ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1324 ไม่ยอมเชื่อ + ตอนที่ 1325 ขู่ขวัญ
ตอนที่ 1324 ไม่ยอมเชื่อ
แม้ถานซูฟางจะโกรธที่ลูกชายยังคบกับอู่เยวี่ย แต่เธอสงสารลูกชายมากกว่าที่โดนซ้อมสาหัสขนาดนี้ เลยอดบ่นออกมาไม่ได้ “มีอะไรคุยกันดี ๆไม่ได้หรือไง? ก็แค่ซื้อระเบิดไม่ใช่เหรอ? เด็กผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างอู่เยวี่ยจะเอาระเบิดไปทำเรื่องร้าย ๆอะไรได้?”
ถึงเธอจะรู้สึกว่าเหตุผลที่อู่เยวี่ยให้เหยียนหมิงต๋าช่วยซื้อระเบิดให้ หลัก ๆเพราะไม่อยากเสียเงินเองก็ตาม เธอใช้ส้นเท้าคิดยังคิดได้เลยว่าระเบิดห้ากิโลกรัมนี้ต้องเป็นลูกชายเธอควักจ่ายเอง
โง่เสียจริง!
ระเบิดห้ากิโลกรัมราคาไม่ใช่น้อย ๆ ถานซูฟางเริ่มเสียดายเงินอีกแล้วเลยอดเขกกบาลเหยียนหมิงต๋าแรง ๆทีหนึ่งไม่ได้ “บอกให้ลูกอย่าไปคบกับอู่เยวี่ยไง ทำไมลูกไม่ยอมฟัง ไปเป็นทหารก็ดีจะได้ไม่โดนยายสุนัขจิ้งจอกหลอกเอาเงินไปอีก!”
เหยียนหมิงซุ่นแค่นหัวเราะ ในสายตาผู้หญิงคนนี้มีแต่เงิน
“เมื่อวานโรงงานร้างแห่งหนึ่งที่เขตชานเมืองถูกระเบิด พวกคุณน่าจะเคยได้ยินมาบ้างใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นถาม
“รู้สิ ฉันได้ยินมาว่าเหมือนจะสร้างโรงงานใหม่เลยระเบิดโรงงานเก่าไป” เหยียนโฮ่วเต๋อเอ่ยอย่างกระตือรือร้น
ข่าวของเขารวดเร็วทันใจเสมอ
คุณปู่เหยียนกลับรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ เลยมองไปทางเหยียนหมิงซุ่นแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงระแวดระวัง “ระเบิดเมื่อวานเป็นฝีมืออู่เยวี่ยเหรอ?”
“ใช่ อู่เยวี่ย เธอร่วมมือกับเหอปี้อวิ๋นลักพาตัวเหมยเหมยกับคุณแม่ของเธอไป หรือคุณนายของผู้ว่าเมืองจิน อีกอย่างยังใช้มีดแทงแม่เหมยเหมยจนตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย สุดท้ายเธอยังวางระเบิด และนั่นก็คือที่โรงงานร้างเขตชานเมืองแห่งนั้น”
เหยียนหมิงซุ่นเล่าวีรกรรมชั่วร้ายของอู่เยวี่ยให้ฟังคร่าว ๆ จงใจไม่บอกว่าเหยียนซินหย่าพ้นขีดอันตรายและไม่บอกว่าเฮ่อเหลียนเช่อมีเสี่ยวเอี่ยวด้วยเพราะอยากหลอกให้เหยียนหมิงต๋ากลัว
เหยียนหมิงต๋าตกใจไม่น้อยจริง ๆ หน้าซีดทันที มองเหยียนหมิงซุ่นด้วยสายตาตื่นกลัวส่ายศีรษะไม่หยุด “เป็นไปไม่ได้…เยวี่ยเยวี่ยไม่มีทางโกหกฉัน ทั้ง ๆที่เธอบอกว่าเอาไประเบิดปลา…พี่ใหญ่จงใจทำให้ฉันกลัว…”
เหยียนโฮ่วเต๋อเองก็กระทืบเท้าซ้ำพร้อมด่า “พี่ใหญ่ของแกจะโกหกแกทำไม? ฉันจะตีไอ้โง่อย่างแกให้ตาย!”
เขาทำงานในแวดวงการเมืองมานานและผ่านเรื่องราวมามาก แค่ได้ฟังที่เหยียนหมิงซุ่นเล่าก็รู้ว่าเรื่องนี้รุนแรงนัก เลยรีบถาม “หมิงซุ่น คุณนายจ้าวอาการสาหัสมากไหม?”
“แน่นอน ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย อีกอย่างเหมยเหมยก็บาดเจ็บไม่น้อย สองแม่ลูกกำลังถูกช่วยชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล ”เหยียนหมิงซุ่นตีหน้านิ่งไม่มองเหยียนโฮ่วเต๋อ
คุณย่าหยางตกใจรีบท่องบทสวดไม่หยุด “บาปกรรม อู่เยวี่ยบ้าไปแล้ว…ต้องเป็นบ้าไปแล้ว!”
