ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1330 ภาพในฝันปรากฏขึ้นอีกครั้ง + ตอนที่ 1331 กลับไปสะสาง
ตอนที่ 1330 ภาพในฝันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
อู่เยวี่ยมองเหมยเหมยด้วยความตกใจ ชั้นสามสิบสามอะไรกัน?
แล้วลูกอะไรกัน?
ทำไมวันนี้จ้าวเหมยพูดจาพิลึกขนาดนี้?
เธอย้อนนึกถึงตอนที่เธอนอนโรงพยาบาลครั้งก่อน ถ้อยคำที่จ้าวเหมยเคยว่าไว้ เมื่อนั้นจ้าวเหมยบอกว่าเธอได้ผ่านนรกสิบแปดขุม สีหน้าของจ้าวเหมยในยามนั้นไม่ต่างจากตอนนี้เลย
เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
“กรีดบนหน้าหมดแล้ว…เธอเจ็บจนชาไปหมดแล้วสินะ? ไม่เป็นไร…ฉันกรีดอีกหลาย ๆ ทีเธอจะได้กลับมาเจ็บเหมือนเดิม!”
เหมยเหมยมองรอยกรีดราวกับใยแมงมุมบนใบหน้าของอู่เยวี่ยก็อารมณ์ดียิ่งกว่าอะไร ไม่จำเป็นต้องคอยมองใบหน้าของหญิงมารยาใบนี้อีกแล้ว
เธอเลื่อนมีดปอกผลไม้ลงมาถึงหน้าอกของอู่เยวี่ย ได้เริ่มลงมือต่อไปภายใต้สายตาหวาดระแวงของอู่เยวี่ย…
ณ ห้องสไตล์ยุโรปบางแห่งในเมืองจิน จู่ ๆเหมยซูหานก็สะดุ้งตื่น ชุดนอนของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ บนใบหน้ามีแต่ความปวดใจและความเหลือเชื่อรวมถึงความรู้สึกผิดเต็มอก
ความเจ็บถูกส่งจากข้อมือมาเป็นระยะ ๆ เพื่อย้ำเตือนเขาว่าตอนนี้เป็นชีวิตโลกแห่งความจริงไม่ใช่เหตุการณ์ในฝันของเขา แต่เขาก็ไม่อาจสงบจิตใจลงได้
เมื่อกี้ฝันอีกแล้วทั้งยังฝันถึงการตายของเหมยเหมย ครั้งนี้เขาฝันชัดมากถึงขั้นได้ยินบทสนทนา
เหมยเหมยโดนอู่เยวี่ยผลักตกลงไปไม่ผิดจริง ๆ เขามองเห็นมันได้ชัดเจนแล้ว
ตอนนั้นเขากำลังพลอดรักกับอู่เยวี่ยที่ชั้นดาดฟ้า เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเขาในความฝันทำไมถึงได้โง่เขลาขนาดนี้ ทั้งที่เขารู้สึกได้ว่าในฝันเขาไม่ได้รักอู่เยวี่ยมากเท่าไร ความจริงตอนนั้นเขาไม่ได้รักใครแม้แต่คนเดียว
แต่ทำไมเขาถึงโง่ไปคบกับอู่เยวี่ยล่ะ?
จู่ ๆเหมยเหมยก็ปรากฏตัวที่ชั้นดาดฟ้า พอเห็นพวกเขาเช่นนั้นจึงโผล่ออกมาตำหนิ ตอนนั้นเขาคิดอยากจะอธิบายแต่ไม่ทันได้เอ่ยปากอู่เยวี่ยก็ผลักเหมยเหมยตกลงไป ทำให้เขาช่วยไว้ไม่ทัน
ความฝันในครั้งนี้ยังมีภาพเหตุการณ์หลังตายของเหมยเหมยซึ่งเป็นภาพที่เขาฝันถึงบ่อยครั้ง
อดีตเขาฝันถึงแค่ดวงหน้าของเหมยเหมยที่แสนจะงดงามแต่กลับดูไร้วิญญาณ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหมยเหมยในตอนนั้นตายไปแล้ว ใต้ร่างมีแต่เลือดรวมถึงลูกของเขากับเหมยเหมยก็กลายเป็นเลือดไปแล้ว
ทุกอย่างเป็นเพราะอู่เยวี่ย!
