ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1500 ฉันจะให้ของขวัญสุดพิเศษ + ตอนที่ 1501 นาฬิกาข้อมือดิสนีย์?
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1500 ฉันจะให้ของขวัญสุดพิเศษ + ตอนที่ 1501 นาฬิกาข้อมือดิสนีย์?
ตอนที่ 1500 ฉันจะให้ของขวัญสุดพิเศษ + ตอนที่ 1501 นาฬิกาข้อมือดิสนีย์?
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1500 ฉันจะให้ของขวัญสุดพิเศษ
เหยียนหมิงซุ่นสะทกสะท้านกับการจู่โจมของเหมยเหมยสักนิด เพียงแต่กลัวจะทำฟันคมซี่เล็กของเธอหัก เขาเลยอุ้มเหมยเหมยขึ้นมาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้แห้งแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เมียพี่จะเป็นถั่วแขกได้อย่างไร? คนที่พูดคำนี้ต้องอิจฉาเธอแน่ ๆ อย่าไปฟังหล่อนพูดจาเหลวไหล!”
เหมยเหมยไม่ได้กล่อมง่ายเหมือนอย่างเคยแต่จับประเด็นนี้ไว้ไม่ยอมปล่อย
“แล้วทำไมพี่ไม่…อันนั้นกับฉัน?”
เหยียนหมิงซุ่นปวดหัวเหลือเกิน นี่อาการป่วยกำเริบหรือไง?
“เรายังไม่ได้แต่งงานทำอย่างนั้นจะเป็นการทำร้ายเธอได้ เราเก็บเรื่องนี้ไว้ตอนแต่งงาน เธอไม่คิดว่ามันจะมีความหมายมากกว่าเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นพูดเกลี้ยกล่อมภรรยาด้วยความฝืนใจ ด่าสองพ่อลูกจ้าวอิงหัวในใจไม่เหลือชิ้นดี
“ไม่เอา พี่ไม่ยอมทำต่างหากถึงเป็นการทำร้ายฉัน…พี่หมิงซุ่น…ฉันไม่เก็บไว้ตอนแต่งงานแล้ว ฉันจะเอาตอนนี้!”
เหมยเหมยที่เป็นเด็กดีเชื่อฟังมาตลอดเริ่มเอาแต่ใจ แต่ถ้อยคำของเธอดันทิ่มแทงหัวใจส่วนลึกของเหยียนหมิงซุ่นเข้าทุกประโยคจนเกิดความรู้สึกร่วม!
แต่มันทำไม่ได้ไง!
เหยียนหมิงซุ่นกัดฟันนึกอยากเกลี้ยกล่อมภรรยาตัวน้อยอีก เหมยเหมยเริ่มน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง
“พี่ไม่ชอบฉัน…โฮ่วเซิ่งหนานยังบอกเลยว่าเพราะฉันไม่มีแรงดึงดูดต่อพี่ พี่ถึงไม่ยอมกินฉัน!”
เหมยเหมยพูดเสียงสะอื้น
เหยียนหมิงซุ่นสีหน้าเคร่งขรึม ที่แท้ก็ผู้หญิงคนนี้นี่เองที่เป็นตัวการเบื้องหลัง!
ไม่ได้สนุกมาหลายวันแล้ว!
ตอนนี้รีบโอ๋ภรรยาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่คราวนี้ไม่ว่าโอ๋เหมยเหมยอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นพูดอะไรก็ไม่ยอมฟังเอาแต่บอกให้เขาใช้การกระทำพิสูจน์!
เมื่อโดนบีบบังคับจนระอาเหยียนหมิงซุ่นเลยจำต้องบอกความจริงไป
“เหมยเหมย…ฉันสัญญากับเธอพ่อไว้แล้วยังเขียนคำสาบานไว้ด้วยว่าหลังเรียนจบถึงจะแต่งงานได้ และห้ามล่วงเกินเธอ เธอไม่อยากให้ฉันกลายเป็นคนผิดคำพูดหรอกใช่ไหม?” เหยียนหมิงซุ่นยิ้มขมขื่น
เหมยเหมยเบิกตากว้างด้วยความตกใจและน้ำตาก็เหือดแห้งทันที
“พ่อฉันบังคับให้พี่เขียนคำสาบานด้วยเหรอ?”
“แล้วก็พี่ชายเธอด้วย!” แอบใส่ร้ายว่าที่พี่ชายภรรยาในอนาคต
เหมยเหมยโกรธจนได้แต่กัดฟันกรอด ที่แท้ตัวต้นเหตุอยู่นี่เอง!
พ่อและพี่ชายที่แสนดีของเธอทำเรื่องบ้าบออะไรอยู่ กลับไปค่อยคิดบัญชีกับพวกเขา!
จ้าวอิงหัวที่กำลังประชุมงานอยู่เมืองจินตัวสะท้านเฮือกกะทันหัน เหลือบมองไปนอกหน้าต่างแวบหนึ่งตามสัญชาตญาณก็พบว่าท้องฟ้าสดใสไร้เมฆ ซึ่งไม่มีแม้แต่นิดเดียวแล้วลมพัดมาจากไหน?
