ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1480 ที่เธอควรเต้นคือรูดเสา + ตอนที่ 1481 ชนะขาด
ตอนที่ 1480 ที่เธอควรเต้นคือรูดเสา
“การแสดงออกของจ้าวเหมยไม่เลวเลยจริง ๆ พยายามต่อไปเรื่อย ๆนะ!”
ผู้อำนวยกาพูดพลางรยิ้มตาหยีเอามือไพล่หลังแล้วจากไป ส่วนสำหรับโฮ่วเซิ่งหนานเขาไม่ได้แม้แต่จะสนใจ
ไม่สนว่าภูมิหลังจะเป็นเช่นไร ต่อให้จะเป็นหลานสาวของนายใหญ่ เขาไม่กล้าไล่ออก แต่แสดงท่าทีว่าเขาไม่พอใจคงได้แหละ!
อย่างมากก็แค่ไม่ได้เป็นผู้อำนวยการห่วย ๆที่แสนน่ารำคาญนี่
ในใจของโฮ่วเซิ่งหนานสับสนไปหมด ทั้งสองคนนี้ไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลย มีอย่างที่ไหนกัน!
นังเพศยาจ้าวเหมยมีดีกว่าเธอตรงไหน?
ทุกคนตาบอดกันไปหมดแล้วหรือไง!
เหมยเหมยลอบกวาดตามองโฮ่วเซิ่งหนานครู่หนึ่ง ใบหน้าของเธอแทบจะบิดเบี้ยวแม้แต่เครื่องสำอางอย่างกำแพงเมืองก็ไม่สามารถช่วยเธอได้แล้ว
ถ้าจะบอกเหตุผลที่โฮ่วเซิ่งหนานชอบแต่งหน้าหนาก็เพราะเกี่ยวข้องกับใบหน้าของเธอจริง ๆ ก่อนหน้านี้เฮ่อเหลียนชิงก็บอกว่าเธอหน้าแบน จริง ๆแล้วเป็นกันเยอะในสาวแถบเอเชีย โครงหน้าไม่มีมิติเหมือนสาวตะวันตกและดูแบนเล็กน้อย
โฮ่วเซิ่งหนานค่อนข้างแบนไปหน่อยหรือเรียกว่าทรงหน้าแพนเค้กใหญ่ หากเธอล้างเครื่องสำอางออกก็ไม่ต่างจากผู้หญิงหน้าแพนเค้กทั่วไป สาเหตุที่เธอดูเหมือนใบหน้ารูปไข่ในตอนนี้ก็เพราะผลพวงจากการแต่งหน้าของเธอ
ใช้การแต่งหน้าอันหนาเตอะวาดโครงหน้าให้ดูมีมิติเว้นนูน ทักษะการแต่งหน้าของโฮ่วเซิ่งหนานยังคงดีมากไม่เช่นนั้นจะเข้าสู่หนึ่งในรายชื่อความงามระดับโลกหนึ่งร้อยคนได้อย่างไร?
ก็ไม่สามารถไปโทษพวกคนต่างชาติที่ตาบอดได้หรอก!
หลังจากโฮ่วเซิ่งหนานแต่งหน้าหนาเตอะยังคงมีเสน่ห์ความงามอีกแบบหนึ่ง แต่ผู้ชายฮวาเซี่ยส่วนใหญ่ไม่ชื่นชอบความงามแบบนี้ก็เท่านั้น
“โฮ่วเซิ่งหนาน ตอนนี้จะยังบอกว่าฉันไม่รู้จักการเต้นลาตินแดนซ์อีกไหม?” เหมยเหม่ยจ้องโฮ่วเซิ่งหนานและยิ้มกว้างเหมือนกับตอนที่เธอเต้นลาตินบนเวที
เวลานี้นักเรียนที่อยู่ในละแวกนั้นเพิ่งจะเข้าใจว่าดาวมหาวิทยาลัยต้องการจะแข่งกับมิสโฮ่ว ถึงได้เต้นลาตินแดนซ์!
ดูเหมือนว่าคืนนี้ดาวมหาวิทยาลัยที่เป็นคนพื้นที่จะชนะมิสโฮ่วสาวต่างถิ่นขาดลอย!