หากบอกว่าอดีตเหมยซูหานยังไม่แน่ใจว่าอู่เยวี่ยจงใจผลักเหมยเหมยลงไปหรือไม่ แต่ตอนนี้เขามั่นใจได้แล้วว่าอู่เยวี่ยจงใจทำมัน
เหมยเหมยเพิ่งพูดได้แค่ประโยคเดียวอู่เยวี่ยก็ผลักตกตึก นั่นชั้นสามสิบสามเชียวนะ ต้องเจ็บเพียงใด!
แม้ฆาตกรคืออู่เยวี่ยแต่เหมยซูหานกลับเกลียดตัวเองยิ่งกว่า ทำไมเขาถึงแอบคบชู้กับอู่เยวี่ย?
ทุกอย่างเป็นเพราะเขาถึงทำให้เหมยเหมยกับลูกต้องตาย ทุกอย่างเป็นความผิดของเขา สมแล้วที่เหมยเหมยไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับเขา คนแบบนี้ไม่มีสิทธิ์จริง ๆ!
ไม่ได้ เขาต้องไปดูที่โรงพยาบาลสักแวบ ตอนนี้เขาอยากเจอเหมยเหมยเหลือเกิน ต่อให้ไม่ได้คุยแค่ได้มองอยู่ห่าง ๆก็เพียงพอ ในความฝันเขาทำความผิดต่อเหมยเหมย ถ้าอย่างนั้นก็ให้เขาในโลกแห่งความเป็นจริงคอยปกป้องเธอเถอะ!
เฮ่อเหลียนเช่อเดินเข้ามาเห็นเหมยซูหานกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยรีบถามว่าเขาจะไปไหน
“ฉันจะไปเยี่ยมจ้าวเหมยที่โรงพยาบาล อาเช่อนายอย่ามาห้ามฉัน ฉันติดหนี้ชีวิตจ้าวเหมยสองชีวิต ฉันผิดต่อเธอ ฉันแค่อยากไปเยี่ยมเธอเดี๋ยวเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่สบายใจ”
เหมยซูหานชิงเอ่ยก่อนที่เฮ่อเหลียนเช่อจะปริปากและพูดยาวเหยียดจนแม้แต่เขายังไม่เข้าใจ ไม่ต้องพูดถึงเฮ่อเหลียนเช่อที่ตอนนี้งงเป็นไก่ตาแตก แต่มีจุดหนึ่งที่เขามั่นใจได้–
คล้ายว่าความรู้สึกที่เหมยซูหานมีต่อจ้าวเหมยช่างซับซ้อนเหลือเกิน ไม่เหมือนความรู้สึกชอบบริสุทธิ์แต่กลับรู้สึกผิดมากกว่า หรือบอกได้ว่าไถ่โทษ…
อีกอย่างเหมยซูหานเองก็บอกว่าติดหนี้ชีวิตจ้าวเหมยสองชีวิตก็ยิ่งน่าแปลก จ้าวเหมยกับแม่ของเธอไม่ได้ตายเสียหน่อย เหมยซูหานไปติดหนี้ชีวิตไว้ได้อย่างไร?
