ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1404 สิทธิพิเศษ + ตอนที่ 1405 ยอมรับบทลงโทษ
ตอนที่ 1404 สิทธิพิเศษ
การฝึกทหารหลายวันหลังจากนั้นเหมยเหมยยังคงดื้อรั้นไม่เปลี่ยน ไม่เคยปริปากบ่นสักคำทำเอาครูฝึกทั้งดีใจทั้งเสียใจ แต่สิ่งที่เขารู้สึกปลื้มใจมากที่สุดคงไม่พ้นเรื่องที่พ่อครัวคนอ้วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รู้สึกว่าปลายคางของว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่เริ่มมนขึ้นบ้างแล้ว!
พอรับจานจากมือพ่อครัวจ้ำม้ำผู้เมตตาอีกครั้งก็เห็นเนื้อสันในผัดเปรี้ยวหวานที่ถูกกลบด้วยผัดผักกาดดอง เหมยเหมยก็ไม่ตกใจอะไรพลันเริ่มทานเมนูพิเศษนี้เงียบ ๆ
แน่นอนว่าพวกสีอันน่าไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษเช่นนี้ ซึ่งยังคงเป็นหมูตุ๋นน้ำแดงที่เนื้อน้อยมันเยอะเช่นเดิม ต่างบ่นเสียงอุบอิบกันถ้วนหน้า พวกเธอไม่อยากตักเมนูเนื้อมาหรอกแต่พอทานเมนูผักไปหลายมื้อก็รู้สึกกระเพาะโล่งเหมือนมีมือตะกุยอยู่ข้างใน ให้ความรู้สึกทรมานอย่างมากพวกเธอเลยจำต้องตักเนื้อติดมันอีกครั้ง อย่างน้อยแทะเนื้อชโลมกระเพาะลำไส้สักหน่อยก็ยังดี
“เฮ้อ ถ้ากินต่อไปแบบนี้วันหลังฉันเห็นเนื้อหมูจะต้องอ้วกแน่ ๆ!” สีอันน่าบ่นและดวงตาเหลือบมองไปทางเหมยเหมยที่อยู่ข้าง ๆเป็นระยะ
เธอกล้ามั่นใจว่าอาหารที่จ้าวเหมยผู้นี้ทานไม่เหมือนของพวกเธอ ไม่เคยให้เห็นกับข้าวใต้ผักเลยสักครั้ง ทำตัวลึกลับอยู่ได้
อีกอย่างเธอดูออกว่าครูฝึกหน้านิ่งคอยแอบดูแลเหมยเหมยอย่างหลบ ๆซ่อน ๆ
อย่างเช่นทุกครั้งที่มีคนเหนื่อยจนล้มลงกับพื้นครูฝึกจะให้จ้าวเหมยพาไปส่งทุกครั้ง รวมถึงทุกครั้งที่เธออยากเห็นกับข้าวในจานจ้าวเหมยครูฝึกจะก้าวออกมาตำหนิ ครั้งสองครั้งก็ช่างแต่เป็นแบบนี้ทุกครั้งจนเธออดสงสัยไม่ได้
เหอะ เข้าค่ายทหารยังมีสิทธิพิเศษ วางท่าให้ใครดูกัน!
สีอันน่ามองเหมยเหมยที่ยังคงผิวขาวผุดผ่องดังเดิมแวบหนึ่งด้วยความอิจฉาแล้วมองไปยังครูฝึกที่นั่งทานข้าวเพียงลำพังอยู่ไกลออกไปอีกแวบหนึ่ง ยิ่งสงสัยในความสัมพันธ์ของครูฝึกกับจ้าวเหมยกว่าเดิม
หรือว่าครูฝึกหน้านิ่งกับจ้าวเหมยมีความสัมพันธ์อะไรกัน?
แล้วสองคนนี้จงใจทำเป็นไม่รู้จักกัน?
