ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1418 คบหากับครูฝึก + ตอนที่ 1419 ตั้งใจเรียนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทุกวัน ๆ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1418 คบหากับครูฝึก + ตอนที่ 1419 ตั้งใจเรียนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทุกวัน ๆ
ตอนที่ 1418 คบหากับครูฝึก
โจวซื่อซินมองไปที่ถังม่านลี่ที่รู้สึกอับอายและโกรธแค้น ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะหายาก แต่ใครให้สาวบ้านนอกคนนี้โง่กันล่ะ!
พูดถึงคนไหนไม่พูด ดันรั้นจะลากจ้าวเหมยเข้ามาเกี่ยวข้องให้ได้?
เจตนาที่จะทำร้ายคุณชายโจวอย่างเขาใช่ไหม!
งั้นจะให้แม่สาวบ้านนอกคนนี้ได้รู้ซึ้งว่าอะไรที่เรียกว่าการรังแกที่แท้จริง!
สีหน้าของถังม่านลี่ดูซีดเซียว ถึงแม้ว่าบ้านเธอจะจนแต่เพราะว่าเธอสวยและตั้งใจเรียน อีกทั้งเธอยังปากหวาน แม้กระทั่งภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านก็ยังรับเธอเป็นลูกบุญธรรม ใคร ๆก็โปรดปรานเธอและยอมเธอบ้าง? ไหนเลยจะเคยได้รับความอับอายขายหน้าแบบนี้มาก่อน?
แถมยังอยู่ต่อหน้าเพื่อนนักเรียนมากมายขนาดนี้!
ถังม่านลี่คิดแค่เพียงว่าอยากจะหาพื้นมุดลงไป แต่เธอรู้สึกเกลียดจ้าวเหมยขึ้นมากกว่าเดิม
เธอมองออกว่าพวกคุณชายเสเพลพวกนี้ไม่ยินดีให้เอ่ยถึงจ้าวเหมย เธอไม่เข้าว่าเกิดอะไรขึ้น ยังคิดไปว่าพวกคุณชายเสเพลพวกนี้ชอบและหลงใหลหน้าตาสวย ๆของจ้าวเหมย ดังนั้นถึงได้รักหยกถนอมบุปผา ไม่เอาคำพูดสกปรกพวกนี้ไปทำให้จ้าวเหมยแปดเปื้อนเป็นมลทิน
นี่ทำให้ถังม่านลี่ยิ่งเกลียดและริษยามากว่าเดิม!
นอกจากพ่อแม่สู้จ้าวเหมยไม่ได้แล้ว อย่างอื่นมีตรงไหนกันที่แย่กว่าจ้าวเหมยงั้นเหรอ?
“พวกแกถูกใจจ้าวเหมยใช่ไหมล่ะ? พวกแกอย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลย จ้าวเหมยคบหากับครูฝึกเฉานานแล้ว เขาจะไปเห็นพวกนายอยู่ในสายตาได้อย่างไรกัน?”
คนที่อยู่ภายใต้ความโกรธ มักจะพูดคำพูดที่ไม่เหมาะสมออกมาอยู่เสมอ ถังม่านลี่ตอนนี้เสียสติไปแล้ว เธอแค่ต้องการหาคนที่จะมาลำบากใจด้วยกันกับตัวเธอเท่านั้น และคนที่เหมาะสมที่สุดคือจ้าวเหมยอย่างไม่ต้องสงสัย
เธออยากจะให้เพื่อนนักเรียนชายทุกคนได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของจ้าวเหมยที่ชอบหว่านเสน่ห์ไปทั่ว!
หน้าของเหมยเหมยบึ้งตึง รู้สึกความจริงแล้วถังม่านลี่คิดเพ้อเจ้อมาก คาดไม่ถึงว่าจะคิดไปถึงขั้นว่าเธอกับครูฝึกจะมีความสัมพันธ์กันได้?
