ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1508 ถังม่านลี่หลาบจำแล้ว + ตอนที่ 1509 อยู่ในความคาดหมาย
ตอนที่ 1508 ถังม่านลี่หลาบจำแล้ว
ทางโฮ่วเซิ่งหนานทำงานว่องไวมากและเธอก็ให้พอลช่วยด้วย พอลกลับไม่ปฏิเสธเลยไปขอความช่วยเหลือจากถังม่านลี่ทันที บอกว่าจะจัดงานปาร์ตี้วันเกิดให้ถังม่านลี่แล้วเชิญเพื่อน ๆในหอพักทั้งหมดมาร่วมงามด้วย
พอลคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องเล็กถังม่านลี่ต้องทำได้แน่ แต่ทว่า–
“ฉันแตกคอกับจ้าวเหมยแล้ว เธอไม่มีทางมาร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดฉันหรอก อีกอย่างงานปาร์ตี้วันเกิดฉันทำไมต้องเชิญเธอมาด้วย รังเกียจจะตายอยู่แล้ว” ถังม่านลี่ปฏิเสธซึ่งอยู่เหนือความคาดหมายของพอล
พอลพูดเกลี้ยกล่อมอีกหลายประโยคแต่ไม่ว่าอย่างไรถังม่านลี่ก็ไม่ยอม งานปาร์ตี้วันเกิดเธอจะแต่งตัวให้สุดไปเลย ลำพังโครงหน้าเดิมของเธอคืนนั้นเธอจะต้องเฉิดฉายยิ่งกว่าเจ้าหญิง เชิญจ้าวเหมยไปดับออร่าเธอหรือ?
เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้น!
พอลเองก็ทำอะไรเธอไม่ได้เลยปล่อยเลยตามเลย อย่างไรเสียนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น เขาอยากทำอย่างอื่นกับสาวงามตรงหน้ามากกว่า
“เพี้ยะ”
ถังม่านลี่ตบมือใหญ่ของพอลที่ซุกซนอยู่บนตัวของเธอพลางพูดเสียงติดกระเง้ากระงอด “ไม่เอาน่า…เค้ายังต้องเรียนหนังสืออยู่นะ…”
“งั้นคืนนี้มาหาฉัน?”
“คืนนี้ตรวจหอ ถ้าถูกจับต้องโดนหักคะแนน ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในช่วงสังเกตพฤติกรรมในมหาลัยนะ…”
ถังม่านพูดพลางมองพอล แต่กลับเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้กับคำว่าสังเกตพฤติกรรมเลยสักนิดเลยใจหายวาบ และอารมณ์ไม่ขุ่นมัวขึ้นมาทันที
“ฉันไปเรียนแล้วนะ!”
ถังม่านลี่เองก็คร้านจะเอาใจพอลที่เริ่มไม่พอใจก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป เหอะ เธอก็ไม่พอใจเหมือนกัน!
ให้นาฬิกาข้อมือปลอมเธอทำให้เธอต้องโดนเพื่อนร่วมหอพักหัวเราะเยาะเย้ย ตอนนี้กลับไม่ช่วยให้เธอรอดพ้นจากการถูกหักคะแนน พอลไม่ได้รักเธออย่างที่ปากพูด เธอจะเสียเปรียบผู้ชายคนนี้อีกไม่ได้แล้ว!
โฮ่วเซิ่งหนานรู้จากพอลว่าทำภารกิจไม่สำเร็จพลันทำหน้าไม่สบอารมณ์ มองพอลด้วยสายตาเย็นยะเยือก
เอาเปรียบเธอแต่กลับไม่ทำงาน เธอเป็นคนดูเอาเปรียบง่ายขนาดนั้นเชียว?
พอลเพิกเฉยกับความโกรธของเธอพลางยักไหล่แล้วยิ้มกล่าว “ก็แค่เรื่องเล็ก ๆเอง เจสสิก้าเธอไม่มีทางไม่พอใจหรอก เธอเป็นผู้หญิงที่ใจกว้างที่สุดในบรรดาองค์กรอัศวินของเราแล้วนะ!”
โฮ่วเซิ่งหนานใจหล่นวูบ พอลเน้นเสียงเข้มตรงคำว่าองค์กรอัศวินซึ่งคิดจะข่มขู่เธออย่างชัดเจน!
ไอ้สารเลว!
รอจัดการจ้าวเหมยเสร็จเธอค่อยมาจัดการไอ้สารเลวนี่!