สีอันน่ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ที่ครูฝึกหน้านิ่งจะเป็นแฟนหนุ่มของจ้าวเหมยหรืออาจเป็นคนรัก ฉะนั้นจ้าวเหมยถึงได้มีกับข้าวที่ไม่เหมือนพวกเธอแล้วยังได้รับการดูแลพิเศษจากครูฝึกเสมอ
ต้องเป็นแบบนี้แน่ ๆ!
เหอะ สักวันเธอจะต้องเปิดโปงให้ได้!
ไม่นานการเข้าค่ายก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือนจนทุกคนเริ่มชิน ตอนยืนตรงท่าทหารก็มีคนเป็นลมน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งสร้างความปวดใจแก่ครูฝึกมาก เขาหาข้ออ้างให้ว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ในอนาคตพักผ่อนไม่ได้อีกแล้ว
วันนี้การเดินตบเท้าที่จะมีการทดสอบหลังจบการฝึกในหนึ่งเดือนหลังจากนี้ ฉะนั้นเลยต้องฝึกเดินตบเท้าหลายชั่วโมงทุกวัน
เพียงแต่ครูฝึกยิ่งปวดใจกว่าเดิมเพราะมีนักศึกษาชายในห้องคนหนึ่งที่เดินตบเท้าไม่เป็น ฝึกฝนอยู่เกือบครึ่งเดือนแต่เด็กคนนี้ก็ยังคงเดินแขนขาไม่เข้าจังหวะ ไม่ว่าอย่างไรแขนขานั่นก็ไม่ยอมฟังคำสั่งสักทีจนครูฝึกเริ่มมีโมโห จึงสั่งให้เด็กผู้โชคร้ายคนนี้แยกตัวไปฝึกคนเดียว รอให้แขนขาเข้าจังหวะได้เมื่อไรค่อยกลับเข้าแถว
เด็กผู้โชคร้ายคนนี้หลังฝึกไปหลายวันก็เริ่มได้ผลอยู่บ้าง เดินสิบก้าวมีสองถึงสามก้าวที่แขนขาไปไม่พร้อมกัน แต่ส่วนมากก็ยังผิดอยู่ดีเลยทำให้ดูตลกไม่น้อย
ห้องของพวกเหมยเหมยกำลังฝึกเดินตบเท้าอยู่โดยครูฝึกให้นักศึกษาคนนี้คอยเดินตามอยู่ข้าง ๆ เริ่มแรกยังเดินได้ค่อนข้างดีแต่พอเดิน ๆ ไปชักเริ่มไม่เป็นจังหวะ ทว่าเขาดันไม่รู้ตัวยังคงเดินต่อไปด้วยความตั้งใจ ทำเอาเพื่อน ๆด้านหลังหัวเราะกันแทบบ้า
“โอ๊ย ขำจะตายอยู่แล้ว ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้?” ถังม่านลี่ขำจนปวดท้องไปหมดเลยอดพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งไม่ได้
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเองก็พูดตอบรับประโยคหนึ่งรวมถึงพวกสีอันน่าที่แม้แต่ฉีฉีเก๋อเองก็ร่วมด้วย บรรยากาศดีเหลือเกินเลยอดไม่ไหวทำเอาเพื่อนผู้ชายที่เดินแข้งขาไม่เข้าจังหวะได้ยินเข้าก็หน้าแดงก่ำด้วยความอาย ไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าขึ้นมอง
มีเพียงเหมยเหมยที่รู้สึกเสียดหูราวกับเธอเห็นตัวเองในวัยเด็ก โดนคนอื่นหัวเราะเยาะแบบนี้เหมือนกัน คนที่หัวเราะอาจไม่มีเจตนาร้ายอะไรแต่สำหรับคนที่โดนหัวเราะเยาะแล้วเหมือนเอามีดกรีดที่หัวใจอย่างไม่ต้องสงสัย
“ทุกคนมีเรื่องที่ถนัดไม่เหมือนกัน มีอะไรให้น่าขำเหรอ” เหมยเหมยอดพูดขึ้นไม่ได้
……………………..
