ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1488 นึกไปเองว่า + ตอนที่ 1489 ล้มลง
ตอนที่ 1488 นึกไปเองว่า
เหมยเหมยมองรอบ ๆอย่างเย็นชาและเสียงประณามก็หยุดลง แต่ก็ยังมีบางคนแสดงสีหน้าไม่ดีเท่าไร และมองไปยังเหมยเหมยด้วยสีหน้าโกรธเคือง
พอลเป็นอาจารย์ต่างชาติที่หล่อที่สุดในมหาวิทยาลัยเมืองหลวงและเกิดมาในตระกูลสูงส่ง นักศึกษาหญิงเหล่านี้ที่มีใจอยากไปต่างประเทศต่างก็จัดให้เป็นสามีในอุดมคติอันดับหนึ่งของพวกเธอ เพียงแต่พอลรู้สึกเฉย ๆกับนักศึกษาหญิงพวกนี้ พูดง่าย ๆคือไม่ได้อยู่ในสายตาเลย ที่ทำดีกับพวกเธอก็เพียงเพื่อให้ได้หน้าก็เท่านั้น
สิ่งที่ไม่ได้มาคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ นักศึกษาหญิงเหล่านี้ไม่ตำหนิพอลเลยตรงกันข้ามกลับคิดถึงเขาไม่เคยลืม ดังนั้น การที่เหมยเหมยลงมือสั่งสอนพอล พวกเพื่อนผู้หญิงโง่ ๆเหล่านี้จึงออกมาปกป้องพอลกันทุกคน
“คุณพอลฉันเตือนคุณแล้ว แต่เมื่อคุณไม่ฟังฉันก็ต้องลงไม้ลงมือกับคุณ ฉันทำเพื่อปกป้องตัวเองตามกฎหมายในประเทศของฉันอย่างสมบูรณ์ หากคุณไม่ชินก็กลับประเทศคุณไปสิ เชื่อเถอะว่าประเทศเสรีของคุณสามารถให้คุณพอลลวนลามพวกสาว ๆได้ตามต้องการเลย”
เหมยเหมยหยุดยั้งพวกผู้หญิงโง่ ๆเหล่านั้นได้ชะงักแล้วมองไปที่พอลอย่างเย้ยหยัน
หน้าตาเหมือนคนแต่การกระทำเหมือนสุนัข เหมือนสัตว์เดรัจฉานในคราบสุภาพบุรุษ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่ามีเด็กผู้หญิงกี่คนที่ถูกไอ้สารเลวคนนี้ย่ำยีไปบ้างแล้ว
พอลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขายังไม่อยากกลับบ้านหรอก!
อยู่ที่ฮวาเซี่ยได้เป็นเจ้าชายอันสูงส่งของสาว ๆ แต่กลับประเทศแล้วก็เป็นแค่คนธรรมดา อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์เช่าราคาถูกสภาพทรุดโทรม แถมถูกเพื่อนเก่าล้อเลียนเยาะเย้ย เขาคงโง่มากถึงยอมกลับไป!
แม้แต่พ่อแม่และพี่ชายของเขาก็เตรียมมาอยู่ที่ฮวาเซี่ย ที่นี่คือสวรรค์ของพวกเขา!
“คุณหนูจ้าวเข้าใจผิดแล้ว ฉันก็แค่ตกหลุมรักคุณหนูจ้าวตั้งแต่แรกเห็นเท่านั้น เป็นความเสน่หาที่ไม่สามารถควบคุมได้ชั่วขณะ จึงล่วงเกินไปบ้าง…”
ยิ่งพอลพูดมากเท่าไหร่เหมยเหมยก็ยิ่งรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมากเท่านั้น ระหว่างที่เธอกำลังคิดจะฟาดแส้ลงไปอีกสักครั้ง ทันใดนั้นพอลก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงพื้น และเล่นมายากลเสกดอกกุหลาบสีสดใสออกมา ถือดอกไม้ไว้ในมือทั้งสองข้าง ดวงตาฉายแววลึกซึ้ง สาว ๆรอบตัวต่างพากันอิจฉาริษยา
อยากให้คนที่ได้รับดอกไม้เป็นพวกเธอจัง!