แต่ที่มากยิ่งกว่าก็คือความโมโห ยั่วโมโหเธอครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่าเธอเป็นคนดีนักหรือไง?
โจวซื่อซินและคนอื่น ๆต่างก็ตกตะลึงกับข่าวร้อนนี้กันยกใหญ่ คู่หมั้นของจ้าวเหมยไม่ใช่คุณชายหมิงหรอกเหรอ?
เอาเวลาที่ไหนคบกับครูฝึก?
นี่คืหมายความว่าจ้าวเหมยเหยียบเรือสองแคม?
คนทั้งหมดรวมถึงนักเรียนจากห้องอื่น ๆต่างมองมาที่จ้าวเหมยเป็นตาเดียว ในแววตาต่างตื่นเต้นและกระหายความอยากรู้
ไม่ว่าจะยุคไหน ข่าวเชิงชู้สาวมักจะเป็นอะไรที่ได้รับความสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนสำคัญในข่าวที่เป็นดาวมหาวิทยาลัยกับครูฝึก คิด ๆแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารอฟังอย่างจดจ่อเลยทีเดียว
เหมยเหมยดึงฉีฉีเก๋อที่คิดอยากจะด่าคนเอาไว้ ยืนขึ้นมาแล้วเดินไปทางถังม่านลี่ สีหน้าท่าทางเย็นชามาก หากมีเข็มหล่นลงกลางสนามกีฬาก็คงได้ยิน ทุกคนต่างกลั้นหายใจและถ่างดวงตาเบิกกว้าง
จ้าวเหมยจะทำอะไร?
ถังม่านลี่รู้สึกใจฝ่อขึ้นมา แต่พอเห็นหน้าตางดงามขาวผ่องของเหมยเหมย ก็ยึดหลังตรงขึ้นมา
เธอก็ไม่ได้พูดผิด จะกลัวไปทำไม?
“เธอบอกว่าฉันกับครูฝึกแอบคบหากัน?” เหมยเหมยเตี้ยกว่าถังม่านลี่แต่ครึ่งหัว แต่พลังกลับไม่น้อยหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว
“ใช่!” ถังม่านลี่มีเหตุผลเต็มที่ที่จะพูดได้เต็มปาก
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้? มีหลักฐานพิสูจน์ไหม?” เหมยเหมยถามเสียงเย็น ใบหน้าไร้อารมณ์
ถังม่านลี่นิ่งตะลึงไปก่อน แล้วตะโกนว่า “นี่ยังต้องการมีหลักฐานอีกเหรอ? ครูฝึกตามไปดูแลเธอทุกที่ ทั้งยังทำกับข้าวแยกให้เธอเป็นพิเศษอีก พวกเธอไม่คบหากันแล้วจะเป็นอะไรกันได้ล่ะ? อย่าคิดว่าฉันโง่นะ!”
เหมยเหมยแอบยิ้มเยาะในใจ ไม่ได้โง่จริง ๆ แม้แต่ทำกับข้าวแยกให้ยังมองออก
“ฉันขอถามเธออีกครั้ง ที่เธอพูดเรื่องพวกนี้มีหลักฐานพิสูจน์ไหม? เธอเห็นว่าครูฝึกทำกับข้าวแยกไว้ให้ฉันเป็นพิเศษเหรอ?” เหมยเหมยย้ำถามทีละคำ
ถังม่านลี่มองเห็นท่าทางเย็นชาของเหมยเหมย ก็เหมือนสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง แต่เธอก็ยังรวบรวมความกล้าขึ้นมา ชี้ไปที่สีอันน่าและพูดว่า “สีอันน่าเขาเห็นว่าเนื้อในจานทั้งหมดไม่ติดมัน ไม่เหมือนกับอาหารของพวกเรา”
สีอันน่าตัวสั่น รีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่เคยพูด ถังม่านลี่เธออย่าโทษคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าสิ”
“เห็นอยู่ชัด ๆว่าเธอพูด พวกเธอก็ได้ยินกันหมด ฉันไม่ได้โกหก……” ถังม่านลี่หวังว่าพวกเจิ้งเสวี่ยซานจะลุกขึ้นมาช่วยเธอพูด แต่พวกเจิ้งเสวี่ยซานต่างก็ก้มหัว ทำเหมือนไม่ได้ยิน
เหมยเหมยส่งเสียงยิ้มเยาะ “ดังนั้นถังม่านลี่เธอแค่ได้ยินคนอื่นพูดจาเหลวไหลมา จากนั้นก็จงใจใส่ร้ายป้ายสีฉันอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าพ่อแม่ของเธอไม่เคยสั่งสอนว่าเรื่องที่ไม่ได้เห็นมากับตาอย่าเอาไปพูดซี้ซั้วใช่ไหม? วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอเอง!”
