ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1328 สะสางบุญคุณความแค้น + ตอนที่ 1329 ดันไม่ให้เธอได้สมหวัง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1328 สะสางบุญคุณความแค้น + ตอนที่ 1329 ดันไม่ให้เธอได้สมหวัง
ตอนที่ 1328 สะสางบุญคุณความแค้น
อู่เยวี่ยเขยิบเข้าใกล้เหมยเหมยทีละก้าว ๆ แม้จะเป็นระยะทางสั้น ๆ ไม่กี่เมตรแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนเดินมานานเหลือเกิน ความจริงเพิ่งผ่านไปไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ
ในที่สุด–
ก็เดินมาตรงหน้าเหมยเหมย อู่เยวี่ยเชิดปลายคางขึ้นเป็นเชิงให้เธอรีบถอดกางเกง “รบกวนเร็ว ๆหน่อย อย่าทำให้ฉันเสียเวลา”
เหมยเหมยแสยะยิ้มน้อย ๆ เลื่อนมือไปตรงเอวกางเกงทำท่าเหมือนจะถอดกางเกง เธอคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสีหน้าอู่เยวี่ยตลอด ดวงตาที่ขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ตื่นเต้นราวกับโดนฉีดยากระตุ้น เหมยเหมยก็ได้แค่ลอบแค่นยิ้มในใจ
เธอกำลังรออยู่เชียว!
“นี่คือน้ำยาอะไร? ทำไมต้องฉีดด้วย?” จู่ ๆ เหมยเหมยก็โพล่งออกมาประโยคหนึ่ง สบโอกาสตอนที่อู่เยวี่ยชะงักไปวูบหนึ่งรีบถอดหน้ากากอนามัยของอู่เยวี่ยออก ส่วนมืออีกข้างปัดกระบอกฉีดยาทิ้ง
ทำสองท่วงท่าติดต่อกันในครั้งเดียว รอจนอู่เยวี่ยได้สติ เหมยเหมยก็ถีบเข้าสุดแรง ฝาเท้าครั้งนี้ได้อัดแน่นไปด้วยโทสะที่เธอสั่งสมมาตลอดหลายวัน กระทืบใส่ปลายคางอู่เยวี่ยแรงๆ
“แกร๊ก”
เสียงกระดูกเลื่อนดังขึ้นและความเจ็บปวดที่ถูกส่งผ่านมาจากปลายคาง อู่เยวี่ยอยากอ้าปากกรีดร้องแต่กลับร้องไม่ออก—กระดูกส่วนคางของเธอล็อกเข้าแล้ว!
ลูกน้องนอกประตูได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในห้องเลยสะดุ้งตกใจหมายจะผลักประตูเข้ามา เหมยเหมยได้เหยียบอู่เยวี่ยไว้ใต้เท้าพลางตะโกนบอกลูกน้องข้างนอกประตูด้วยเสียงเย็นชา “เฝ้าประตูไว้ ห้ามให้ใครเข้ามา!”
เธอจะต้อง…พูดคุยเรื่องชีวิตกับอู่เยวี่ย…อย่างช้า ๆ!
ให้ความแค้นทั้งสองชาติมันจบลงในครั้งนี้เถอะ!
ลูกน้องแง้มประตูน้อย ๆกลับเห็นว่าเหมยเหมยกำลังเหยียบหลังนางพยาบาลเมื่อครู่จนพยาบาลไม่อาจขัดขืนได้ค่อยวางใจลงหน่อย หลงคิดว่าพยาบาลล่วงเกินคุณหนูจ้าว คุณหนูจ้าวเลยระบายอารมณ์กับนางพยาบาลที่มีตาแต่หามีแววไม่นี่อยู่!
พวกเขาปิดประตูอย่างรู้หน้าที่ ในเมื่อคุณหนูจ้าวไม่เป็นอะไรถ้าอย่างนั้นพวกเขาต้องเฝ้าประตูให้ดี จะให้คนอื่นเห็นสถานการณ์ในห้องไม่ได้เด็ดขาดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงคุณหนูจ้าว
อู่เยวี่ยเห็นประตูถูกปิดลงเลยหลับตาอย่างสิ้นหวัง
เกิดข้อผิดพลาดตรงไหนกันแน่?
เจ้าโง่จ้าวเหมยจำเธอแค่ได้แค่เพียงแวบเดียวหรือ?
เหมยเหมยกระทืบใส่อีกหลายทีอย่างสุดแรงทุกครั้ง เสียงกระดูกลั่นดังขึ้นติด ๆกัน อู่เยวี่ยเจ็บปวดจนกระดิกตัวไปมาไม่ได้ สองมือคอยป้องหัวไว้อย่างอ่อนแรงแต่กลับโดนเหมยเหมยเตะจนแขนหัก
พละกำลังของเหมยเหมยมีมากกว่าอู่เยวี่ยกว่าหลายเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย เทควันโดที่เธอเรียนมาตลอดหลายปีก็ไม่สูญเปล่า แต่ก่อนหน้านี้เหตุที่พลาดท่าให้เหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ยนั่นเป็นเพราะเหยียนซินหย่าอยู่ในเงื้อมือพวกเขา อยากจะลงมือแต่กลัวพลาดไปโดนคนข้าง ๆจึงย่อมไม่กล้าขัดขืนคำสั่ง
ตอนนี้ไม่มีเหยียนซินหย่าให้คอยกังวลใจ เหมยเหมยก็ใส่ได้เต็มที่สักที เตะเข้ารัว ๆ อยู่สิบกว่าครั้งเมื่อเห็นว่าอู่เยวี่ยขยับตัวไม่ได้แล้วถึงยอมหยุด ก้มตัวลงมองอู่เยวี่ยที่ดูท่าทางไม่พอใจ
“สงสัยมากใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงจำเธอได้ตั้งแต่แวบแรก?”
