ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1344 วิเคราะห์ข้อมูล + ตอนที่ 1345 เหมยซูหานที่รู้ใจตัวเอง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1344 วิเคราะห์ข้อมูล + ตอนที่ 1345 เหมยซูหานที่รู้ใจตัวเอง
ตอนที่ 1344 วิเคราะห์ข้อมูล
ตอนพัก อู่เชาดึงเหมยเหมยไปที่ลับตาคน ถามเสียงเบาว่า “อู่เยวี่ยตายแล้วจริงไหม?”
“ใช่ อีกทั้งตอนที่เขาตายฉันก็อยู่ที่นั่นด้วย” เหมยเหมยคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดทั้งความจริงและโกหกไป แล้วคอยสังเกตสีหน้าท่าทางการเปลี่ยนแปลงของอู่เชาไปด้วย
อู่เชาตกใจยกใหญ่ รีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น
เหมยเหมยเล่าเรื่องที่เหอปี้อวิ๋นและอู่เยวี่ยร่วมมือกันลักพาตัวเธอและเหยียนซินหย่า และเรื่องที่อู่เยวี่ยไปโรงพยาบาลเพื่อทำร้ายเธอ เล่าเหมือนที่เล่าให้ตำรวจฟังทั้งหมด
“อู่เยวี่ยบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วแน่นอน เหอปี้อวิ๋นดีกับเธอขนาดนั้น ทำไมเธอถึงได้โหดเหี้ยมฆ่าได้ลง? พระเจ้า…คนๆนี้ช่างน่ากลัวเสียจริงอๆ!”
ใบหน้าของอู่เชาซีดขาวราวกับกระดาษ ตัวสั่นเทิ้ม มักรู้สึกอยู่ตลอดว่ามีลมพัดผ่านอยู่ด้านหลัง
เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าเหอปี้อวิ๋นน่ากลัวมากพอแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าอู่เยวี่ยน่ากลัวมากกว่าเหอปี้อวิ๋นเสียอีก ถ่ายทอดพันธุกรรมได้ร้ายกาจเหลือเกิน
เหมยเหมยหยิบช็อกโกแลตออกมาจากกระเป๋า ลอกกระดาษแล้วยัดเข้าไปในปากเขา “ไม่ต้องกลัว พวกเขาตายไปแล้ว”
“ใช่ ๆๆ ตายไปแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว!”
ช็อกโกแลตถือว่าได้ผลเป็นอย่างมาก หลังจากกินช็อกโกแลตไปชิ้นหนึ่งอู่เชาก็สงบลงมาก เขาพูดกับเหมยเหมยว่า “คุณอารองของฉันไม่มีงานทำแล้ว ดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกับเหมยซูหาน”
นัยน์ตาของเหมยเหมยมีความสนใจพาดผ่าน นึกไม่ถึงว่าเหมยซูหานจะขัดแย้งกับอู่เจิ้งซือได้?
แต่ไหนแต่ไรมาไม่ใช่ว่าเขาค่อนข้างเชื่อฟังอู่เจิ้งซือหรอกหรือ?
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกแปลก ๆแต่เหมยเหมยก็ไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น บุญคุณความแค้นทั้งสองชาติได้จบลงแล้ว หลังจากนี้ไปเธอจะสนุกกับชีวิตของเธอ ชาตินี้เธอจะต้องกลายเป็นไข่มุกที่เปล่งประกายแน่นอน!
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ เหยียนซินหย่าฟื้นได้สติ สอดส่องสายตาหาลูกสาว เห็นเหมยเหมยยังสบายดีอยู่ เธอก็พรูลมหายใจยาว คิด ๆไปแล้วแม้ว่าจะหมดสติไปแต่ก็ยังกังวลเรื่องนี้อยู่!
