ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1536 จ้างนักฆ่าดีไหม + ตอนที่ 1537 ฉันจะกลับไปนอนที่บ้านแล้วนะ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1536 จ้างนักฆ่าดีไหม + ตอนที่ 1537 ฉันจะกลับไปนอนที่บ้านแล้วนะ
ตอนที่ 1536 จ้างนักฆ่าดีไหม
เซี่ยทิงเทาเพิ่งรู้หลังจากที่แต่งงานกันมาหลายปีว่าที่แท้แล้วพ่อตาของเขามีเบื้องลึกเบื้องหลังมากขนาดนี้ แม้จะรู้สึกเสียใจอยู่บ้างแต่เขาไม่ได้หย่าร้างกับภรรยา ในเมื่อแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันมาหลายปีแล้วจะไม่มีความรักได้อย่างไร?
อีกทั้งเขาถูกภรรยาช่วยชีวิตเอาไว้ เขาจะเป็นคนเนรคุณไม่ได้
หนำซ้ำภรรยาของเขานอกจากว่ามีจุดบอดแค่เรื่องคุณพ่อที่เป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดแล้วก็ไม่มีจุดด้อยอื่นให้ได้กล่าวถึงอีก จะว่าไปแล้วเขาเสียด้วยซ้ำที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ
หลายปีมานี้ความทรงจำของเซี่ยทิงเทาค่อย ๆกลับมาทีละนิด การมาเยือนของคุณกู้ทำให้เขาจำเรื่องอดีตได้ทั้งหมด บัดนี้เมื่อเขารับรู้ว่าพวกเจิ้งซื่อหลินสามคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ดีก็ยิ่งเคียดแค้น
แต่คุณกู้ก็พูดไม่ผิด แม้เขากับภรรยาจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของพ่อตา และเขาเองก็ไม่เคยย่างกรายเข้าไปเหยียบดินแดนสามเหลี่ยมทองคำมาก่อนเพราะใช้ชีวิตอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกากับภรรยามาโดยตลอด
แต่เรื่องที่เขาเป็นลูกเขยเจ้าพ่อค้ายากลับเป็นความจริง
สิ่งที่สร้างความลำบากใจแก่เขายิ่งกว่าคือพ่อตาเขาติดบัญชีรายชื่อสิบอันดับบุคคลอันตรายของทางรัฐบาลฮวาเซี่ย สามีของเหยียนซินหย่าเป็นผู้มียศตำแหน่งสูงของราชการ เขากลับไปด้วยสถานะนี้มีแต่จะสร้างมลทินแก่อาจารย์และก่อปัญหาให้น้องเหยียน
“เฮ้อ!”
เซี่ยทิงเทาเอามือกุมหน้าอย่างเจ็บปวด ช่างเกลียดที่ตัวเองไร้ความสามารถเช่นนี้เหลือเกิน
คุณกู้เองก็ระอากับสถานะของหลานชายอย่างมาก เขาสืบมานานแล้วว่าคุณพ่อของหลานสะใภ้เป็นบุคคลอันตรายที่เคยต่อสู้กับทางกองทัพจีนมาก่อน นอกจากนี้เจ้าพ่อค้ายารายนี้ยังมีศัตรูมากมาย ในทุก ๆวันต้องใช้ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายเพราะไม่แน่ว่าวันไหนอาจพลาดท่าตกลงมาตายได้เลย
มิน่าเจ้าพ่อค้ายารายนี้ถึงส่งตัวลูกสาวสุดรักไปพำนักที่ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ให้เธอกลับสามเหลี่ยมทองคำ คิด ๆ แล้วคงเพื่อปกป้องลูกสาวสินะ!