……………………………………………
ตอนที่ 1419 ตั้งใจเรียนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทุกวัน ๆ
ถังม่านลี่ยังฟังไม่เข้าใจว่าเหมยเหมยหมายความว่าอะไร แต่เธอก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว ปิดหน้าครึ่งหนึ่งที่แสบร้อนเอาไว้ มองเหมยเหมยอย่างเชื่อสายตา
“เธอ…ไม่นึกเลยว่าเธอจะตบฉัน…”
ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่เพราะว่าเธอคือลูกสาวบุญธรรมของภรรยาหัวหน้าหมู่บ้าน ดังนั้นถึงแม้ว่าเธอก็ต้องทำงานเหมือนกัน แต่การกินอยู่ที่บ้านก็ดีกว่าพวกพี่สาวน้องสาวเยอะ ตอนเด็กจึงไม่เคยโดนตีสักเท่าไร พอโตแล้วยิ่งไม่มีเข้าไปใหญ่
ไว้หน้ากันบ้างสิ!
จ้าวเหมยตบหน้าเธอต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ ถังม่านลี่ที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองไหนเลยจะรับไหว? ตบกลับไปโดยไม่ต้องคิด จ้าวเหมยขนาดตัวเท่า ๆกับน้องหลินยังไง แค่มือเดียวเธอก็สามารถจัดการได้แล้ว
แต่ทว่า——
มือของถังม่านลี่ยังไม่ทันจะถึงหน้าจ้าวเหมย ส่วนท้องก็ถูกถีบเข้าให้ทีหนึ่ง เจ็บจนหน้ายู่แล้วเอามือกุมท้องงอตัว
ความโกรธในใจของเหมยเหมยยังไม่หาย หนึ่งเดือนแล้วที่ไม่สามารถติดต่อเหยียนหมิงซุ่นได้ คนน่ารังเกียจแต่ละคนเหล่านี้ยังคงก่อกวนเธอไม่เลิก ถึงขนาดประเคนตัวมาให้ระบายถึงที่!
เดิมทีฉีฉีเก๋อยังกังวลเป็นห่วงว่าเหมยเหมยจะเสียเปรียบ แต่พอเห็นเธอซัดถังม่านลี่จนล้มลงอย่างสบาย ๆ ก็วางใจนั่งลงที่เดิม
ดูละคร
“ตอนนี้รู้หรือยังว่าควรพูดจาอย่างไร?” เหมยเหมยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ถังม่านลี่เจ็บจนต้องสูดลมหายใจอย่างไม่ยอมแพ้ พูดอย่างโกรธแค้นว่า “จ้าวเหมยเธอกลัวใช่ไหมล่ะ? ถ้าเธอไม่ได้คบหากับครูฝึกจริง ๆ ทำไมต้องลงไม้ลงมือด้วย? เธอกลัวใช่ไหมล่ะ!”
ความรำคาญใจพุ่งปรี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่น หมดคำพูดกับความโง่ของถังม่านลี่จริง ๆ
ไอคิวแบบนี้ทำไมถึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงได้นะ?
