ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - บทที่ 1556 เจิ้งเสวี่ยซานพูดอ้อมค้อม + ตอนที่ 1557 แทงเข้าไปที่เธอทั้งหมด
- Home
- ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น
- บทที่ 1556 เจิ้งเสวี่ยซานพูดอ้อมค้อม + ตอนที่ 1557 แทงเข้าไปที่เธอทั้งหมด
ตอนที่ 1556 เจิ้งเสวี่ยซานพูดอ้อมค้อม
พวกเหมยเหมยไปร้านอาหารประจำที่ไปกันบ่อย ๆ ซึ่งเป็นร้านอาหารเล็ก ๆของคู่สามีภรรยา เก็บกวาดสะอาดสะอ้าน อีกอย่างทั้งคู่ก็มีนิสัยตรงไปตรงมา สิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นต้นตำรับอาหารหูหนานที่รสชาติดี
“เถ้าแก่คะ เอาผัดมะเขือยาว วุ้นเส้นผัดเผ็ดหมู ผัดพริกเขียวยาว เนื้อวัวกะทะร้อนและเอาผัดกะหล่ำปลีอีกหนึ่งที่ค่ะ” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอ้าปากสั่งอาหารเป็นชุดด้วยท่าทีจริงจัง
“เธอไม่ลดความอ้วนแล้วเหรอ?” เหมยเหมยถามอย่างแปลกใจ
ฉีฉีเก๋อพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “มีครั้งไหนบ้างที่เธอทำอย่างที่ปากพูด กินเนื้อมากกว่าใครด้วยซ้ำ!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถลึงตาใส่เธอ “กินอิ่มถึงจะมีแรงลดน้ำหนัก เธอจะพูดมากอะไรนักหนา!”
มองออกแต่ไม่พูดถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกัน ยัยสาวมองโกเลียนี้ช่างน่ารำคาญจริง ๆ!
“กินอิ่มมีแต่จะอ้วนขึ้น วัน ๆเธอเอาแต่หลอกตัวเองทั้งนั้น!” ฉีฉีเก๋อตำหนิหล่อนอย่างไม่เกรงใจสักนิด แล้วตะโกนบอกเถ้าแก่อีกครั้งว่า “หมูต้มพริกเสฉวนอีกที่ค่ะ”
เหมยเหมยยิ้มตาหยีพลางมองพวกเธอทะเลาะกัน หางตาเห็นเจิ้งเสวี่ยซานเข้ามาในร้านอาหารจึงคิ้วขมวดเล็กน้อย
ฉีฉีเก๋อก็เห็นเช่นกันจึงถลึงตาใส่อย่างรังเกียจ พลางบ่นว่า “ทำไมทางโรงเรียนยังไม่ไล่คนแบบนี้ออกไปอีกนะ? อยู่หอพักด้วยกันทุกวันมันน่ารำคาญจริง ๆ”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดขึ้นลอย ๆว่า “ผู้หญิงคนนี้มากินข้าวทำไมต้องแบกกระเป๋าเป้ใบใหญ่ขนาดนั้นมาด้วย? เอ๊ะ แล้วยังพกกล่องรักษาอุณหภูมิมาด้วย สมองไม่ได้มีปัญหาใช่ไหมเนี่ย?”
เจิ้งเสวี่ยซานหยิบกล่องรักษาอุณหภูมิออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้บนโต๊ะอย่างเปิดเผย เธอเปิดกล่องก็เห็นเข็มฉีดยาวางอยู่อย่างสงบ เลือดสีแดงเข้มทำให้เธอไม่สบายใจและหัวใจเต้นเร็ว
ชนะหรือแพ้ทุกอย่างจบลงที่นี่!
เธอจะต้องทำให้สำเร็จ!
นึกถึงภาพจ้าวเหมยมีตุ่มพุพองขึ้นทั่วร่างกายจนกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ทุกคนรังเกียจ เจิ้งเสวี่ยซานก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาจึงตกปากรับคำโฮ่วเซิ่งหนานทำภารกิจนี้ ที่ทำไม่ใช่เพียงเพราะเธออยากอยู่ที่นี่ต่อแต่เพราะเธออยากเห็นจ้าวเหมยโชคร้ายไปด้วย!