“อู่เยวี่ยกับแม่ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง? จับตัวได้มั้ย?” คุณปู่เหยียนถาม
เหยียนหมิงซุ่นล้วงรูปถ่ายอีกหลายใบจากกระเป๋ายื่นใส่หน้าเหยียนหมิงต๋าที่ยังพึมพำไม่หยุด พูดเสียงตำหนิ “แกดูให้ชัด แม้แต่แม่แท้ ๆของตัวเองอู่เยวี่ยยังใจเหี้ยมทำได้ลงคอ นี่คือสภาพก่อนตายของเหอปี้อวิ๋น”
ทุกคนต่างสะดุ้งตกใจใหญ่ คุณย่าหยางรีบถามแทรก “เหอปี้อวิ๋นตายแล้ว?”
“ใช่ ตายเพราะโดนระเบิดของอู่เยวี่ย” เหยียนหมิงซุ่นตอบคำถาม
“อมิตตาพุทธ…ผู้หญิงคนนี้ทำไมใจเหี้ยมขนาดนี้!” คุณย่าหยางส่ายหน้ารัว
แม้ว่าเหอปี้อวิ๋นจะชั่วร้ายแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอดีต่ออู่เยวี่ยจริง ๆ แต่อู่เยวี่ยกลับทำแบบนี้กับแม่แท้ ๆของตน
เทียบสัตว์เดรัจฉานไม่ได้ด้วยซ้ำ!
“อ้วก…”
เหยียนหมิงต๋าดูรูปถ่ายเพียงแวบเดียวก็ทนดูต่อไม่ไหว มื้อกลางวันมีไส้ผัดของโปรดที่เขาชอบทานที่สุดซึ่งเขาเขมือบไปจนหมดจานใหญ่ ตอนนั้นทานเอร็ดอร่อยมากแค่ไหนตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าน่าสะอิดสะเอียนใจมากเท่านั้น
ไส้จานใหญ่กำลังบิดตัวอยู่ในกระเพาะในยามนี้ พร้อมจะผุดทะลักออกมาได้ทุกเมื่อ
นี่ฝีมืออู่เยวี่ยจริงหรือ?
ทั้งที่เยวี่ยเยวี่ยไม่กล้าทำร้ายชีวิตหนอนบ้งด้วยซ้ำ เธอมีความเมตตาขนาดนั้นแล้วจะกล้าฆ่าคนได้อย่างไร?
………………………..
ตอนที่ 1325 ขู่ขวัญ
เหยียนโฮ่วเต๋อเห็นท่าทีแน่นิ่งของลูกชายคนเล็กเลยอดเอารูปถ่ายที่กระจายบนพื้นขึ้นมาดูด้วยความสงสัยไม่ได้ เขาสายตาสั้นเล็กน้อย ปกติอยู่บ้านไม่สวมแว่นตา ตอนนี้จึงเห็นแต่ของสีแดงสองชิ้น
“นี่ตายสองคนเหรอ? นอกจากเหอปี้อวิ๋นตายแล้วยังมีใครอีกคน? หรือว่าจะเป็นอู่เยวี่ย?”
เหยียนโฮ่วเต๋ออดดีใจไม่ได้ หากคนตายคืออู่เยวี่ยก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องมายั่วลูกชายเขาอีก!
ถานซูฟางดีใจเสียยิ่งกว่า เธอจินตนาการไปไกลกว่าอีกเท่าตัว หลงคิดว่าเหยียนหมิงต๋าเห็นสภาพหลังการตายจากระเบิดของอู่เยวี่ยถึงได้ทำท่าคลื่นไส้เช่นนั้น
เธอรู้ว่าคนที่ตายด้วยระเบิดคงมีสภาพดูไม่จืด
“ไหนฉันดูสิ…นี่ก็นับว่ากรรมตามสนองแล้ว…” ถานซูฟางเป็นคุณหมอตัวจริงย่อมไม่กลัวการเห็นศพอยู่แล้ว เลยแย่งภาพถ่ายจากมือเหยียนโฮ่วเต๋อมาดู
แม้เธอจะค่าสายตาสั้นเกือบพันแต่เพราะสวมแว่นตาอยู่เลยเห็นชัดเต็มสองตา แวบเดียวก็เห็นเนื้อสองชิ้นบนภาพถ่ายอย่างชัดเจน นั่นก็คือเหอปี้อวิ๋นที่ร่างขาดเป็นสองท่อนนั่นเอง
ต่อให้เธอเห็นศพคนตายจนชินตา แต่ศพที่ตายได้อย่างอนาถขนาดนี้ก็ทำเอาเธอพะอืดพะอมได้อยู่ดี
เหยียนโฮ่วเต๋อเห็นสีหน้าที่แปลกไปของภรรยาเลยถลาไปหยิบแว่นตามา แวบเดียวก็เห็นรูปร่างครึ่งท่อนบนของเหอปี้อวิ๋นแบบขยายชัดที่มีลำไส้ห้อยเลือดอาบไปทั้งพื้น
“อ้วก…”
ผัดไส้น้ำแดงอีกจานเล็กมื้อเที่ยงแทบจะลงท้องเหยียนโฮ่วเต๋อทั้งหมด ในที่สุดตอนนี้เขาก็เข้าใจลูกชายคนเล็กแล้วว่าทำไมถึงมีท่าทางอย่างนั้น
เขามีความอดทนที่ต่ำกว่าเหยียนหมิงต๋ามากโข เอามือปิดปากพุ่งไปยังห้องน้ำอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง
คุณปู่เหยียนกับคุณย่าหยางเองก็ดูรูปถ่ายเช่นกันต่างมีสีหน้าย่ำแย่มาก พวกเขาไม่คิดเลยว่าเหอปี้อวิ๋นจะน่าอนาถขนาดนี้
หากเป็นสมัยโบราณถือเป็นการลงโทษฟันเอวแล้วนะ!