ใบหน้าของโฮ่วเซิ่งหนานเปลี่ยนไปอย่างมาก หัวเราะเยาะ “ก็ไม่เห็นจะเท่าไร จ้าวเหมยทำไมเธอถึงคิดว่าเธอเต้นได้ดีกว่าฉัน?”
“เพียงเพราะฉันไม่สวมใส่ผ้าขี้ริ้วอย่างเธอ ฉันก็สามารถเอาชนะด้วยเสียงปรบมือของเพื่อน ๆร่วมชั้นอย่างท่วมท้น และฉันก็สามารถเต้นได้ดีกว่าโฮ่วเซิ่งหนานอย่างเธอร้อยเท่า” เหมยเหมยด่าสั่งสอนอย่างไร้ความปราณี
โฮ่วเซิ่งหนานมองไปที่เหมยเหมยอย่างเยาะเย้ยและหัวเราะเยาะ “จ้าวเหมยถ้าเธอไม่เข้าใจก็อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ชุดของฉันเป็นชุดเต้นรำทางการ อย่าดูถูกมัน”
เหมยเหมยหัวเราะแดกดัน “โฮ่วเซิ่งหนาน เธอคิดว่าเธอเป็นคนเดียวในฮวาเซี่ยที่ได้ไปต่างประเทศใช่ไหม? ชุดของเธอเป็นชุดเต้นรำที่เป็นทางการ สวมใส่อย่างนักเต้นระบำก็จริง แต่โฮ่วเซิ่งหนานเธอเต้นผิดประเภทแล้วล่ะ เธอควรจะเต้นรูดเสาถึงจะถูก”
“ฮ่า ๆ…”
อยู่ดี ๆเหล่าศาสตราจารย์ที่โกรธจัดก็หัวเราะร่า ชายชราคนอื่น ๆก็มีใบหน้าแต้มยิ้ม ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คนเหล่านี้ไม่ได้ดูการแสดงบนเวที แต่มารวมตัวกันเพื่อดูพวกเหมยเหมยทะเลาะกัน
มหาวิทยาลัยเมืองหลวงเปรียบเสมือนอายุของศาสตราจารย์ กล่าวได้ว่าแปดถึงเก้าในสิบคนมีประสบการณ์จากการศึกษาในต่างประเทศและคุ้นเคยกับชีวิตในโลกตะวันตกมาก ดังนั้นจึงรู้สึกขัดหูขัดตากับท่าทางหยิ่งยโสของโฮวเซิ่งหนานที่ไปต่างประเทศกลับมา ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจที่เธอถือเอาสิ่งไม่ดีของต่างประเทศกลับมาด้วย แล้วยังทำท่าภาคภูมิใจ
คำพูดของเหมยเหมยถือว่าพูดแทนความในใจของพวกเขา
ผ้าขี้ริ้วของโฮ่วเซิ่งหนาน เป็นชุดที่นักเต้นในผับชอบใส่!
นักเต้นจริง ๆไม่สวมเสื้อผ้าแบบนี้เพื่อดึงดูดความสนใจคนอื่น พวกเขาอาศัยความสามารถที่แท้จริงต่างหาก!
มีนักเรียนบางคนไม่เข้าใจว่าการเต้นรูดเสาคืออะไร คุณชายโจวก็กระตือรือร้นให้ความรู้พื้นฐาน “เหมือนระบำเปลื้องผ้าของคนต่างชาติ เราสามารถเห็นได้ในเมืองหลวง ที่เหล่าสาวงามรัสเซียเต้น ดูแล้วยั่วอารมณ์สุด ๆ…”
พวกคุณชายที่อยู่ข้าง ๆเขาก็หน้าแดงทันที อยู่ดี ๆหัวสมองของพวกเขาก็ปรากฏภาพบนเวทีในตอนที่โฮ่วเซิ่งหนานหมุนตัว…
ทันใดนั้นโพรงจมูกร้อนผ่าว…แล้วเลือดกำเดาไหลออกทั้งสองข้าง!
…………………………………………..