“คุณหนูจ้าวเหมย I love you ช่วยรับน้ำใจของผมไว้ด้วย…..” พอลกล่าวอย่างลึกซึ้ง มั่นใจเป็นอย่างมาก
วิธีนี้เป็นไม้ตายของเขา แทบไม่มีสาวฮวาเซี่ยคนไหนรอดพ้นไม้เด็ดนี้ไปได้
“ตอบตกลง…ตอบตกลง…”
นักเรียนที่มุงดูไม่น้อยต่างตื่นเต้น เปล่งเสียงโห่ร้องไปตาม ๆกันและเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนปรารถนาให้ตอนนี้เหมยเหมยและพอลตอบตกลงแต่งงานโดยไม่ผ่านความเห็นผู้ใหญ่เสียอย่างนั้น!
ฉีฉีเก๋อตะโกนอย่างไม่พอใจ “พวกคุณจะตะโกนอะไรกัน? เหมยเหมยมีคู่หมั้นแล้วนะ!”
“เป็นแค่คู่หมั้นเอง ไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย พอลเป็นคนโรแมนติกและมีคารมคมคาย และยังหล่อมากขนาดนี้…” ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกเธอล่ะก็คงตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดเลย
คู่หมั้นเป็นคนในประเทศจะสู้หนุ่มผมบลอนด์สุดหล่อได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นลูกคุณชายตระกูลผู้ดีของประเทศที่พัฒนาแล้ว!
ดูดีกว่าคู่หมั้นธรรมดาไม่มีชื่อเสียงคนนั้นเป็นร้อยเท่า!
พอลเม้มริมฝีปากอย่างพอใจ นัยน์ตาฉายแววความปรารถนาอันแรงกล้าที่ต้องได้มาซึ่งครอบครอง แต่ว่า——
เหมยเหมยฟาดแส้ใส่อีกครั้ง ปัดดอกกุหลาบที่เขาเด็ดขโมยมาจากสวนดอกไม้หลังมหาวิทยาลัยหล่นลงพื้น พูดอย่างเย็นชาว่า “คู่หมั้นของฉันดีกว่าคุณหมื่นเท่า ฉันเตือนคุณไว้เลย อย่ามาโผล่หน้าให้ฉันเห็นอีก ช่างน่าสะอิดสะเอียนเสียจริง!”
เธอคว้าตัวฉีฉีเก๋อและเดินจากไป ระงับอารมณ์โมโหไว้ สองครั้งซ้อนแล้วที่ไม่ได้ให้ฉีฉีเก๋อได้ฝึกทักษะการพูด มันน่าโมโหจริง ๆ!
ฉีฉีเกอกลับถอนหายใจอย่างโล่งอก…รอดได้อีกครั้งแล้ว!
พอลลุกขึ้นยืน ดอกกุหลาบที่ร่วงหล่นบนพื้นตอกย้ำความอับอายของเขา อารมณ์พลันเคร่งขรึม แต่ในสายตาของคนอื่นกลับคิดว่าเขาเศร้าและผิดหวัง อดไม่ได้ที่จะเห็นใจหนุ่มต่างชาติสุดหล่อคนนี้
ฝูงชนทยอยแยกย้ายกันไป พอลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกำลังจะกลับไปที่อพาร์ตเมนต์และคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้ในการเข้าหาจ้าวเหมย ฉับพลันก็สาวสาวสวยหุ่นอวบอั๋นเดินเข้ามาหาเขาอย่างเคอะเขินแล้วทักทายเขาด้วยภาษาอังกฤษว่า “สวัสดี ฉันชื่อถังม่านลี่”
…………………………………………..
