ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1426 กองหนุน + ตอนที่ 1427 ได้ที่หนึ่งมาแล้ว
ตอนที่ 1426 กองหนุน
อันที่จริงโฮ่วเซิ่งหนานเดิมมีชื่อว่าโฮ่วฮุ่ยหลาน ปู่ของเธอตั้งชื่อให้ด้วยตัวเอง มันหมายถึงจิตวิญญาณแห่งความปรารถนา แต่เมื่อคุณหนูใหญ่โฮ่วอายุได้สิบหกปีเธอก็แอบหนีไปเปลี่ยนมันด้วยตัวเอง ทำให้ปู่ของเธอโกรธแทบตายแต่ก็ทำอะไรเธอไม่ได้อยู่ดี
ใครให้หลานสาวที่ชอบแหกกฎคนนี้มีนายใหญ่หนุนหลังกันล่ะ!
นับตั้งแต่นั้นมา คุณปู่โฮ่วก็เพลา ๆอารมณ์กับหลานสาวคนนี้ลงบ้างแล้วเพราะเห็นแก่นายใหญ่ แน่นอนว่าอำนาจฝีมือก็ไม่แย่มาก แต่กลับไม่เคร่งวินัยกับหลานสาวคนนี้เท่าไรนัก และด้วยนิสัยของเขาเองแล้วโฮ่วเซิ่งหนานจึงถูกเลี้ยงดูมาให้กลายเป็นคนทำอะไรตามอำเภอใจ
พูดให้น่าฟังก็คือชอบเสาะหาอิสระ พูดให้ไม่น่าฟังก็คือชอบทำอะไรตามอำเภอใจ!
อย่างไรก็ตามคู่นอนของโฮ่วเซิ่งหนานส่วนใหญ่เป็นพวกคนผิวขาว เธอไม่ชอบผู้ชายในประเทศ รู้สึกว่าผอมเกินไป ขนาดความยาวไม่ค่อยได้ ไม่สามารถทำให้เธอพอใจได้ ดังนั้นชื่อเสียงของเธอในจีนก็นับว่าดีใช้ได้
โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์และนิตยสารในประเทศหลายฉบับ เขียนว่าเธอเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่รักอิสระและพึ่งพาตนเองได้ โฮ่วเซิ่งหนานสามารถกล่าวได้ว่าเป็นไอดอลของผู้หญิงหลายคน รู้สึกว่าคลอดลูกสาวต้องให้ได้อย่างโฮ่วเซิ่งหนาน ไม่งั้นก็ไม่คู่ควรเกิดมาบนโลกใบนี้!
โฮ่วเซิ่งหนานคุยกับเพื่อนผ่านโทรศัพท์ อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร รู้สึกรังเกียจเหยียนหมิงซุ่นตั้งแต่ยังไม่ได้พบหน้ากันด้วยซ้ำ
อ่อนแอชะมัด!
แต่ต่อให้เธอไม่อยากมาที่นี่ก็ต้องมาสักครั้ง โฮ่วเซิ่งหนานไม่สนใจคำพูดของคุณปู่และพ่อได้ แต่คำพูดของคุณอาจำเป็นต้องฟัง อย่ามองว่าการแสดงออกของเธอจะเหมือนไม่สนใจอำนาจของครอบครัวเธอเลย อีกทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างบอกว่าเธอพึ่งพาการทำงานหนักของตัวเอง ออกไปเผชิญโลกกว้างที่ต่างประเทศ
เหอๆ…
คำพูดพวกนี้ก็แค่คำหลอกเด็กเท่านั้นแหละ!
หากว่าเธอไม่ใช่หลานสาวที่นายใหญ่ให้ความสำคัญ ใครหน้าไหนจะรู้จักโฮ่วเซิ่งหนานอย่างเธอเล่า?
เธอจะได้รู้จักพวกผู้ชายที่ทรงอิทธิพลชนชั้นสูงพวกนั้นได้อย่างไร?
