ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1400 ระดับความยากสูงเกินไป + ตอนที่ 1401 สายตาไม่พอใจ
ตอนที่ 1400 ระดับความยากสูงเกินไป
ครูฝึกวัยรุ่นที่แสนจะ ‘ไหวพริบดี’ จากปากเสี่ยวเมิ่ง ณ เวลานี้กำลังมองเหมยเหมยที่แสนดื้อรั้นอย่างจนใจ
เขาจำคนรักสุดรักสุดหวงของลูกพี่ตัวเองได้ตั้งแต่เช้าแล้ว จากคุณสมบัติของเขาไม่จำเป็นต้องมาฝึกนักศึกษาเลยสักนิด แต่เพื่อคนรักของลูกพี่ตัวเขาเลยรับภารกิจอันทรงเกียรตินี้ไว้
“อย่าให้ว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ลำบากแม้แต่น้อย ห้ามให้เหนื่อยแม้แต่นิดเดียว เข้าใจไหม?”
ก่อนมาที่นี่รองกัปตันได้ย้ำเตือนเขาโดยเฉพาะซึ่งแน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมาย ก็ต้องการให้ว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่กินดีอยู่ดีนี่นา!
ง่ายมาก
แต่ตอนนี้เขากลับไม่คิดว่ามันง่ายอีกต่อไป!
ทำไมว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ปริเสียงออกมาสักแอะ?
หากปริเสียงสักนิดหรือตัวโงนเงนสักหน่อย เขาจะให้คนพาไปส่งที่ห้องพยาบาลเลย!
ครูฝึกมองเหมยเหมยที่ยืนตัวตรงยิ่งกว่าเพื่อนผู้ชายเลยลอบชื่นชมอยู่ในใจ สมแล้วที่เป็นคนรักของลูกพี่ ศักยภาพด้านกายภาพและความยืดหยุ่นมันช่างน่าเหลือเชื่อ แต่สิ่งที่มีมากกว่านั้นคือความเครียด หากภารกิจไม่สำเร็จล่ะจะทำอย่างไรดี?
รองกัปตันจะต้องเอาไม้ท่อนใหญ่ไล่ทุบเขาแน่!
‘ตุบ’
เป็นครั้งแรกที่สีอันน่าหน้าซีดยิ่งกว่ากระดาษโดยไม่ต้องพึ่งพาแป้งฝุ่น เธอเป็นลมล้มไปกองกับพื้นเป็นคนแรกอย่างมีเกียรติ ครูฝึกเดินเข้าไปหาพลางกดบางจุดตรงข้อแขนพับของสีอันน่าแต่กลับไร้ปฏิกิริยาจึงงให้อาสาสมัครระดับสูงที่ยืนคอยอยู่ด้านข้างหามสีอันน่าไปพักในที่ร่ม
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมองสีอันน่าที่นอนพักใต้ต้นสีเขียวอย่างนึกอิจฉาแวบหนึ่ง เพียงชั่วครู่ก็ล้มลงไปกองกับพื้นเสียงดังอีกคนแล้วรีบหลับตาแน่นปี๋
ครูฝึกเดินเข้าไปหากดอีกที เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกเพียงเสมือนมีไฟแล่นพ่านไปทั้งตัว ความรู้สึกปวดเมื่อยทำให้เธอกระเด้งตัวลุกทันควันในสภาพที่ดูแข็งแรงดี
“จงใจทุจริต เพิ่มเวลายืนอีกครึ่งชั่วโมง!” เสียงครูฝึกเย็นยะเยือกแทรกเข้ากระดูกทุกคน
ทุกคนตัวสั่นเทาอย่างพร้อมเพรียง เหล่านักศึกษาที่คิดจะเลียนแบบเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรีบล้มเลิกความคิดทันที คอยยืนตัวตรงตามคำสั่ง
ณ เวลานี้พวกเขาเกลียดร่างกายที่สุขภาพดีของตนยิ่งนัก ในเวลาคับขันแบบนี้ทำไมถึงไม่เจ็บป่วยเลยนะ?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหน้ามืดแทบกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว บวกเพิ่งอีกครึ่งชั่วโมงแล้วขาของเธอยังจะมีความรู้สึกอยู่อีกไหม?
ให้ตายสิ ครูฝึกคนนี้ทำไมไม่รู้จักทะนุถนอมผู้หญิงบ้างเลย!