เช่นเดียวกันกับจ้าวเสวียหลินที่กำลังทำภารกิจอยู่แถบชายแดนทางใต้ จู่ ๆก็รู้สึกถึงลมวาบหวิวเหมือนพ่อของเขา เพียงแต่เขาไม่ได้เก็บมาคิดมาก
พอรู้เรื่องลำบากใจที่เหยียนหมิงซุ่นไม่จัดการกินเธอเหมยเหมยก็สบายใจขึ้นมาก แต่เธอก็ไม่พอใจอยู่ดีเพราะโฮ่วเซิ่งหนานไม่รู้นี่นา!
จะให้เธอวิ่งโร่ไปบอกต่อหน้าโฮ่วเซิ่งหนานว่าที่เหยียนหมิงซุ่นไม่ยอมจัดการกินเธอเพราะเขียนคำสาบานไว้งั้นเหรอ?
ไม่ได้เด็ดขาด!
ฉะนั้นแผนการ ‘จับกินอินทรี’ นี้ต้องดำเนินต่อไป!
จะให้โฮ่วเซิ่งหนานดูถูกเธอไม่ได้!
เหมยเหมยหลอกลูกตาไปมาและมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว เธอสวมเสื้อผ้าไปก็ถามไป “พี่เขียนอะไรในนั้นบ้าง?”
เหยียนหมิงซุ่นเห็นว่าเธอไม่เป็นไรแล้วเลยไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำอย่างสบายใจ พลางถอดเสื้อไปตอบกลับไป “ไม่มีอะไร แค่รับปากว่าห้ามกินเธอ!”
เหมยเหมยครุ่นคิดแล้วถามอีก “แค่รับปากว่าพี่จะไม่กินฉันใช่ไหม?”
“ใช่!”
เหยียนหมิงซุ่นไม่คิดอะไรมากแค่ถอดเสื้อผ้ามุดเข้าห้องน้ำก่อนจะปิดประตู
เหมยเหมยได้คำตอบที่ต้องการก็ดวงตาเป็นประกาย เผยยิ้มเจ้าเล่ห์ทีหนึ่งแล้วสวมเสื้อผ้าวิ่งไปถามหน้าประตูห้องอาบน้ำเสียงดัง “พี่หมิงซุ่น วันเกิดเดือนหน้าพี่อยากได้ของขวัญอะไร?”
เสียงสายน้ำแว่วออกมา “ขอแค่ได้จากเหมยเหมยพี่ก็ชอบหมดแหละ!”
“อืม ฉันจะให้ของขวัญสุดพิเศษเลย!”
เหมยเหมยฮัมเพลงราวกับเสียงนกกระจาบฝนเดินไปล้างหน้าแปรงฟันที่ห้องน้ำข้างนอก เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะออกมา ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะราวกับเด็กน้อยเลย!
……………………
ตอนที่ 1501 นาฬิกาข้อมือดิสนีย์?
วันเกิดของเหยียนหมิงซุ่นคือเดือนธันวาคมซึ่งก็คือเดือนถัดไป วันเกิดของฉีฉีเก๋อกลับอีกไม่กี่วันนี้แล้ว
“ฉีฉีเก๋อ นี่ของขวัญวันเกิดจากฉัน วาดได้ไม่ดี เธออย่ารังเกียจนะ” เหมยเหมยหยิบรูปที่เธอวาดเสร็จไว้นานแล้วออกมาจากกระเป๋า
นี่เป็นรูปที่เธอวาดให้ฉีฉีเก๋อ อีกทั้งยังเป็นรูปวาดสีน้ำมันที่เธอไม่ค่อยวาดเท่าไร ระดับฝีมือการวาดสีน้ำมันของเหยียนซินหย่าไม่เลวเหมยเหมยจึงได้เรียนรู้อยู่ระยะหนึ่ง เธอคิดว่าองค์ประกอบทั้งห้าของใบหน้าฉีฉีเก๋อมีสัดส่วนชัดเจน การใช้สีน้ำมันวาดดูเหมาะสมกว่าสักหน่อย
ฉีฉีเก๋อรับรูปวาดมาด้วยความตกใจ รูปนี้น่าจะสักฟุตหนึ่งได้ สีสันสดใสเห็นได้ชัดว่าเพิ่งวาดเสร็จไม่นาน บนรูปเป็นหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนตัวเองไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งนั่นคือตัวเธอเอง
“เหมยเหมย…ขอบคุณนะ นี่เป็นของขวัญล้ำค่าชิ้นที่สองที่ฉันได้รับเลย ฉันจะเก็บมันไว้อย่างดี!”
ฉีฉีเก๋อดีใจอย่างมาก ถือรูปไว้ดูอย่างไรก็ดูไม่เบื่อ
เหมยเหมยที่พะวงใจอยู่นั้นค่อยโล่งอกไปที ยิ้มกล่าว “เธอชอบก็พอ ตอนแรกฉันยังกลัวว่าจะวาดไม่ดี เธอจะไม่ถูกใจเสียอีก!”
