ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1382 ตู้เซฟสองอัน + ตอนที่ 1383 มีวาสนาไว้เจอกันใหม่
ตอนที่ 1382 ตู้เซฟสองอัน + ตอนที่ 1383 มีวาสนาไว้เจอกันใหม่
โดย
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1382 ตู้เซฟสองอัน
ระบบคุ้มกันของตึกใหญ่ในช่วงกลางคืนเข้มงวดกว่าเดิม แต่ในสายตาของพวกเหยียนหมิงซุ่นนี่ไม่ใช่เรื่องนักหนาอะไร พวกเขาได้คำนวณเวลาเปลี่ยนเวรของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไว้เป็นอย่างดีแล้ว รวมถึงเส้นทางสัญจรของพวกเขาด้วย
“อย่างน้อยมีสามเส้นทางที่ปลอดภัย และเส้นทางนี้ปลอดภัยที่สุด”
ลูกน้องสวมแว่นตาคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะชี้แผนที่ไปด้วย เขาเป็นลูกน้องอัจฉริยะด้านการคิดเลขที่เหยียนหมิงซุ่นตั้งใจฝึกมาแม้จะสู้ลี่เมิ่งเฉินไม่ได้แต่ก็นับว่าเป็นอัจฉริยะที่มีอยู่น้อยคนในประเทศ หลังจากเขาได้เข้าร่วมทีมทุกครั้งที่พวกเขาออกภารกิจผู้บาดเจ็บก็ลดลงฮวบ
เห็นได้ว่าคณิตศาสตร์เป็นวิชาแขนงหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มากและแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวัน
เหยียนหมิงซุ่นเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดอย่างไม่ลังเลใจ เขานำทีมสามคนเข้าไปในตึกใหญ่เหลือสี่คนไว้คอยรับมือด้านหน้าและเฝ้าดูต้นทางด้วย
ความจริงเส้นทางนั้นปลอดภัยจริงดังว่าเพราะตลอดเส้นทางแทบจะคลาดจากเจ้าหน้าที่ที่ตระเวนตรวจอยู่ทุกครั้งไป มีเพียงครั้งเดียวที่ประจันหน้ากันแต่สำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ผ่านการฝึกมา การหลบหลีกศัตรูเป็นหนึ่งในเทคนิคอันช่ำชองของพวกเขา แน่นอนว่าไม่มีปัญหาใดๆ
เหยียนหมิงซุ่นไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องช่องมิติของฉิวฉิวจึงไม่ได้ให้อีกสามคนตามไปชั้นดาดฟ้าพร้อมกัน แต่ให้พวกเขาเฝ้าอยู่ใต้ตึก
“ถ้าเกิดมีอะไรผิดปกติพวกนายก็รีบหนีไป ใช้แผนที่สองที่เราคุยกันไว้เมื่อคืน” เหยียนหมิงซุ่นพูดสั่ง
“ลูกพี่ ให้พวกเราเข้าไปเถอะ?” ลูกน้องไม่ยอม
หากเริ่มใช้แผนที่สองเมื่อไรเหยียนหมิงซุ่นต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขาจะยอมตกลงได้อย่างไร?
“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระ ทำตามคำสั่งของฉัน” เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าดุดันจนลูกน้องไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่ดวงตากลับมีน้ำตาคลอเบ้า
ลูกพี่มักเป็นเผชิญด่านหน้าที่อันตรายที่สุดเสมอ ได้ติดตามลูกพี่แบบนี้ต่อให้พวกเขาต้องตายก็ยอม!
เหยียนหมิงซุ่นเม้มปากพาฉิวฉิวไปยังห้องที่เก็บข้อมูลมูลค่ามหาศาลนั่น เป็นห้องที่ดูไม่เตะตาอะไรซึ่งไม่ต่างจากห้องเก็บของทั่วไปเท่าไร แต่ห้องเก็บของเล็ก ๆที่ไม่เตะตาห้องนี้นี่เองกลับกลายเป็นจุดใจกลางสำคัญของทั้งตึกใหญ่
“ฉันเปิดประตูก่อน รอเดี๋ยว”
ไม่นานเหยียนหมิงซุ่นก็มาถึงห้องเล็กได้ ระบบเลเซอร์ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของที่นี่ถูกลูกน้องปิดไปชั่วคราวซึ่งเขามีเวลาเพียงสองนาทีในการปลดล็อก
อาจเพราะเชื่อมั่นในฝีมือคนแคระตัวเองมากเกินไปสินะทำให้ระบบล็อกของประตูบานเล็กนี้ไม่ซับซ้อนแต่อย่างใด เหยียนหมิงซุ่นเสียเวลาไม่นานเท่าไร ใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็สามารถเปิดมันออกได้แล้ว
“เหลือเวลาอีกหนึ่งนาทีสิบหกวินาที เราต้องรีบทำเวลาแล้ว ฉิวฉิว แกเอาตู้เซฟของแกออกมา ฉันจะเปิดมันเอง”
เหยียนหมิงซุ่นพูดย้ำโดยมีฉิวฉิวพยักหน้ารับแล้วมุดเข้าไปในห้องเล็กนั้นสบาย ๆ ไม่นานก็ตามหาตู้เซฟที่ไว้เก็บข้อมูลได้แต่ปัญหาคือมีถึงสองอัน อันใหญ่หนึ่งกับอันเล็กอีกหนึ่ง
นายผู้ชายอยากได้อันไหนกัน?