เหมยเหมยขมวดคิ้วอย่างสงสัย เจิ้งเสวี่ยซานถือกระเป๋าใบใหญ่แถมเอากล่องรักษาอุณหภูมิมาทานข้าวที่ร้านอาหารด้วย ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูผิดปกติ ผู้หญิงคนนี้ต้องการจะทำอะไรกันแน่นะ?
เธออดที่จะระมัดระวังตัวเองไม่ได้ นึกสังหรณ์ใจว่าเจิ้งเสวี่ยซานมีเจตนามุ่งร้าย
“ไม่ต้องไปสนใจเธอหรอก พวกเราก็กินของพวกเราไป” เหมยเหมยแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วเรียกให้พวกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกินข้าวต่อ เถ้าแก่นำอาหารมาเสิร์ฟเร็วมาก แค่ครู่เดียวอาหารก็มาครบส่งกลิ่นหอมโชยดึงดูดความสนใจของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนและฉีฉีเก๋อ ทั้งสองกินอย่างใจจดใจจ่อ ไม่ใส่ใจเจิ้งเสวี่ยซานที่น่าสงสัยอีกต่อไป
เหมยเหมยกินอย่างช้า ๆแต่หางตากลับมองไปที่เจิ้งเสวี่ยซานเป็นครั้งคราว กลับเห็นเธอเอาแต่เหม่อลอยไม่ได้กินอาหารมากนัก บางครั้งก็มองมาที่พวกเธอ ในใจของเหมยเหมยพอเดาออกจึงยิ่งระมัดระวังตัวมากขึ้น
เจิ้งเสวี่ยซานกำเข็มฉีดยาขนาดเล็กไว้ในมือ เพื่อความปลอดภัยไม่ให้ใครเห็นเธอจึงจงใจไม่ถอดถุงมือออก เธอคิดว่าการสวมถุงมือกันหนาวคงไม่น่าสงสัยนัก แต่กลับไม่รู้ว่าพฤติกรรมแปลก ๆของเธอ กระตุ้นให้เหมยเหมยระมัดระวังตัวนานแล้ว
“จ้าวเหมย…ฉันขอคุยกับเธอหน่อยได้ไหม?”
เจิ้งเสวี่ยซานพูดเสียงต่ำแต่มือกลับกำเข็มฉีดยาเอาไว้แน่น เดี๋ยวรอตอนที่จ้าวเหมยไม่ทันตั้งตัวเธอก็จะแทงเข็มนี้เข้าไป
โฮ่วเซิ่งหนานเธอบอกว่าจำเป็นต้องฉีดเข้าไปภายในสามนาที ไม่อย่างนั้นก็ไร้ประสิทธิภาพ
ดังนั้นเธอจำเป็นต้องทำอย่างรวดเร็ว!
เหมยเหมยเหลือบไปมองมือขวาของเจิ้งเสวี่ยซาน ในร้านอาหารมีเครื่องทำความร้อน เธอร้อนจนต้องถอดเสื้อคลุมออก ทำไมเจิ้งเสวี่ยซานถึงยังสวมถุงมืออยู่นะ?
ในมือของเธอกำลังถืออะไรไว้อยู่กันแน่?
“ฉันกับเธอไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก เธออย่าเข้ามาทำลายบรรยากาศการกินข้าวของฉันเลย!”
เหมยเหมยพูดอย่างเย็นชา ตึงเครียดไปทั้งตัวไม่กล้าผ่อนคลาย
จ้าวเหมย…เธอจะใจร้ายไปหน่อยไหม…แม้กระทั่งโอกาสแก้ตัวเธอก็ไม่ให้ฉันเลยเหรอ? ฉันขอร้องเธอนะ ฉักคุกเข่าคำนับเธอก็ได้!”