ตอนที่ 1489 ล้มลง
เหมยเหมยไม่ได้เล่าเรื่องพอลให้เหยียนหมิงซุ่นฟัง เหยียนหมิงซุ่นยุ่งกับเรื่องต่าง ๆมากพอแล้วจึงไม่อยากเอาเรื่องเล็กน้อยนี้มารบกวนเขา เธอสามารถจัดการได้เอง
บ่ายนี้มีคาบเรียนภาษาอังกฤษอีก โฮ่วเซิ่งหนานอยู่ในชุดทำงานที่ดูมากประลบการณ์ ชั้นเรียนยังคงคึกคักมากเหมือนเดิม แต่โฮ่วเซิ่งหนานกลับมองเหมยเหมยเป็นครั้งคราว แววตาดูครุ่นคิด
ทางด้านของพอลยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยสักนิด เมื่อเร็ว ๆนี้ก็สร้างความสัมพันธ์อันเร่าร้อนกับเด็กนักเรียนบ้านนอกอีกคน แต่ว่าเด็กบ้านนอกคนนี้ก็เอาแต่เล่นตัวไม่ยอมให้พอลลงมืออยู่หลายครั้ง เอาแต่พูดว่าต้องแต่งงานก่อนถึงจะได้
เชอะ พอลจะแต่งงานกับนังเด็กบ้านนอกนั่นได้ไง?
แต่ไหนแต่ไรพวกชนชาติผิวขาวมักดูถูกชาวฮวาเซี่ย ในใจของพวกเขาผู้หญิงฮวาเซี่ยเป็นได้แค่คู่นอนเท่านั้น แม้กระทั่งสถานะทางสังคมอย่างเธอ ครอบครัวเคนยังไม่พอใจเลย นังเด็กบ้านนอกนั้นช่างกล้าเสียจริง!
โฮ่วเซิ่งหนานอารมณ์ไม่ค่อยดี แล้วก็มีใครไม่รู้ไปพูดจาไร้สาระให้คุณลุงฟัง เมื่อวานคุณลุงถึงกับเรียกเธอเข้าพบ เตือนเธอระวังคำพูดและการกระทำในประเทศให้ดี อย่าทำเรื่องอะไรที่ทำให้ครอบครัวอับอาย
ถึงแม้ว่าคุณลุงจะไม่ได้ว่าอะไรมาก แต่โฮ่วเซิ่งหนานก็รู้ว่าคุณลุงพูดเหน็บแนมเธอ ระยะนี้เธอทำอะไรต้องระมัดระวังหน่อยแล้ว หากหาเรื่องทำให้คุณลุงไม่พอใจเอาเธอคงตกที่นั่งลำบาก
อย่างไรก็ตามเธอยังบอกกับคุณลุงของเธอด้วยว่าเธอต้องการแต่งงานกับเหยียนหมิงซุ่น แม้ว่าลุงของฉันจะไม่เห็นด้วยในทันที แต่ดูจากท่าทางเขาน่าจะทำอะไรบ้าง โฮ่วเซิ่งหนานรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับความคิดของคุณลุงของเธอ
เฮ่อเหลียนชิงและหนิงเฉินเซวีนนเป็นสองคนที่น่ากลัวมากที่สุด
คุณลุงไม่เคยควบคุมพวกเขาสองคนนี้ได้เลย ดังนั้นขอเพียงแค่ได้แต่งงานกับเหยียนหมิงซุ่นก็จะสามารถช่วยรวมอำนาจของเฮ่อเหลียนชิงให้กับคุณลุงได้ คุณลุงจะต้องมีความสุขที่จะได้เห็นมันเกิดขึ้น
ขอเพียงคุณลุงกดดันเฮ่อเหลียนชิง คิดๆ แล้วตาแก่หนังเหนียวนี่คงไม่กล้าคัดค้านหรอก
สำหรับเหยียนหมิงซุ่น… เชอะ!
บุตรบุญธรรมมีสิทธิอะไร?
