ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1538 แม่ยายเห็นลูกเขย ยิ่งเห็นยิ่งชอบ + ตอนที่ 1539 เอาทุเรียนให้
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1538 แม่ยายเห็นลูกเขย ยิ่งเห็นยิ่งชอบ + ตอนที่ 1539 เอาทุเรียนให้
ตอนที่ 1538 แม่ยายเห็นลูกเขย ยิ่งเห็นยิ่งชอบ
จู่ๆ เหมยเหมยก็ไม่พอใจขึ้นมาปากกระจับยู่เข้าหากันเล็กน้อย ตวัดตามองไปทางเหยียนหมิงซุ่นที่แววตายังเปื้อนยิ้มอยู่ไร้ความอาลัยอาวรณ์ใด ๆ
ความรู้สึกน้อยใจเริ่มก่อตัวขึ้นมาในใจและกระจัดกระจายไปในอากาศ
“พี่อยากให้ฉันกลับไปมากเลยใช่ไหม?” เหมยเหมยถามด้วยความน้อยใจ ซึ่งไม่ทันสังเกตว่าอำนาจตกไปอยู่ที่เหยียนหมิงซุ่นอีกแล้ว
เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มแสร้งทำเป็นพูดอย่างใจกว้าง “พ่อเธอกับพี่ของเธอนาน ๆจะกลับมาที เหมยเหมยก็ต้องกลับไปอยู่กับพวกเขานานหน่อย”
เหมยเหมยมองเขาอีกหลายที แต่ก็ไม่เห็นท่าทีอาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อยเลยอดแค่นเสียงไม่ได้ หันขวับไปอีกฝั่งด้วยความโกรธ
เหยียนหมิงซุ่นเห็นแล้วก็ขำ สมแล้วที่ไม่ควรใช้เหตุผลกับผู้หญิง
เขาบีบปากที่เบะบึ้งตึงของหญิงสาวทีหนึ่งแล้วพูดเชิงหยอกว่า “ยิ่งโตยิ่งใจน้อยนะเรา ฉันอยากให้เธอเปลี่ยนสถานะเป็นคุณนายเหยียนเสียตอนนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ใครให้พ่อเธอกับพี่ของเธอวางกับดักฉันล่ะ”
เหมยเหมยถึงนึกเรื่องนี้ขึ้นได้เลยเริ่มโทษตัวเอง
เธอเองที่เป็นฝ่ายงี่เง่าทั้งที่เป็นความผิดของคุณพ่อกับพี่ชายทั้งนั้น พวกเขาชอบยุ่งไม่เข้าเรื่องจริง ๆ!
เหมยเหมยกลอกตาทีหนึ่ง สัญญาที่มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเธอคงเปลี่ยนมันไม่ได้ แต่ยังพอมีช่องโหว่อยู่บ้าง ไม่ต้องรีบ เล่นตัวสักพักก่อนค่อยว่ากันทีหลัง
จ้าวอิงหัวกลับมาเห็นที่บ้านเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาก็รู้ทันทีว่าลูกสาวตนไม่พักที่บ้านพลันก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที
หน็อยแน่ไอ้ตัวดี ต่อหน้ารับปากดิบดีแต่ลับหลังกลับเล่นตุกติก
“ทำไมคุณไม่ดูแลเหมยเหมยให้ดี?” จ้าวอิงหัวไม่พอใจเพราะตอนนี้ลูกสาวไม่เหมือนวัยเด็กอีกแล้ว เขาไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าหมอนั่นจะอดทนไหว
หากใช้ตัวเองเป็นเกณฑ์ตัดสินจ้าวอิงหัวคิดว่าลูกสาวตนต้องเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วแน่ ๆ ซึ่งทำให้เขาบันดาลโทสะหน้าดำบึ้งตึงเป็นก้อนถ่าน!