“คิดว่าตัวเองฉลาดมาก ปลอมตัวได้สมบูรณ์แบบงั้นสิ?”
……
เหมยเหมยหัวเราะเย้ยหยัน เธอไม่ฉลาดเท่าอู่เยวี่ยก็จริงแต่เธอผูกความแค้นกับอู่เยวี่ยมาสองชาติ ต่อให้อู่เยวี่ยกลายเป็นผงธุลีเธอก็จำได้ เธอจะจำนางแพศยาคนนี้ไม่ได้ได้อย่างไร?
อู่เยวี่ยส่ายศีรษะระรัว เธออยากพูดแต่พูดไม่ออก เธอมั่นใจว่าขอแค่ได้พูดเธอจะต้องกล่อมจ้าวเหมยได้แน่นอน
เหมยเหมยรู้ทันความคิดในใจเธอก็ยิ่งโมโหเลยกระทืบเท้าใส่หน้าท้องเธออย่างแรงอีกที “คิดว่าฉันจะหลงกลเธออีกเหรอ? อู่เยวี่ยเธอก็แค่อาศัยโฉมหน้าผู้หญิงมารยาร้อยเล่ห์นี้หลอกเหยียนหมิงต๋าแล้วก็หลอกเหมยซูหานไม่ใช่หรือไง? ยังหลอกคนทั้งโลกให้ทุกคนคิดว่าเธอเป็นพี่สาวที่แสนดี…ภรรยาที่แสนดี ลูกสาวที่แสนดี…
ถุย…ความจริงเธอก็แค่ผู้หญิงส่ำส่อนชั้นต่ำที่เห็นแก่ตัวเลือดเย็นใจดำอำมหิต…เหยียบเรือสองแคม…ทำไมเธอถึงหน้าด้านได้ขนาดนี้? หน้าของเธอทำไมถึงหนาขนาดนี้?”
อู่เยวี่ยมองเหมยเหมยที่ดวงตาแดงก่ำและเริ่มระเบิดความบ้าคลั่งด้วยใจที่เย็นวาบ
……………………………………………………
ตอนที่ 1329 ดันไม่ให้เธอได้สมหวัง
จ้าวเหมยหมายความว่าอย่างไร?
เหยียบเรือสองแคมอะไร?
แน่นอนว่าเธออยากเหยียบเรือหลายแคมมากกว่าด้วยซ้ำ อยากให้ผู้ชายทั่วทั้งโลกชอบเพียงเธอ แต่เธอทำได้ที่ไหน?
จนถึงตอนนี้ก็หลอกได้แค่เจ้าโง่เหยียนหมิงต๋าเท่านั้น ในใจของเหมยซูหานมีเพียงจ้าวเหมย โดนจ้าวเหมยหลอกจนหลงหัวปักหัวปำ เธอเคยหลอกเหมยซูหานตั้งแต่เมื่อไร?
ในยามนี้เหมยเหมยกำลังจมอยู่กับความทรงจำชาติที่แล้วอย่างสิ้นเชิง ความเจ็บปวดที่จงใจลืมเลือนกำลังถาโถมเข้าหาตัวเองราวกับคลื่นน้ำ เธอชักจะเริ่มแยกไม่ออกว่าชาติไหนคือชาติไหน มีเพียงความคิดเดียวในใจ–
ต้องกำจัดอู่เยวี่ย!
แก้แค้นให้เธอและลูก!
เห็นอู่เยวี่ยน้ำตาคลอทำท่าน่าสงสารเหมือนหญิงจอมมารยาเหมยเหมยก็ยิ่งแค้น เพราะใบหน้าของหญิงมารยานี้ถึงหลอกเอาผู้ชายคนโง่ ๆพวกนั้นตกหลุมพรางอย่างสมยอม
“เพราะเธอมีใบหน้าดวงนี้ไม่ใช่เหรอถึงหลอกพวกผู้ชายมาได้? เธอยังบอกว่าฉันเป็นยายขี้เหร่ที่ไม่มีใครชอบ…โง่ยิ่งกว่าหมู…อู่เยวี่ยเธอดูให้ดี…ตอนนี้ใครกันแน่ที่เป็นยัยขี้เหร่ ใครกันแน่ที่เป็นคนโง่…”
เหมยเหมยหยิบมีดปอกผลไม้จากลิ้นชักมากรีดใบหน้าอู่เยวี่ย อู่เยวี่ยสะดุ้งถอยกรูดไปข้างหลังอย่างอดไม่ได้ ไม่นานก็ถูกเหมยเหมยกระชากกลับมาแล้วปักลงตรงขาและแขนเธออย่างไม่สบอารมณ์จนเลือดพุ่งกระฉูด
“คิดจะหนี? เหอะ ในที่สุดฉันก็รอเวลาที่จะได้จบชีวิตเธอเองกับมือ เธอคิดว่าฉันจะปล่อยเธอให้หนีไปได้เหรอ?”
