ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1544 แม้เรื่องเล็กน้อยก็ต้องแก้แค้น + ตอนที่ 1545 เคารพอยู่ห่างๆ
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1544 แม้เรื่องเล็กน้อยก็ต้องแก้แค้น + ตอนที่ 1545 เคารพอยู่ห่างๆ
ตอนที่ 1544 แม้เรื่องเล็กน้อยก็ต้องแก้แค้น
จ้าวอิงหัวอยู่เพียงครู่เดียวก็กลับ ก่อนไปเขาพูดอีกครั้งว่า “เหมยเหมยไม่เคยมียาวิเศษ ถ้าฉันได้ยินข่าวลือข้างนอก พวกพี่ก็อย่าหาว่าฉันไม่นับญาติแล้วกัน!”
ตอนนี้เขายังไม่มั่นใจว่าลูกสาวมียาวิเศษจริงหรือไม่ แต่เขาเตรียมตัวไว้ก่อนไม่อย่างนั้นหากข่าวลือไปถึงหูของนายใหญ่ต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่
จ้าวอิงหย่งตะโกนไล่หลังมาอย่างไม่ยอมแพ้ “ชาวิเศษกับน้ำวิเศษตอนนั้นนายลืมไปแล้วเหรอ? จ้าวอิงหัวนายเห็นคนใกล้ตายแต่ไม่คิดจะช่วย นายยังมีความเป็นคนอยู่อีกไหม?”
“ชาวิเศษกับน้ำวิเศษจ้าวเสวียเอ๋อร์เป็นคนหาเจอไม่ใช่เหรอ? แล้วเกี่ยวอะไรกับเหมยเหมยด้วย?” จ้าวอิงหัวเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาประโยคหนึ่งแล้วก็หันหลังเดินจากไป
เขาผิดหวังต่อจ้าวอิงหย่งเหลือเกิน โชคดีที่ตอนนั้นคุณปู่ยังสติไม่เลอะเลือนมากถึงบอกคนนอกว่าจ้าวเสวียเอ๋อร์เป็นคนตามหาชาวิเศษกับน้ำวิเศษเจอและไม่มีใครรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเหมยเหมย
จ้าวอิงหย่งมองจ้าวอิงหัวกระแทกปิดประตูเสียงดังสนั่นลั่นจนเขาได้สติ
“พ่อ ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?” จ้าวอิงหย่งจนปัญญาก็ยิ่งนึกโทษว่าทำไมตอนนั้นคุณปู่ถึงบอกไปว่าลูกชายเขาเป็นคนตามหาชาวิเศษเจอจนทำให้ตอนนี้เป็นผู้ถูกกระทำแทน
คุณปู่ย่นหน้าเข้าหากันเหมือนดอกเบญจมาศที่แห้งเหี่ยว ขับให้ดูเย็นยะเยือกอย่างมาก
“ตอนนี้อิงหัวกำลังโกรธอยู่ ให้เขาใจเย็นก่อนเถอะ ไว้วันหลังค่อยพูดเรื่องนี้กัน”
คุณปู่ถอนหายใจแล้วค่อย ๆลุกขึ้นยืนหิ้วกรงนกเตรียมไปเดินเล่น
สุขภาพถดถอยลงทุกวันจนเล่นไทเก็กไม่ได้อีกแล้วจึงทำได้แค่เลี้ยงนกไว้เล่น ๆ!
“พ่อ ถ้ายืดเยื้อปล่อยให้ร่างกายพ่อเป็นแบบนี้ต่อไป…” จ้าวอิงหย่งกังวลอย่างมาก เขากลัวคุณปู่ตายยิ่งกว่าใคร
“สบายใจเถอะ ฉันยังทนได้อีกระยะหนึ่งไม่ตายง่าย ๆหรอก!” คุณปู่พูดเสียงเย็นชาแล้วเดินเอามือไขว้หลังออกจากบ้านไป
จ้าวอิงหย่งถามต่อ “พ่อ แล้วเรื่องที่จะปลดเกษียณผมล่ะจะทำไงดี? อิงหัวเขาเอาจริงเหรอ?”