เหยียนซินหย่ากลับรู้สึกว่าเขาคิดมากเกินไป “เหมยเหมยโตขนาดนี้แล้วเธอรู้ขอบเขตตัวเองดี ทำไมต้องคอยจับตาดูทุกวัน?”
“คุณ…คุณนี่มัน…ชายหญิงอยู่กันสองต่อสอง คุณลองคิดดู…” จ้าวอิงหัวหายใจหอบหนัก หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่พูดแบบนี้เขาคงด่ากราดกลับไปจนอีกฝ่ายหาทางกลับบ้านไม่ถูกแล้ว
แต่นี่เป็นภรรยาของตน แล้วเขาจะทำอย่างไรได้เล่า?
เหยียนซินหย่ากลับไม่ใส่ใจพลางตอบกลับด้วยท่าทีเฉยเมย “คุณนี่คิดไม่ได้สักที เหมยเหมยกับหมิงซุ่นก็ขาดแค่ทะเบียนสมรสใบเดียว สองสามีภรรยาอยู่ด้วยกันดีจะตาย ฉันว่าพวกเขาในตอนนี้ก็มีความสุขดี จะไปยุ่งอะไรมากมายเล่า?”
จ้าวอิงหัวหน้างอเป็นตูด…
ทำใจฟาดไม่ลงจริง ๆ!
เหยียนซินหย่าฉุกนึกขึ้นได้ก็ปรบมืออย่างตื่นเต้นก่อนกล่าว “เหมยเหมยของเราอายุสิบเก้าแล้วนี่นา อีกปีเดียวก็บรรลุนิติภาวะแล้ว ฉันต้องไปเตรียมเงินสินเดิมให้เหมยเหมย ทำไมคุณไม่เตือนฉัน ไม่รู้ว่าเวลาปีเดียวจะพอหรือเปล่า?”
สองพ่อลูกจ้าวอิงหัวชักสังหรณ์ใจไม่ดีเลยถามเสียงเบาหวิว “เวลาหนึ่งปีไม่พออะไร?”
“แต่งงานไง!”
เหยียนซินหย่าตวัดตาใส่สามีกับลูกชายแวบหนึ่งเหมือนมองคนโง่ สมองโดนหมาแทะไปแล้วหรือไงกัน!
“แต่งงานอะไร? ฉันไม่อนุญาต!” จ้าวอิงหัวเด้งตัวสูงสามคืบ หัวใจเหมือนโดนมีดกรีดทำเอาเขาเจ็บเจียนตาย
ลูกสาวสุดรักที่กว่าเขาจะได้กลับคืนมา อย่างน้อยต้องรั้งไว้สามสิบปีถึงจะยอมให้แต่งงาน
ไม่สิ ทางที่ดีไม่ต้องแต่งตลอดชีวิตเลยยิ่งดี!
เหยียนซินหย่าตวัดฝ่ามือใส่แล้วพูดเสียงดุ “คุณลองไม่อนุญาตดูสิ ลูกเขยคนนี้ฉันเอาไว้แน่ คุณไปหาลูกเขยแสนดีแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก?”
“ไปหาตามท้องตลาดมีถมเถไป!” จ้าวอิงหัวพึมพำกับสิ่งที่ตรงข้ามกับความคิดเลยเสียงอ่อนลงไม่น้อย
หลายปีมานี้ภรรยาเขาโหดขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่กล้าขัดขืน!
“ฉันเตือนไว้เลยนะ เดี๋ยวตอนกินข้าวทำตัวให้ดี ๆหน่อย อย่าทำหน้าเหมือนศพให้เห็น!”
เหยียนซินหย่าวุ่นอยู่ในครัวพักหนึ่งก็ถือมีดออกมาหันด้านคมวาววับใส่ ทำเอาสองพ่อลูกจ้าวอิงหัวเสียวสันคอวาบ ยังจะกล้าพูดขัดเสียที่ไหน?
“พ่อ แม่ พี่ หนูกลับมาแล้วค่ะ!” เสียงสดใสของเหมยเหมยดังขึ้น
…………………….