ต้องรู้ไว้ก่อนเลยว่า แวดวงเหล่านั้นไม่มีทางเปิดประตูต้อนรับคนยากจนต่ำต้อยชั่วนิจนิรันดร์!
เหยียนหมิงซุ่นมุดตัวออกมาจากหลุมทราย เครื่องบินของประเทศ Y ผ่านไปเมื่อครู่ เขามุดเข้าไปในทรายและหนีการติดตาม หลายวันมานี้การสืบหาของประเทศ Y ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เครื่องบิน รถหุ้มเกราะไม่มีที่สิ้นสุด เกือบจะเจออยู่หลายครั้ง
เขาต้องหาทางหนีให้เร็วที่สุด สีตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง เขาไม่กล้ารับประกันว่าจะถูกศัตรูเจอเข้าหรือไม่!
แต่จะหนีอย่างไรนี่สิเป็นปัญหาใหญ่!
เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่ฉิวฉิวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างกลุ้มใจ เขาพยายามตีฝ่าวงล้อมอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถอยกลางคัน กระสุนของศัตรูแข็งแกร่งเกินไป เขาบุกเดี่ยวโดยไม่มีคนช่วยเหลือคงไม่มีทางสู้ได้
นอกจากจะมีคนมาเป็นกองหนุนให้เขา!
แต่ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน เท่าที่เขารู้ก็คือ หลายวันมานี้ทะเลทรายไม่มีใครอยู่สักคน แม้แต่ปลายเงาก็ยังไม่มีให้เห็น คิด ๆดูแล้วประเทศ Y คงปิดทะเลทรายแล้ว คนของเขาไม่สามารถแฝงตัวเข้ามาได้แม้ว่าพวกเขาอยากจะมาสบทบช่วยก็ตาม
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องคิดหาวิธีออกไปด้วยตัวเอง!
เหยียนหมิงซุ่นอดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อน ปฏิบัติภารกิจมานับไม่ถ้วน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำอะไรไม่ถูก
แต่เขาก็ปลุกจิตวิญญาณขึ้นมาอีกครั้ง เหมยเหมยยังรอเขาอยู่ที่บ้าน เขาต้องกลับบ้าน!
“ฉิวฉิว ฉาฉา พวกเราจะต้องสามารถออกไปได้อย่างแน่นอน” เหยียนหมิงซุ่นตบสองตัวเบาๆ แล้วก็สร้างกำลังใจให้ตัวเองไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ฉิวฉิวกรอกตามองบน ปืนมากมายขนาดนี้ นอกจากว่าเจ้านายจะรู้วิธีขุดโพรง ไม่อย่างนั้นต่อให้บินได้ก็บินออกไปไม่ได้
เพียงแต่เสียดายที่มิติของมันไม่สามารถกักเก็บสิ่งมีชีวิตได้ ไม่อย่างนั้นจะใส่เจ้านายเข้าไป คุณชายฉิวอย่างมันสามารถหลบออกไปได้สบายๆ ไหนเลยจะต้องใช้เปลืองแรงมากขนาดนี้!
เหยียนหมิงซุ่นคิดแผนการตีฝ่าวงล้อมที่รัดกุมมานับไม่ถ้วนแต่ก็โดนเขาปัดทิ้งไปทีละอัน สามวันผ่านไปแล้ว เขาตัดสินใจดันทุรังฝ่าไปข้างหน้า มีแต่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้นแล้วล่ะ!
พอตกกลางดึก เหยียนหมิงซุ่นเตรียมตัวพร้อมแล้วแอบซ่อนอยู่ในความมืดเหมือนเสือชีต้า เตรียมแย่งรถหุ้มเกราะมาให้ได้ก่อน
“กริ้งๆ…”
เสียงกระดิ่งอูฐดังขึ้น ดังชัดเจนเป็นพิเศษในคืนที่เงียบงัน เหยียนหมิงซุ่นหดตัวกลับอย่างกะทันหัน แต่พอเห็นอูฐฝูงใหญ่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ก็อดดีใจไม่ได้
…………………………………………..