หลังจากฟื้นขึ้นมาเหยียนซินหย่าก็ได้รับการบำรุงด้วยยาของเหมยเหมยร่างกายจึงฟื้นตัวเร็วมาก หมอรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย แต่เนื่องจากใช้ยาน้ำของเหมยเหมยในปริมาณเล็กน้อยหมอจึงไม่ได้สงสัยอะไร นึกว่าเป็นเพราะเหยียนซินหย่ามีสุขภาพที่ดี บวกกับอาหารที่คนครอบครัวจัดสรรอย่างเหมาะสม อารมณ์ดี แน่นอนว่าจะต้องฟื้นตัวได้เร็วอยู่แล้ว
แต่กลับมีคนสงสัย นั่นก็คืออัจฉริยะลี่เมิ่งเฉิน
เขาไม่ได้สิ่งใดจากเหยียนหมิงซุ่นตอบแทนกลับมาเลยแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ คอบเฝ้าติดตามเหมยเหมยอยู่ตลอด เขาเก็บบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับความคืบหน้าในการฟื้นฟูร่างกายของเหยียนซินหย่า
วันนี้ลี่เมิ่งเฉินมาหาเหยียนหมิงซุ่น หยิบกระดาษออกมาแผ่นหนึ่งที่เขียนตัวเลขละเอียดยิบเอาไว้ ยิ้มอย่างลำพองใจ
“นี่คือข้อมูลร่างกายของว่าที่แม่ยายในอนาคตของคุณ นี่คือร่างกายของคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเหยียนซินหย่า และนี่คือความคืบหน้าในการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยยี่สิบรายที่มีอาการบาดเจ็บคล้ายกัน พวกเขาทั้งหมดอายุน้อยกว่าเหยียนซินหย่า สมรรถภาพทางกายดีกว่าหน่อย แต่เวลาฟื้นตัวของคนเหล่านี้กลับช้ากว่า กระทั่งช้ากว่าหลายวัน”
ลี่เมิ่งเฉินเปิดปากพูดยาวเหยียดด้วยแววตามุ่งมั่น
เหยียนหมิงซุ่นขมวดคิ้วเบา ๆ ปวดหัวกับการคุกคามของเจ้าหมอนี่เสียจริง จะทำอย่างไรก็สะบัดไม่หลุด
“อย่ากังวลไปเลย ฉันไม่ทำอะไรที่ขัดต่อผลประโยชน์ภรรยาของนายหรอก ยาวิเศษนี้มีเพียงนายกับฉันเท่านั้นที่รู้ และนายลองคิดดูสิขอเพียงแค่ฉันได้วิจัยยาวิเศษนั่นต้องลอกเลียนแบบออกมาได้แน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเฮ่อเหลียนเช่อก็จะไม่รบกวนภรรยาของนายด้วย!”
ลี่เมิ่งเฉินพูดหว่านล้อมอย่างไม่ลดละ เหยียนหมิงซุ่นใจเต้น ถามว่า “นายผลิตยาได้ด้วยเหรอ?”
“บนโลกใบนี้นอกจากการคลอดลูก ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ฉันทำไม่ได้!”
ลี่เมิ่งเฉินตบหน้าอกคุยโวจนตัวจะขึ้นฟ้าอยู่แล้ว!
เหยียนหมิงซุ่นแค่นเสียงหัวเราะ คลอดลูกไม่ได้งั้นเหรอ? อย่างนั้นก็รีบตัดเจ้านั้นทิ้ง แล้วแปลงกายเป็นผู้หญิงให้มันจบ ๆไปเถอะ!
แต่ว่าคำพูดของลี่เมิ่งเฉินดึงความสนใจของเขาไว้ได้ ให้เจ้าหมอนี่ตามตอแยอยู่เรื่อยก็ใช่เรื่อง แค่เอาให้เขาไปเบี่ยงเบนความสนใจของเฮ่อเหลียนเช่อก็ดีไม่น้อย!
…………………………………………..
ตอนที่ 1345 เหมยซูหานที่รู้ใจตัวเอง
เหยียนหมิงซุ่นขอยาน้ำหนึ่งขวดมาจากเหมยเหมย ปริมาณประมาณสามสิบหยดได้ ลี่เมิ่งเฉินพอใจมาก รับปากทำตามความต้องการของเหยียนหมิงซุ่น
ถึงอย่างไรเฮ่อเหลียนเช่อก็จับตาดูเขาอยู่ตลอดอย่างไม่เคยลดละเลยสักครั้ง!
เหาเยอะอยู่แล้วจะกลุ้มใจไปทำไมเล่า!
ลี่เมิ่งเฉินรับยาน้ำและกลับเมืองหลวงไปอย่างมีความสุข คุณตาเหลือเพียงลมหายสุดท้าย เขาต้องกลับไปช่วยโดยเร็ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้คุณตาประกาศก่อนว่าเขาคือทายาทถึงจะไปรายงานตัวกับพญายมได้!
เวลาผ่านไปอีกครึ่งเดือน อีกไม่กี่วันเหยียนซินหย่าก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เหยียนหมิงซุ่นกลับไปเมืองหลวง เขาต้องไปขอรับโทษกับเฮ่อเหลียนชิง ถึงอย่างไรเขาก็ออกจากตำแหน่งหน้าที่โดยพละการ
ก่อนไปเหยียนหมิงซุ่นส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้คู่สามีภรรยาเหยียนโฮ่วเต๋อ ตำแหน่งสูงที่เหยียนโฮ่วเต๋อเฝ้าฝันรอคอยอยู่ตลอดเวลาก็ได้มา แต่ไม่ใช่ที่เมืองจิน ทว่ากลับเป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดในเมืองจิน เหยียนโฮ่อเต๋อถูกย้ายไปเป็นอธิการบดีฝ่ายการศึกษา หรือพูดให้น่าฟังหน่อยก็ช่วยเหลือระดับรากหญ้า
ส่วนถานซูฟางก็ไม่มีโอกาสเช่นกัน อีกไม่กี่วันก็จะถูกส่งไปยังพื้นที่ในทิเบต โรงพยาบาลจะจัดส่งคนไปให้บริการในพื้นที่ทิเบตทุกปีซึ่งถือเป็นการไปโดยสมัครใจ แม้ว่าจะเป็นผลดีต่อการเลื่อนขั้นแต่ถานซูฟางไม่ยินดีที่จะใช้วิธีการของพวกนี้เพื่อเลื่อนตำแหน่ง จึงยังไม่เคยลงชื่อไปเลยสักครั้ง
แต่ครั้งนี้คงเป็นเช่นนั้นไม่ได้ เมื่อถานซูฟางได้เห็นชื่อตัวเองลงชื่อเป็นจิตอาสาในใบสมัครก็ตกตะลึงในทันมี
จนถึงตอนขึ้นรถไฟ ถานซูฟางก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเธอลงชื่อยื่นขอเป็นอาสาสมัครตั้งแต่เมื่อไร?
