ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1392 ต่างมีแผนในใจ + ตอนที่ 1393 พี่ชายของฉันคือบุคคลว่างงาน
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1392 ต่างมีแผนในใจ + ตอนที่ 1393 พี่ชายของฉันคือบุคคลว่างงาน
ตอนที่ 1392 ต่างมีแผนในใจ
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับสีอันน่าโยนตะเกียบทิ้งอย่างพร้อมเพรียงกันแล้ววิ่งหนีทั้งที่ยังไม่ทันจ่ายเงิน เจ้าของร้านวิ่งตะโกนไล่ตามหลังมาจนสีอันน่าเอาศอกกระทุ้งใส่อย่างแรง “เธอเป็นคนเลี้ยง!”
ให้ตายสิ!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถลึงตาใส่สีอันน่าด้วยความขุ่นเคืองทีหนึ่งแล้วล้วงเงินสิบหยวนจากกระเป๋าสตางค์ยัดใส่มือเจ้าของร้าน “ไม่ต้องทอน”
เธอค่อยวิ่งไล่หลังสีอันน่าไปอย่างเร่งรีบ ซึ่งสีอันน่ากำลังทักทายเหมยเหมยอยู่ทว่าสายตากลับเหลือบมองไปทางจ้าวเสวียเอ๋อร์เป็นระยะ ๆ ด้วยแววตาปลาบปลื้มแต่แฝงด้วยความเขินอาย
ต้องบอกว่าจ้าวเสวียเอ๋อร์ดูดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อ่อนโยนสุภาพบุรุษริมฝีปากแดงฟันขาว ยิ่งไม่ต้องพูดชุดสูทสั่งตัดพิเศษที่สวมใส่ รวมถึงรถยนต์สุดหรูเป็นคะแนนพิเศษยิ่งทำให้มีเสน่ห์มากกว่าเดิม
ถึงทำเอาสีอันน่ากับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหลงเสียจนหน้ามืดตามัวไปหมด
“จ้าวเหมย นี่พี่ชายของเธอเหรอ?” เสียงของสีอันน่าหวานย้อยเสียจนแทบกลั่นออกมาเป็นน้ำตาลอยู่แล้ว จ้าวเสวียเอ๋อร์นึกถึงเนื้อติดมันชิ้นเมื่อสักครู่อย่างน่าแปลกพาลรู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาชั่ววูบ จึงมองมาทางสีอันน่าแวบหนึ่งอย่างอดไม่ได้
เขาอยากดูสักหน่อยว่าหน้าตาสวยปานนางฟ้าเพียงใดถึงได้ส่งเสียงน่ารังเกียจได้ขนาดนี้!
แต่ดูเพียงแวบเดียวเขาก็ไม่อยากดูอีกเป็นครั้งที่สอง หากจะเอ่ยถึงนิยามความงามที่จ้าวเสวียเอ๋อร์มีต่อผู้หญิง อย่างอื่นเขาไม่ร้องขออะไรมากแค่ผิวขาวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขาไม่ชอบคนสวยผิวดำคล้ำที่ไม่มีรสนิยมแบบนั้น!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสาวงามผิวสีช็อกโกแลตอย่างสีอันน่าเลย เขานึกปุเลี่ยนแทบตาย!
สีอันน่ากลับหลงผิดเข้าใจว่าจ้าวเสวียเอ๋อร์สนใจเธอเลยอดดีใจไม่ได้ ดัดเสียงให้หวานยิ่งกว่าเดิมอีกหน่อย “สวัสดีค่ะพี่ชายจ้าวเหมย ฉันชื่อสีอันน่า เป็นรูมเมทของจ้าวเหมย”
จ้าวเสวียเอ๋อร์พยักหน้ารับด้วยสีหน้าราบเรียบพลันอดถูมือไม่ได้ น้องสาวของเธอเสียงไพเราะน่าฟัง หวานหยดย้อยทว่าไม่รู้สึกเลี่ยนและน่าขนลุกขนาดนี้ แต่ทำไมพอฟังเสียงยัยคนนี้มากเข้ากลับรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
พูดดี ๆ ไม่ได้หรือไงกัน?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนใช้ก้นดันสีอันน่าที่กำลังพยายามโปรยเสน่ห์ออกไปแล้วยิ้มกล่าว “ฉันคือเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน เพื่อนร่วมชั้นเรียนและรูมเมทของจ้าวเหมย สวัสดีค่ะพี่ชายของจ้าวเหมย!”