ต้องเจ็บขนาดไหนกัน?
“หมิงซุ่น จับตัวอู่เยวี่ยได้หรือยัง? คนที่เหี้ยมโหดเช่นนั้นจะปล่อยเธอลอยนวลไม่ได้เด็ดขาด จะต้องจับตัวมายิงเป้า!” คุณย่าหยางพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น
เป็นครั้งแรกที่ถานซูฟางเข้าข้างแม่สามี “ไม่ผิดหรอก ต้องยิงเป้า คนอย่างอู่เยวี่ยคือโรคจิต มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไปก็เป็นตัวอันตราย หลังจากนี้เธอต้องฆ่าคนอีกแน่ ๆ ต้องเอาตัวมายิงเป้าทิ้ง”
สิ่งสำคัญที่สุดคือต่อให้ตายไปก็อย่ามาตามรังควานลูกชายเธออีก!
ลูกสะใภ้แบบนั้นเธอไม่กล้าเอาหรอกนะ จะตายอย่างไรคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!
เหยียนหมิงซุ่นปรายตามองถานซูฟางเย็นชาแวบหนึ่งแล้วพูดเย้ย “ไม่ต่างกันเท่าไรหรอก”
ถานซูฟางชะงักก่อนค่อยเดือดพล่าน เธอใจดีกว่าอู่เยวี่ยมากโขอย่างน้อยก็ไม่ได้ฆ่าโม่เหวินเซียงเองกับมือ แค่พูดบางอย่างให้กระทบกระเทือนใจผู้หญิงคนนั้นเท่านั้นเอง
แม้เธออยากจะด่ากลับแต่นึกถึงสถานะปัจจุบันของเหยียนหมิงซุ่นแล้ว ถานซูฟางจึงจำใจปิดปากไปเงียบ ๆ พยายามระงับอารมณ์โกรธไว้
“ตอนนี้อู่เยวี่ยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จะจับตัวได้ไหมยังไม่รู้ ผมสงสัยว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่เธอจะมาหาหมิงต๋า…” เหยียนหมิงซุ่นจงใจกล่าวเช่นนั้น
คุณย่าหยางสะดุ้งจนเด้งตัวขึ้น “ไม่ได้ไม่ได้…หมิงต๋าจะไปเจอฆาตกรคนนั้นอีกไม่ได้แล้ว โฮ่วเต๋อ ตอนนี้แกรีบส่งหมิงต๋าไปกรมกองกำลังทหารเดี๋ยวนี้ จับตาดูเจ้าหมอนี่ให้ดี”
ถานซูฟางเองก็ชักร้อนใจพลางเห็นด้วยกับคำพูดของคุณย่าหยางอย่างมาก ต่อให้อู่เยวี่ยใจกล้าแค่ไหนคงไม่ไปหาลูกชายถึงกรมกองกำลังทหารหรอกนะ?
เหยียนหมิงต๋าหน้าตาเหม่อลอยดวงตาล่องลอย ไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเหยียนหมิงซุ่นพูดแต่อย่างใด
เหยียนหมิงซุ่นเดินเข้าไปถีบแรง ๆอีกที “แกไม่อยากไปเป็นทหารก็ไปเข้าคุก แกช่วยอู่เยวี่ยซื้อระเบิดห้ากิโลกรัมก็มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดคดีเจตนาฆ่าของอู่เยวี่ย ตัดสินโทษแกจำคุกสามปีหรือห้าปียังน้อยไป”
ถานซูฟางตกใจจนหน้าถอดสีรีบฉุดลูกชายขึ้นพลางพูดเว้าวอน “หมิงต๋าเชื่อฟังพี่ชายนะ ลูกไปอยู่ค่ายทหารให้สบายใจเถอะ อย่าคิดถึงอู่เยวี่ยอีก ผู้หญิงคนนั้นจะทำร้ายชีวิตลูกได้นะ!”
…………………………………