ระยะห่างใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ นัยน์ตาของเจิ้งเสวี่ยซานมีความเหี้ยมโหดพาดผ่าน อยู่ดี ๆก็ฟุบลงกับพื้นราวกับจะกอดขาเหมยเหมยเพื่อขอร้องยกโทษให้ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนและฉีฉีเก๋อต่างมีสีหน้าดูถูกแต่กลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ และยังคงกินข้าวต่อไป
…………………………………………..
ตอนที่ 1557 แทงเข้าไปที่เธอทั้งหมด
เหมยเหมยหวาดกลัวภายในใจจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว
เธอรู้ว่านี่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามสัญชาตญาณของร่างกายเมื่อเผชิญอันตราย ไม่ต้องรอให้เธอเบี่ยงหลบก็มีชายหน้าตาธรรมดาพุ่งเข้ามาราวกับสายฟ้าแล้วถีบเจิ้งเสวี่ยซานล้มลงกับพื้น
เหมยเหมยรีบหยิบต้มหมูพริกเสฉวนบนโต๊ะที่ยังร้อนควันกรุ่น ๆอยู่สาดใส่เจิ้งเสวี่ยซานที่ยังคงไม่ยอมแพ้ไป
“โอ๊ย ตาของฉัน…”
น้ำมันสีแดงที่แสบร้อนสาดลงบนหัวและใบหน้าของเจิ้งเสวี่ยซาน เจิ้งเสวี่ยซานอดไม่ได้ที่จะเช็ดหน้าด้วยมือของเธอ เข็มฉีดยาในมือตกลงที่พื้น กลิ้งอยู่สองสามครั้ง เลือดสีแดงเข้มกระเพื่อมไปมาอยู่ในเข็มฉีดยา
ม่านตาของเหมยเหมยหดลง เจิ้งเสวี่ยซานเอาเข็มฉีดยามาทำอะไร?
เลือดข้างในนี้คือของใคร?
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเลือดในเข็มฉีดยานี้ แต่แน่นอนว่าเลือดต้องมีเชื้อโรคแน่ ๆ เจิ้งเสวี่ยซานคงไม่เอาเลือดดี ๆมาแทงเธออย่างไร้ต้นสายปลายเหตุแน่นอน มิน่าล่ะเธอถึงต้องนำกล่องรักษาอุณหภูมิติดมาด้วยเมื่อเธอออกไปข้างนอก
เหมยเหมยโมโหสุดขีด ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!
ในเมื่อจะตายอยู่แล้วยังไม่รู้จักปรับปรุงตัวเอง งั้นก็อย่าโทษว่าเธอไม่เกรงใจแล้วกัน!
หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง เป็นเรื่องที่เธอชอบทำมากที่สุดนักแล!
เหมยเหมยก็สวมถุงมือหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมาจากพื้น บนพื้นผิวมีหยดน้ำเกราะอยู่ ความเย็นผ่านถุงมือเข้ามา เหมยเหมยยิ้มเยาะ แทงเข็มฉีดยาเข้าไปที่ตัวของเจิ้งเสวี่ยซานที่ยังคงเช็ดตาอยู่โดยไม่ลังเลสักนิด
เข็มแหลมผ่านเสื้อสเวตเตอร์ตัวหนาแทงลงเข้าเนื้อ จากนั้นใช้แรงกดลงไปอย่างหนักหน่วงสุดเข็มจนไม่มีเลือดเหลือสักหยด
เจิ้งเสวี่ยซานแสบตามาก เอาแต่เช็ดไม่หยุดจนลืมเรื่องเข็มฉีดยาไปอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกเหมือนถูกยุงกัด จากนั้นความเจ็บปวดก็ตามมา
เธอรู้สึกว่าท่าไม่ดีเสียแล้ว ใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
อะไรกำลังแทงเธออยู่นะ?
“จ้าวเหมยแกแทงฉันด้วยอะไร…แกแทงฉันด้วยอะไร?”
