ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1296 ระเบิด + ตอนที่ 1297 ตัวการคือใคร
ตอนที่ 1296 ระเบิด
เหอปี้อวิ๋นเห็นการกระทำของอู่เยวี่ยเช่นนั้นก็ตกตะลึงไป ไหนเลยจะยังสนใจเรื่องตบตีกันอีก วิ่งเข้าไปคิดจะถามให้รู้เรื่องกันไปเลย ถามอู่เยวี่ยว่าทำไมถึงได้ทำกับเธอแบบนี้!
อู่เยวี่ยเร่งฝีเท้า เธอต้องแก้ไขปัญหาความวุ่นวายเหล่านี้ให้จบอย่างรวดเร็ว ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าวันนี้เธอเคยมาที่นี่ เธอยังต้องการแต่งงานเป็นภรรยาของเฮ่อเหลียนเช่ออยู่นะ!
“อู่เยวี่ยแกหยุดอยู่ตรงนั้น…”
เหมยเหมยก็ไล่ตามมาแต่ด้วยระยะห่างที่มากเกินไป แถมอู่เยวี่ยยังวิ่งอย่างว่องไว ช่วงเวลาแค่แวบเดียวไล่ตามไม่ทันอยู่แล้ว อีกอย่างอู่เยวี่ยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมากวิ่งไปถึงประตูก็ล็อกกลอนทันที
ประตูถูกล็อกจากด้านนอกและมันก็เป็นประตูเหล็ก ถึงแม้ว่าจะเป็นสนิมแต่ก็ยังแข็งแรงมาก
“เยวี่ยเยวี่ย…ลูกรีบปล่อยแม่ออกไป…”
เหอปี้อวิ๋นร้องเสียงดังอย่างตื่นตระหนก แต่อู่เยวี่ยกลับไม่ใจอ่อนเลยแม้แต่น้อย เธอมองประตูใหญ่อย่างเย็นชา หันหน้ากลับเตรียมพร้อมจุดชนวนระเบิดอย่างไม่ลังเล
“เยวี่ยเยวี่ย…เยวี่ยเยวี่ย…ลูกรีบเปิดประตู…ลูกทำแบบนี้กับแม่ได้อย่างไร?”
เหอปี้อวิ๋นทุบประตูด้วยความสิ้นหวัง ตะโกนร้องไห้แต่กลับไม่ได้รับการตอบกลับสักคำ หัวใจเหน็บหนาวสุดขีด
นี่คือลูกสาวที่แสนดีของเธอ ลูกสาวที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ ตอนนี้กลับจะฆ่าเธอให้ตายด้วยน้ำมือของตัวเองเสียแล้ว!
เหมยเหมยเองก็ร้อนใจกวาดตาหาทางออกรอบทิศ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฉวยโอกาสก่อนที่อู่เยวี่ยจะจุดชนวนระเบิดรีบหนีไป
อาคารหลังนี้เมื่อก่อนเคยเป็นโรงงานจึงทำหน้าต่างไว้สูงมาก สูงเท่าผู้ใหญ่คนหนึ่ง ตัวเธอคนเดียวยังสามารถปีนออกไปได้แต่พาเหยียนซินหย่าไปด้วยไม่ได้แน่นอน
หาอยู่นานเธอก็ยังหาทางออกไม่เจอ เวลาก็มีไม่มากแล้ว เกรงว่าอู่เยวี่ยจะเริ่มจุดชนวนระเบิดเสียแล้วสิ
เหมยเหมยตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ไม่มองหาทางออกอีกต่อไปแต่กำลังมองหาที่ซ่อนแทน แบบนี้ต่อให้มันจะระเบิดก็ยังมีที่กำบังได้คงจะไม่ถูกระเบิดจนถึงตาย
เหอปี้อวิ๋นยังคงทุบประตูอยู่ ร้องตะโกนร้องไห้เสียงแหบแห้ง ยังไม่ตระหนักถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง
เหมยเหมยก็ไม่ได้เรียกเธอ เธอแบกเหยียนซินหย่าขึ้นหลังแล้วดึงมีดผลไม้ออกอย่างระมัดระวัง วิ่งไปที่มุมสุดของโรงงานซึ่งที่นั่นมีโต๊ะวางเรียงรายอยู่ เหยียนหมิงซุ่นเคยสอนเธอมาก่อนว่าหากเกิดแผ่นดินไหว แค่ซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะหรือใต้เตียง ก็สามารถลดความบาดเจ็บลงได้
คิด ๆแล้วคงจะสามารถบังระเบิดได้อยู่บ้าง!