“จริงไม่จริงรอดูอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง แกจะรีบร้อนไปทำไม?”
คุณปู่ไม่ใส่ใจเรื่องนี้เท่าไร เขาไม่เคยตั้งความหวังในตัวลูกชายคนที่สามมาก่อนจึงไม่สนใจนักว่าจะโดนปลดเกษียณหรือไม่ ในเมื่อรุ่นที่สามของตระกูลจ้าวผงาดขึ้นแล้ว จ้าวอิงหย่งเกษียณไปก็ดีอย่ามาจับจองที่แล้วไม่ทำงานดีกว่า!
ส่วนยาวิเศษท่านผู้เฒ่ายังไม่ผิดหวัง เขาไม่เชื่อว่าลูกชายคนเล็กจะใจเหี้ยมขนาดนี้!
เขาจะเดิมพันกับความกตัญญูของลูกชายคนเล็กดู!
อันหย่าฟางไม่ปริเสียงพูดสักคำเดียวตั้งแต่เริ่ม ยาวิเศษ ปลดเกษียณ…เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอแค่อยากใช้ชีวิตเงียบ ๆคอยปกป้องลูกชายเธอ ส่วนเรื่องอื่นเธอไม่อยากยุ่งและไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้ด้วย
จ้าวอิงหัวสั่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว วันรุ่งขึ้นคุณปู่ก็ถูกรับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลซีซันซึ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดีในเมื่อเป็นถึงนายทหารอาวุโส
ส่วนหนังสือราชการยื่นเกษียณของจ้าวอิงหย่งไม่ได้ดำเนินการเร็วขนาดนั้น เพราะต่อให้เป็นคนไร้ความสามารถแต่ก็เป็นทหารและมีตำแหน่งทางราชการไม่ธรรมดาด้วย จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารสักระยะหนึ่ง
ทว่าครั้งนี้จ้าวอิงหัวตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะต้องไล่จ้าวอิงหย่งออกจากตำแหน่งให้ได้ เผื่อพี่สามของเขาจะไม่ต้องผุดความคิดที่ไม่ควรมีขึ้นทุกวันแล้วถูกใครหลอกใช้อีก
เหมยเหมยพักผ่อนอยู่บ้านสองวันก็ไปเรียนอย่างสดใสพลังเต็มเปี่ยม
เจิ้งซื่อหลินกับหร่วนหวาไฉ่เหมือนหมาขี้แพ้ที่เสียชื่อเสียง แม้จะยังไม่ถึงขั้นใครเห็นใครก็รุมทำร้ายแต่ก็ไม่แตกต่างกันแล้วล่ะ คงเป็นไปไม่ได้อีกหากคิดจะมีชีวิตที่ดูดีในวงการศิลปะเหมือนอย่างเคย!
หลังจากอาจารย์เซียวกลับถึงบ้านในวันนั้น ร่างกายก็กระชุ่มกระชวยราวกับหาหญิงสาววัยสิบแปดได้อีกคน เขาฮึดเขียนเรียงความด้วยท่วงท่าอันทรงเกียรติแสนภาคภูมิด่าพวกเจิ้งซื่อหลินทั้งสามคนจนไม่เหลือสภาพ
ปัจจุบันอาจารย์เซียวเป็นอาจารย์ที่มีอิทธิพลสูงสุดในวงการศิลปะการวาดรูปของฮวาเซี่ย คำพูดหนึ่งประโยคของเขามีน้ำหนักจนมิอาจมองข้ามได้ และยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรียงความที่เขาเขียนขึ้นมาโดยเฉพาะเลย
เพื่อเป็นการตอบแทนอาจารย์เซียวเหมยเหมยจึงทำยาลูกกลอนให้โดยเฉพาะ ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นน้ำวิเศษผยมแป้งและน้ำตาลจากน้ำผึ้ง ใช้น้ำมันทอดแล้วอ้างว่าเป็นยาลูกกลอนอายุวัฒนะจากแพทย์ชื่อดังเพื่อมอบให้อาจารย์เซียว
มีบุญคุณก็ตอบแทนหากมีความแค้นย่อมต้องชำระ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นคนใจแคบที่ต่อให้เป็นเรื่องเล็กน้อยก็ต้องเอาคืน
เรื่องรูปของฉีฉีเก๋อ เธอยังไม่ลืมหรอกนะ!