ตอนเที่ยงเหมยเหมยกับฉีฉีเก๋อเตรียมไปทานข้าวที่หลังมหาวิทยาลัยเพราะกับข้าวที่โรงอาหารเกินจะรับไหวจริง ๆ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตามมาด้วยเป็นปกติ สองวันนี้เธอกับฉีฉีเก๋อใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและอยู่ให้ห่างถังม่านลี่ไกลสามเมตร ที่น่าขำกว่านั้นคือเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังหาผ้าปิดปากอันใหญ่มาสองชิ้นโดยแบ่งให้ฉีฉีเก๋อหนึ่งชิ้น พอสวมแล้วเหมือนกลุ่มก่อการร้ายเสียมากกว่า
“ให้ตายเถอะ…อึดอัดจะตายอยู่แล้ว…จะเป็นแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรเนี่ย!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถอดผ้าปิดปากออกแล้วสูดอากาศนอกสวนดอกไม้ลึก ๆหลายที แม้รู้ว่าไม่ติดต่อทางอากาศแต่เธอไม่กล้าหายใจเข้าลึก ๆในเขตมหาวิทยาลัย แล้วยังแกล้งว่าเป็นหวัดมาสามวันแล้ว!
ฉีฉีเก๋อพยักหน้าเห็นด้วย
เหมยเหมยพูดปลอบพวกเธอ “ใกล้แล้ว อย่างมากอีกสามวัน อดทนไว้หน่อย!”
หลังจากกลับไปวันนั้นเธอก็ปรี่เข้าหาเหยียนหมิงซุ่นแล้วเล่าเรื่องถังม่านลี่ให้ฟัง เหยียนหมิงซุ่นบอกว่าผลตรวจยังไม่ออกแต่ก็อีกไม่นานแล้ว ให้เธอระวังตัวให้มาก
เหมยเหมยนึกขุ่นใจกับระดับการแพทย์ในสมัยนี้เหลือเกิน ตรวจเชื้อ HIV ยังต้องใช้เวลานานขนาดนี้ เสียเวลาชะมัด!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับฉีฉีเก๋อได้ยินว่าอีกแค่สามวันก็ถอนหายใจโล่งอกะ อารมณ์ดีขึ้นฉับพลัน
“มื้อเที่ยงฉันเลี้ยงเอง พวกเธออยากกินอะไรสั่งได้เต็มที่!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดอย่างใจป้ำ
ทั้งสามคนเพิ่งเดินมาถึงประตูหลังมหาวิทยาลัยอิงจวี้กังก็วิ่งกระหืดกระหอบมา หลังจากออกมาจากสวนดอกไม้เขาก็พุ่งมาหาดาวมหาวิทยาลัยและวิ่งผ่านคนมากมายกว่าจะหาพวกเธอเจอ
…………………..
ตอนที่ 1509 อยู่ในความคาดหมาย
“จ้าวเหมย…ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ!” อิงจวี้กังมือปาดเหงื่อหน้าผากทีด้วยสีหน้าร้อนรนอย่างมาก
“เรื่องอะไร?”
เหมยเหมยนึกแปลกใจ อิงจวี้กังอยู่ห้องเดียวกับสีอันน่าที่มีเพียงวิชาร่วมเพียงบางวิชา ปกติเจอกันยังแทบไม่ทักทายกันแล้วอิงจวี้กังมีธุระอะไรกับเธอ?”
อิงจวี้กังกลับไม่พูดอะไรเพียงกวาดมองรอบข้างทีด้วยสีหน้าหวาดระแวง ดูท่าทางลับ ๆล่อ ๆจนเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่แค่เห็นก็โมโหเลยตวาดใส่ “มีอะไรก็รีบพูดมา ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆทำไม?”
“เรื่องสำคัญ ฉันต้องระวังตัวหน่อย…” อิงจวี้กังเห็นรอบข้างไม่มีบุคคลน่าสงสัยเลยวางใจลงเล็กน้อย ก่อนเขยิบเข้าไปใกล้อีกนิดเริ่มเล่าเรื่องที่เขาแอบได้ยินมาจากสวนดอกไม้เมื่อสักครู่เสียงเบา
“ฉันคิดว่ามิสโฮ่วกับเจ้าหนวดนั่นน่าสงสัยมากเลยมาบอกเธอหน่อย ช่วงนี้เธอระวังตัวหน่อยจะดีกว่า อย่าแยกตัวไปไหนคนเดียวนะ!” อิงจวี้กังพูดย้ำแล้วย้ำอีก
“ขอบคุณมาก ฉันจะระมัดระวัง นายกินข้าวมาหรือยัง? ไปกินด้วยกันไหม?”
