ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1326 ไม่ได้สติ + ตอนที่ 1327 ใกล้สำเร็จแล้ว
ตอนที่ 1326 ไม่ได้สติ
เหยียนหมิงต๋ากลับยังคงแสดงทีท่าบื่อทึ่ม เอาแต่พึมพำอยู่คนเดียวว่า “ผมไม่เชื่อ…เยวี่ยเยวี่ยไม่ใช่คนแบบนั้น…ผมจะไปถามเยวี่ยเยวี่ย ผมจะถามให้รู้เรื่องว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับผม…”
แม้เขาจะพึมพำเสียงเบาแต่เหยียนหมิงซุ่นกลับได้ยินชัดเต็มสองหู ไฟโทสะในอกก็ยิ่งสุมหนักกว่าเดิม พยายามอยู่นานไม่ให้เอาเจ้างั่งนี่ให้ตาย
เหยียนหมิงต๋าลุกพรวดหมายจะวิ่งไปหาอู่เยวี่ย เขาชอบผู้หญิงคนนี้มาตั้งหลายปีชอบมาตั้งแต่เด็ก ทำดีกับอู่เยวี่ยเสมอมา ไม่ว่าอู่เยวี่ยให้เขาทำอะไรเขาไม่เคยปฏิเสธ
แต่ทำไมอู่เยวี่ยถึงโกหกเขา?
เขาจะต้องถามให้รู้เรื่อง!
เหยียนหมิงซุ่นฟาดสันมือลงท้ายทอยของเหยียนหมิงต๋า เจ้างั่งนี่หมดสติไปโดยที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยงงงวยและเสียใจ รวมถึงความไม่เข้าใจ แต่กลับไม่มีความโกรธสักนิด
“ผมจะให้หมิงต๋าไปฝึกในที่ที่ลำบากที่สุด หากอู่เยวี่ยยังไม่ถูกจับตัวก็ห้ามกลับบ้าน พวกคุณเองก็ห้ามติดต่อเขา”
เหยียนหมิงซุ่นปวดศีรษะเหลือเกิน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าเหยียนหมิงต๋าจะยึดติดแต่กับอู่เยวี่ยอย่างลึกซึ้งขนาดนี้ ไม่แยแสความจริงครั้งแล้วครั้งเล่า กลัวก็แต่อู่เยวี่ยจะใช้ให้เจ้าโง่นี่ไปฆ่าคน เหยียนหมิงต๋าก็คงยอมสินะ!
เวรกรรมจริงๆ!
คุณปู่เหยียนกับเหยียนโฮ่วเต๋อเข้าใจความหมายเหยียนหมิงซุ่นดีจึงพยักหน้าเห็นด้วย “ตกลงตามนี้ ให้เจ้าหมอนี่ไปฝึกฝนที่ค่ายทหารหน่อยก็ดี”
ถานซูฟางกลับทำใจไม่ได้เลย มีแต่ความปวดใจ และความโกรธเคืองที่มีต่อเหยียนหมิงซุ่น
แค่เป็นทหารก็ลำบากมากพอแล้ว แต่เหยียนหมิงซุ่นจะส่งตัวเหยียนหมิงต๋าไปยังค่ายทหารที่ลำเค็ญที่สุด เขาต้องจงใจแน่ ๆ จงใจให้หมิงต๋าลำบาก ให้เธอต้องพรากจากลูกชาย
“ต้องไปที่ลำบากที่สุดเลยเหรอ? ให้อยู่ค่ายทหารละแวกเมืองจินไม่ได้เหรอ? หมิงซุ่นตอนนี้ใช่ว่าเธอจะไม่มีอำนาจนั้นสักหน่อย!” ถานซูฟางพูดแฝงนัยยะด้วยท่าทีไม่พอใจ
“ในเมื่อคุณทำใจไม่ได้ งั้นหมิงต๋าไม่ต้องไปเป็นทหารหรอก อย่างที่คุณว่าอำนาจที่ไม่ต้องให้หมิงต๋าไปเป็นทหาร ผมยังพอมีอยู่บ้าง” เหยียนหมิงซุ่นทำหน้าเย็นชา
เหยียนโฮ่วเต๋อถลึงตาใส่อย่างดุดัน “ความคิดของผู้หญิง เธอจะเข้าใจอะไร หุบปาก!”