ตอนที่ 1427 ได้ที่หนึ่งมาแล้ว
การฝึกทหารของเหมยเหมยกำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ วันสุดท้ายคือวันสวนสนามดังนั้นทุกกลุ่มจะมีการฝึกซ้อมเยอะหน่อย ทุกวันถ้าไม่ใช่ฝึกเดินเท้าของทหารก็จะเป็นการเดินขบวน พื้นยางรองเท้าแทบจะสึกหรอหมดแล้ว
หลังจากถังม่านลี่ซวยเพราะเหมยเหมย นิสัยก็สำรวมขึ้นเยอะ เห็นเหมยเหมยก็อดก้มหัวลงไม่ได้ แม้กระทั่งมองยังไม่กล้ามอง
เจียงจื้อหรู่มาพูดกับเธอเกี่ยวกับการลงโทษของทางมหาวิทยาลัยแล้ว ลงบันทึกความผิดยังพอช่างมันได้ ถึงอย่างไรก็ตามยังมีโอกาสอีกสองครั้ง แต่ที่กระทบหนักที่สุดสำหรับถังม่านลี่ก็คือสิทธิ์ในการรับทุนการศึกษาสองปี เธอได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงมีจำนวนไม่มาก สำหรับเธอแล้วมันคือค่าครองชีพอย่างน้อยหลายเดือน
แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงา ถังม่านลี่ใจจะสลายอยู่แล้ว!
เธอยิ่งไม่รู้ว่าหลังจากวันนี้ควรจะทำอย่างไรต่อไปดี?
ไหนเลยที่บ้านจะมีเงินมากมายขนาดนั้นส่งเธอเรียนเล่า?
ค่าเทอมปีนี้คง…
ใจของถังม่านลี่ตกลงถึงตาตุ่ม ความจริงที่โหดร้ายทำให้เธอนึกถึงปัญหาใหญ่ที่บ้าน แล้วก็จำได้ว่าหลังจากที่เธอมาถึงเมืองหลวง ไม่เคยเขียนจดหมายถึงบ้านเก่าเลย นี่ก็เกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว เกรงว่าจะมีปัญหา
แต่เดิมยังคิดจะแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด ขอเพียงแค่เธอได้รับทุนการศึกษา แล้วค่อยคิดหาวิธีหาเงินเพิ่มเติม ก็น่าจะไม่มีปัญหา
แต่ตอนนี้ทุนการศึกษาก็หมดหวังแล้ว การหาเงินก็เป็นอนาคตที่ไม่แน่นอน ถังม่านลี่ตัดสินใจคงต้องง้อทางบ้านไปก่อน ค่าใช้จ่ายของเทอมหน้ายังหาหนทางไม่ได้เลย!
ถังม่านลี่ยังเอาตัวเองไม่รอด จึงไม่มีความคิดที่จะจัดการกับเหมยเหมย และเธอก็กลัวเช่นกัน
ต่อให้เธอโง่มากแค่ไหนก็ค้นพบแล้วว่าทางโรงเรียนดูแลจ้าวเหมยเป็นอย่างดี ต่อให้เหมยเหมยทุบตีเธอจนเกือบตาย แต่กลับไม่เป็นอะไรสักอย่าง แต่เธอกลับต้องขอโทษต่อหน้าสาธารณชนและยังต้องลงบันทึกความผิดอีก อีกทั้งถูกถอดออกจากทุนการศึกษาอีก
การปฏิบัติที่แตกต่างกันเช่นนี้ทำให้ถังม่านลี่ยิ่งเกลียดจ้าวเหมยเข้าไปใหญ่ แต่เธอก็ตระหนักได้ถึงความต่ำต้อยของตัวเธอเองดีเช่นกัน
รอเธอได้พบกับผู้ชายที่มีความสามารถ ค่อยคิดหาวิธีจัดการกับนังจ้าวเหมยนังแสนอัปลักษณ์นี่!