เสียงเหมยเหมยเหมือนส่งตรงมาจากนรกเยือกเย็นเข้ากระดูกของอู่เยวี่ย เธอมองหญิงสาวที่แตกต่างไปจากจ้าวเหมยจอมขี้ขลาดอ่อนแอในความทรงจำด้วยความหวาดผวา ความเศร้าสลดพรั่งพรูจากก้นบึ้งหัวใจ
หรือว่าครั้งนี้เธอหนีไม่รอดแล้วหรือ?
“กรี๊ด…”
ความเจ็บแสบแผ่ซ่านมาจากผิวหน้า เหมยเหมยกรีดปลายมีดลงบนหน้าอู่เยวี่ยอย่างไม่ลังเล เธอต้องการทรมานนางแพศยาคนนี้ให้ถึงที่สุด จะวิงวอนร้องขอชีวิตก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้เช่นกัน!
เหมยเหมยหยิบกระจกมาวางตรงหน้าอู่เยวี่ยให้เธอได้เห็นใบหน้าของตัวเองชัดเจน
“ฝีมือของฉันเป็นไงบ้าง? เฮ้ย…เหมือนจะเบี้ยวไปหน่อย ไม่เป็นไร ฉันกรีดอีกที”
เหมยเหมยพูดเสียงพึมพำ ภายใต้สายตาตกใจกลัวของอู่เยวี่ยพลางหยิบมีดปอกผลไม้ขึ้นกรีดตรงแก้มขวาของหล่อนซ้ำอีกที หนำซ้ำเธอจงใจผ่อนให้ช้าลงค่อยๆ กรีดเรียกให้ความเจ็บขยายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว อู่เยวี่ยเจ็บจนเหงื่อแตกพลั่ก อยากเป็นลมแต่ดันทำไม่ได้
“ความรู้สึกที่โดนมีดกรีดคงดีมากสินะ วางใจได้ ฉันจะค่อย ๆกรีด ให้เธอได้ดื่มด่ำเต็มที่แน่นอน!”
เหมยเหมยฉีกยิ้มให้อู่เยวี่ยน้อย ๆ ฟันสีขาวดูเยือกเย็นผนวกกับรอยยิ้มไร้เดียงสาของเหมยเหมยทำเอาหัวใจของอู่เยวี่ยเหมือนดิ่งสู่เหวลึก
จ้าวเหมยบ้าไปแล้ว!
เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ!
เหมยเหมยไม่สนหรอกว่าอู่เยวี่ยจะคิดอย่างไรได้แต่สานต่องานพังโฉมหน้าอย่างใจเย็น เธอจะปล่อยให้นางแพศยาคนนี้ตายไปง่าย ๆไม่ได้ จะต้องให้เธอได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดเจียนตายก่อนสิ
แต่เงื่อนไขจำกัด ไม่อย่างนั้นเหมยเหมยจะใช้เครื่องมือทรมานทั้งสิบในสมัยราชวงศ์ชิงกับอู่เยวี่ยสักหน เช่นนี้ถึงจะทุเลาความแค้นในใจเธอได้!
อู่เยวี่ยเจ็บจนชาไปทั้งตัวหลายครั้งที่เป็นลมหมดสติไปแต่ไม่นานก็ถูกความเจ็บปลุกให้ตื่น เป็นลมแล้วฟื้นขึ้นอีก…ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความขัดขืนที่มีในยามแรกกลายเป็นความนิ่งเฉยในยามนี้
เธอรู้ว่าเธอในตอนนี้เปรียบดั่งก้อนเนื้อในมือจ้าวเหมย จ้าวเหมยอยากกรีดอย่างไรก็กรีด
เธอพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว!
อู่เยวี่ยสิ้นหวัง เธอไม่ยอมหรอก เธอจะตายด้วยน้ำมือจ้าวเหมยได้อย่างไรกัน?
แต่ต่อให้เธอไม่ยอมแต่ก็มิอาจขัดขืนได้ เธอหวังเพียงว่าจ้าวเหมยจะให้เธอตายได้สักที อย่าได้ทรมานเธออีกเลย!
“อยากรีบตายมากใช่ไหม?” เหมยเหมยถามเสียงเบา
อู่เยวี่ยพยักหน้าแรง ๆมองเธออย่างเว้าวอน เหมยเหมยกดมีดกรีดอีกทีแล้วตอบเสียงเย็น “แล้วถ้าเธออยากได้แต่ฉันไม่ให้ล่ะ? ความเจ็บแค่นี้เทียบกับความเจ็บที่ฉันตกจากชั้นสามสิบสามได้เหรอ?”
……………………………….