ตอนที่ 1539 เอาทุเรียนให้
มีเหยียนซินหย่าคอยกันท่าไว้อยู่บรรยากาศช่วงมื้ออาหารเย็นเลยยังดำเนินไปอย่างกลมเกลียวกันดี เหยียนซินหย่าคอยตักกับข้าวให้เหยียนหมิงซุ่นเรื่อย ๆ เพราะกับว่าที่ลูกเขยคนนี้เธอยิ่งเห็นก็ยิ่งพอใจ หน้าตาดีแล้วยังมากความสามารถ ที่สำคัญยังปฏิบัติต่อลูกสาวเธออย่างดีมาตลอด
ลูกเขยแสนดีขนาดนี้หายากนี่นา!
“หมิงซุ่น ปีนี้เธออายุยี่สิบสี่แล้วสินะ?” เหยียนซินหย่าถามด้วยความห่วงใย
“ครับ เดือนหน้าก็ยี่สิบสี่ปีเต็มแล้ว”
เหยียนหมิงซุ่นตอบกลับอย่างนอบน้อมแต่กลับคิดวางแผนในใจไม่หยุด เรื่องสัญญาลายลักษณ์อักษรนั่นความจริงก็ใช่ว่าจะยกเลิกไม่ได้สักหน่อย!
ต้องวางแผนดี ๆ!
“ยี่สิบสี่ปีก็ไม่น้อยแล้วนะ เหมยเหมยเองพริบตาเดียวก็ใกล้ยี่สิบแล้ว พวกเธอจะชักช้าต่อไปแบบนี้ไม่ได้ เธอได้วางแผนอะไรไว้บ้างไหม?” ในที่สุดเหยียนซินหย่าก็โยงเข้าเรื่องสำคัญสักที
เธอคิดง่ายมาก สิ่งที่สามีเป็นห่วงก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเหยียนหมิงซุ่นอยู่ในวัยหนุ่มเลือดร้อนเห็นสาวงามสุดเย้ายวนอยู่ทุกวันจะทนไปได้สักกี่น้ำ?
หากต้องรอให้พวกเขาพลาดท้องขึ้นมาสู้ให้รีบแต่งกันไปเลยจะดีกว่า!
อย่างไรเสียเธอเชื่อในตัวเหยียนหมิงซุ่นว่าถ้าแต่งงานไปแล้วต้องดีกับลูกสาวเธออย่างแน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดถ้าแต่งงานไปก็มีลูกน้อยได้ เธอเคยวาดฝันถึงลูกน้อยของเหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งลูกชายและลูกสาวจนถึงขั้นเคยจิตนาการอุ้มแฝดสองแฝดสามแฝดสี่ด้วยซ้ำ แค่พอคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกสาวตนเลยไม่กล้าคิดลึกไปมากกว่านั้น
“แค่ก แค่ก แค่ก…”
จ้าวอิงหัวกับจ้าวเสวียหลินไอขึ้นมาพร้อมกันจนหน้าแดงคอแดงเป็นการขัดภาพจิตนการของเหยียนซินหย่า
แต่งงาน?
ฝันไปเถอะ!
เหยียนหมิงซุ่นลอบขำคนเดียวพลางเหลือบมองสองพ่อลูกคู่นี้ด้วยสายตานิ่ง ๆแวบหนึ่งแล้วหันไปมองเหยียนซินหย่าก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงใจ “เดิมทีผมกะจะรอให้เหมยเหมยอายุครบยี่สิบปีค่อยแต่งงาน…”
เหยียนซินหย่ายิ้มอย่างพึงพอใจ วางแผนไว้ก็ดีแล้ว
“แต่ว่า…” เหยียนหมิงซุ่นโพล่งขึ้นทำเอารอยยิ้มบนใบหน้าเหยียนซินหย่าหายวับไปในพริบตา สีหน้าเริ่มไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร
หรือว่าเธอมองเหยียนหมิงซุ่นผิดไป?