ไม่ง่ายเลยกว่าจะวิ่งมาถึงมุมด้านใน เหมยเหมยวางเหยียนซินหย่าลงบนพื้น จากนั้นก็ตั้งโต๊ะซ้อน ๆกันทำเป็นวงกลมเล็ก ๆเป็นฉากกำบังขึ้นมา
เดิมทีเหมยเหมยยังคิดจะหาของมาวางกำบังไว้อีก เสียงของอู่เยวี่ยก็ดังลอยเข้ามา
“แม่…วันเชงเม้งสารทจีนหนูจะเผาเงินไปให้เยอะ ๆนะ ขอให้ชาติหน้าหนูเกิดมาเป็นลูกแม่อีกนะ!”
เหอปี้อวิ๋นร้องเรียกเสียงหลง “เยวี่ยเยวี่ย……รีบปล่อยแม่ออกไป แม่เป็นแม่ของแกนะ!”
“ใครใช้ให้แม่ไร้ความสามารถกันล่ะ…แม่…ลาก่อนค่ะ หนูให้สองแม่ลูกเหยียนซินหย่าที่แม่เกลียดที่สุดไปพร้อมกับแม่แล้ว แม่วางใจแล้วไปอย่างสงบเถอะ!”
“คลิ๊ก”
อู่เยวี่ยจุดไฟแช็กเปลวไฟสีฟ้าอ่อนเต้นตามสายลม เธอกัดฟันกรอดแล้วจุดชนวนระเบิดอย่างแน่วแน่ โยนมันเข้าทางหน้าต่างอย่างไม่ลังเล ตัวเองก็รีบวิ่งไปที่รถตู้
แต่กลับไม่ได้รีบร้อนจากไป เธออยากได้ยินเสียงระเบิดและเห็นกับตาตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าจ้าวเหมยตายไปแล้วจริง ๆ เธอถึงจะวางใจได้
“ตู้ม”
มีเสียงดังลอยมา จากนั้นก็ดังติดต่อกันอีกหลายครั้งจนพื้นสั่นสะเทือน เหมยเหมยกุมหัวด้วยมือทั้งสองข้าง ปิดหูเอาไว้ โถมตัวเข้าบังเหยียนซินหย่าเอาไว้
โต๊ะโดนแรงระเบิดสั่นจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และยังมีไม้หักๆจำนวนมากกระเด็นใส่ตัวเหมยเหมย คลื่นความร้อนทำให้เหมยเหมยหมดสติไป
อู่เยวี่ยยกริมฝีปากอย่างลำพองใจ เตรียมตัวจะเข้าไปดูว่าจ้าวเหมยตายหรือยังแต่เสียงเพจเจอร์ก็ดังขึ้น เฮ่อเหลียนเช่อส่งมาถามว่าเธออยู่ที่ไหนและบอกให้เธอโทรกลับโดยเร็วที่สุด
เธอต้องขับรถไปที่ตู้โทรศัพท์ก่อน โทรเสร็จแล้วค่อยกลับมา แต่เพิ่งจะขับรถออกจากปากทางก็เห็นรถหลายคัน หนึ่งในนั้นมีป้ายทะเบียนที่คุ้นตาเป็นอย่างดีนั่นคือรถของเหยียนหมิงซุ่น เมื่อก่อนรถคันนี้เคยมารับจ้าวเหมยหลังเลิกเรียนที่โรงเรียนอยู่บ่อย ๆ
อู่เยวี่ยตกใจจนเหงื่อเย็น ๆท่วมตัว ได้แต่แอบนึกดีใจที่ตัวเองหนีออกมาเร็ว เหยียนหมิงซุ่นจึงตามจับเธอไม่ได้
……………………………….