ตอนที่ 1481 ชนะขาด
สายตาของโฮ่วเซิ่งหนานเย็นชามาก จ้องเหมยเหมยราวกับงูพิษ มุมปากกลับกระตุกยิ้มดูผิดปกติ เหยียนหมิงซุ่นกลับรู้สึกระแวงอยู่ในใจ
ยัยบ้านี่ดูท่าจะร้ายลึกกว่าอู่เยวี่ยเยอะเลย เขาต้องส่งคนมาปกป้องเหมยเหมยตลอดเวลาถึงจะดี แต่ว่ามีเซียวเซ่อทางด้านนั้นคอยสอดส่องอยู่แล้ว เรื่องสองวันนี้เหมยเหมยระบายความโกรธไปไม่น้อยแล้ว เขาต้องรีบจัดการถีบนังผู้หญิงโรคจิตคนนี้กลับต่างประเทศไปได้แล้ว
ให้เธอไปสร้างหายนะให้กับคนต่างชาตินู้น!
อย่าอยู่ที่ฮวาเซี่ยให้ขายขี้หน้าเลย!
โฮ่วเซิ่งหนานพูดเสียงเย็นชาว่า “จ้าวเหมยเธอยังไม่เคยไปแม้กระทั่งต่างประเทศด้วยซ้ำ เธอจะรู้จักการเต้นรำแบบตะวันตกได้ไง? มาพูดจาซี้ซั้วอะไรตรงนี้?”
เหมยเหมยยิ้มกว้าง พูดเสียงสดใสว่า “ฉันไม่เคยไปต่างประเทศ แต่เธอไม่เคยได้ยินคำพูดหนึ่งที่ว่าการอ่านหนังสือหมื่นเล่ม คุณก็สามารถเดินทางหลายพันไมล์เหรอ? ฉันเรียนรู้เกี่ยวกับการเต้นรำแบบตะวันตกในหนังสือไม่ได้เหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าฉันจะมีความรู้แค่งู ๆปลา ๆ แต่อาจารย์ของฉันได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าฉันจะได้เรียนรู้มาจากอาจารย์แค่ผิวเผิน แต่การวิพากษ์วิจารณ์ระบำเปลื้องผ้าของเธอก็นับว่ามากพอแล้ว”
“พรูด”
ไม่รู้ใครหลุดออกมา
โฮ่วเซิ่งหนานโมโหจนหันขวับ ต้องการหาคนที่หัวเราะเยาะเธอทีละคน แต่ท่ามกลางคนพลุกพล่านต่อให้เธอจะมีดวงตาที่เฉียบคมก็ไม่สามารถงมเข็มนี้ขึ้นมาได้ ต้องอดกลั้นความโมโหไว้แล้วหันมาจดจ่อรับมือกับจ้าวเหมย
โจวซื่อซินถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็หยิบกล้องออกมาเริ่มบันทึก สงครามน้ำลายของสาวงามสองคนดังในเมืองหลวงถือว่าหายากในรอบศตวรรษ!
เขาต้องถ่ายเอาไปอวดพวกเพื่อนจอมวายร้ายของเขาดู!
“จ้าวเหมยอาจารย์ของเธอคือใคร? พูดออกมาให้ฉันบูชาหน่อยสิ!” โฮ่วเซิ่งหนานพูดเหน็บแนม เธอรู้สึกว่าอย่างมากที่สุดจ้าวเหมยก็ไปเรียนเต้นมาจากห้องเรียนเยาวชนสถานที่อะไรแบบนั้น ไหนเลยจะมีนักเต้นรำมาเป็นอาจารย์ของเธอได้?
ยังมีหน้ามาพูดว่าอาจารย์ของเธอได้ทำการศึกษาการเต้นแบบตะวันตกอย่างลึกซึ้ง?
เชอะ อีกเดี๋ยวจะดูสิว่าจ้าวเหมยจะแถคำพูดนี้อย่างไร?
เธอจะต้องให้นังแพศยานี้หน้าแตกไม่เหลือชิ้นดีเลย!