เฮ่อเหลียนเช่อเกิดความฉงนขึ้นอย่างรุนแรงเลยไม่ได้ห้ามเหมยซูหาน “งั้นฉันไปกับนายแล้วกัน นายเป็นแบบนี้ฉันไม่วางใจ”
ไม่รู้เหมือนกันว่าฝั่งอู่เยวี่ยทำสำเร็จแล้วหรือยัง? ผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเหี้ยม หากทำร้ายเหมยซูหานล่ะจะทำอย่างไร เขาต้องไปด้วยถึงจะวางใจได้
……………………………………………………
ตอนที่ 1331 กลับไปสะสาง
หลังจากเหยียนหมิงซุ่นส่งเจ้าโง่เหยียนหมิงต๋าเรียบร้อยแล้วก็เตรียมกลับโรงพยาบาล แต่โดนเหยียนโฮ่วเต๋อรั้งไว้
“หมิงซุ่น…เรื่องเป็นอย่างนี้นะ ฉันอยู่ตำแหน่งรองปลัดเกือบสิบปีแล้ว…” เหยียนโฮ่วเต๋อไม่ได้บอกความต้องการไปอย่างชัดเจน เขาคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นต้องเข้าใจความหมายของเขาอย่างแน่นอนเลยไม่จำเป็นต้องพูดให้กระจ่างนัก
เหยียนหมิงซุ่นมองเขาอย่างเย็นชาแล้วแค่นหัวเราะทีหนึ่ง รู้อยู่แล้วว่าผู้ชายคนนี้ต้องไม่ล้มเลิก เดิมทีเหยียนหมิงซุ่นยังคิดใช้วิธีการเดิมโดยส่งเหยียนโฮ่วเต๋อกับถานซูฟางขึ้นไปถึงจุดสูงสุด เมื่อเคยชินกับภาพทิวทัศน์ตรงยอดเขาแล้วค่อยให้พวกเขาร่วงตกลงมาแรง ๆสักที
ความรู้สึกแตกต่างเช่นนี้ต้องทำให้เขาเจ็บปวดมากแน่นอน
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว ต่อให้เป็นเพียงชั่วคราวเขาก็ไม่อยากให้สองคนนี้ได้ผลประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย
เมื่อวานเหมยเหมยบอกเขาแล้วว่าในฝันนั้นเหยียนโฮ่วเต๋อกับถานซูฟางแอบอ้างบารมีของเขาข่มขู่คนอื่น เชิดชูตัวเองเหนือหัวและยังวางอำนาจบาตรใหญ่ไปทั่วเมืองจิน
เหยียนหมิงซุ่นแปลกใจนักว่าทำไมในฝันเขาถึงได้โง่เพียงนี้ ทำไมถึงให้คนที่เป็นต้นเหตุการตายแม่ตัวเองได้ใช้ชีวิตสุขสบายนะ?
รวมถึงอู่เยวี่ย ผู้หญิงสารเลวคนนี้ยังอ้างอิทธิพลของเขารังแกเหมยเหมย น่าแค้นใจนัก!
ในความฝันเขาคงสติเลอะเลือนไปแล้ว แต่ตอนนี้เขามีสติครบสมประกอบดีไม่มีทางทำผิดแน่นอน!
“อยากเลื่อนตำแหน่ง?”
เหยียนโฮ่วเต๋อเห็นใบหน้าเย็นชาของเหยียนหมิงซุ่นก็รู้สึกเย็นวาบในใจเหมือนอยู่ในห้องเก็บน้ำแข็ง แต่เสียงของเหยียนหมิงซุ่นกลับให้ความหวังเขาอีกครั้งเลยรีบพยักหน้า “ฉันไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่อยากเลื่อนขึ้นอีกสักนิด เป็นปลัดก็พอ!”
กินข้าวต้องกินทีละคำ จะขึ้นยอดเขาสูงก็ต้องค่อย ๆไต่ทีละก้าว ให้ลูกชายคนโตส่งเขานั่งตำแหน่งปลัดก่อน วันหลังค่อยไปวิงวอนขอลูกชายคนโตอีกครั้ง หากยอมช่วยครั้งแรก ครั้งที่สองครั้งที่สามหรือครั้งที่สี่ก็คงไม่มีปัญหา
ถานซูฟางที่อยู่ข้าง ๆรอไม่ไหว เธอไม่พอใจอย่างมากที่เหยียนโฮ่วเต๋อลืมพูดถึงตัวเองเลยเตะเข้าหลายทีเพื่อเตือนสามีว่าอย่าลืมเธอ
การเคลื่อนไหวเล็ก ๆน้อย ๆของเธอล้วนอยู่ในสายตาของเหยียนหมิงซุ่นทั้งหมดจึงลอบแสยะยิ้มในใจ แต่ละคนคิดว่าเขาลืมความแค้นที่เคยฆ่าแม่ของเขาไปแล้วหรือ?