“นายก็ไม่ต้องคิดแล้ว ถือซะว่านายตายกลางมหาสมุทรไปแล้ว นายไม่ใช่เซี่ยทิงเทาอีกแต่เป็นไห่เทียนชื่อ” คุณกู้พูดเสียงเข้ม
เมื่อนั้นเซี่ยทิงเทาจำชื่อตัวเองไม่ได้ ลูกสาวเจ้าพ่อค้ายาจึงตั้งชื่อให้เขาว่าไห่เทียนชื่อและใช้มาเรื่อย ๆจนถึงทุกวันนี้
เซี่ยทิงเทาเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จู่ ๆเขาก็มีแผนผุดขึ้นมาในใจเลยกัดฟันพูดว่า “ฉันออกเงินจ้างนักฆ่าไปฆ่าไอ้สัตว์เดรัจฉานสามตัวนั่นเป็นการแก้แค้นให้อาจารย์ดีไหม”
หากชีวิตนี้แก้แค้นให้อาจารย์กับอาจารย์แม่ไม่ได้แล้วเขาจะมีหน้าใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรเล่า?
ในเมื่อตัวเขาไม่อาจกลับประเทศได้แต่เขาจ้างคนได้ คอยช่วยน้องเหยียนดูแลสอดส่องสำนักเหยียนอย่างลับ ๆ
คุณกู้แค่นหัวเราะ “นายคิดว่าตำรวจในประเทศโง่เหรอ? อีกอย่างตอนนี้พวกเจิ้งซื่อหลินมีเรื่องกับเหยียนซินหย่าเสียใหญ่โต ถ้าจู่ ๆตายไปเหยียนซินหย่าต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด นายอยากให้น้องเหยียนของนายเดือดร้อนสินะ!”
เซี่ยทิงเทาทำหน้าสลดในฉับพลัน คอตกหมดกำลังใจ
คุณกู้โบกมือปัดอย่างระอา “เอาเถอะ ๆฉันยังพอมีเส้นสายในประเทศบ้าง กลับไปจะช่วยน้องเหยียนของนายสักหน่อยแล้วกัน”
“ขอบคุณครับคุณน้า!”
เซี่ยทิงเทารู้สึกขอบคุณอย่างมากแต่ถูกคุณกู้กลอกตาใส่ทีหนึ่ง
“นายอย่าเพิ่งรีบขอบคุณฉัน รีบเปลี่ยนนามสกุลลูกชายทั้งสองคนของนายกลับมาด้วย ตอนนั้นฉันรับปากพ่อนายไว้นะว่าอย่างน้อยนายต้องมีลูกชายสองคน คนหนึ่งต้องสกุลกู้ ตระกูลกู้ของเราต้องมีคนสืบสกุลต่อ!”
คุณกู้ย้ำเตือนอย่างจริงจัง แต่ดีที่หลานสะใภ้เก่งจึงมีลูกชายถึงสามคน เป็นการปลอบประโลมชั้นดีเชียว!
“คุณน้าวางใจได้ ผมจะให้พวกอ้ายเต๋อหัวเคารพต่อบรรพบุรุษแน่นอน”
หญิงมาดดีบุคลิกสง่างามคนหนึ่งเดินเข้า เธอเคารพนับถือคุณกู้อย่างมาก เธอคือลี่ลี่อันภรรยาของเซี่ยทิงเทานั่นเองและเป็นนักออกแบบเพชรพลอยที่ประสบความสำเร็จสูงจนมีแบรนด์เป็นของตัวเอง
นอกจากพื้นเพครอบครัวแล้ว ถือว่าคุณกู้พอใจในตัวหลานสะใภ้คนนี้อย่างมาก แต่มีลูกถึงสามคนจะให้หลานหย่าร้างคงไม่ได้
ลี่ลี่อันมองสามีด้วยความรู้สึกผิดเพราะทุกอย่างเป็นความผิดของเธอจนเป็นเหตุให้สามีกลับประเทศบ้านเกิดไม่ได้ เธอต้องทำอะไรสักอย่าง!
นึกถึงเรื่องที่เพิ่งได้ยินเมื่อสักครู่ ลี่ลี่อันก็กัดฟันและตัดสินใจจะกระทำบางอย่าง!
……………………….
