ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1350 ไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้าใกล้ + ตอนที่ 1351 ไม่ร่ำรวยก็เป็นตระกูลชั้นสูง
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1350 ไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้าใกล้ + ตอนที่ 1351 ไม่ร่ำรวยก็เป็นตระกูลชั้นสูง
ตอนที่ 1350 ไม่อนุญาตให้ผู้ชายเข้าใกล้
ฉางชิงซงมองตะลึงเหมือนคนเอ๋อ ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะรับรู้ว่าบนมือของเหมยเหมยเป็นสิ่งมีชีวิต ตอนแรกคิดว่ามันเป็นแมว แต่ในไม่ช้าก็พบว่ามันไม่ใช่แมว แมวไม่ได้มีหางใหญ่ขนาดนั้น อดไม่ได้ที่จะถามอย่างแปลกใจว่า “นี่ตัวอะไรเหรอ? เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอเหรอ?”
“ใช่ เพื่อนสนิทฉันเอง ฉิวฉิว ทักทายรุ่นพี่ฉางหน่อยเร็ว”
เหมยเหมยยกหูของฉิวฉิวที่ตั้งอกตั้งใจดื่มโค้กอยู่ขึ้นมา คุณชายฉิวยกอุ้งเท้าปัดอย่างรำคาญใจ แต่ก็ยังหันไปยื่นอุ้งมือทักทายฉางชิงซงที่ยังนั่งทำหน้าเอ๋ออยู่ แล้วก็ก้มหน้าดื่มโค้กต่อไป
ฉางชิงซงมองอย่างฉงน “ที่แท้ก็เป็นกระรอกตัวหนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นกระรอกขนสีขาวนะเนี่ย ดูท่าแล้วช่างแสนรู้เสียจริงมันสามารถฟังภาษาคนออกด้วยเหรอ?”
“เพราะว่ามันอยู่กับฉันมานานหลายปีเลยฟังออกอยู่บ้าง รุ่นพี่ฉาง หอพักของที่โรงเรียนสามารถเลี้ยงฉิวฉิวได้ไหม? มันเชื่อฟังเลี้ยงง่ายมากเลยนะ” เหมยเหมยลองไถ่ถาม
ถ้าหากโรงเรียนไม่ให้เลี้ยง เธอก็จะพักอยู่บ้านที่เหยียนหมิงซุ่นจัดหาเอาไว้ให้ จะทำให้ฉิวฉิวน้อยใจไม่ได้เด็ดขาด
ฉางชิงซงเกาหัวด้วยความลำบากใจ “ข้อนี่ก็ไม่ได้บอกว่าห้ามเลี้ยงนะ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเลี้ยงได้ งั้นเดี๋ยวพี่ค่อยไปถามอาจารย์ให้เอาไหม?”