“จะวาดไม่ดีได้อย่างไร ถึงฉันไม่รู้เรื่องการวาดแบบตะวันตกแต่ก็คิดว่าดี เหมยเหมยเธอเก่งจริง ๆเลย ไม่ใช่แค่วาดรูปสไตล์จีนเป็นยังวาดแบบตะวันตกได้ด้วย ไหนจะวาดหนังสือการ์ตูนอีก เต้นก็เก่ง…ภาษาอังกฤษก็พูดได้ดี ฉันไม่รู้เลยว่าเธอทำอะไรไม่เป็นอีกบ้าง!”
ฉีฉีเก๋อพูดชมด้วยความจริงใจไม่มีความริษยาแอบแฝงสักนิดเดียว
“ไม่ได้เก่งถึงขนาดที่เธอพูดหรอก ฉันยังมีอีกเยอะเลยที่ทำไม่ได้!” เหมยเหมยฟังแล้วก็หัวเราะแต่แอบได้ใจอยู่หน่อย
ชาติที่แล้วเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเลยโดนคนด่าว่าไร้ประโยชน์ทุกวี่วัน พัฒนาการของเธอในตอนนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าคิดกล้าฝัน ต่อให้เป็นช่วงเวลาที่เพิ่งกลับมาแรก ๆเธอเองยังไม่กล้าคิดเลย ขอแค่สอบผ่านหกสิบคะแนนก็พอ!
หวนนึกถึงตัวเองที่แสนโง่เขลาในอดีต เหมยเหมยก็อดหัวเราะไม่ได้ เรื่องราวบนโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปเสมอ ไม่ผิดเลยจริง ๆ
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับพวกสีอันน่าก็เข้ามาชื่นชมด้วยไม่กี่ประโยค แน่นอนว่ามีเพียงเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่จริงใจ สีอันน่านั้นอิจฉาริษยาจนแทบตายอยู่แล้ว
สวีจื่อเซวียนกับเจิ้งเสวียซานก็ปรายตามองแวบหนึ่งจนนึกอิจฉาริษยายิ่งกว่า ไม่คิดว่าเหมยเหมยจะวาดรูปแบบตะวันตกได้เก่งขนาดนี้ แล้วทำไมต้องเอามายั่วยุพวกเธอที่ชั้นเรียนศิลปะจีนด้วย เอาไปห้องศิลปะสีน้ำมันไม่ดีกว่าหรือ?
ช่วงนี้ถังม่านลี่ศึกษารูปวาดตะวันตกอยู่พอประมาณเพราะได้รับผลกระทบจากใครบางคน เธอแสร้งกวาดตามองรูปวาดของฉีฉีเก๋อไม่กี่ทีก่อนจะจงใจพูดว่า “ถ้าจะให้ฉันพูดก็งั้น ๆแหละ การใช้สี เงา สัดส่วน…ไม่เชี่ยวชาญเลย เทียบกับพอลไม่ได้ด้วยซ้ำ ห่างชั้นกันราวฟันกับดิน!”
เหมยเหมยใจเต้นตึกตัก พอล?
มหาวิทยาลัยปักกิ่งจะมีสักกี่คนที่ชื่อพอล?
ฉีฉีเก๋อผลักถังม่านลี่ออกแล้วเก็บรูปวาดอย่างระมัดระวังพร้อมพูดเสียงตำหนิ “เธอไม่รู้เรื่องศิลปะตะวันตกก็อย่ามาพูดจาอวดเก่ง หลีกไป!”
“ฉันจะไม่รู้ได้ไง พอลเรียนวาดรูปสีน้ำมันมาสิบกว่าปี วาดดีกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า!” ถังม่านลี่จงใจสะบัดมือเพื่อโชว์นาฬิกาดิจิตอลบนข้อมือที่ขาวขึ้นมากของเธอ
เพียงแต่ดูจากงานฝีมือแสนชุ่ยนั้นก็รู้แล้วว่าเป็นสินค้าราคาถูกจากฮ่องกง เมืองหนานผิงมีตลาดขายส่งเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ราคาหนึ่งถึงสองหยวนต่อเส้น อยากได้มากแค่ไหนก็มีมากเท่านั้น ต่อให้มาถึงเมืองหลวงราคาก็ไม่มีทางเกินสิบหยวนได้หรอก
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหลุดขำพลางจงใจกล่าว “แหม…ช่วงนี้รวยเหรอ ใส่นาฬิกาข้อมือดิจิตอลด้วย ใช่ของดิสนีย์หรือเปล่า?”
“ของดิสนีย์นั่นแหละ เธอดูสิตรงนี้มีตัวอักษรย่อว่าดิสนีย์ด้วยนะ พอลบอกว่านี่เป็นแบรนด์ดังระดับโลก ราคาตั้งหลายร้อยแหนะ!” ถังม่านลี่ดูได้ใจเหลือเกิน
ในที่สุดก็เอาคืนได้สักที!
……………………