ด่าถานซูฟางเสร็จเหยียนโฮ่วเต๋อก็ยิ้มให้เหยียนหมิงซุ่นอย่างเอาใจ “หมิงซุ่นอย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเขาเลย ลูกส่งหมิงต๋าไปฝึกอบรมที่ค่ายทหารได้เต็มที่ เพื่ออนาคตของประเทศชาติ ไม่จำเป็นต้องดูแลเขาเป็นพิเศษหรอก!”
เหยียนโฮ่วเต๋อไม่ใช่คนโง่ เขาเคยตามสืบมานานแล้วว่าพ่อบุญธรรมของเหยียนหมิงซุ่นไม่ใช่บุคคลธรรมดา เป็นผู้มีอิทธิพลในค่ายทหาร เหยียนหมิงซุ่นส่งตัวน้องไปฝึกย่อมมีใจที่คิดจะผลักดันหมิงต๋าแน่นอน
แม้ลูกชายคนโตของเขาจะไม่ใยดีพ่ออย่างเขาแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารักน้องมาก อีกทั้งเมื่อกี้เขาก็แค่จงใจพูดไปเช่นนั้น เขาไม่เชื่อหรอกว่าลูกชายคนโตจะไม่ดูแลลูกชายคนเล็กจริงๆ!
เหยียนหมิงซุ่น ‘เขาต้องดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว ให้คนในค่ายทหารฝึกอบรมเจ้าโง่นั่นให้ตายไปเลย!’
เหยียนหมิงต๋าโดนส่งตัวไปยังกรมกองกำลังทหารในสภาพหมดสติทั้งอย่างนั้น โดยมีลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นเป็นคนไปส่ง เช้าอีกวันทหารชุดใหม่จะถูกส่งตัวไปยังพื้นที่ทางเหนือที่สุดของประเทศเพื่อรักษาชายแดน
“หมิงซุ่น…เอ่อ พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูกหน่อย…” ถึงเหยียนโฮ่วเต๋อจะเกรงกลัวลูกชายแต่ตอนนี้โอกาสหายากนัก หากเขาไม่พูดวันหน้าอยากพบหน้าลูกชายคนโตยังไม่รู้ต้องรอถึงเมื่อไรเลย
เหยียนหมิงซุ่นมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ดวงตาดำสนิทที่มองมาทำเอาเหยียนโฮ่วเต๋อขนลุกซู่ในใจ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลเหมยเหมยนอนบนเตียงคนไข้จนระบมไปหมด เธอลงจากเตียงเดินไปหลายก้าวพลางคิดในใจว่าเมื่อไรอู่เยวี่ยจะมาสักที
เธอแทบอดใจรอจะฆ่านางแพศยาคนนี้เองกับมือไม่ไหวแล้ว!
ภายใต้ความช่วยเหลือของเฮ่อเหลียนเช่อทำให้อู่เยวี่ยสามารถมาถึงโรงพยาบาลแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่เธอไม่อาจเข้าใกล้ห้องพักผู้ป่วยของเหมยเหมยได้เลย ผู้ชายสี่คนนั้นจ้องตาแทบไม่กะพริบ อู่เยวี่ยคิด ๆแล้วก็จากไป
เธอต้องหาทางแฝงตัวเข้าไปให้ได้ คุณชายเช่อบอกแล้วว่าขอเพียงเธอฆ่าจ้าวเหมยได้คุณชายเช่อจะส่งเธอไปต่างประเทศ
ฉะนั้นเธอจะต้องทำให้สำเร็จ!