ถ้าไม่ใช่ว่ามีความเซ็กซี่ดึงดูดล่ะก็ โฮ่วเซิ่งหนานอย่างเธอไม่มีทางปรายตามองผู้ชายจากรากหญ้าแบบนั้นด้วยซ้ำ!
โฮ่วเซิ่งหนานคาดเดาความคิดของนายใหญ่ได้อย่างแม่นยำ เขารู้สึกสนใจจริง ๆ ตาแก่เฮ่อเหลียนชิงพูดเข้าหูกว่าใครทั้งนั้นแต่พอให้เขาจัดการมักปัดอ้างไปเรื่อย แน่นอนว่านายใหญ่ไม่พอใจมาก ถ้าได้เกี่ยวดองกับเฮ่อเหลียนชิงก็เป็นวิธีที่ดีที่จะเอาชนะเฮ่อเหลียนชิงได้
รักและทะนุถนอมหลานสาวมาหลายปีแล้ว ยังคงมีประโยชน์อยู่สินะ!
กริ่งเลิกเรียนดังขึ้น โฮ่วเซิ่งหนานกระส้นสูงรีบเดินไปที่ประตู เธอต้องต้องรีบไปหาไฟซาล พอลไม่น่าเชื่อถือเท่าไร เธอควรเข้าหาไฟซาลโดยตรงดีกว่า ผู้ชายคนนี้จิตใจโหดเหี้ยมลงมือเหี้ยมโหด เพียงแค่ความกระหายมีมากไปหน่อย
เรื่องพวกนี้เธอไม่สนใจหรอก ขอเพียงสามารถทำให้นังแพศยาจ้าวเหมยไปถึงตะวันออกกลางได้ ความต้องการความกระหายจะมากแค่ไหนเธอก็รับได้
“ตุบ”
โฮ่วเซิ่งหนานมีเรื่องในใจจึงมองไม่เห็นพื้นต่างระดับล้มลงบนพื้นคอนกรีตอย่างแรง เข่าทั้งสองข้างกระแทกพื้นเจ็บน่าดู ใบหน้าของโฮ่วเซิ่งหนานซีดลง อดไม่ได้ที่จะร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด
มีนักเรียนวิ่งมาช่วยพยุงเธอ โฮ่วเซิ่งหนานไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง ครั้งนี้ล้มแรงมากจริง ๆ และเธอไม่ได้ใส่กางเกง ใส่แค่เพียงถุงน่องไหมชั้นบางซึ่งไม่มีบทบาทในการป้องกันแต่อย่างใด เข่าทั้งสองข้างเลือดสดไหลอาบ เห็นแล้วน่าตกใจมาก
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนประคองโฮ่วเซิ่งหนานไว้เพราะว่าเธออยู่ใกล้ที่สุด เธอเห็นบาดแผลของโฮ่วเซิ่งหนานก็ตกใจยกใหญ่ พูดอย่างกระตือรือร้นว่า “คุณโฮ่ว ฉันจะฉีกถุงน่องให้คุณ ไม่งั้นอีกครู่หนึ่งมันจะติดกับแผลฉีกตอนนั้นจะเจ็บมากค่ะ”
“ขอบคุณนะ!”
โฮ่วเซิ่งหนานอดทนต่อความเจ็บแล้วเอ่ยปากขอบคุณ ยืนไม่ไหวจริง ๆจึงนั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนย่อตัวลง เตรียมพร้อมจะฉีกถุงน่องที่เปื้อนเลือด เธอเป็นคนนิสัยกล้าได้กล้าเสีย มือทั้งสองข้างจับส่วนที่ไม่เปื้อนเลือดและเตรียมตัวฉีก
เหมยเหมยชำเลืองมองแค่แวบเดียวก็ไม่ได้สนใจอีก โฮ่วเซิ่งหนานล้มลงแล้วตายไปเลยสิถึงจะดี แต่เพิ่งเดินไปถึงหน้าประตู ทันใดนั้นก็ตกใจขึ้นมาแล้วหันกลับมาตะโกนว่า “เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหยุด!”
…………………………………………..