ฉิวฉิวอยากจะออกไปถามแต่เมื่อสักครู่เจ้านายผู้ชายบอกไว้แล้วว่าเหลือเวลาอีกไม่มาก เขาเอาไปทั้งสองอันเลยแล้วกันในเมื่อเขาเก็บมันได้!
คุณชายฉิวไม่พูดพร่ำทำเพลงพลางเก็บตู้เซฟทั้งสองไว้ในช่องมิติแล้วมุดออกไปอย่างว่องไวแล้วคายตู้ทั้งสองออกมา ลูกตาดำขลับที่ประกายวิบวับมองเหยียนหมิงซุ่นไม่ละสายตา
เหยียนหมิงซุ่นชะงักไป ในสายข่าวไม่ได้บอกไว้นี่นาว่าในห้องลับมีตู้เซฟสองอัน!
เขาดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็วตัดสินใจเปิดตู้เซฟอันเล็กอย่างแน่วแน่ซึ่งใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้พอสมควร ข้างในเป็นข้อมูลตามคาดจริง ๆ เหยียนหมิงซุ่นเอาข้อมูลปลอมใส่เข้าไปแล้วเก็บไว้ที่เดิม
“ลูกพี่ เหลือเวลาอีกแค่สี่สิบวินาทีแล้ว” เสียงลูกน้องดังแว่วจากหูฟัง มือของเหยียนหมิงซุ่นที่เดิมทีคิดจะเปิดตู้อันใหญ่ก็หยุดชะงักอย่างอดไม่ได้
เขาตัดสินใจหอบตู้เซฟทั้งสองถือไว้คนละข้างแล้วโยนฉิวฉิวขึ้นบ่า จากนั้นค่อยปิดประตูห้องลับก่อนจะพูดใส่ไมค์เสียงเบา “เริ่มแผนแรกได้ ปฏิบัติเดี๋ยวนี้!”
………………………………………………….
ตอนที่ 1383 มีวาสนาไว้เจอกันใหม่
เพราะยังเหลือเวลาอีกสี่สิบวินาที เหยียนหมิงซุ่นจึลงมาชั้นล่างได้อย่างราบรื่น ลูกน้องสามคนเห็นในมือเขามีตู้เซฟอยู่สองอันก็งงเป็นไก่ตาแตก แต่พวกเขาไม่ได้ถามมากไปกว่านี้กลับยื่นแขนออกไปรับมาคนละหนึ่งอันแล้ววิ่งไปข้างนอกพร้อมกัน
“ระวัง…ทางสิบนาฬิกามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทีมเล็กมาแล้ว ทางหกนาฬิกามีประตูทางออกทางหนึ่ง ไปทางนั้น…”
“เดินตรงไปที่เจ็ดนาฬิกา!”
……
อัจฉริยะหนุ่มแว่นคอยสังเกตแผนที่ตึกใหญ่จากคอมพิวเตอร์พลางชี้นำให้พวกเหยียนหมิงซุ่นหนีออกจากตึกใหญ่อย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่ระหว่างทางหนีเหยียนหมิงซุ่นกลับจับสังเกตสิ่งผิดปกติได้ จากทิศทางที่อัจฉริยะหนุ่มแว่นชี้นำพวกเขาเจอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาถึงสองครั้งแล้ว
แม้ทุกครั้งจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่มากและพวกเหยียนหมิงซุ่นก็กำจัดได้อย่างง่ายดายทุกครั้ง แต่ชัดเจนแล้วว่ามันผิดปกติ
“เกิดอะไรขึ้น? เส้นทางที่นายบอกว่าปลอดภัยกลับไม่ปลอดภัย” เหยียนหมิงซุ่นถามขึ้น
อัจฉริยะหนุ่มแว่นที่อยู่บนรถใต้ตึกเองก็สังเกตถึงความผิดปกติ เขาสืบตามร่องรอยไปไม่กี่วินาทีก็พบปัญหาเลยตบโต๊ะด้วยความโกรธ “ลูกพี่ ระบบป้องกันของประเทศ Y ใช้เทคนิคใหม่พิเศษ แค่มีคนลักลอบเข้ามาก็จะปล่อยศัตรูจำลองมาป่วนอีกฝ่ายอัตโนมัติ ตอนนี้ทางผมเองก็วุ่นวายไปหมดแล้ว…”
“ไม่ต้องพูดมาก นายพูดมาตรง ๆ เลยว่าตอนนี้ควรทำอย่างไร?” เหยียนหมิงซุ่นฟังเรื่องเทคโนโลยีชั้นสูงพวกนี้อย่างไม่สบอารมณ์นัก เขาไม่รู้เรื่องสักนิด
“ลูกพี่ รอเราเข้าไปรับลูกพี่” อัจฉริยะหนุ่มแว่นพับจอลง
ให้ตายสิ เขาผิดพลาดเองที่คิดไม่ถึงว่าประเทศ Y จะมีระบบป้องกันที่ทันสมัยขนาดนี้ เท่าที่เขารู้มาทั้งโลกมีเพียงประเทศ M กับประเทศ D เท่านั้นที่มี
เหยียนหมิงซุ่นปฏิเสธคำขาด “ไม่ต้อง เริ่มแผนการแรกเลย ฉันจะคุ้มกันพวกนายเอง”
“ลูกพี่…”
“ปฏิเสธตามคำสั่ง!”