จ้าวเสวียเอ๋อร์ถึงค่อยคลายหัวคิ้วลง ในที่สุดก็มีคนปกติเสียที เขาพยักหน้าให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเช่นกันพลางเอ่ยปากพูดอย่างเอ็นดูประโยคหนึ่งว่า “หลังจากนี้คงต้องรบกวนฝากเหมยเหมยของเราให้พวกเธอดูแลด้วยแล้ว”
“พี่ชายจ้าวเหมยสบายใจได้เลย รับรองว่าดูแลแน่นอนค่ะ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอามือทุบอกพูดรับปากโดยใช้เสียงกลบเสียงน่าขนลุกของสีอันน่า
เหมยเหมยจะไม่รู้ทันได้อย่างไรว่าสองคนนี้กำลังคิดแผนอะไรกันอยู่ อยากเป็นพี่สะใภ้สามของเธอสินะ เธอลอบยิ้มในใจได้แต่ทำทีไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรทั้งนั้น
เนื่องด้วยมารยาทขากลับจ้าวเสวียเอ๋อร์จึงพาพวกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับมาด้วย ต่อให้ห่างจากหอพักเพียงไม่กี่ก้าวก็ตาม
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับสีอันน่าคอยมองอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถที่มีระดับอย่างตื่นเต้นและเปิดโลก ต้องบอกว่าในยุคสมัยนี้การตกแต่งรถยี่ห้อโตโยต้าคราวน์ดีที่สุดที่แม้แต่รถยี่ห้ออื่นยังเทียบไม่ได้ นั่งสบายกว่ามากเช่นกัน
ทั้งคู่มองจนละสายตาไม่ได้พลางคิดในใจว่าคิดไม่ผิดเลยที่ออกมาทานข้าวมื้อนี้ พี่ชายของจ้าวเหมยร่ำรวยจริง ๆ หากได้อยู่บนเรือนใกล้น้ำเอื้อมถึงจันทร์ [1]การที่พวกเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างยากลำบากก็นับว่าได้ค่าตอบแทนแล้ว!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับคิดมากกว่าหน่อยเพราะเธอพอจะรู้ตัวว่าตัวเองอ้วนถึงขนาดนี้โอกาสที่จะชนะคงไม่สูงนัก ฉะนั้นเธอยิ่งอยากผูกความสัมพันธ์กับพี่ชายจ้าวเหมยไว้ให้ดีเพื่อจะได้ช่วยเรียกลูกค้าให้บริษัทครอบครัวตัวเอง
พี่ชายจ้าวเหมยต้องรวยกว่าครอบครัวเธอมากแน่นอน พ่อของเธอขับรถซีดานที่พูดถึงราคาก็ไม่ถูกนัก แต่กลับเทียบรถยนต์ที่ตกแต่งสุดเลิศอย่างโตโยต้าคราวน์คันนี้ไม่ได้เลย ซึ่งก็บ่งบอกว่าพี่ชายของจ้าวเหมยรวยกว่าครอบครัวเธอไม่รู้กี่เท่า!
ต้องประจบประแจงไว้สิ!
พ่อแม่ของเธอมีลูกสาวอย่างเธอเพียงคนเดียว อนาคตบริษัทก็เป็นของเธอ เธอย่อมต้องหาลู่ทางไว้ให้บริษัทตัวเองอยู่แล้ว!
……………………..