จ้าวอิงหัวมีพิรุธสุดขีด หากให้ภรรยารู้เรื่องสัญญาลายลักษณ์อักษรนั่น จะทำโทษเขาให้นอนพื้นหรือเปล่านะ?
“ที่รักรีบกินเนื้อซี่โครงสักชิ้นสิ ฝีมือที่รักดีขึ้นเรื่อย ๆเลยนะ” จ้าวอิงหัวคีบเนื้อซี่โครงผัดกระเทียมสับให้เหยียนซินหย่าหนึ่งชิ้นโดยหวังอยากให้จบประเด็นนี้
จ้าวเสวียหลินเองก็ตักน้ำซุปปลาให้แสดงความกตัญญู “แม่ทานซุปปลาสิ ผู้หญิงทานน้ำซุปจะช่วยเรื่องความงามได้ แม่ทานเยอะ ๆนะ!”
เหยียนหมิงซุ่นแค่นยิ้มในใจ คิดจะกลบเกลื่อนง่าย ๆแบบนี้หรือ?
ไม่มีทาง!
เหมยเหมยทำเป็นไม่เห็นบรรยากาศมาคุกลางโต๊ะอาหารพลางทานเนื้อซี่โครงอย่างเอร็ดอร่อยต่อไป แต่ทำหูตั้งรอฟังอย่างจดจ่อ
เหยียนหมิงซุ่นบอกกับเหยียนซินหย่าที่สีหน้าไม่ค่อยดีนักว่า “สองปีก่อนผมยังอ่อนหัดเกินไปเลยโดนลุงจ้าวหลอกล่อให้เขียนสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรรับปากว่าจะไม่แต่งงานกับเหมยเหมยก่อนเรียนจบ น้าเหยียนรู้ดีว่าผมเป็นคนยังไง ปกติพูดคำไหนคำนั้น ผมก็เลย…”
น้ำเสียงที่แฝงด้วยความน้อยใจเต็มพิกัดพร้อมทำหน้าไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจเท่าไร
เหยียนซินหย่าถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลยตวัดตามองสองพ่อลูกอย่างเย็นชา สองคนนี้รีบก้มหน้างุดทานข้าวเปล่าคำโต
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าหมิงซุ่นเป็นเด็กดี ทานกับข้าวเยอะ ๆของพวกนี้เป็นเมนูโปรดของเธอทั้งนั้นเลย”
เหยียนซินหย่าไม่ได้คุยเรื่องแต่งงานต่อไป ต่อหน้าว่าที่ลูกเขยยังคงต้องรักษาภาพพจน์ของสามีให้ดี เดี๋ยวกลับห้องไปค่อยซักถามหมอนั่นที่กล้าตัดสินใจเรื่องใหญ่นี้ลับหลังเธอ?
หัวเข่าคันนักสินะ?
จ้าวอิงหัวแอบคร่ำครวญในใจ ภรรยาต้องทำใจลงโทษลูกชายไม่ได้แล้วต้องมาลงที่เขาคนเดียวอีกแน่เลย!
หรือว่ายื่นขอสัมมนาเป็นการหนีสักช่วงดี?
“น้าเหยียน ทุเรียนพวกนี้เป็นของฝากที่ผมสั่งให้คนเอามาจากประเทศไทยโดยเฉพาะ เก็บไว้หลายวันหน่อยรสชาติจะดีกว่านี้ คุณน้าทานหมดแล้วผมค่อยเอามาให้อีกนะครับ”
หลังทานข้าวเสร็จเหยียนหมิงซุ่นก็ขอตัวลากลับบ้านแล้วเอาทุเรียนเปลือกออกเขียว ๆที่เขาบรรจงคัดสรรมาอย่างดีมอบให้ จากนั้นปรายตามองจ้าวอิงหัวแวบหนึ่งด้วยสายตามีเลศนัยพร้อมกระตุกยิ้มที่มุมปาก
………………………….