เหมยเหมยรีบส่ายหัว “งั้นไม่ต้องถามหรอก ถามแล้วอาจารย์ต้องไม่ให้เลี้ยงแน่นอน ในเมื่อกฎไม่ได้บอกว่าห้ามเลี้ยง งั้นฉันก็เลี้ยงไปก่อนแล้วกัน”
ฉางชิงซงก็เห็นด้วย “น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ฉิวฉิวน่ารักขนาดนี้ ฉันเห็นยังชอบจะตายอยู่แล้ว ไม่มีใครรังเกียจมันลงหรอก”
ทันใดนั้นฉิวฉิวก็รู้สึกชอบตาโง่คนนี้ขึ้นมาเป็นสองเท่า ถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูโง่ไปหน่อยแต่สายตาหลักแหลมไม่เบา มันยกอุ้งเท้าขึ้นและหันไปสั่นกระดุกกระดิกทางฉางชิงซง แถมยังส่งเสียงเรียกอยู่สองสามครั้ง เหมยเหมยช่วยแปลให้ “ฉิวฉิวกำลังชมพี่อยู่ค่ะ มันบอกว่าพี่สายตาหลักแหลมมาก”
ฉางชิงซงไหนเลยจะรู้ว่าฉิวฉิวพูดแบบนี้จริง ๆคิดไปเองว่าเหมยเหมยแปลเอง แต่เขาก็ยังรู้สึกดีใจ ยิ้มกว้างหัวเราะร่า ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงชั้นล่างของหอพักหญิง
ฉิวฉิวดื่มโค้กหมดก็กลับเข้าไปในกระเป๋าเป้อย่างว่าง่ายไม่ต้องให้เหมยเหมยสั่งเลย ฉางชิงซงที่มองอยู่ก็รู้สึกแปลกใจอีกครั้ง รู้สึกแค่ว่าสมแล้วที่เหมยเหมยมีกลิ่นอายของนางฟ้า สัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงก็ยังมีความเฉลียวฉลาดแสนรู้อีก
ห้องนอนของเหมยเหมยคือ 406 อาคารหอพักแห่งนี้กล่าวกันว่าสร้างขึ้นในสมัยสาธารณรัฐจีน พื้นไม้กระดานอิฐแดง ตรงกลางเป็นทางเดินหินอ่อน ทั้งสองด้านเป็นหอพักห้องเดี่ยวได้สัดส่วน ห้องน้ำและห้องซักล้างมีอยู่ทั้งสองฝั่งทั้งชั้นใช้ร่วมกัน
ฉางชิงซงกำลังจะส่งเหมยเหมยขึ้นชั้นบน ก็มีชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบคนหนึ่งวิ่งมาแต่ไกล ตามด้วยหญิงวัยกลางคน พวกเขาสองคนหอบของพะรุงพะรัง วิ่งเสียงดังตึกตักเข้ามา
“คุณหนู หาคุณเจอเสียที คุณชายหมิงให้พวกเรามาช่วย” ชายวัยกลางคนพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ใบหน้าไม่แดงและไม่หายใจหอบถี่เพราะความเหนื่อยสักนิด ผู้หญิงข้าง ๆก็เช่นกัน
ไม่ง่ายเลยกว่าเหยียนหมิงซุ่นจะหาตัวสองคนนี้มาได้ สองสามีภรรยาต่างก็เป็นทหารผ่านศึกทั้งคู่ ทักษะดีมาก หลังจากกลับบ้านก็ไปทำงานในชนบท มีชีวิตที่ไม่ได้ดีมากเท่าไรแม้แต่พ่อแม่และลูกก็เลี้ยงไม่ไหว เหยียนหมิงซุ่นหาคู่สามีภรรยาเจอเข้าจึงส่งตัวพวกเขามาอยู่ดูแลข้างกายเหมยเหมย
สองสามีภรรยามีทักษะกังฟูที่ไม่เลว และผู้หญิยังมีทักษะการทำอาหารที่ดี เหมาะที่จะดูแลภรรยาตัวน้อยของเขาเป็นที่สุด
เป็นครั้งแรกที่เหมยเหมยเจอหน้าสองคนนี้ แต่ก่อนหน้านั้นเหยียนหมิงซุ่นก็โทมาบอกเกริ่น ๆเอาไว้แล้ว จึงถามขึ้นว่า “ใช่คุณอาเหลากับคุณน้าฟางใช่ไหมคะ?”
“ใช่แล้ว คุณชายหมิงขอให้พวกเรามาดูแลคุณหนู พ่อหนุ่มน้อยกระเป๋าเดินทางฉันถือเองดีกว่า ลำบากนายแย่แล้ว!” คุณน้าฟางแย่งกระเป๋าเดินทางมาจากมือของฉางชิงซงแล้วเอาก้นเบียดจนฉางชิงซงตัวกระเด็น
คุณชายหมิงเคยสั่งเอาไว้ว่าจะต้องดูแลปกป้องคุณหนูอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะห้ามให้ผู้ชายที่มีเจตนาร้ายแอบแฝงมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ตัวคุณหนูได้ หากเธอทำได้ก็เอาเงินเดือนสูง ๆไปเลย!