ตอนที่ 1393 พี่ชายของฉันคือบุคคลว่างงาน
ระยะทางจากร้านอาหารถึงหอพักสั้นนักไม่กี่นาทีก็ถึงเสียแล้ว สีอันน่ากับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอดถอนหายใจอย่างนึกเสียดายไม่ได้ นี่ยังไม่ทันคุยเลยทำไมถึงแล้วล่ะ!
“เหมยเหมย เดือนหน้าวันเกิดคุณปู่ เธออย่าลืมเชียวล่ะ” ขณะที่ลงจากรถจ้าวเสวียเอ๋อร์พูดเตือน
“รู้แล้ว ฉันเตรียมของขวัญไว้แล้ว ไม่ลืมหรอก พี่สามรีบกลับไปเถอะ” เหมยเหมยรู้สึกใจฝ่ออยู่บ้าง ความจริงเธอลืมมันไปนานแล้วแต่เหยียนซินหย่าเตือนเธอก่อนมาที่นี่ ซึ่งของขวัญก็ได้เหยียนซินหย่าคอยเตรียมไว้ให้
จ้าวเสวียเอ๋อร์ยิ้มอย่างพึงพอใจ เพิ่งก้าวขึ้นรถได้ครึ่งตัวก็โผล่หน้าออกมาตะโกนว่า “เสื้อผ้าเครื่องประดับที่ฉันซื้อให้อย่าลืมใส่นะ ของพวกนี้คือสินค้าใหม่หมดเลย อีกไม่กี่วันพี่ก็จะไปฮ่องกงไว้จะซื้อมาให้อีก”
“ไม่เอาแล้ว เสื้อผ้าฉันเยอะจนนับไม่หวาดไม่ไหว ไม่ทันใส่แล้ว โอ้ย พี่สามอย่ามัวแต่พูดมากเลยรีบไปเถอะ!”
เหมยเหมยผลักเขาทีหนึ่งอย่างระอาพลางยัดตัวเขาเข้าไปในรถแถมยังช่วยปิดประตูรถให้ด้วยเพื่อเร่งให้เขารีบไป ไม่เห็นสองสาวข้าง ๆ จ้องตาเป็นมันเลยหรือไงกัน!
จ้าวเสวียเอ๋อร์ลูบจมูกอย่างไม่พอใจหน่อย ๆ สตาร์ทรถยนต์ขับออกไปช้า ๆ ไม่กี่เมตรก็โผล่หน้าออกจากหน้าต่างตะโกนเสียงดังว่า “เมื่อวานฉันให้เลขาโอนเงินค่าขนมให้เธอ อยู่ในบัตรใส่เงินอั่งเปาที่ฉันทำไว้ให้เธอ เธออย่าลืมไปถอนออกมาใช้นะ ใช้หมดพี่สามค่อยโอนให้เธอเพิ่ม”
เหมยเหมยร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก แล้วตอบกลับเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์จ้าวเสวียเอ๋อร์ถึงยอมกลับอย่างพึงพอใจ
วิธีสำคัญที่เขาใช้เชื่อมความสัมพันธ์กับน้องสาวคนนี้มาตลอดหลายปีก็คือบัตรใส่เงินค่าขนมใบนี้นี่เอง!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมองหลังรถสุดหรูอย่างอิจฉาแล้วอดพูดไม่ได้ว่า “จ้าวเหมย พี่ชายเธอดีกับเธอจัง!”
เธอเองก็อยากมีลูกพี่ลูกน้องที่ทั้งรวยทั้งใจป้ำแล้วยังหล่อเหลาด้วยเหมือนกัน!
เสียดายที่ลูกพี่ลูกน้องแต่ละคนของเธอหน้าตาเหมือนหัวขโมย พอเห็นพ่อเธอไม่มีลูกชายก็จับจ้องมรดกครอบครัวเธอ แต่ละคนเห็นเธอเป็นดั่งศัตรูอยากให้เธอออกจากบ้านแล้วถูกรถชนตาย กินข้าวให้สำลักตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด!