เหมยเหมยรู้ความคิดของโฮ่วเซิ่งหนานดีจึงจงใจไม่ตอบกลับทันควัน เห็นความลำพองใจบนใบหน้าของโฮ่วเซิ่งหนานมากขึ้นเรื่อย ๆถึงได้พูดว่า “อาจารย์ของฉันก็คือคุณไต้ผิ่นเหลียน”
โฮ่วเซิ่งหนานรับคำโดยไม่รู้ตัว “ไต้ผิ่นเหลียนคืออาจารย์ห้องเรียนเยาวชนที่ไหนกันล่ะ?”
ทันทีที่สิ้นคำพูดลงเธอก็สังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ รีบกลืนคำพูดด้านหลังเข้าไปได้ทันเวลา รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ทำไมรอบกายถึงเงียบขนาดนี้ล่ะ?
อีกทั้งสายตาของจ้าวเหมยทำไมถึงได้แปลกพิกลเช่นนั้นล่ะ?
เธอกำลังลำพองใจอะไรอยู่?
ยังคงเป็นศาสตราจารย์คนก่อนที่เคยโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงคนเดิมถอนหายใจยาว แล้วตะเบ็งเสียงใส่ว่า “ช่างโง่เขลาเสียจริง…ดีแต่เรียนรู้การเต้นสไตล์ตะวันตก แต่กลับไม่รู้จักปรมาจารย์ไต้ผิ่นเหลียนแห่งมาตุภูมิ ผู้หญิงที่แสนโง่เขลา…ถูกแสงสีเสียงต่างประเทศทำให้หลงระเริงไปหมดแล้ว ช่างเป็นความอับอายของประเทศ…”
ผู้อาวุโสท่านนี้น่ารักพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็สามารถดึงเข้าคุณธรรมของประเทศชาติได้ สุดยอดจริง ๆ
โฮ่วเซิ่งหนานตระหนักได้ว่าเธอทำพลาดไปแล้ว ดูเหมือนว่าคนที่ชื่อไต้ผิ่นเหลียนคนนี้จะเป็นคนที่น่าทึ่งมาก?
รู้สึกได้ถึงสายตาดูถูกเหยียดหยามจากทุกคน โฮ่วเซิ่งหนานก็รู้สึกอับอายแต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นไม่แยแส หัวสมองค้นหาชื่อไต้ผิ่นเหลียนในหัวอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เธอความจำดี ในที่สุดก็หาเจอจากซอกหลืบสมอง พลันหัวใจก็ดิ่งวูบ
คาดไม่ถึงว่าจ้าวเหมยจะเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ท่านนั้น?
ไม่น่าล่ะถึงกล้าวิพากษ์วิจารณ์การเต้นของเธอ!
ไม่รอโฮ่วเซิ่งหนานพิจารณาให้เสร็จ เหมยเหมยก็หัวเราะเยาะพูดว่า “อาจารย์ของฉันไม่ใช่ห้องเรียนเยาวชนที่ไหน โฮ่วเซิ่งหนานไม่ใช่ว่าผ่านไปไม่กี่ปีเธอจะลืมฮวาเซี่ยไปจนสิ้นหรอกนะ? สัตว์น่ะขอแค่มีนมก็เรียกว่าแม่แล้ว แต่เธอก็ดีนะขนาดไม่มีนมก็เรียกแม่เสียแล้ว!”
การแบทเทิลในงานเลี้ยง
เหมยเหมยชนะโฮ่วเซิ่งหนานขาดลอย!
เธอไม่ได้มองไปที่ใบหน้าอัปลักษณ์ที่บิดเบี้ยวของโฮ่วเซิ่งหนานอีก หันไปยิ้มหวานให้เหยียนหมิงซุ่น “ฉันเหนื่อยแล้ว กลับบ้านกัน!”
“ได้!”
เหยียนหมิงซุ่นยิ้มน้อย ๆจูงมือสาวน้อยหันหน้าเดินออกไป เขาไม่ได้เหลือบมองโฮ่วเซิ่งหนานมาตั้งแต่ต้นแล้ว
ในโลกของเขาสามารถบรรจุหญิงสาวข้างกายเขาได้เพียงเท่านั้น!
…………………………………………..