…………………………………………..
ตอนที่ 1351 ไม่ร่ำรวยก็เป็นตระกูลชั้นสูง
เหมยเหมยลูบหน้าผากป้อย ๆทั้งรู้สึกหวานจับใจ ทั้งรู้สึกโมโห ก็บอกไปแล้วว่าเธออยากจะมารายงานตัวคนเดียว เหยียนหมิงซุ่นก็ยังจะส่งสองคนนี้มาอีก จริง ๆเลย!
“ขอบคุณรุ่นพี่มาก ๆนะคะ เอาเป็นว่าวันหลังฉันจะเลี้ยงข้าวพี่นะ!”
เหมยเหมยทำได้แค่ให้ฉางชิงซงกลับไป ดูท่าทางของอาเหลาน้าฟางทั้งสองคนแล้ว กลัวว่าต่อให้ของเยอะกว่านี้อีกหนึ่งเท่าพวกเขาสองคนก็แบกไหว
เวลานี้ฉางชิงซงมองออกเลยว่าเหมยเหมยถ้าไม่ใช่คนรวยก็ต้องเป็นพวกตระกูลชั้นสูง ครอบครัวคนธรรมดาที่ไหนจะเอาตัวคู่สามีภรรยาสองคนมาทำงานด้วยได้? อีกทั้งฟังจากน้ำเสียงแล้วเกรงว่าสองสามีภรรยาคู่นี้จะถูกเชิญมาเพื่อดูแลเด็กใหม่คนเดียวโดยเฉพาะ
คน ๆเดียวมีคนดูแลตั้งสองคน ดูท่าแล้วเทียบเท่ากับเจ้าหญิงได้เลย!
เดิมทีฉางชิงซงยังมีความคิดจะจีบเหมยเหมยอยู่บ้างแต่ตอนนี้กลับหายไปจนสิ้น เขาเข้าใจอยู่ลึก ๆว่าผู้หญิงอย่างจ้าวเหมยไม่ใช่ว่าคนธรรมดาอย่างเขาจะเอื้อมถึง
ไม่ได้ยินผู้หญิงคนนี้พูดว่าเป็นคุณชายหมิงส่งตัวมาหรือไง!
ผู้ที่ได้รับการเรียกว่าคุณชาย** ในเมืองหลวง ไม่ใช่แค่มีเงินเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัตินั้น วงการแบบนั้นห่างไกลจากเขามากเกินไป ขนาดมองการณ์ไกลยังไร้หนทางจะทำได้เลย
“งั้นพี่ไปรับนักศึกษาใหม่คนอื่น ๆแล้วกันนะ วันหลังหากรุ่นน้องมีตรงไหนสงสัยก็ไปหาพี่ที่อาคารหก ห้อง 304 หรือโทรมาที่ตึกหอพักของพวกเราก็ได้” ฉางชิงซงแสดงท่าทีเป็นมิตร
“โอเค วันหลังค่อยติดต่อไปนะ” เหมยเหมยกลับไม่ได้ปฏิเสธ
น้าฟางและอาเหลาลอบส่งสายตากับอย่างลับ ๆลอบพึมพำกันในใจ ไม่น่าล่ะคุณชายหมิงถึงได้ส่งพวกเขามาดูแลคุณหนู หน้าตาสะสวยดึงดูดคนมากมายขนาดนี้ แมลงวันเพศผู้ยังอดไม่ได้ต้องบินเข้ามาตอมใกล้ ๆ พวกเขาจะต้องจับตาดูไว้ให้ดีหน่อยแล้ว จะทำให้คุณชายหมิงผิดหวังที่ให้เงินมาเยอะขนาดนั้นไม่ได้
คู่สามีภรรยาสองคนสามารถสร้างรายได้สองพันหยวนต่อเดือน รวมอาหารและที่พักด้วย แค่งานบ้านเล็ก ๆน้อย ๆทำอาหารซักผ้ากวาดพื้นจะหางานดี ๆแบบนี้ได้ที่ไหนอีกเล่า!