………………………………………………………………
ตอนที่ 1327 ใกล้สำเร็จแล้ว
อู่เยวี่ยปลอมตัวเป็นหญิงวัยกลางคนที หากไม่ดูใกล้ ๆก็คงมองไม่ออก เธอเอาก้อนอิฐครึ่งก้อนจากสวนดอกไม้เดินมาตรงมุมอับของทางบันไดเพื่อรอนางพยาบาลที่แยกตัวมาคนเดียว ดีที่เวลานี้ไม่ค่อยมีใครใช้ลิฟต์ ไม่นานอู่เยวี่ยก็ได้เป้าหมาย
อู่เยวี่ยที่เคยฆ่าคนมาแล้วยามนี้ใจเหี้ยมไร้ความปรานีเลยลงมือได้โดยไม่ลังเล ยกก้อนอิฐขึ้นกระแทกตัวพยาบาลผู้โชคร้ายคนนั้นอย่างหนัก ไม่ทันได้เปล่งเสียงก็ล้มพับลงไปกองบนพื้น
อู่เยวี่ยลากพยาบาลคนนั้นไปยังห้องเก็บของตรงมุมหัวบันไดและเปลี่ยนเป็นชุดพยาบาลสาวอย่างรวดเร็วก่อนเดินขึ้นไปชั้นบน ถือโอกาสที่คนอื่นไม่ทันสังเกตลอบขโมยถาดยายกไปที่ห้องพักผู้ป่วยของเหมยเหมย
ขอเพียงเธอฉีดยาที่ได้มาจากคุณชายเช่อเข้าสู่ร่างจ้าวเหมย ภารกิจของเธอก็สำเร็จแล้ว คุณชายเช่อบอกไว้แล้วว่าเรื่องหลังจากนั้นเขาจะจัดการเอง
อู่เยวี่ยล้วงกระบอกฉีดยาที่อัดเต็มไปด้วยน้ำยาจากกระเป๋า แล้วก้มลงมองชุดอำพรางของตัวเองพลางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ เจ้าโง่อย่างจ้าวเหมยไม่มีทางจำเธอได้แน่
เหมยเหมยลงจากเตียงเดินวนอยู่หลายรอบ เมื่อรู้สึกสบายตัวขึ้นเลยตัดสินใจไปที่ห้องเหยียนซินหย่าสักหน่อยเพื่อจะได้แอบป้อนยาวิเศษให้เธอ แม้เธอสัญญากับเหยียนหมิงซุ่นแล้วว่าจะไม่ออกไปจากห้องพักผู้ป่วยแต่แค่เดินในโรงพยาบาลไม่กี่ก้าวคงไม่เป็นไรหรอก
ไม่รอให้เธอได้บอกผู้ดูแลของตัวเองก็มีเสียงแว่วเข้ามาจากนอกประตูห้องพักผู้ป่วย
“ทำไมพยาบาลสวีไม่มา?” เสียงลูกน้องเหยียนหมิงซุ่น
“เปลี่ยนเวรกัน ฉันสกุลจาง มารับเวรต่อจากพยาบาลสวี” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าที่ฟังดูอายุไม่น้อยแล้ว เหมยเหมยเลิกคิ้วสูงดวงตาฉายแววนึกสนุก
ลูกน้องนอกประตูยังลังเลเพราะคุณชายหมิงได้สั่งไว้ว่าห้ามบุคคลแปลกหน้าเข้าใกล้ห้องพักผู้ป่วย แล้วจะปล่อยตัวนางพยาบาลคนนี้เข้าไปดีไหมนะ?