ไม่เพียงแค่นิสัยทัศนคติของถังม่านลี่เท่านั้นที่เปลี่ยนไป สีอันน่าและเจิ้งเสวี่ยซานก็เหมือนกัน พูดและทำสิ่งต่าง ๆด้วยความระมัดระวัง มีเพียงฉีฉีเก๋อเท่านั้นที่ยังคงเหมือนเดิม นิสัยสบาย ๆ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น
เวลาผ่านไปช้า ๆและในที่สุดก็มาถึงวันสวนสนาม เหมยเหมยและฉีฉีเก๋อโดนครูฝึกเลือกให้เป็นหัวหน้าทีม เดิมทีครูฝึกยังคิดว่าจะเลือกถังม่านลี่และฉีฉีเก๋อ ทั้งสองมีขนาดความสูงพอ ๆกัน อีกทั้งการเคลื่อนไหวก็ได้มาตรฐานเป็นอย่างมาก แต่ใครให้ถังม่านลี่รนหาที่ตายเองล่ะ!
ครูฝึกยอมเลือกนักเรียนชายที่เดินผิดจังหวะนั่นยังจะดีกว่า เลยถือโอกาสเลือกว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ในอนาคตเสียเลย!
เรื่องได้หน้าแน่นอนว่าต้องเป็นคนของตัวเองสิ!
เมื่อก่อนหัวสมองของเขาคงโดนหมาแทะ ถึงได้คิดที่จะเลือกนังโง่อย่างถังม่านลี่นั่น!
การสวนสนามเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ฟังเสียงดนตรีอันยิ่งใหญ่ ในใจของเหมยเหมยก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นทหารที่แสนสง่า การเคลื่อนไหวทุกขั้นตอนไม่กล้าที่จะทำผิดเลยสักนิด ก้าวขาด้วยท่วงท่าทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม
ที่เหมยเหมยไม่รู้ก็คือ ณ ตอนนี้ เธอกลายเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในสายตาของทุกคนแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นผู้นำกองทัพ อีทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัย ทุกคนต่างหันมองเธอกันอย่างพร้อมเพรียง ในตอนแรกเป็นเพราะความงามของเธอถึงทำให้ต้องมองเธออีกสองสามครั้ง แต่ในท้ายที่สุดถึงได้ค้นพบว่านักเรียนใหม่คนนี้ทำได้ดีจริง ๆ ไม่น้อยหน้าไปกว่านายทหารฝึกใหม่เหล่านั้นเลย!
ดังนั้นขบวนของเหมยเหมยจึงได้รับรางวัลที่หนึ่งไปอย่างไม่ต้องสงสัย!
ตอนที่ประธานในพิธีประกาศอันดับ เธอและฉีฉีเก๋อก็กอดกันโห่ร้องดีใจเสียงดังลั่น นักเรียนคนอื่นก็เหมือนกัน เวลานี้ไม่มีใครปัดแข้งปัดขากันอีกเหมือนในยามปกติ แล้วแสดงความจริงใจออกมาจริงๆ
เมื่อการสวนสนามสิ้นสุดลง ครูฝึกหน้านิ่งก็จากไป ไม่แม้กระทั่งบอกลาเหล่านักเรียนด้วยซ้ำ นักเรียนส่วนใหญ่จึงผิดหวังอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าเดือนหนึ่งจะเป็นระยะเวลาที่ไม่นานแต่มันก็ไม่สั้น จากกันก็ยังอาลัยอาวรณ์กันอยู่บ้าง
เหมยเหมยไม่อาลัยอาวรณ์เลยสักนิด เพราะเธอรู้ว่าวันหลังต้องได้เจอครูฝึกหน้านิ่งที่ฟาร์มอีกแน่นอน!
…………………………………………..