เหมยเหมยไม่สนใจนักเพราะถือว่าเป็นเรื่องปกติมากที่โฮ่วเซิ่งหนานคิดจะจัดการเธอ เธอไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะมาไม้ไหนในที่มืดหรือที่สว่างก็ตาม แต่เธอก็รู้สึกขอบคุณอิงจวี้กังมาก นี่เป็นคนที่รู้จักตอบแทนบุญคุณ
“ยังไม่ได้กิน…ฉันไปกินที่โรงอาหารก็พอ…ไม่เป็นไร…”
อิงจวี้กังหน้าแดงและทำหน้าขวยเขินน้อย ๆ ไปทานข้าวกับเพื่อนผู้หญิงก็ต้องเป็นฝ่ายชายที่จ่ายค่าอาหาร นี่เป็นวิถีของสุภาพบุรุษที่ศาสตราจารย์อาวุโสเคยบอกไว้ แต่ประเด็นคือเขาไม่มีเงิน!
ไม่ไปทานด้วยจะดีกว่า!
เหมยเหมยรู้ทันความคิดของอิงจวี้กังเลยพูดกลั้วหัวเราะน้อย ๆ “ฉันอยากเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน ในเมื่อนายยังไม่ได้กินข้าวงั้นก็ไปกินด้วยกันกับพวกเราเลย เป็นแค่ร้านอาหารเล็ก ๆนายอย่ารังเกียจก็แล้วกัน”
“ไม่รังเกียจ…เอ่อฉันไปกินโรงอาหารดีกว่า…” อิงจวี้กังโบกมือพัลวัน จะให้ดาวมหาวิทยาลัยเลี้ยงได้อย่างไร!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฟาดมือใส่ทีหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์แล้วตวาดใส่ “อ้ำ ๆอึ้ง ๆเหมือนผู้หญิงอยู่ได้ รีบตามมา!”
อิงจวี้กังหดคอด้วยความตกใจจนไม่กล้าปริเสียงอีก คอยเดินตามหลังอย่างเชื่อฟัง
ฉายาเสือตัวเมียของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนประจำห้องศิลปะจีน เขาไม่กล้ามีเรื่องด้วยหรอก
ฉีฉีเก๋อนึกกังวลอย่างมากเลยเสนอให้เหมยเหมยแจ้งความ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับคัดค้านเป็นคนแรก “ไม่มีหลักฐานอะไรแจ้งความไปก็เปล่าประโยชน์ ตำรวจไม่มาสนใจเรื่องพวกนี้หรอก ฉันว่านะจัดการเองเลยดีกว่า หาคนเอากระสอบทรายครอบหัวเจ้าลิงตัวใหญ่นั่นเสีย!”
พูดถึงตรงนี้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำตาวาววับถูมือไปมาด้วยความตื่นเต้น
ถึงขั้นพูดเสนอตัวว่า “จ้าวเหมยให้ฉันช่วยหาคนให้เธอไหม? แต่ละคนเป็นมืออาชีพลักพาตัวทั้งนั้น รับรองว่าไม่มีใครรู้”
อิงจวี้กังหดคออีกครั้งแล้วคีบเนื้อต้มพริกเสฉวนใส่ปากหนึ่งชิ้นพลางเคี้ยวเหมือนหุ่นยนต์ นี่มันเสือตัวเมียเสียที่ไหน? ทั้งที่เป็นโจรสาวชัด ๆ!
เหมยเหมยยิ้มส่ายหน้า “เรื่องนี้พวกเธอไม่ต้องยุ่งหรอก โฮ่วเซิ่งหนานไม่ใช่คนธรรมดา พวกเธออย่าไปมีเรื่องกับหล่อน ฉันจะจัดการเอง”
ครอบครัวเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นเพียงครอบครัวทำธุรกิจธรรมดาที่ต่อให้โฮ่วเซิ่งหนานจะตกต่ำเพียงใดก็จัดการครอบครัวแบบนี้ได้ง่าย ๆอยู่แล้วโดยแค่เอ่ยปากสั่งเท่านั้น เธอจะทำร้ายเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนได้ยินดังนั้นก็ตกใจจนเหงื่อผุดเต็มตัว ดีที่เธอถามก่อน!
หากเป็นเหมือนเมื่อก่อนที่ชอบลงมือทำก่อนแล้วค่อยขอรางวัล ไม่เท่ากับว่าเธอหาเรื่องให้แม่ตัวเองเข้าแล้วเหรอ? !
ดาวมหาวิทยาลัยเป็นคนสวยที่จิตใจงดงามเสียยิ่งกว่า เพื่อนคนนี้คุ้มค่าที่จะคบ!
ว่าแต่เจ้าลิงตัวใหญ่นั่นเป็นใครมาจากไหนกันแน่?
ไว้วันไหนไปสืบดูดีกว่า
ในร้านอาหารค่อนข้างหรูร้านหนึ่งที่ไม่ไกลจากร้านอาหารที่พวกเหมยเหมยมาทานข้าวนั้นโฮ่วเซิ่งหนานกับเจิ้งเสวี่ยซานเองก็ทานข้าวกันอยู่
………………………………..