………………………
ตอนที่ 1545 เคารพอยู่ห่างๆ
หลายวันมานี้เจิ้งเสวี่ยซานใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่มีสมาธิ ยามนอนก็หลับไม่สนิทจึงดูโทรมลงไม่น้อยหลังผ่านไปได้เพียงไม่กี่วัน
“ทำความผิดเลยมีพิรุธสินะ รูปนั้นต้องเป็นเธอที่ขโมยไปร้อยเปอร์เซ็นต์!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดเสียงหนักแน่นแล้วคีบผัดเส้นมันฝรั่งใส่ปากคำใหญ่ก่อนจะขมวดคิ้วเคี้ยวตุ้ย ๆด้วยความแค้น
กินแต่ผักอยู่ทุกวันไม่เห็นผอมลง หรือว่าเธอจะสังเคราะห์แสงได้กันนะ?
พระเจ้าช่างรังแกเธอเสียจริง!
ฉีฉีเก๋อทานหมูตุ๋นน้ำแดงเนื้อแทรกมัน ขบเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยจนเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตวัดฝ่ามือฟาดเธอทีหนึ่งด้วยความเจ็บใจ “เธอกินเนื้อก็ไปกินตรงนู้นไป อย่ามายั่วหน้าฉัน”
“เห็นเธอวัน ๆไม่กินเนื้อก็ไม่เห็นผอมลงเลย มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ อยากผอมวันหลังก็ไปเรียนมวยปล้ำกับฉัน เดือนนี้ฉันผอมลงสองโลครึ่งแล้วนะ”
ฉีฉีเก๋อไม่สนใจเธอพลางยัดหมูตุ๋นน้ำแดงใส่ปากอีกชิ้นตามด้วยข้าวสวยคำโต เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยจนเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนปวดใจกว่าเดิม
คนที่ทานเนื้อทุกวันผอมลงสองโลครึ่ง ส่วนเธอที่แทะหญ้าทุกวี่วันกลับไม่ผอมลงแม้แต่ขีดเดียว
พระเจ้ายังจะให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม?
“มวยปล้ำบ้าอะไร? ฉันยอมแทะหญ้าทุกวันก็ไม่ไปเล่นมวยปล้ำหรอก!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทานผัดผักใส่น้ำมันน้อย ๆอีกคำโตเคี้ยวเสียงดังกรุบอย่างเคียดแค้น
ให้เธอออกกำลังกายสู้เอาชีวิตเธอไปเลยดีกว่า!
แค่ทานผักทุกวันไม่ให้อ้วนมากกว่านี้เธอก็พอใจแล้ว!
ฉีฉีเก๋อเบะปาก อยากลดความอ้วนก็ต้องออกกำลังกาย ทานแต่ผักแต่หญ้าจะมีประโยชน์อะไร?
รูปวาดนั้นเธอไม่กล้าเก็บไว้ที่หอพักอีกแต่ฝากไว้ที่เหมยเหมย เธอเองก็สงสัยว่าเจิ้งเสวี่ยซานเป็นคนขโมยรูปไปเหมือนเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน แต่–
“เราไม่มีหลักฐาน เจิ้งเสวี่ยซานก็ไม่มีทางยอมรับหรอก” ฉีฉีเก๋อบอก
เหมยเหมยทานข้าวคำสุดท้ายในกล่องข้าวอย่างใจเย็นแล้วแค่นหัวเราะที “ศาลต่างหากที่ต้องใช้หลักฐาน ฉันไม่จำเป็นต้องใช้มัน”
ฉีฉีเก๋อไม่เข้าใจเลยทำหน้ามึนงง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับเข้าใจพลันรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที
“ให้ฉันหาพวกมาช่วยไหม? ฉันเปล่าโม้นะ เพื่อนพวกนั้นของฉันแต่ละคนเป็นมืออาชีพเรื่องเอากระสอบครอบหัวเลยล่ะ!”