“เรื่องนี้ไว้ผมค่อยจัดการทีหลังแล้วกัน” เหยียนหมิงซุ่นตอบกำกวม เหยียนโฮ่วเต๋อกับถานซูฟางยิ้มร่าหลงคิดว่าเหยียนหมิงซุ่นยอมช่วยเลยยิ้มไม่หุบ เพราะเหตุนี้ความเศร้าที่ลูกชายคนเล็กไปเกณฑ์ทหารก็สลายวับไปกับตา
“ไม่รีบไม่รีบ หมิงซุ่นจัดการธุระของลูกก่อนเลย ทางนี้ไม่รีบ” เหยียนโฮ่วเต๋อพูดตรงข้ามกับใจคิด เริ่มจินตนาการความรู้สึกอิ่มเอมหลังโดนคนเรียกเขาว่าปลัดเหยียนแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นมองสองคนนี้แวบหนึ่งอย่างขบขัน หันไปบอกคุณปู่เหยียนกับคุณย่าหยางว่า “คุณปู่คุณย่าครับ ผมไปก่อนนะครับ เสร็จจากงานแล้วจะกลับไปหาคุณปู่คุณย่า”
“ได้…ไปเถอะ งานสำคัญ ระวังความปลอดภัยด้วยนะอย่าหักโหมเกินไป” คุณย่าหยางเตือนด้วยใบหน้าซีดเซียว เมื่อครู่เธอแอบดูรูปถ่ายของเหอปี้อวิ๋นไปแวบเดียวจนตอนนี้ยังรู้สึกพะอืดพะอมไม่หาย
อย่างมากก็รู้สึกใจหาย คนตัวเป็นบทจะตายก็ตายอย่างน่าอนาถขนาดนั้น
ชีวิตคนเราช่างเปราะบางเหลือเกิน เธอกับตาแก่อายุปูนนี้แล้วไม่รู้จะอยู่ดูแลหลานชายคนโตได้อีกสักกี่ปี!
เหยียนหมิงซุ่นเพิ่งก้าวขึ้นรถลูกน้องก็เข้ามารายงานทันที “คุณชายหมิง อู่เยวี่ยไปโรงพยาบาลแล้วแต่โดนคุณหนูจ้าวควบคุมตัวไว้ได้”
สีหน้าของลูกน้องค่อนข้างแปลกไป ดูอึกอักเหมือนมีบางอย่างอยากจะพูด พอเหยียนหมิงซุ่นปรายตามองแวบเดียวลูกน้องก็สารภาพตามตรง “เหมือนคุณหนูจ้าวจะได้รับความสะเทือนใจเลยทรมานอู่เยวี่ยปางตาย ถ้ายังไม่ไปห้ามเกรงว่าจะทนไม่ไหวแล้ว”
“ทนไม่ไหวก็ต้องทน กลับไปก่อนค่อยว่ากัน!”
เหยียนหมิงซุ่นตีหน้าขึงขังเร่งให้รถขับเร็วกว่าเดิม อู่เยวี่ยจะโดนทรมานหรือไม่นั้นเขาไม่นึกห่วงเลยสักนิด มารชีวิตของเหมยเหมยก็คืออู่เยวี่ย หากไม่ทรมานให้ตายก็ไม่มีวันปราบมารในใจตัวนี้ได้ ยิ่งทรมานรุนแรงเท่าไรก็ยิ่งดี
แต่เขาต้องรีบกลับไปตามล้างตามเช็ดวีรกรรมของเจ้าหญิงตัวน้อย ไม่อย่างนั้นหากเรื่องใหญ่โตขึ้นมาจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของเหมยเหมยได้
……………………………