ตอนที่ 1297 ตัวการคือใคร
เหยียนหมิงซุ่นขับเครื่องบินรบกลับมาด้วยตัวเอง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้อำนาจเป็นการส่วนตัว เขาสนใจอะไรมากไม่ได้อีก เหมยเหมยจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้ แค่รอหนึ่งนาทีก็ทรมานเขาแทบแย่แล้ว
ขอเพียงแค่ช่วยเหมยเหมยได้ทัน ต่อให้กลับไปแล้วโดนเฮ่อเหลียนชิงทำโทษก็ยอม
เขาไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ พอลงจากเครื่องบินก็ตรงไปหาพวกพี่เสือเลย แต่เพราะรถในเมืองจินเยอะเกินไป ร่องรอยรถตู้สองสามที่ก็ถูกกลบจนมิด
และเวลานี้ต่อให้เมืองจินจะใหญ่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะติดตั้งกล้องทั่วทั้งเมือง ดังนั้นอยากจะหารถตู้ธรรมดาสักคันก็ถือว่าเป็นเรื่องยากเกินไปจริง ๆ
ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นกลับมาถึงก็ห่างจากระยะเวลาที่เหมยเหมยเกิดเรื่องตั้งสี่ชั่วโมง ฝั่งพี่เสือสืบเจอแค่ว่ารถกำลังมุ่งหน้าไปยังชานเมืองฝั่งตะวันออก ส่วนเรื่องรายละเอียดสถานที่กลับไม่มีเบาะแส
พวกเขารู้สึกอับอายมากเมื่อเผชิญหน้ากับเหยียนหมิงซุ่น รู้สึกอยู่ลึก ๆว่าพวกเขาไร้ความสามารถเกินไป ขนาดคุณหนูยังปกป้องไว้ไม่ได้
เหยียนหมิงซุ่นกลับไม่ได้ตำหนิพวกเขา เขาไปตามหาเหมยเหมยพร้อมกับลูกน้องและถามข้อมูลบางอย่าง “ใครเป็นคนพาเหอปี้อวิ๋นออกมา?”
อันที่จริงเหยียนหมิงซุ่นอยากจะด่าตัวเอง เขาเชื่อใจจ้าวอิงหัวจนเกินไป คิดว่าเจ้าหมอนี่คงจะสามารถจับตาดูเหอปี้อวิ๋นได้อย่างไม่คลาดสายตา ใครจะไปรู้ว่าจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้หนีออกมาได้อีกครั้ง
เรื่องที่โรงพยาบาลประสาทครั้งก่อนเขาก็ควรจะระมัดระวังมากกว่านี้ แต่เนื่องจากช่วงนี้มีเรื่องวุ่น ๆมากมาย อีกทั้งเป้าหมายหลักของเหอปี้อวิ๋นคือเหยียนซินหย่า เขาจึงมองข้ามอันตรายของผู้หญิงคนนี้ไป
จนกระทั่งตอนนี้ก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่แล้ว!
เป็นความผิดของเขาทั้งหมด หวังก็แต่เหมยเหมยจะไม่เป็นอะไร!
“คุณชายหมิง พวกเราไปสืบดูแล้วเป็นเพราะจู่ ๆเหอปี้อวิ๋นก็ป่วยกะทันหันจึงส่งตัวไปโรงพยาบาล” พี่เสือตอบ
“เหอปี้อวิ๋นคงแกล้งป่วยโดยไร้เหตุผลไม่ได้แน่ ต้องมีคนแอบติดต่อเธออย่างลับ ๆ นายได้ตรวจสอบบันทึกการเข้าเยี่ยมสองสามวันที่ผ่านมาหรือเปล่า?” สีหน้าของเหยียนหมิงซุ่นดูเคร่งขรึม
เหอปี้อวิ๋นคนเดียวคงไม่สามารถทำได้ขนาดนี้ จะต้องมีคนคอยช่วยเธออยู่เบื้องหลังแน่นอน
ตัวการคนนั้นสิถึงจะเป็นคนที่อันตรายที่สุด!