ตอนที่ 1405 ยอมรับบทลงโทษ
เพื่อนนักเรียนชายได้ยินคำของเหมยเหมยความอบอุ่นก็พลันแล่นผ่านเข้ามาในใจ จึงไม่ได้รู้สึกแย่มากแล้วขณะเดียวกันก็รู้สึกขอบคุณเหมยเหมยอย่างมาก
ดาวมหาวิทยาลัยคนใหม่ไม่เพียงแต่สวยภายนอก ภายในกลับงดงามยิ่งกว่า!
ถังม่านหัวเราะเสียงดังที่สุดเมื่อได้ยินดังนั้นจึงคิดว่าเหมยเหมยเจาะจงมาที่เธอก็ย่อมรู้สึกสบายใจเป็นธรรมดา เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “จ้าวเหมยเธอจะควบคุมทุกอย่างเลยหรือไง แม้แต่คนอื่นจะหัวเราะก็ต้องสอดเข้ามายุ่งด้วยใช่ไหม? นี่เธอมีอำนาจมากกว่าอธิการบดีอีกนะเนี่ย!”
สีอันน่าเองก็คันปากยุบยิบอยากพูดกระแนะกระแหนจ้าวเหมยอีกสักหน่อย แต่เธอนึกถึงจ้าวเสวียเอ๋อร์ผู้หล่อเหลาแถมยังร่ำรวยอีกด้วยจึงพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไว้
หลายวันที่ผ่านมาเธอลองสงบจิตสงบใจครุ่นคิดดูอีกทีก็รู้สึกว่าจ้าวเหมยต้องกำลังโกหกอยู่แน่ ๆ ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นจะเป็นยาจกได้อย่างไร?
ดูจากลักษณะการแต่งกายรวมถึงบุคลิกภาพเป็นหนุ่มโสดฝังเพชรไม่ผิดแน่ จ้าวเหมยเธอจงใจพูดเช่นนั้นแน่นอน
แม้จะเกลียดเหมยเหมยที่ไม่มีความหวังดีแต่สีอันน่ากลับไม่กล้าล่วงเกินเธอ หากตนไปได้ดีกับจ้าวเสวียเอ๋อร์จริง ๆ ถ้าเช่นนั้นเธอก็ต้องเป็นพี่สะใภ้ของจ้าวเหมยแล้ว ดูจากระดับความห่วงใยที่จ้าวเสวียเอ๋อร์มีต่อจ้าวเหมยก็เห็นได้ชัดว่าจ้าวเสวียเอ๋อร์ใส่ใจลูกพี่ลูกน้องคนนี้มากเพียงไหน!
ฉะนั้นนอกจากเธอจะห้ามทะเลาะกับจ้าวเหมยแล้วยังต้องผูกมิตรไว้ให้ดีด้วย!
สีอันน่าตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วเลยเกิดความคิดที่อยากจะเอาใจเหมยเหมยถึงแสร้งพูดขึ้นว่า “ถังม่านลี่เธอพูดให้น้อย ๆหน่อย ทำไมพูดมากขนาดนี้เนี่ย!”
เหมยเหมยมองสีอันน่าด้วยความแปลกใจแวบหนึ่ง หลายวันก่อนยังคอยจ้องเนื้อเธออยู่วันยังค่ำ ทำไมวันนี้จู่ ๆ ถึงช่วยออกตัวพูดแทนเธอได้ล่ะ?
ทำไมเปลี่ยนท่าทีไม่ซ้ำกันสักวัน?
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเองก็ท่าทีของสีอันน่าด้วยความฉงน ทว่าไม่นานเธอก็เข้าใจทันที เห็นทียังไม่ตายใจจากพี่ชายจ้าวเหมยสินะ!
ซึ่งเธอไม่ยอมปล่อยให้สีอันน่าชิงดีชิงเด่นไปคนเดียวอยู่แล้วเลยตะคอกใส่ถังม่านลี่เช่นกัน “วัน ๆเธอเอาแต่พูดมากอยู่ได้ ไม่พูดจะตายหรือไง?”