เจิ้งเสวี่ยซานตะโกนอย่างตื่นตระหนก อยากจะลืมตาเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่มีประโยชน์ มองไม่เห็นอะไรเลย ความมืดทำให้เธอกลัวมากขึ้น สองมือยังคงปัดป่ายไปมาเหมือนคนบ้า
ลูกค้าส่วนใหญ่ในร้านอาหารเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวง บางส่วนยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเหมยเหมย ซึ่งตอนนี้กำลังตกใจเป็นอย่างมาก ทำไมอยู่ดี ๆถึงทะเลาะกันได้นะ?
เหมยเหมยหันไปพูดกับฉีฉีเก๋อที่ยังงงเป็นไก่ตาแตกว่า “ไปเอาน้ำสะอาดมาหน่อยสิ”
ฉีฉีเก๋อวิ่งไปยังครัวด้านหลังอย่างงง ๆแล้วเติมน้ำใส่อ่าง เหมยเหมยคว้าตัวเจิ้งเสวี่ยซานที่กรีดร้องหยั่งกับคนบ้าขึ้นมาแล้วจับหัวเธอกดลงไปในอ่างน้ำ ทุกคนต่างก็สูดหายใจเข้าอย่างตกตะลึง
นี่มันฤดูหนาวของเมืองหลวงเชียวนะ!
น้ำเย็นเจี๊ยบแบบนี้จะแข็งตัวเป็นไอติมหรือเปล่า?
เจิ้งเสวี่ยซานตัวสั่นสะท้านจากความหนาวเย็น ปากซีดไปหมดแต่สายตาดีขึ้นมาก ไม่ปวดแสบปวดร้อนเหมือนก่อน เธอลืมตาขึ้นและตะโกนใส่เหมยเหมย “เธอแทงอะไรใส่ฉัน?”
“เป็นของที่เธอพกมาเองไงล่ะ…ดูสิ…ไม่สิ้นเปลืองแม้แต่หยดเดียวเลยนะ!”
เหมยเหมยหัวเราะและแบมือออก เข็มฉีดยาว่างเปล่าเรียบร้อยแล้ว
เจิ้งเสวี่ยซานหน้าซีดขาวราวกระดาษ มองไปที่เข็มฉีดยาว่างเปล่าอย่างเหลือเชื่อ ในที่สุดสิ่งที่เธอกลัวมันก็เกิดขึ้นแล้ว
ในไม่ช้าทั้งตัวของเธอคงมีตุ่มพุพอง กลายเป็นสัตว์ประหลาดน่าเกลียดที่ใคร ๆต่างก็รังเกียจแน่เลย!
ไม่เอานะ!
“จ้าวเหมย…ฉันจะสู้กับเธอให้ถึงที่สุด!”
เจิ้งเสวี่ยซานสูญเสียสติปัญญาการรับรู้ไปทั้งหมดแล้ว ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้งอนาคต หน้าตา การศึกษา…เธอกลายเป็นผู้แพ้อย่างสมบูรณ์ เธอจะเอาหน้าที่ไหนกลับบ้านอีก?
ไม่สู้ให้เธอกับจ้าวเหมยพังพินาศไปด้วยกันเลย!
เจิ้งเสวี่ยซานพุ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดมากทำเอาคนต่างหวาดกลัว นักเรียนใจเสาะบางคนก็วิ่งหนีออกจากร้านอาหารเพราะไม่กล้าอยู่ข้างใน ฉีฉีเก๋อก้าวไปข้างหน้า เตะตัดขาเบา ๆก็ทำเอาเจิ้งเสวี่ยซานลงไปกองที่พื้นแล้ว
“เจิ้งเสวี่ยซานทำไมเธอถึงได้เหมือนหมาบ้าขนาดนี้นะ? ของในเข็มฉีดยาเป็นของที่เอาไว้ทำร้ายคนเหรอ?”
ฉีฉีเก๋อกดเจิ้งเสวี่ยซานที่ดิ้นพล่านไม่หยุดเอาไว้ ซักถามด้วยเสียงเข้ม
ต่อให้เธอโง่แค่ไหนแต่ก็มองออกว่าเลือดในเข็มฉีดยานี้จะต้องไม่ปกติแน่นอน
…………………………………………..