เหยียนหมิงซุ่นส่งต่อตู้เซฟอันใหญ่กับฟิล์มของจริงให้ลูกน้องสามคน ส่วนตัวเองเลือกอุ้มตู้เซฟอันเล็กพุ่งออกไป เขาต้องไปล่อความสนใจของคนพวกนั้น ลูกน้องสามคนกัดฟันแล้ววิ่งหนีไปอีกทาง
พวกเขาต้องรีบทำเวลา หากพวกเขาหนีไปก่อนลูกพี่ถึงมีความเป็นไปได้ที่จะหนีรอด
“อยู่ตรงนี้…เร็ว…จับตัวมันไว้!”
เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินล้อมมาทางนี้ เมื่อเห็นเขาอุ้มตู้เซฟอันเล็กก็ยิ่งฮึกเหิมตะโกนร้องเสียงดัง
เหยียนหมิงซุ่นมุดใต้มุดซ้ายมุดขวาด้วยไหวพริบคอยวนเวียนอยู่แต่ในตึกใหญ่และมีกระสุนเฉียดผ่านแฉลบตัวเขาแต่ไม่มีนัดไหนจะถูกตัวเขาเลยสักนิด ฉิวฉิวส่งเสียงร้องด้วยความประหม่า นายหญิงโกหกเขา!
ไม่มีกระรอกตัวเมียแสนสวยในต่างประเทศ!
เขาไม่เห็นแม้แต่ปลายขน!
หนึ่งนาทีผ่านไปแล้ว
“ลูกพี่ เราออกมาแล้ว” เสียงลูกน้องดังขึ้นจากหูฟัง
เหยียนหมิงซุ่นถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มาสิ…มาสนุกกันให้เต็มที่ไปเลย!
เขายังอุ้มตู้เซฟอันเล็กไว้แน่นแต่เปลี่ยนทิศทางการหนีโดยไม่เลือกจะเล่นซ่อนแอบอีกต่อไป
“ศัตรูจะเอาข้อมูลหนีไปแล้ว ขอกำลังเสริมจากสำนักงานใหญ่!” มีคนรู้ทันแผนของเหยียนหมิงซุ่นเลยตะโกนร้องเรียกกำลังเสริมเสียงดัง เหยียนหมิงซุ่นใจหล่นวูบและเพิ่มความเร็วขึ้น
เขาสัญญากับเหมยเหมยไว้แล้วว่าจะต้องกลับบ้านอย่างปลอดภัย!
เพียงแต่ประเทศ Y ให้ความสำคัญกับข้อมูลขีปนาวุธฉบับนี้มากเกินไปถึงขั้นส่งกองกำลังทหารออกมา และเป็นเพราะเหยียนหมิงซุ่นยังอุ้มตู้เซฟอันเล็กอยู่เลยทำให้ประเทศ Y เข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนขโมยข้อมูลเลยไม่ทันสังเกตเห็นคนอื่น ๆ ลูกน้องเจ็ดคนไปถึงสนามบินได้อย่างราบรื่น ราบรื่นเสียจนพวกเขายังไม่อยากจะเชื่อ
“เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันทำภารกิจสำเร็จได้ง่ายขนาดนี้” มีคนเอ่ย
“เพราะลูกพี่ออกหน้ารับทุกอย่างไว้แทน ไม่ได้ ฉันจะกลับไปช่วยลูกพี่!” มีคนทนไม่ไหวอีกต่อไปคิดจะย้อนกลับไปแต่กลับถูกคนอื่นคว้าตัวไว้
“นายกับเจ้าแว่นสี่คนเอาข้อมูลกับตู้เซฟขึ้นเครื่อง เรากลับไปรับลูกพี่ มีวาสนาไว้กลับไปกินเหล้าด้วยกันใหม่ ถ้าหมดวาสนาต่อกันก็ขอฝากลูกเมียและครอบครัวของเราสามคนด้วย พวกนายช่วยหาเวลาไปดูแลด้วยแล้วกัน!”
ลูกน้องอีกคนที่อายุค่อนข้างมากทิ้งให้คนที่อายุน้อยที่สุดสี่คนอยู่ต่อ เขาและอีกสองคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันตัดสินใจหวนกลับคืนสู่ความมืดทิ้งสี่คนที่เหลือยืนมองทั้งน้ำตาแล้วกัดฟันขึ้นเครื่องไปอย่างไม่ลังเลใจอีก
………………………