ถังม่านลี่อ้าปากพะงาบรู้สึกน้อยใจอย่างถึงที่สุด
ไม่ใช่มีแค่เธอที่หัวเราะสักหน่อย?
ทำไมทุกคนต้องว่าเธอด้วย?
เห็นเธอรังแกข่มเหงได้ง่ายน่ะสิ!
ถังม่านลี่ชักเริ่มมีน้ำโหเลยตะเบ็งเสียงดังกว่าเดิม “เมื่อกี้พวกเธอก็หัวเราะเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน?”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนชะงักไปก่อนครู่หนึ่งก่อนจะรู้สึกเดือดพล่าน โอ้โห ยายเด็กบ้านนอกกล้าโมโหใส่เธอเหรอ?
ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถกเถียงกับถังม่านลี่อยู่หลายประโยคจนลืมตัว เสียงค่อยๆ ดังกลบเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินตบเท้าอยู่ สีหน้าของครูฝึกถมึงทึง นี่ไม่เห็นหัวเขาหรืออย่างไร?
“ตัว—ตรง!”
ครูฝึกคำรามทีหนึ่งด้วยเสียงอันดังทำเอาทุกคนใจเต้นตึกตักเหมือนรัวกลอง ครูฝึกชี้นิ้วไปที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับถังม่านลี่ก่อนตวาดเสียงเย็นชา “พวกเธอ คุยกันเวลาฝึก ลงโทษให้ไปวิ่งรอบสนามสิบรอบ!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหน้ามืดทันที ใบหน้าหงิกงอจนแทบจะเป็นลูกมะระอยู่แล้ว!
ทำไมคนที่โดนทำร้ายมักเป็นเธออยู่เรื่อย?
แม้จะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเหลือเกินแต่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ยอมรับชะตากรรม เตรียมไปวิ่งรอบสนามสิบรอบถือว่าเป็นการลดความอ้วนแล้วกัน!
ถังม่านลี่ไม่อยากจำนนต่อชะตากรรมโดยดีเลยชี้ไปที่เหมยเหมยร้องขึ้น “ครูฝึกคะ คนที่พูดไม่ได้มีแค่หนูกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนสักหน่อย จ้าวเหมยก็พูดเหมือนกัน”
ฉีฉีเก๋อเริ่มร้อนใจเลยแย่งพูดขึ้น “เหมยเหมยก็แค่บอกให้เราหยุดหัวเราะได้แล้ว เราต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดตั้งแต่แรก”
เหมยเหมยกับครูฝึกขมวดคิ้วพร้อมกัน
ครูฝึกลอบคิดในใจ ‘เจ้างั่งนี่มาจากไหน?’
เหมยเหมยมุมปากกระตุก เอาล่ะสิทีนี้ เธออยากแก้ตัวก็แก้ไม่พ้นตัวแล้ว
ถังม่านลี่กลับได้ใจ “ครูฝึกคะ หนูไม่ได้พูดผิดใช่ไหมคะ จ้าวเหมยก็พูดเหมือนกัน ครูฝึกก็ต้องมีความเท่าเทียมกันด้วยสิคะ!”
ครูฝึกลอบสบถด่าอยู่ภายในใจ เท่าเทียมบ้าบออะไรกัน!
อย่างหล่อนหรือจะเทียบกับว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ของเขาได้?
ขณะที่ครูฝึกเตรียมจะพูดแก้ต่างว่าเหมยเหมยช่วยหยุดพฤติกรรมผิด ๆต่างหาก ไม่ใช่แค่จะไม่ลงโทษแต่ยังต้องชมเชยด้วยซ้ำ เหมยเหมยกลับก้าวออกมาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “รายงานครูฝึกค่ะ เมื่อกี้หนูพูดจริง ๆหนูยอมรับโทษค่ะ!”
……………………………