แต่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ
“จี้เจี้ยนโป!” อู่เจิ้งหงเอ่ยเรียกทีหนึ่ง
จี้เจี้ยนโปกำลังยืนส่งแขกกลุ่มสุดท้าย เมื่อได้ยินเสียงเรียกเลยอดขมวดคิ้วไม่ได้และเป็นกังวลว่าอู่เจิ้งหงจะก่อเรื่องด้วยเช่นกัน
“อู่เจิ้งหง ผมคุยกับคุณชัดเจนมากแล้วนะ…” จี้เจี้ยนโปทำท่าเอือมระอาสุดขีด
“คุณไว้ใจได้ ฉันไม่หาเรื่องคุณอีกแล้ว ฉันแค่อยากถามคุณประโยคเดียว”
อู่เจิ้งหงหัวเราะเยาะตัวเองพลางทำหน้าขมขื่น เธอมองจี้เจี้ยนโปที่ดูมีชีวิตชีวาด้วยแววตาลึกล้ำแวบหนึ่งก่อนจะก้มมองตัวเอง ความน้อยเนื้อต่ำใจทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม
“จี้เจี้ยนโป คุณเคยชอบฉันสักนิดบ้างไหม?” อู่เจิ้งหงเรียกกำลังใจให้ตัวเองแล้วถามออกไป
เธออยากถามให้เข้าใจมาโดยตลอดแต่กลับไม่เคยกล้าถามสักที เธอกลัวได้ยินคำตอบที่จะทำเธอใจสลาย
แต่ตอนนี้เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ต่อให้ต้องตายก็ขอให้เธอเป็นผีที่รู้กระจ่างในทุกข้อสงสัยเถอะ!
จี้เจี้ยนโปชะงัก ไม่คิดว่าอู่เจิ้งหงไม่ได้จะก่อเรื่องแต่ถามหนึ่งคำถามกับเขา จู่ๆ ก็รู้สึกแย่เหลือเกิน ไม่ว่าอย่างไรก็ใช้ชีวิตร่วมกันมายาวนานสิบกว่าปี หากบอกว่าไม่มีความรู้สึกสักนิดคงโกหก
แต่นั่นก็เป็นแค่ความรู้สึกที่มีต่อคนในครอบครัวที่สั่งสมมานานเท่านั้น
เขาไม่เคยชอบอู่เจิ้งหงมาก่อนอย่างแท้จริง
จี้เจี้ยนโปอยากฝืนใจตอบว่าเคยชอบ แต่พอได้เห็นท่าทางอ่อนแอที่ไม่เคยเปิดเผยให้เห็นมาก่อนของอู่เจิ้งหงเขากลับพูดไม่ออก หากแต่ว่าความลังเลชั่วขณะทำให้อู่เจิ้งหงรู้คำตอบพลางหัวเราะอย่างน่าสงสาร
“ฉันรู้แล้ว…ฉันมันไม่เจียมตัวเอง…จี้เจี้ยนโป เห็นแก่เราสองคนที่เคยเป็นสามีภรรยากันมา ไม่ใช่ว่ามีภรรยาใหม่ก็ละเลยเหวินเฟิงกับเหวินฮุ่ยเสียล่ะ”
“จะเป็นงั้นไปได้อย่างไร เหวินเฟิงกับเหวินฮุ่ยก็ลูกผมเหมือนกัน ผมจะไม่สนใจพวกเขาได้อย่างไร!” จี้เจี้ยนโปชักจะไม่พอใจ เขาใช่คุณพ่อที่ไม่มีความรับผิดชอบอย่างนั้นหรือ!
อู่เจิ้งหงดูถูกเขาเกินไปแล้ว!
“งั้นก็ดี…”
อู่เจิ้งหงถอนหายใจเสียงเบาแล้วค่อยๆ หันหลังเดินจากไปโดยที่ไม่รอคนตระกูลอู่ แต่เลือกเดินจากไปเพียงลำพังช้า ๆ แผ่นหลังที่ดูเศร้าสร้อยนั่นไม่เหลือคราบอดีตที่เคยข่มเหงผู้อื่นอีกต่อไป
………………………………………