ตอนที่ 1537 ฉันจะกลับไปนอนที่บ้านแล้วนะ
งานนิทรรศการศิลปะสิบวันจบลงด้วยดี เหยียนซินหย่ากับเหมยเหมยต่างถอนหายใจโล่งอก ของสะสมของเหยียนตานชิงที่เหยียนซินหย่าได้ส่งมอบแก่รัฐบาลตามสัญญาช่องโทรทัศน์ก็ได้รายงานข่าวนี้เช่นกัน เหล่าสื่อมวลชนมากมายต่างแย่งกันทำข่าวชมเชยความใจกว้างของเหยียนซินหย่า
ส่วนผลงานอื่น ๆของเหยียนตานชิงยังคงมีการจัดให้เยี่ยมชมอย่างต่อเนื่อง เหยียนซินหย่าได้จัดนิทรรศการไว้ในคฤหาสน์ที่เหมยเหมยซื้อไว้ล่วงหน้าตั้งนานแล้วโดยเหยียนหมิงซุ่นได้สั่งให้คนติดตั้งระบบป้องกันขโมยไว้โดยเฉพาะซึ่งขึ้นชื่อว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดในประเทศ
คฤหาสน์หลังนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดนิทรรศการส่วนตัวของเหยียนตานชิงที่มีการเปิดให้ซื้อบัตรเข้าชม ส่วนรายได้จากการขายบัตรเข้าชมนั้นจะนำมาใช้สำหรับบริหารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทั้งที่ความจริงแล้วนั้นเงินรายได้จากบัตรเข้าชมไม่เพียงพอเลยสักนิด เหมยเหมยเองก็ได้ให้การสนับสนุนเงินส่วนตัวไปไม่น้อย
แต่เพื่อชื่อเสียงของคุณตาและให้เหยียนซินหย่าได้ทำตามใจหวัง เงินพวกนี้ก็คุ้มค่ากับการใช้จ่าย
หลายวันมานี้เหยียนหมิงซุ่นออกจะน้อยใจเล็กน้อยเพราะเหมยเหมยไม่ให้เขายุ่งเรื่องพิพิธภัณฑ์ แค่ให้เขาส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาเฝ้าดูแลพิพิธภัณฑ์เท่านั้น ส่วนเขายังเทียบกับลูกน้องไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะถูกสั่งห้ามไม่ให้แสดงตัวในงานพิพิธภัณฑ์
เพราะเหมยเหมยบอกว่าจะใช้กฎในวงการศิลปะลงโทษพวกเจิ้งซื่อหลิน
หากปล่อยให้เขาจัดการพวกเจิ้งซื่อหลินคงไปกราบขอขมาสองสามีภรรยาเหยียนตานชิงที่นรกภูมิตั้งแต่แปดร้อยปีก่อนแล้ว ยังจะมีชีวิตเสวยสุขมาจนถึงตอนนี้ได้อีกหรือ?
แค่นี้ก็ช่างแต่สิ่งที่เรียกให้เหยียนหมิงซุ่นอัดอั้นตันใจมากที่สุดคือจู่ ๆจ้าวอิงหัวก็กลับมา ขณะเดียวกันยังมีจ้าวเสวียหลินที่เขาสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศอีกคน
สองพ่อลูกคู่นี้ไม่รู้ว่าวางแผนมาล่วงหน้าหรือเปล่า จึงกลับมาบ้านไล่หลังกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดีอย่างกะทันหัน
“พี่ฉันกลับมาแล้วค่ะ คืนนี้ฉันต้องกลับไปค้างที่บ้าน!”
เหมยเหมยดีใจอย่างมากเธอไม่ได้เจอจ้าวเสวียหลินมาเกือบปีแล้ว ก่อนหน้านี้ต่อให้เจอกันก็เวลากระชั้นชิดเพราะจ้าวเสวียหลินมักมีภารกิจคั่งค้างเสมอเลยกลับมาค้างที่บ้านได้ไม่กี่วันแล้วมักถูกเรียกกลับไปกะทันหันทุกที
เหยียนหมิงซุ่นตีหน้านิ่งพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น “พ่อเธอกับพี่ของเธอต้องเหนื่อยจากการเดินทางแน่นอน ให้พวกเขาพักผ่อนก่อนไว้คืนนี้เราค่อยกลับไป”
พรุ่งนี้ต่อให้เขาต้องคิดหาวิธีอื่นก็ต้องส่งตัวขัดขาสองคนนี้ออกไปให้ได้!