เหมยเหมยยิ้ม “ก็ใช้ได้มั้ง แต่ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง”
เธอหันหลังเดินกลับห้อง สีอันน่าเข้ามาประชิดตัวอย่างกระตือรือร้น “จ้าวเหมยพี่ชายเธอทำงานอะไรเหรอ? เขาอายุเท่าไหร่เหรอ?”
“คนว่างงาน อายุก็ไม่น้อยแล้ว” เหมยเหมยจงใจพูด
สีอันน่าสะอึกไปแล้วจงใจตอบกลับ “คนว่างงานที่ไหนจะขับรถดี ๆแบบนี้ได้? รถของพี่ชายเธออย่างน้อยก็หลายแสนหรือเปล่า?”
“รถเป็นของเพื่อนเขา พี่ชายฉันยืมมาอวด ความจริงเขาจนจะตาย” เหมยเหมยยิ้มตาหยีช่วยปัดเป่าโชคความรักให้พี่สามของเธอ เห็นสีอันน่ายิ้มค้างถึงได้วิ่งขึ้นชั้นบนอย่างมีความสุข
อย่างสีอันน่าหรือคิดจะเป็นพี่สะใภ้สามของเธอ?
ยอมเลือกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังดีกว่า!
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือก จะว่าไปเธอยังเอนเอียงไปทางลูกพี่ลูกน้องของเซียวเซ่ออย่างเซียวเซียงมากกว่า เพียงแต่หญิงสาวคนนี้ก็ดื้อรั้นนัก เพื่อสร้างหน้าสร้างตาให้พ่อแม่จึงดึงดันไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ หนำซ้ำยังบอกว่าเรียนไม่จบปริญญาเอกก็จะไม่กลับประเทศ
เฮ้อ ดูท่าพี่สามของเธอยังต้องโสดไปอีกหลายปีเลยล่ะ!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเหลือบมองสีอันน่าอย่างสมน้ำหน้าแวบหนึ่งแล้วรีบล้มเลิกความคิดที่มีต่อจ้าวเสวียเอ๋อร์
เธอไม่อยากมีความรัก เธอต้องการแค่ภูเขากองเงินกองทอง
อย่างมากไว้อนาคตค่อยหารับสมัครลูกเขยช่วยเฝ้าบริษัทให้พ่อของเธอ!
คนในหอพักอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เหมยเหมยเอาเนื้อแกะย่างเสียบไม้ที่ตั้งใจซื้อเมื่อสักครู่ออกมา แต่เดิมทีเธออยากซื้อให้แค่ฉีฉีเก๋อคนเดียว แต่จะให้คนเดียวก็ดูไม่ดีเท่าไรเลยจำใจต้องแบ่งให้ทุกคนทาน
“ว้าว เหมยเหมยช่างแสนดีจริง ๆ เลย ฉันกำลังหิวเนื้อย่างอยู่พอดีเลย!” ฉีฉีเก๋อคว้าเนื้อแกะย่างเสียบไม้ขึ้นมาแทะอย่างเอร็ดอร่อย แม้รสชาติไม่เด็ดเท่าไรแต่ยังดีกว่าไม่มี
ถังม่านลี่เองก็หยิบมาทานไม้หนึ่งอย่างไม่เกรงใจ ต่อให้หนังท้องของเธอจะตึงมากแล้วแต่เรื่องที่เป็นผลประโยชน์ไม่มีทางไม่ทำเด็ดขาด
ฉีฉีเก๋อมองถังม่านลี่ที่หน้าด้านอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง เมื่อกี้เพิ่งนินทาว่าร้ายเหมยเหมยไป ตอนนี้กลับมาทานของที่เหมยเหมยซื้อมา ทำไมถึงได้หน้าไม่อายขนาดนี้นะ!
……………………………
[1] หมายถึงได้สัมผัสใกล้ชิดคนฐานะที่สูงกว่าหรือเรื่องใดที่ได้รับผลประโยชน์