จากนั้นสวีจื่อเซวียนเองก็ ‘เสียสละ’ ล้มลงไปอย่างมีเกียรติ หลังจากผ่านการตรวจสอบของครูฝึกแล้วจึงถูกหามไปอยู่ใต้ร่มเงาอีกคน ไม่นานก็มีผู้ชายสองคนเป็นลมตาม ๆกัน ทำเอาอาสาสมัครระดับสูงเหนื่อยจนหอบเพราะเดินหามไปมา
เหมยเหมยกลับยังยืนนิ่งตระหง่านเหมือนเดิมแม้หมวกจะเปียกชุ่ม ไม่มีฉาฉาคอยปรับอุณหภูมิเธอเองก็เริ่มร้อนแทบทนไม่ไหว ทั้งสองขายิ่งให้ความรู้สึกเหมือนใกล้จะหักแล้ว
เจิ้งเสวี่ยซานเองก็เป็นลมไปอีกคน เนื่องจากเหล่าอาสาสมัครยุ่งเกินไปเลยไม่ทันวิ่งกลับมา ครูฝึกที่กำลังอับจนหนทางตาวาววับรีบชี้ไปที่เหมยเหมยแล้วออกคำสั่งเสียงดัง “เธอพาตัวเพื่อนผู้หญิงคนนี้ไปตรงนั้น”
เหมยเหมยชะงักแล้วตอบรับก่อนพยุงเจิ้งเสวี่ยซานไปอยู่ใต้ร่มไม้
ครูฝึกแอบยิ้มร่าในใจ เขาช่างฉลาดเสียจริง ใต้ต้นไม้ร่มเย็นว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องรีบกลับมาถือโอกาสพักสักหน่อย!
แต่ว่า–
เหมยเหมยวางเจิ้งเสวี่ยซานลงแล้ววิ่งเหยาะกลับมารายงานด้วยเสียงดังให้ครูฝึกที่ยังได้ใจไม่เลิก “รายงานครูฝึก ส่งตัวเรียบร้อยแล้วค่ะ”
ครูฝึกสะดุ้งโหยงพลางมองเหมยเหมยด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “กลับแถว!”
“รับทราบ!”
เหมยเหมยรีบเดินกลับเข้าแถวเดิมแล้วยืนท่าทหารต่อ หลังตั้งตรงเหมือนเด็กหัวดื้อไม่มีผิด
ครูฝึกกลับสบถหยาบอยู่ในใจ ว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ทำไมถึงซื่อสัตย์ขนาดนี้นะ?
เธอแอบอู้หรือโกงกันสักหน่อยจะเป็นไรไป?
นี่เขาให้โอกาสที่ดีขนาดนี้แล้ว!
รองกัปตันเอ๋ย ระดับความยากของภารกิจนี้ไม่ธรรมดาแล้ว!
จะทำอย่างไรดีล่ะ?
………………………..
ตอนที่ 1401 สายตาไม่พอใจ
การเข้าค่ายฝึกทหารเพิ่งผ่านไปได้เพียงสามวันทุกคนก็มีสภาพราวกับตกขุมนรกชั้นสิบแปด แต่ละคนผิวถลอกเป็นชั้น วัน ๆ ดื่มน้ำปริมาณนับไม่ถ้วนแต่กลับไม่ต้องเข้าห้องน้ำ เสื้อผ้าด้านหลังเต็มไปด้วยเกร็ดสีขาว—เกลือสังเคราะห์
ทุกคนในล้วนผิวไหม้เกรียมไม่ว่าจะชายหรือหญิง เหมยเหมยเองก็ผิวคล้ำขึ้นบ้างแต่เพราะเธอมีผิวขาวดุจหิมะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คล้ำขึ้นเล็กน้อยเห็นไม่ชัดเจนนักดูอย่างไรก็ยังขาวมากอยู่ดี ทำให้พวกสีอันน่าต่างพากันอิจฉาเหลือเกิน
สีอันน่าโมโหแทบตาย พกเครื่องสำอางมาเป็นกองแต่ผลสุดท้ายยังลืมครีมกันแดดที่สำคัญที่สุดไป เธอจึงไปขอยืมจากเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอย่างหน้าด้าน ๆ แต่ยายอ้วนนี่กลับบอกว่าตัวหล่อนเองยังไม่พอใช้เลย
เธอผู้น่าสงสารตากแดดมาสามวันจนหน้าลอก แค้นใจเหลือเกิน!
“จ้าวเหมยทำไมเธอถึงไม่ดำขึ้นเลยล่ะ? ขนาดไม่ทาครีมกันแดดด้วยซ้ำ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอิจฉาอย่างหาที่เทียบไม่ได้พลางแทะหมั่นโถวอย่างอ่อนแรง วันนี้ยืนท่าทหารไปมากกว่าปกติครึ่งชั่วโมงจนสองขาของเธอแทบหักจนไร้ความรู้สึกอยากอาหาร โดยเฉพาะหลังจากเห็นก้อนเนื้อติดมันท่ามกลางเส้นบะหมี่ก็ยิ่งพะอืดพะอมจวนอยากอาเจียน
ให้ตายสิหมาที่บ้านเธอยังกินดีกว่านี้เสียอีก!
เหมยเหมยยื่นแขนตัวเองออกมาแล้วยิ้มกล่าว “ไม่ดำขึ้นตรงไหนล่ะ เธอดูสีช่วงบนกับช่วงล่างสีต่างกันชัดเจนเลย”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเหลือบมองช่วงแขนที่สีต่างกันตามที่ว่านั่นอย่างปวดใจ ต่อให้เธอมีค่าสายตาที่ 2.5 ก็ไม่เห็นความแตกต่างอะไรมาก พอเห็นแขนอวบของตัวเองที่ใกล้คล้ำเหมือนสีอันน่าก็ยิ่งปวดใจกว่าเดิม
พอเกิดการเปรียบเทียบแล้วมันช่างน่าโมโหเสียจริง ให้ตายเถอะ!