เหมยเหมยคิดๆ แล้วก็เห็นด้วยจึงไม่ค้านอะไร แต่ทว่า–
“กริ๊ง”
โทรศัพท์แผดเสียงดังกะทันหันเหมือนกำลังเร่งเร้า
จ้าวอิงหัวเป็นคนโทรมา
“เหมยเหมย ทำไมลูกยังไม่กลับบ้าน พ่อเอาของขวัญจากต่างประเทศมาฝากด้วยนะ พี่ชายของลูกก็มีของขวัญมาฝากเหมือนกัน” จ้าวอิงหัวหัวเราะเสียงดังลั่นจนเกิดเสียงอื้ออึงในหูโทรศัพท์
เหยียนหมิงซุ่น “…”
ต้องจงใจอย่างแน่นอน!
เหมยเหมยวางสายแล้วเหลือบมองเหยียนหมิงซุ่นที่ทำหน้าถมึงทึงก็ลอบขำคนเดียว
แม้เธอจะไม่อยากย้ายกลับบ้าน แต่ในเมื่อคุณพ่อสั่งเธอก็ต้องกลับบ้านแต่โดยดีล่ะ!
อีกอย่างเธอก็อยากสั่งสอนใครบางคนสักหน่อย ใครให้เธอเป็นคนใจแคบกันล่ะ!
“พี่หมิงซุ่น…พ่อฉันรออยู่ล่ะ…” เหมยเหมยพูดเตือนใครบางคนที่เริ่มเคลื่อนตัวช้าลงเพราะคลำหากุญแจรถจนเสียเวลาไปพักใหญ่ ทั้งที่ปกติเป็นคนมีระเบียบมากที่สุด
เหยียนหมิงซุ่นกัดฟันและไม่พอใจเหมยเหมยที่ดีใจออกนอกหน้า “เหมยเหมยดีใจที่ได้ห่างกับพี่เหรอ?”
“เปล่านี่…ฉันก็ไม่อยากเหมือนกัน…” ดวงตากลมโตของเหมยเหมยกระพริบปริบ ๆอย่างใสซื่อ “แต่ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับพี่เลย…ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านสิ!”
ฉันเสนอตัวขนาดนั้นแล้วใครให้พี่ไม่ยอมรับไว้กันล่ะ?
ดูถูกเสี่ยวหลงเปาของเธอหรือไง?
หึ!
เหยียนหมิงซุ่นกัดฟันอีกครั้งเหมือนมีบางอย่างทิ่มแทงใจ
สาวงามอยู่ในอ้อมแขนแต่ดันกลืนกินไม่ได้ บนโลกนี้มีใครที่อยู่ยากกว่าเขาอีก?
หางตาเหลือบเห็นสายตาได้ใจของเหมยเหมย เหยียนหมิงซุ่นก็อดขำไม่ได้นับวันก็ยิ่งขี้งอนขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านไปตั้งนานแล้วยายคนนี้ยังแค้นฝังใจอยู่เชียว!
“ไปเถอะ พี่ส่งเธอกลับบ้าน ค้างที่บ้านหลาย ๆวันเลยนะ!” เหยียนหมิงซุ่นสลัดความขุ่นมัวก่อนหน้านี้ไปแล้วมองด้วยแววตาเปื้อนยิ้ม
เหมยเหมยมองเขาด้วยความสงสัยหลายที เมื่อกี้ยังมีเมฆฝนปกคลุมอยู่เลยตอนนี้พระอาทิตย์กลับส่องแสงเสียแล้ว?
หรือว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้อาลัยอาวรณ์เธอเลยสักนิด?
……………………