เหมยเหมยกระตุกยิ้มที่มุมปาก นี่เห็นเธอจะไปเป็นอันธพาลหาเรื่องใครงั้นหรือ?
“จะฆ่าไก่จะใช้มีดฆ่าวัวไม่ได้ ไม่ต้องลำบากให้เพื่อนของเธอมาหรอก” เหมยเหมยปฏิเสธทางอ้อมไป
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร เธอเทผัดผักและผัดเส้นมันฝรั่งในถ้วยเธอใส่ถังเก็บเศษอาหารข้าง ๆแล้ววิ่งเหยาะไปตักหมูตุ๋นน้ำแดงและข้าวสองทัพพีบวกเนื้อสเต็กอีกสองชิ้นใหญ่ ๆ
นี่มันผิดปกติจริง ๆ!
“เธอไม่ลดความอ้วนแล้วเหรอ?” เหมยเหมยสงสัย
“ลดสิ แต่วันนี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินไง ฉันต้องกินอิ่มท้องถึงจะมีแรงสั่งสอนนางแพศยานั่น จะพลาดเรื่องสำคัญไปไม่ได้!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทำหน้าหนักแน่นแล้วทานหมูตุ๋นน้ำแดงชิ้นหนึ่งอย่างตะกละตะกลาม ซอสเลอะเต็มปาก ฟันเคี้ยวสัมผัสรสชาติหอมกรุ่นในโพรงปาก เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถอนหายใจอย่างอิ่มเอมใจแล้วเขมือบเหมือนเสือหิวโซ ยัดเข้าปากคำโตคำแล้วคำเล่า
เหมยเหมยเอามือปิดปากแอบขำ ทั้งที่ตัวเองอยากกินแท้ ๆแต่หาเหตุผลมาอ้างเหลือเกิน
ฉีฉีเก๋อก็เบะปาก วันก่อนบอกว่าเพื่อเป็นการฉลองที่นิทรรศการศิลปะของคุณตาเหมยเหมยจบลงด้วยดีเลยทานไปมื้อใหญ่ ห้าวันก่อนบอกว่าเดินชมนิทรรศการมากไปหากไม่กินข้าวคงไม่มีแรงเลยทานไปอีกมื้อใหญ่
แล้วก็เจ็ดวันก่อน…สิบวันก่อน…
ยายอ้วนนี่มักหาข้ออ้างทานเนื้อเสมอ แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองแทะแต่หญ้าทุกวี่วัน?
หน้าไม่อายจริง ๆ!
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนซัดข้าวกับเนื้อเข้าไปชามโต จากนั้นก็ดูมีชีวิตชีวาสีหน้าอิ่มเอมใจก่อนพยักพเยิดปลายคางหนาให้เหมยเหมยแล้วเดินเชิดอยู่ข้างหน้า
เจิ้งเสวี่ยซานตักข้าวมาทานที่หอพักซึ่งพวกสีอันน่าเองก็อยู่ เห็นพวกเหมยเหมยเข้ามาพวกเธอแค่ปรายตามองครู่เดียวไม่ได้พูดอะไรแต่บรรยากาศกลับไม่เป็นธรรมชาติเฉกเช่นปกติ
เพราะเหยียนซินหย่าได้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่ยังมีสอนห้องเหมยเหมยอีกหนึ่งคาบ
มีคุณปู่ที่สุดแสนจะน่าทึ่งขนาดนี้แล้วยังมีแม่เป็นศาสตราจารย์อีก ได้ยินมาว่าคุณพ่อยังเป็นผู้ดำรงตำแหน่งสูงในทางราชการ คู่หมั้นก็ยิ่งมีอิทธิพลเหนือใคร…
โลกของจ้าวเหมยห่างไกลจากพวกเธอมากเกินไป คอยเคารพอยู่ห่าง ๆจะดีกว่า จะได้ไม่ทิ่มแทงใจอยู่ร่ำไป!
………………………….