ระเบียงทางเดินมีคนเดินพลุกพล่านต่างก็เป็นเด็กใหม่ที่แบกกระเป๋าเดินทางมากับผู้ปกครอง วุ่นวายอลหม่านอยู่ไม่น้อย
“406 ถึงแล้ว!” น้าฟางเดินนำหน้า ไม่นานก็พบห้องนอนของเหมยเหมย ห้องพักไม่เลวเลยทีเดียว ถึงแม้ว่ามันจะเก่าไปหน่อยแต่เก็บกวาดได้สะอาดมาก มีนักเรียนสองคนเข้ามาในห้องแล้ว มันไม่เหมือนห้องอื่นที่แน่นขนัดไปด้วยคน
“เหมยเหมย เตียงของหนูอยู่นี่ ทำเลที่ตั้งก็ค่อนข้างดี เตียงชั้นบนริมหน้าต่าง น้าจะจัดเตียงให้เอง!“ น้าฟางเคลื่อนไหวอย่างขะมักเขม้นและยังเป็นคนฉลาดเช่นกัน เมื่อครู่เหมยเหมยบอกเธอว่าต่อไปอย่าเรียกเธอว่าคุณหนู เธอก็เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
อาเหลาก็ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองว่างเช่นกัน นำอ่างไปที่ห้องน้ำเพื่อตักน้ำ เริ่มเช็ดโต๊ะและเตียง เหมยเหมยต้องการช่วย แต่พวกเขาปฏิเสธ “นั่งเฉย ๆก็พอแล้ว อีกครู่เดียวพวกเราก็ทำเสร็จแล้ว อย่าทำให้มือด้านเลย”
“พ่อแม่เธอช่างรักเธอจริง ๆ!”
มีหญิงสาวที่หน้าตาสวยหมดจดเอ่ยขึ้นอย่างอิจฉา เธอคือคนที่อยู่บนเตียงชั้นบนตรงข้ามกับเหมยเหมย บนเตียงมีป้ายชื่อติดไว้เป็นลายมือเขียนตัวเล็ก ๆที่แสนบรรจง ถังม่านลี่ น่าจะเป็นชื่อของผู้หญิงคนนี้
ชื่อนี้สอดคล้องกับความเป็นจริง ถังม่านลี่หน้าตาดูสบายตาเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าอวัยวะทั้งห้าจะไม่สวยสมบูรณ์มาก คิ้วหนาไปหน่อย จมูกแบนไปเล็กน้อย ปากใหญ่และหนาไปหน่อย แต่พออยู่รวมกันกลับสวยมาก มีอะไรบางอย่างที่ยากจะอธิบาย
อีกทั้งรูปร่างสัดส่วนของถังม่านลี่ก็ไม่เลว สูงถึง 170 เซนติเมตร ส่วนโค้งส่วนเว้าก็ดูดีไปหมด ทุกสัดส่วนแผ่ซ่านความเป็นสาวโตเต็มวัยออกมาอย่างเต็มที่
เหมยเหมยหันไปยิ้มให้เธออย่างมีมารยาทพลางอธิบายว่า “พวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ของฉันหรอก เป็นอากับน้า ตั้งใจมาส่งฉันรายงานตัว”
น้าฟางหันไปฉีกยิ้มให้ถังม่านลี่ปรากฏฟันซี่ขาว พูดเสียงดังว่า “สาวน้อยก็มาจากเจ่าจางใช่มั้ย? พวกเราเป็นคนบ้านเดียวกัน เธอมาจากส่วนไหนของเจ่าจาง? ฉันมาจากเมืองต้าหวัง”
…………………………………………….