“ให้พยาบาลจางเข้ามาเถอะ ในโรงพยาบาลจะเกิดเรื่องอะไรได้เชียว!” เหมยเหมยตะโกนไปทางประตู
ลูกน้องลังเลอีกสักครู่หนึ่งก่อนก้มมองอู่เยวี่ยที่งุดหน้าอยู่อีกที คิด ๆแล้วก็ถูก ภายใต้การเฝ้าจับตาดูของพวกเขาจะเกิดเรื่องอะไรได้ล่ะเลยปล่อยอู่เยวี่ยเข้าไปพร้อมกับเดินตามประกบจับตามอง
อู่เยวี่ยลอบด่าในใจหลายประโยค เธอรู้วิธีทำแผลเสียที่ไหนกันล่ะ นานเข้าจะต้องเผยไต๋แน่ ๆ แต่ดวงตาสองคู่ด้านหลังที่จ้องมองมาทำเอาอู่เยวี่ยจำต้องบากหน้าแสร้งทำท่าเตรียมจะทำแผลให้ใหม่
ไม่นานเธอก็นึกวิธีการได้เลยจงใจเอ่ยขึ้น “ฉันจะเช็คแผลข้างในของคนไข้ โปรดทั้งสองท่านออกไปสักครู่หนึ่ง”
ลูกน้องชะงัก หนึ่งในนั้นรีบพูดขึ้น “เมื่อก่อนไม่เคยเช็ค ทำไมครั้งนี้จู่ ๆจะมาเช็ค?”
อู่เยวี่ยทำเป็นอธิบายเหตุผลไปทำให้ลูกน้องทั้งสองคนเกิดความลังเลใจอีกครั้ง ก่อนที่คุณชายหมิงไปได้สั่งพวกเขาไว้โดยเฉพาะว่าห้ามให้คุณหนูจ้าวหลุดจากสายตาพวกเขาเด็ดขาด
ลูกน้องกำลังจะบอกให้อู่เยวี่ยรอเหยียนหมิงซุ่นกลับมาค่อยทำการตรวจร่างกาย พวกเขาไม่กล้าทำพลาดหรอกนะ หากคุณหนูจ้าวเป็นอะไรไปจะเอาหน้าที่ไหนไปพบคุณชายหมิง
จู่ ๆ เหมยเหมยก็พูดขึ้นว่า “พวกนายไปเฝ้าที่ประตูเถอะ แค่ตรวจร่างกายเองไม่ต้องกังวลไป ไม่มีอะไรหรอก”
อู่เยวี่ยแอบยิ้มร่าในใจ สมแล้วที่เป็นคนโง่อยู่วันยังค่ำถึงได้คิดเผื่อเธอทุกทาง
จ้าวเหมยเอ๋ยจ้าวเหมย เธอรนหาที่ตายเองนะ คนโง่อย่างเธอไปเกิดใหม่เป็นหมูดีกว่า คนโง่มีสิทธิ์เกิดเป็นคนเสียที่ไหนกัน!
ตอนแรกลูกน้องยังไม่ยอมออกไป แต่เหมยเหมยพูดอีกรอบและดูแสดงท่าทีไม่พอใจเท่าไร พวกเขาจึงต้องออกไปเฝ้าหน้าประตูคอยเงี่ยหูฟัง ขอแค่มีอะไรไม่ชอบมาพากลพวกเขาจะได้พุ่งเข้าไปได้ทันท่วงที
อู่เยวี่ยหยิบกระบอกฉีดยาออกมาโดยพยายามกลั้นความตื่นเต้นเอาไว้ เอ่ยด้วยเสียงจริงจัง “ถอดกางเกงลง ฉีดยา!”
“ไหนว่าตรวจร่างกายไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงฉีดยาอีกแล้วล่ะ?” เหมยเหมยจงใจถาม
“ตรวจไปด้วยฉีดยาไปด้วย โปรดให้ความร่วมมือในการทำงานของฉันด้วย ฉันยังต้องไปห้องพักผู้ป่วยท่านอื่นอีก” อู่เยวี่ยพูดเสียงเย็น
เหมยเหมยตาวาว “ได้สิ เธอเข้ามาฉันค่อยถอด”
อู่เยวี่ยเดินเข้าไปหาเหมยเหมยช้า ๆ หัวใจเต้นรัวจนแทบหลุดออกจากอก เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น เธอก็ใกล้ทำสำเร็จแล้ว
………………………………………………………………….