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มเย็นชา ‘อยากเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่เหรอ? ได้ ไปพยายามด้วยตัวเองแล้วกัน!’
เฮ่อเหลียนเช่อก็กลับเมืองหลวงแล้ว เขากลับไปก่อนเพราะหนิงเฉินเซวียนโทรเรียกให้เขากลับไป เหมยซูหานยังอยู่ที่เมืองจิน วันหนึ่งหลังเลิกเรียนเหมยซูหานก็มาหาเหมยเหมย
เดิมทีเหมยเหมยไม่คิดจะสนใจเขา แต่พอเห็นมือซ้ายของเหมยซูหาน ก็ตกลง
“มาหาฉันมีธุระอะไรเหรอ?” เหมยเหมยขึ้นรถของเหมยซูหาน ในรถมีคนขับรถอยู่ด้วย น่าจะเป็นลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อ
เหมยซูหานมองเหมยเหมยเงียบๆ นัยน์ตาไร้ซึ่งความเสน่หาและความรู้สึกเหมือนในอดีตแล้ว ทำให้เหมยเหมยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังรู้สึกแปลก ๆ เหมยซูหานไปเจอเรื่องอะไรมานะ?
“ตอนนี้หวงอวี้เหลียนมีชีวิตที่น่าเวทนามาก เหมยเหมยอยากจะไปเห็นสภาพของเธอในตอนนี้ไหม?” อยู่ดี ๆเหมยซูหานก็เปิดปากพูด
เหมยเหมยนิ่งตะลึงไป เธอลืมหวงอวี้เหลียนไปเสียสนิท ได้ยินเหยียนหมิงซุ่นบอกว่าโดนเฮ่อเหลียนเช่อจัดการตัดมือตัดเท้าควักลูกตากลายเป็นมนุษย์หมูไปแล้ว แน่นอนว่าต้องมีชีวิตอย่างทุกข์ทรมานแน่นอน
“ช่างเถอะ ไม่ต้องดูหรอก ความแค้นของฉันและเขาก็ถือว่าแล้วต่อกันไปเถอะ” เหมยเหมยส่ายหัว
เหมยซูหานฉีกยิ้ม “ก็ดี ตอนนี้สภาพของเขาไม่น่าดูเอาเสียเลย อย่าไปดูให้เสียสายตาเธอเลย”
คาดไม่ถึงว่าเหมยเหมยจะไม่โกรธแค้นแล้ว เดี๋ยวหลังจากกลับไปค่อยส่งคนไปสร้างความสุขให้หวงอวี้เหลียนหน่อยแล้วกัน!
เหมยเหมยไม่ได้เปล่งเสียงอะไรอีก ภายในรถเงียบกริบ อากาศเย็นยะเยือกเหมือนแช่แข็งไว้ ตอนที่เหมยเหมยคิดจะเอ่ยขอตัว เหมยซูหานก็เปิดปากพูดอีกครั้ง “เหมยเหมย ขอโทษนะ!”
“หืม?”
เหมยเหมยเงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ น้ำเสียงที่พูดว่าขอโทษของเหมยซูหานดูประหลาดมาก ชาตินี้เหมยซูหานไม่มีอะไรที่ทำผิดต่อเธอ ตรงกันข้ามยังช่วยเหลือเธอมาตั้งมากมาย ทำไมเขาถึงได้พูดแบบนี้นะ?
เหมยซูหานยิ้มอย่างอบอุ่น “เหมยเหมยเป็นเหมือนตอนนี้ดีมากจริง ๆ วันหลังก็ต้องมีความสุขแบบนี้ตลอดนะ”
เขาพลางลอบพึมพำกับตัวเองในใจว่า ‘ฉันจะปกป้องเธอเสมอ เพื่อชดเชยความผิดพลาดในชาติที่แล้ว’
เหมยเหมยยิ้มให้บางเบา “ขอบคุณนะ นายเองก็ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะ ฉันไปแล้ว ลาก่อน!”
“ลาก่อน!”
เหมยซูหานทอดสายตาส่งเหมยเหมยจากไป จนกระทั่งเงาลับสายตาไปแล้วถึงให้คนขับรถออกรถได้
หลังจากนี้เขาจะรักเดียวใจเดียวอยู่เคียงข้างเฮ่อเหลียนเช่อตลอดไป ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ คนที่เขารักก็คือเฮ่อเหลียนเช่อคนเดียวเท่านั้น!
…………………………………………..