“ถังม่านลี่หัวสมองเธอคงโดนหมาแทะไปหมดแล้วมั้ง? ฉันไม่ใช่พระเจ้านะ ที่มีคนตบฉัน ฉันยังจะหันหน้าอีกข้างให้ตบน่ะ? เธอใส่ร้ายฉันต่อหน้าผู้คนมากมาย ฉันไม่ตบตีเธอสิถึงจะเรียกว่าโง่!”
เหมยเหมยส่งเสียงยิ้มเยาะอย่างเย็นชา อยู่ดี ๆก็ไม่อยากจะลงมือแล้ว คนโง่แบบนี้ไม่คู่ควรให้เธอมาเสียเวลาด้วย
“ถังม่านลี่ ในฐานะเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน คราวนี้ฉันจะไม่เอาความเธอ แต่ถ้าฉันได้ยินเธอหรือคนอื่นพ่นเรื่องไร้สาระอีกล่ะก็ อย่าโทษฉันที่ไม่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้น รอหมายศาลได้เลย!”
เหมยเหมยหันไปมองสีอันน่าอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ถือว่าฉลาด ยุยงถังม่านลี่ผู้หญิงโง่คนนี้ให้ออกหน้า ส่วนตัวเองกลับยุยงอยู่ด้านหลัง
สีอันน่าก้มหัวลงอย่างหวาดผวา เธอคาดไม่ถึงว่าจ้าวเหมยจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ บทจะลงมือก็ลงมือเลย ไม่ประนีประนอมกันเลยสักนิด
เจิ้งเสวี่ยซานตาเป็นประกาย เมื่อครู่เธอพลันนึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้ แต่กลับโดนคำพูดของจ้าวเหมยดับฝันไป ถ้าหากจ้าวเหมยสืบหาได้ว่าคนที่ปล่อยข่าวลือคือเธอ ก็คงจะ…
“ทุกคนสงบสติอารมณ์หน่อย เวลาที่คนเรากำลังโมโห มักจะพูดอะไรที่ไม่เหมาะสม จ้าวเหมยเธอก็อย่าเอาเรื่องหมายศาลมาทำให้ถังม่านลี่ตกใจสิ จะคิดเอาได้ว่าเธอพูดจริงจังเสียอีก!”
เจิ้งเสวี่ยซานนึกขึ้นได้จึงพูดโน้มน้าวอย่างอ่อนหวาน
เหมยเหมยยังคงมีท่าทีเย็นชาเหมือนเดิม พูดเสียงต่ำว่า “ใครบอกว่าฉันล้อเล่น สำหรับคนที่สร้างข่าวลือ ไม่ว่าจะเป็นใครฉันก็ไม่เกรงใจทั้งนั้น รอศาลออกหมายเรียกได้เลย!”
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอีกครั้ง “ความผิดฐานหมิ่นประมาทจะถูกตัดสินจำคุกหลายปี ฉันจำได้ว่าหนึ่งถึงสามปี นี่แหละ แน่นอนว่าเมื่อถูกตัดสินจำคุก มหาวิทยาลัยคงไม่ให้เรียนต่อแน่นอน ใบประกาศนียบัตรก็จะไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นฉันขอแนะนำใครบางคนเสียหน่อยว่า ตั้งใจเรียนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทุกวัน ๆ อย่าดีแต่ทำตัวก่อกวนเป็นสัมภเวสีเช้าจรดเย็น!”
คนที่มีเจตนาร้ายต่างก็หัวใจเต้นเร็ว พวกเธอไม่รู้ว่าที่จ้าวเหมยพูดจริงหรือเท็จ
จะไม่กลัวไว้ก่อนก็ไม่ได้ ถ้าหากว่าเป็นจริงขึ้นมาล่ะ พวกเธอลำบากลำบนแทบตายกว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงได้ สุดท้ายจะกลายเป็นเรื่องตลกไปได้!
ยังจะมีหน้าอะไรกลับบ้านไปเจอหน้าพ่อแม่อีกล่ะ?
……………………………………………