พี่เสือทำสีหน้าเลิ่กลั่ก ความรู้สึกอับอายปรากฏชัดบนใบหน้ากว่าเดิม เขาพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “ผม……ผมไม่ได้นึงไปถึงขั้นนั้น มัวแต่รีบตามหาคนครับ”
เขาช่างโง่จริง ๆทำถึงนึกไม่ถึงนะ เอาแต่วิ่งวุ่นไปทั่วเหมือนแมลงวันไร้สมอง เขาทำลายความเชื่อใจของคุณชายหมิงจนสิ้นแล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจเบา ๆ ที่จริงพี่เสือบกพร่องเรื่องการวางแผนพอควร เขาจึงไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำเหมาะเป็นผู้ตามมากกว่า
ก็ต้องโทษที่เขารีบร้อนเกินไป ความจริงเป็นเรื่องยากมากที่จะหาผู้ช่วยเก่งกล้าและมีความรู้ได้ ทุกเรื่องคงไม่ได้เป็นไปตามหวังได้ทุกอย่างหรอก คงทำได้แค่วันหลังค่อย ๆหาใหม่
พี่เสือไม่รอคำสั่งของเหยียนหมิงซุ่น เขาส่งลูกน้องไปที่เรือนจำเพื่อสอบถามข้อมูลในทันที ครั้งนี้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงมาก สาวถึงตัวหวงอวี้เหลียนได้อย่างรวดเร็ว หวงอวี้เหลียนไปเยี่ยมเรือนจำเมื่อสามวันก่อน แต่อยู่แค่สิบห้านาทีแล้วก็ออกมาอย่างรวดเร็ว
อีกทั้งสองวันก่อนหน้าอู่เยวี่ยก็ไปเรือนจำและอยู่ที่นั้นเพียงสิบห้านาทีเช่นกัน
“คุณชายหมิง สิบวันมานี้มีเพียงแค่พวกเธอสองคนที่ไปเรือนจำ” ลูกน้องรายงาน
ใบหน้าเหยียนหมิงซุ่นพลันดุดันขึ้นมา สัญชาตญาณบอกเขาว่าไม่ว่าจะเป็นหวงอวี้เหลียนหรืออู่เยวี่ยต่างก็ไม่ใช่ตัวการ พวกเขาไม่มีความสามารถขนาดนั้น
ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังอีกแน่
เหยียนหมิงซุ่นพลันนึกถึงเฮ่อเหลียนเช่อที่อยู่ดี ๆก็ปรากฏตัวในเมืองจิน เจ้าหมอนี้น่าสงสัยที่สุด
แต่เขาไม่เข้าใจ ถึงแม้ว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะโหดเหี้ยมกระหายเลือดแค่ไหนแต่คงไม่ลักพาตัวไปโดยไร้เหตุผล ยิ่งเหยียนซินหยาที่ไม่มีความแค้นต่อกันด้วยแล้ว เฮ่อเหลียนเช่อให้เหอปี้อวิ๋นลักพาตัวเหยียนซินหย่าไปแล้วมีประโยชน์อะไร?
“คุณชายหมิง คนของเฮ่อเหลียนเช่อก็กำลังหาตัวคุณหนูและคุณผู้หญิง พวกเขาจะช่วยพวกเราหาอีกแรง”
คำพูดของพี่เสือยิ่งทำให้เหยียนหมิงซุ่นไม่เข้าใจ เฮ่อเหลียนเช่อมาไม้ไหนเนี่ย?
“คุณชายหมิง มีผู้ชายที่ชื่อว่าลี่เมิ่งเฉินมาหาครับ เขาบอกว่าสามารถช่วยหาตัวคุณหนูได้” มีคนวิ่งเข้ามาพูดอีกครั้ง
……………………………………….