สวยกว่าเธอขาวกว่าเธอมีความสามารถมากกว่าเธอแล้วยังมีพื้นเพครอบครัวดีกว่าเธอ…ดีกว่าเธอไปเสียทุกอย่าง ชีวิตอย่างจ้าวเหมยมีไว้ทำลายความมั่นใจคนอื่นชัด ๆ!
ฟ้าไม่มีตา ทำไมถึงให้เธอมาอยู่ห้องเดียวกับจ้าวเหมยกันนะ?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเห็นเนื้อติดมันเหล่านี้ก็ยิ่งหงุดหงิดใจจึงโยนตะเกียบทิ้ง “ไม่กินแล้ว นี่ใช่อาหารสำหรับคนหรือเปล่าเนี่ย!”
ยังดีที่เธอพกขนมขบเคี้ยวมาถุงใหญ่ที่ไม่ทานข้าวก็ไม่หิวตาย ทว่า–
“ทานกับข้าวที่เหลือนี้ให้หมดอย่าให้เหลือ ในค่ายห้ามกินทิ้งกินขว้าง!” ประโยคที่เย็นยะเยือกยิ่งกว่าใบมีดดังแว่วมาเรียกให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสะท้านเฮือกหันกลับไปช้า ๆก็เห็นครูฝึกหน้าเย็นชาของตนเลยแอบโอดครวญในใจ
ให้ตายเถอะทำไมครูฝึกต้องมาเพ่งเล็งเธอด้วย?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่าลำพังแขนสู้ต้นขายังไม่ได้ หากปะทะกับครูฝึกตัวต่อตัวมีแต่ตนที่จะเสียเปรียบเลยจำใจต้องนั่งลงด้วยใบหน้าขมขื่น หยิบหมั่นโถวที่ยิ่งกว่ายาพิษมาทานด้วยความคับแค้นใจ
ครูฝึกกระตุกปากยิ้มแล้วมองไปทางเหมยเหมยที่นั่งทานข้าวอย่างเรียบร้อยแวบหนึ่ง ตักเพียงหมั่นโถวหนึ่งลูกกับบะหมี่ผักกาดขาวหนึ่งถ้วยโดยไม่ตักเมนูเนื้อเลยสักนิด พลันใจกระตุกวูบอย่างอดไม่ได้ ว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่กินแย่ขนาดนี้นับว่าเป็นความผิดของเขาฐานละเลยหน้าที่!
“เข้าค่ายฝึกทหารจะเสียแรงมากฉะนั้นควรกินเนื้อและผักอย่างเหมาะสม กินแต่ผักไม่ได้” ครูฝึกเอ่ยเสียงเย็น
เหมยเหมยยังไม่รู้ตัวว่าครูฝึกกำลังหมายถึงตน ฉีฉีเก๋อเป็นคนประสาทสัมผัสว่องไวเรื่องกินอยู่แล้วเลยกวาดตามองโต๊ะอาหารของพวกเธอรอบหนึ่งเลยพบว่าเหมยเหมยตักแต่เมนูผักมาจึงกระทุ้งศอกใส่เธอ พลางพูดเสียงเบา “ครูฝึกว่าเธอว่ากินแต่ผักมากเกินไป!”
“…อา…”
เหมยเหมยถึงเข้าใจถึงจิตวิญญาณของครูฝึกเลยลุกยืนยืดอกตัวตรงตอบกลับ “รายงานครูฝึก เพราะฉันไม่กินเนื้อติดมัน เพื่อไม่ให้เป็นการสิ้นเปลืองเลยไม่ได้ตักเมนูเนื้อมาค่ะ”
เมนูกับข้าวในค่ายทหารไม่ถือว่าแย่นักมีทั้งเนื้อมีทั้งผัก ทั้งบะหมี่และหมั่นโถว บอกตามตรงไม่แย่แล้ว นักศึกษาที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนักต่างพากันทานอย่างเอร็ดอร่อยเพราะที่บ้านพวกเขาอาจไม่ได้ทานกับข้าวดี ๆแบบนี้เสียด้วยซ้ำ!
แต่ปัญหาคือเมนูเนื้อพวกนี้มีแต่เนื้อติดมันขาว ๆ เหมยเหมยแค่เห็นก็อิ่มแล้วไหนเลยจะทานลงได้ จึงตัดสินใจตักแต่เมนูผัก เพื่อไม่ให้กินเหลือแล้วโดนครูฝึกตำหนิ
ครูฝึกพูดเองเออเองในใจ ‘ขอร้องกินเหลือบ้างก็ได้ ต่อให้เขาเห็นก็รับรองได้ว่าจะหลับตาปี๋เลย!’
เหมยเหมยนึกสงสัยเล็กน้อย เมื่อสักครู่เหมือนเธอรู้สึกได้ว่าสายตาของครูฝึกดูไม่พอใจหน่อย ๆ?
หรือว่าเธอดูผิดไป?
……………………………………………………..